ตอนที่ 22 แผนการฆ่าซอมบี้(อ่านฟรี)
ตอนที่ 22 แผนการฆ่าซอมบี้
ทุกคนอาศัยแสงสว่างของเรย์มองเข้าไปก็เห็นว่าตอนนี้ซอมบี้นักกล้ามกำลังดึงตัวเองขึ้นมาจากบันได ผนังห้องที่มันชนพังไปนั้นเป็นทางเดินลงไปที่ชั้นใต้ดินของอาคาร แต่นอกจากซอมบี้นักกล้ามแล้ว มันกลับมีตัวอื่นที่อยู่ในนั้นด้วยพวกมันคือซอมบี้ซากศพนับสิบตัว
ซอมบี้พวกนี้ส่วนหนึ่งเคยเป็นพนักงานที่อยู่ในสำนักงานแห่งนี้ ไม่ต้องเดาอะไรมากก็รู้ว่าคนพวกนี้คงจะหนีตายไปทางใต้ดิน แต่ดวงซวยเพราะมีซอมบี้ตามลงไปได้ จึงเกิดเป็นการสังหารหมู่อยู่ด้านใน
ในตอนที่เรย์และคนอื่น ๆ เข้ามาไม่เห็นซอมบี้พวกนี้ออกมาเดินเพ่นพ่าน ก็เพราะว่าประตูทางเข้าใต้ดินมันปิดล็อกอยู่ซอมบี้จึงออกมาไม่ได้
แต่ตอนนี้หลังจากซอมบี้นักกล้ามทำลายกำแพงผนังตรงนั้น ซอมบี้ซากศพจึงมีทางออกมาจากชั้นใต้ดินได้แล้ว
“คว้ากกก....อะ...คากกก!” เสียงซอมบี้ร้องครวญครางอย่างต่อเนื่อง
ก่อนที่ซอมบี้นักกล้ามจะโผล่หน้าออกจากด้านใน มันออกมาได้ก็ตรงเข้าหาคอนราดในทันที นอกจากนั้นด้านหลังยังตามมาด้วยซอมบี้ซากศพ
“โบเวน เรย์ จัดการกับซอมบี้ซากศพ ฟาริสยิงข้อต่อหยุดการเคลื่อนไหวของซอมบี้นักกล้าม” คอนราดสั่งการออกมา
ตามคำสั่งของคอนราดนั้น เขาต้องการแยกซอมบี้นักกล้ามและซอมบี้ซากศพออกจากกัน
จากนั้นก็ให้ฟาริสผู้ที่ยิงปืนแม่นที่สุดในทีมหยุดการเคลื่อนไหวของซอมบี้นักกล้ามด้วยการทำลายข้อต่อของมัน ส่วนซอมบี้ซากศพนั้นพวกมันไม่อันตรายเท่าซอมบี้นักกล้าม
เรย์และโบเวนสามารถถ่วงเวลาพวกมันได้สักพัก พอคอนราดและฟาริสจัดการซอมบี้นักกล้ามได้ทั้งสองก็ไปช่วยเรย์และโบเวนจำกัดซอมบี้ที่เหลือได้
ทุกคนเข้าใจความคิดของคอนราด เมื่อได้ยินคำสั่งฟาริสหยิบกระสุนชำระล้างออกมาบรรจุลงคลิปกระสุน 5 นัดใส่ช่องกระสุนก่อนจะขึ้นลำตบลูกเลื่อนเข้าที่หันกระบอกปืนยิงซอมบี้นักกล้ามที่กำลังเคลื่อนที่เข้าหาพวกเขา
ปัง!
