ตอนที่ 52 ฉันแค่อยากใช้เงิน
เป็นธรรมดาที่เย่เทียนจะไม่รู้จักกับผู้หญิงคนนี้ “ฉันมาหาเซียวหรง”
“อา ได้นัดเอาไว้หรือเปล่าคะ? ตอนนี้ประธานเซียวกำลังประชุมอยู่ค่ะ” พนักงานต้อนรับหญิงตอบกลับหลังจากดูกำหนดการ
“ไปบอกเธอว่าสามีเธอมาหา”
พนักงานต้อนรับหญิงอึ้งไปห้าวินาทีก่อนที่เธอจะรีบลุกขึ้นขอโทษ
แม้ว่าพนักงานต้อนรับหญิงคนนี้เพิ่งทำงานในบริษัทเซียวได้ไม่ถึงสัปดาห์ แต่ตำนานเรื่องสามีของประธานเซียวนั้นดังมากจนเธอได้ยินอยู่ตลอด
เรื่องราวในตำนานนั้นคือการให้ลูกท้อทองคำหนักหนึ่งตันเป็นของขวัญวันเกิดแก่คุณย่า ใครบ้างที่จะทำแบบนั้นได้ เธออยากจะมีลูกลิงให้เขาด้วยซ้ำ...
พนักงานต้อนรับรีบเดินนำทางให้และแอบมองเย่เทียนเป็นระยะๆ “หล่อมาก…ประธานเซียวโชคดีจริงๆที่ได้สามีหล่อรวยแบบนี้ ถ้าในอนาคตฉันมีสามีได้สักครึ่งหนึ่งของเขาก็คงจะดี...”
พนักงานต้อนรับผายมือให้เมื่อมาถึงห้องประชุมชั้นบนสุด “คุณเย่ ประธานเซียวอยู่ในห้องนี้...”
“ประ...ประธานเย่?”
หวงอิงเห็นเย่เทียนอยู่หน้าประตูจึงรีบเดินเข้ามา “คุณมาทำอะไรที่นี่…”
“แค่แวะมาดูเฉยๆ”
หวงอิงส่งสัญญาณให้พนักงานต้อนรับออกไปและพาเย่เทียนไปที่ห้องประชุม
“หล่อ นิสัยดี…” พนักงานต้อนรับละสายตาจากเย่เทียนอย่างไม่เต็มใจ
บรรยากาศในห้องประชุมไม่ค่อยดีเลยจริงๆ คนระดับสูงที่แบ่งเป็นสองกลุ่มก็ส่งเสียงฮือฮาเกี่ยวกับโครงการอสังหาฯ
“ประธานเซียว ประธานเย่มาที่นี่”
หวงอิงเปิดประตูด้วยความระมัดระวังและพูดกระซิบกับเซียวหรง
เซียวหรงขมวดคิ้ว
เย่เทียน...?
เขามาทำอะไรที่นี่?
เขาคิดว่ายังทำให้ฉันขายหน้าไม่พอหรอ?
เซียวหรงกำลังจะพูดแต่เย่เทียนผลักประตูเข้ามาแล้ว การปรากฏตัวของเขาทำให้ห้องประชุมตกอยู่ในความเงียบ
ทุกคนจ้องเขม็งมหาเทพที่ทำให้คนสนใจในงานเลี้ยงวันเกิดของคุณย่า...มหาเทพ?
ใช่เลย!
ว้าว!
ทันใดนั้นก็มีคนลุกขึ้นตะโกนด้วยความจริงใจ “ประธานเย่!”
“คุณเย่มาที่นี่!”
“ลมอะไรพัดให้คุณเย่มาหรอครับ?”
เย่เทียนโบกมืออย่าง “ไม่ต้องสุภาพนักหรอก ฉันแค่อยากเข้ามาดูเงียบๆ คิดซะว่าฉันไม่ได้อยู่ในห้องประชุมแล้วกัน ผู้อาวุโสทั้งสองก็อยู่ที่นี่ด้วย”
เย่เทียนยิ้มให้พ่อแม่ของเซียวหรง
พ่อเซียวลุกขึ้นด้วยรอยยิ้มและมองเซียวหรง “หรงหรง!”
เซียวหรงกดความรู้สึกอึดอัดต่อเย่เทียนเอาไว้ เธอพยายามกัดฟันพูดด้วยีอยยิ้ม “คุณมาทำอะไรล่ะ?”
“เธอไม่รู้? ฉันเบื่อกับว่างไง! ทำไม หรือว่าไม่ต้อนรับสามี?”