ซอมบี้นักกล้ามยกมือกันด้วยความคุ้นเคยกับเสียงของปืน แต่ครั้งนี้ปืนไม่ได้ยิงที่หัวของมัน แต่ยิงที่เข่าของมันแทน กระสุนเจาะเข้าที่เข่าคาอยู่ในมวลกล้ามเนื้อของซอมบี้นักกล้ามอยู่แบบนั้น
จากนั้นนัดที่สองและสามก็ตามมาอย่างต่อเนื่อง
ซอมบี้นักกล้ามเปลี่ยนเป้าหมายหันมาเล่นงานฟาริสที่โจมตีมันอย่างต่อเนื่อง
ในเวลาเดียวกัน ทางด้านซอมบี้ซากศพก็โดนโบเวนสาดกระสุนปืนยิงใส่อย่างไม่หวังผล เพียงยิงให้ถูกเพื่อดึงดูดพวกมันมาเท่านั้น
ซึ่งก็ได้ผลเพราะซอมบี้ซากศพพวกมันจะเดินเข้าหาเหยื่อที่อยู่ใกล้ที่สุดก่อน
แผนการแยกซอมบี้นักกล้ามและซอมบี้ซากศพออกจากกันสำเร็จก็ถึงเวลาสู้อย่างแท้จริง
เรย์และโบเวนถอยห่างออกมาอีกทาง เพราะอาจจะเข้าไปขวางการสู้ของหัวหน้าคอนราดและฟาริสที่รับมือกับซอมบี้นักกล้ามอยู่ได้
“เรย์ นายคอยป่วนพวกมัน เดี๋ยวฉันจะจัดการพวกที่มาใกล้ ๆ เองรอหัวหน้าจัดการซอมบี้นักกล้ามก็พอ” โบเวนยิงปืนกลเบาเบรนอย่างต่อเนื่อง ตลับกระสุนที่สามถูกเอาออกมาบรรจุและยิงอีกครั้ง
“ผมมีความคิดดี ๆ อาจจะฆ่าพวกมันได้ทั้งหมด แต่ต้องให้คุณช่วย” เสียงปืนนั้นดังอย่างมาก เรย์จึงต้องตะโกนเสียงดังเพื่อให้โบเวนได้ยิน
“ยังไง ว่ามา!”
“ล่อพวกมันไปที่บันไดและทำให้พวกมันรวมตัวกัน”
“แบบนี้มัน...อาจจะไม่ใช่ความคิดที่ดี” โบเวนลังเล เพราะถ้าเกิดซอมบี้ซากศพรวมตัวกันมาก ๆ นั้นจะทำให้ยากในการสู้กับพวกซอมบี้ซากศพ
เนื่องจากไม่มีพื้นที่ให้สู้หรือขยับตัวได้ โดยเฉพาะผู้มีพลังกายภาพแบบโบเวนที่อาศัยพละกำลังและร่างกายเป็นหลัก ในการโจมตีกายภาพ
“ผมคือผู้ใช้พลังเวทมนตร์ ขอแค่เตรียมตัวจะจัดการพวกมันก็ไม่ยากเย็น” เรย์ตอบด้วยสีหน้าจริงจัง
“ก็ได้ตกลง” เมื่อโบเวนตกลง แม้เขาจะลังเล
เรย์ลงมือตามแผนของตนในทันที เขาหยิบหนังสือเวทมนตร์ออกมาเปิดไปหน้าแรกและร่ายคาถาเวทมนตร์ด้วยเสียงที่ดังขึ้นและกระจายตัวไปรอบ ๆ ด้วยความลึกลับ
“คาเซเบธ! (บอลไฟ)”
อักษรเวทมนตร์ในหน้ากระดาษผสมทองคำตอบสนองในทันทีโดยไม่เสียเวลาแม้แต่น้อย
นี่คืออีกหนึ่งข้อดีของการใช้พลังจากอักษรเวทมนตร์ที่สลักไว้ล่วงหน้า เพียงแค่กระตุ้นขั้นตอนสุดท้ายคาถาเวทมนตร์ก็จะทำงาน
อักษรเวทมนตร์กลายเป็นลูกบอลไฟพุ่งเข้าหาซอมบี้ซากศพตัวที่ขวางทางไปยังทางบันไดหนีไฟขึ้นไปชั้นสอง ซึ่งเป็นบริเวณที่อยู่ทางช่องกำแพงที่พังลงจากฝีมือของซอมบี้นักกล้าม จึงมีซอมบี้ซากศพขวางอยู่สองสามตัวที่ออกมาจากชั้นใต้ดิน
ซอมบี้ซากศพตัวเป้าหมายร่างกายโดนบอลไฟเผาไหม้หงิกงอตายไปทั้งอย่างนั้น
ทางด้านโบเวนก็เปลี่ยนจากอาวุธปืนหันมาใช้สปาต้าสองเล่มสู้ในระยะประชิดเปิดทางขึ้นไปชั้นสอง เรย์และโบเวนวิ่งขึ้นมายังบันไดสู่ชั้นสองได้อย่างปลอดภัย
หัวหน้าคอนราดและฟาริสเห็นทั้งสองคนไปทางที่ซอมบี้ออกมาก็รู้สึกไม่ดีเช่นกัน แต่แบบนั้นทั้งคู่ก็ไม่ได้เข้าไปยุ่งกับการตัดสินใจในวิธีสู้ของพวกเขา
บางครั้งเมื่อเราฝากสนามรบไว้ให้กับสหายร่วมทีมแล้วก็ควรจะเชื่อใจให้สุด
“คว้าก!!” ซอมบี้นักกล้ามที่เห็นฟาริสเผลอก็ใช้แขนอีกข้างคว้าโอบฟาริสพร้อมกับปากขนาดยักษ์ที่เตรียมจะกัดลงไปที่หัวของฟาริส
“ไม่ได้กินหรอก”
ฟาริสม้วนตัวหลบทำให้ซอมบี้นักกล้ามคว้าได้เพียงอากาศที่ว่างเปล่า ในตอนนั้นก็มีลูกไฟกระแทกเข้าใบหน้าของซอมบี้นักกล้ามดังตูม! ซอมบี้นักกล้ามถึงกับเซถอยหลังไปไม่เป็น
สิ่งที่เกิดไม่ใช่เพราะพลังโจมตีนี้ของคอนราดรุนแรงกว่าทุกที แต่เป็นเพราะตอนนี้ข้อต่อตามร่างของมันได้รับความเสียหายหนัก จากฝีมือของฟาริส
“ฟาริสปิดฉาก!”
“จัดไปหัวหน้า!”
ฟาริสตอบกลับพร้อม ๆ กับที่ซอมบี้นักกล้ามตั้งตัวได้และไล่ตามมาทัน
อันที่จริงแล้วในอาควรไม่ใหญ่มากนัก ดังนั้นการไล่ล่าจึงเป็นเพียงการวิ่งวนไปรอบ ๆ ก็เท่านั้น โดยฟาริสอาศัยร่างกายที่แข็งแกร่ง ความเร็วที่มากและการตอบสนองที่ไว้ของร่างกาย จึงรอดพ้นการโจมตีของซอมบี้นักกล้ามมาได้อย่างหืดขึ้นคอ
ซอมบี้นักกล้ามเหวี่ยงแขนอย่างคลุ้มคลั่ง เสียงดังหวีดหวิวเมื่อท่อนแขนกระทบกับอากาศ
ฟาริสหลอกล่อซอมบี้นักกล้ามไปมารอคอยจังหวะของคอนราดที่กำลังเตรียมตัวสำหรับการโจมตีอยู่
คานราดหยิบขวดเลือดสีขาวออกมาสาดใส่โต๊ะเก้าอี้หรือสิ่งของทุกอย่างที่ติดไฟได้ เพื่อให้มันกลายเป็นเชื้อเพลิงทรงพลัง จากนั้นก็จุดไฟแช็กขึ้นมาควบคุมเปลวไฟเผาไม้ทุกอย่างรอบตัว
นี่คืออีกหนึ่งวิธีการใช้เลือดสีขาวของผู้ใช้พลังจิต
ฟรึบ!!!
เพลิงลุกโหมอย่างบ้าคลั่งหลังจากตกอยู่ในการควบคุมของคอนราด
คอนราดยกมือทั้งสองข้างอย่างช้า ๆ ราวกับแบกรับพลังไว้จำนวนมาก ก่อนจะตะโกนเปล่งเสียง
“รวม!!!”
ไฟพุ่งมาจากทุกทิศทางรวมเข้ามาที่มือของคอนราด ยิ่งมีเปลวไฟมากท่าไหร่ ผู้ใช้พลังจิตที่ถนัดควบคุมไฟแบบคอนราดก็ยิ่งทรงพลัง
คอนราดหันไปพยักหน้าให้กับฟาริสเป็นการส่งสัญญาณ
ฟาริสเมื่อรู้ว่าได้จังหวะแล้ว ก็อาศัยโอกาสที่ซอมบี้นักกล้ามไล่ล่าตนอยู่ในเปลวไฟม้วนตัวกลิ้งหมุนเข้าไปที่ใต้หว่างขาของมันไป
ด้วยสติปัญญาที่ต่ำของซอมบี้นักกล้ามจึงไม่เข้าใจแผนการของทั้งสอง
ฟาริสที่ตอนนี้กำลังอยู่ใต้หว่างขาของซอมบี้ก็อาศัยจังหวะไม่กี่วินาทีที่มี รีบชักปืนพกเอ็ม1911เอ1ออกมา จ่อไปที่หัวเข่าของซอมบี้นักกล้าม ก่อนจะยิงอัดไปอย่างต่อเนื่อง 7 นัด
แน่นอนว่าทุกนัดนั้นเป็นกระสุนชำระล้าง
ข้อต่อและเส้นเอ็นตรงหัวเข่าของซอมบี้นักกล้ามแหลกไม่มีชิ้นดี ทำเอาซอมบี้นักกล้ามทรุดตัวลงชันเข่าไปข้างหนึ่งในทันที
คอนราดเมื่อเห็นว่าซอมบี้นักกล้ามที่สูงกว่า 2.5 เมตรไม่สามารถเคลื่อนที่ได้อีกก็วิ่งเข้าหาซอมบี้นักกล้ามพร้อมกับเปลวไฟที่รวมกันอยู่ที่ฝ่ามือตรงเข้าหาซอมบี้นักกล้าม
เท้าของคอนราดไปที่หัวเข่าของซอมบี้นักกล้ามส่งตัวเองรอยขึ้นหมายจะไปที่หัวของมัน
แน่นอนว่าซอมบี้นักกล้ามยังมีมืออีกข้างที่ใช้งานได้แม้ข้อต่อช่วงศอกมีรูกระสุนหลายนัดก็ตาม มันก็ยังใช้งานได้
ซอมบี้นักกล้ามคิดจะใช้มือจับตัวคอนราด
ฟาริสผู้ที่พึ่งจัดการขาของซอมบี้นักกล้ามไป ได้ชักดาบคาตานะคู่กายออกมา ฟันไปที่ข้อต่อซ้ำไปที่แผลจากรอยกระสุน ตัดแขนซอมบี้นักกล้ามออกในครั้งเดียว
ตุบ!
แขนของซอมบี้นักกล้ามหล่นลง เลือดเน่าเหม็นสีดำพุ่งกระจายจากรอยแผลในทันที
ตอนนี้มันกลายเป็นซอมบี้แขนด้วนไปแล้ว
การตัดแขนซอมบี้นักกล้ามของฟาริสเปิดทางให้หัวหน้าคอนราดเข้าถึงศีรษะของมันในจังหวะเดียวกัน
ฝ่ามือที่อัดแน่นไปด้วเปลวไฟของคอนราดกระแทกเข้าไปที่หัวของซอมบี้นักกล้าม ซึ่งเป็นจุดเดียวกับที่มีรูกระสุนของฟาริสอยู่ก่อน เปลวไฟที่อัดแน่นถูกปลดปล่อยเข้าไปที่ในหัวของซอมบี้นักกล้าม แผดเผาสมองของมันจากด้านใน
ทำให้วอมบี้นักกล้ามร้องโหยหวนราวกับมันมีชีวิตและกำลังกลัวตาย
เมื่อมีความร้อนเกิดขึ้นจากด้านในและมันไม่อาจจะระบายออกมาได้ จึงเกิดการอัดแน่นของความร้อน เบ้าตา รูหู รูจมูก ปาก ก็เหมือนจะทะลักออกมาได้ทุกเมื่อ
และแล้วในที่สุดหัวของซอมบี้นักกล้ามก็ไม่อาจจะทนไหว จึงระเบิดเสียงดัง ตูม!!!
เลือดและเศษเนื้อที่ยังเผาไม่หมดกระจายไปตามตัวของคอนราดและฟาริส ร่างไร้หัวของซอมบี้นักกล้ามล้มลง ตุบ! แน่นิ่งไป
ขณะเดียวกันก่อนหน้านั้นไม่กี่นาที โบเวนคว้าประตูทางขึ้นบันไดมาใช้ผลักดันซอมบี้ซากศพนับสิบ ๆ ตัวที่ตอนนี้พยายามดันฝ่าประตูเข้ามาหาเขาและเรย์ ถ้าเกิดมันเข้ามาได้ทั้งเรย์และโบเวนคงไม่แคล้วโดนรุมกินตาย
โบเวนพยายามใช้มืออีกข้างจับมีดแทงใส่ซอมบี้ซากศพ แม้มิอาจจะฆ่ามันได้ก็ตาม แต่ก็ทำให้พวกซอมบี้ซากศพพวกนั้นช้าลงหรือแรงน้อยลงได้ไม่มากก็น้อย
“เรย์ลงมือเร็วมีแผนยังไงก็รีบเอาออกมา” โบเวนกัดฟันฝืนทนร้องตะโกนบอก
“ตอนนี้พร้อมแล้ว” เรย์ยกหนังสือเวทมนตร์ขึ้นมาเปิดหน้าที่ 5 ก่อนจะร่ายคาถาที่เหมาะกับสถานการณ์นี้มากที่สุด
“เรลันลัวอา (แสงชำระล้าง)”
“เรลันลัวอา (แสงชำระล้าง)”
เรย์ร่ายคาถาสองครั้งเพื่อใช้งานคาถาเวทแสงชำระล้างให้กินพื้นที่ซึ่งซอมบี้ซากศพยืนอัดแน่นกันอยู่ทั้งหมดในครั้งเดียว แสงอักษรเวทมนตร์รวมตัวและหายไปปรากฏอยู่ใต้เท้าของโบเวนและซอมบี้ที่ฉุดยื้อกันโดยมีบานประตูเก่า ๆ ใกล้พังขวางกั้นอยู่
“เชี่ย...” โบเวนตกใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น แต่รู้ว่าตอนนี้พลังของคาถาที่ร่ายยังแสดงออกมาไม่สมบูรณ์จึงทิ้งประตูถอยออกมา ซึ่งแน่นอนว่าเรย์รู้อยู่แล้ว แต่ที่จริงเวทมนตร์นี้ไม่เป็นอันตรายต่อโบเวน มันกลับจะช่วยเขามากซะกว่าอีก
ทันทีที่โบเวนถอยออกมาแสงชำระล้างก็พุ่งขึ้นมาจากพื้นปะทะเข้ากับซอมบี้ซากศพทั้ง 10 ตัว ก่อนที่พวกมันจะหยุดนิ่งไป
“เกิดอะไรขึ้น” โบเวนถามออกมา เพราะเขาไม่ค่อยรู้เรื่องพลังของผู้ใช้เวทมนตร์มากนัก
โบเวนจับมีดสปาต้าในมือแน่น ด้วยกลัวว่าอยู่ ๆ ซอมบี้ซากศพจะยังไม่ตายและวิ่งเข้าโจมตีใส่มัน แต่ในตอนนั้นเองร่างทั้ง 10 ของซอมบี้ซากศพที่นิ่งไปก็ร่วงลงราวกับไม่มีแรงทรงตัวยืนกลับไปกลายเป็นซากศพได้อีก
“ผลของเวทมนตร์ นี่สินะการสู้ด้วยสมองที่หัวหน้าบอก” โบเวนกลืนน้ำลายดังเอือก ต่อให้เป็นโบเวนก็ยากจะฆ่าซอมบี้ทั้ง 10 พร้อมกันแบบนี้
ที่จริงแล้วไม่ใช่แค่โบเวน แต่เรย์ก็ด้วย ถ้าไม่ใช่เพราะพวกมันโดนโบเวนขวางไว้จนกระจุกรวมอยู่ที่เดียวกัน อย่างมากคาถาแสงชำระล้างของเรย์ก็ฆ่าได้แค่สองถึงสามตัวต่อบทเท่านั้น
“ไม่หรอกมันต้องใช้ทั้งสมองและพละกำลัง” เรย์กล่าวถ่อมตัว
โบเวนยิ้มพยักหน้าให้กับคำพูดของชายหนุ่ม
เรย์และโบเวนเดินเข้าตรวจสอบเผื่อให้แน่ใจว่ามันตายทั้งหมด พร้อมกันนั้นโบเวนก็เก็บมีดที่เสียบคาพุงของซอมบี้ซากศพตนหนึ่งออกมาด้วย
ในตอนนั้นเองก็มีเสียงครวญครางและเคาะประตูจากทางไปชั้นสอง ไม่ต้องบอกก็รู้ว่ามันคือซอมบี้ที่อยู่ชั้นสอง
เรย์ไม่ได้รีบเปิดมัน ตอนนี้คนในทีมต้องการพักหายใจก่อน ส่วนเรย์นั้นเขาไม่ได้เหนื่อยมากนัก และยังมีอีกเรื่องหนึ่ง ตอนนี้ต้องไปดูกวินก่อน