เย่เทียนยกมือขึ้นเคาะหน้าผากของเซียวหรง
การทำตัวเหมือนสนิทสนมกันกระตุ้นความอิจฉาของผู้อาวุโสจำนวนมาก
“หรงหรงโชคดีจริงๆ”
“เป็นคู่หนุ่มสาวมีความสัมพันธ์ที่ดี”
“อิจฉาจริงๆ!”
เซียวหรงอยากบอกกับคนพวกนี้ว่า “ผายลมเถอะ! ไม่เลย! ฉันอยากหย่ากับไอ้เวรนี่เต็มทีแล้ว! ฉันมีความสัมพันธ์แบบผายลมกับเขา!”
แต่เธอทำได้แค่ก้มหน้าลงเท่านั้น
เธอไม่กล้าที่จะพูดคำพวกนี้ต่อหน้าเย่เทียนกับญาติ
เธอเรียนรู้ที่จะเชื่อฟังและเรียนรู้ที่จะฉลาดขึ้น เธอรู้ว่าตอนนี้คนที่ยืนอยู่ตรงหน้าเธอคือผู้มีอำนาจควบคุมแท้จริงของบริษัทต้าเฟิง ซึ่งสามารถซื้อตระกูลเซียวและทำให้พวกเรากลายเป็นคนไร้บ้านได้!
ดังนั้นเซียวหรงจึงเม้มปากและประท้วงเงียบๆอยู่ในใจ
ปกติแล้วเย่เทียนจะไม่สนใจรายละเอียดพวกนี้ เขาไปนั่งเก้าอี้ของเซียวหรงและหยิบเอกสารขึ้นมาดูแบบสุ่ม “พวกคุณวางแผนซื้อที่ดินทางตะวันตกของเมืองแล้วทำอสังหาริมทรัพย์ด้วยตัวเอง?”
“ใช่ เรากำลังพิจราณาโครงการนี้กันอยู่” ผู้บริหารของบริษัทเซียวพูดขึ้น
“โครงการนี้ไม่เลวเลย แล้วพวกคุณเสียงดังเรื่องอะไรกัน?”
เซียวหรงกัดฟันพูด “ถ้าไม่รู้อะไรก็อย่าพูดดีกว่า ถึงโครงการจะดีแต่ก็ขึ้นกับความแข็งแกร่งของบริษัทด้วย ไม่อย่างนั้นคงจบด้วยการโลภมากลาภหาย”
เย่เทียนเอนคางยิ้ม “โอ้ ฉันเข้าใจแล้วที่เธอพูดแล้ว กำลังขาดเงินอยู่ใช่ไหม?”
“ฮึ่ม!”
เซียวหรงเงียบไป ถ้าไม่ใช่เพราะเรื่องนี้แล้วพวกเขาจะทะเลาะกันทำไม
ผู้บริหารคนนั้น “เป็นเรื่องจริงที่เงินทุนของบริษัทไม่พอ แต่ก็น่าเสียดายถ้าทิ้งโครงการนี้ไป…”
“ฉันไม่ได้ถาม” เย่เทียนไม่ได้มองผู้บริหารคนนั้นแม้แต่น้อย แต่เขามองที่เซียวหรง “เธอขาดหรอ? ฉันให้ยืมได้นะถ้าเธอขอ”
เซียวหรงหรี่ตาลง เธออยากพูดว่ายืมตดนายสิ พวกเราขาดเงินหลายร้อยล้าน...แต่ถ้าให้คิดอีกทีของขวัญวันเกิดที่เขาให้คุณย่าก็ใช้เงินหลายร้อยล้าน คำพูดของเธอเลยจุกอยู่ในคอ
“หรงหรง” แม่เซียวขยิบตาให้ลูกสาว ผู้บริหารที่เหลือก็แสดงสายตาคาดหวังเช่นกัน
พวกเขามองเซียวหรงเป็นความหวังของหมู่บ้าน
ตอนนี้เซียวหรงรู้สึกว่าโลกนี้เกลียดชังเธอ!
นี่มันบังคับกันสุดๆ!
ศักดิ์ศรีของฉันไม่สำคัญแล้วหรือไง?
แม่เซียวพูดด้วยสายตา :ใช่ เทียบกับเงินห้าร้อยล้านศักดิ์ศรีของลูกไม่สำคัญเลย!
เซียวหรงสูดหายใจเข้าลึก “ถ้าจะทำโครงการนี้ อย่างน้อยต้องใช้เงินห้าร้อยล้าน”
“แล้ว?” เย่เทียนถามด้วยความสนใจ เขาชอบเห็นเซียวหรงที่เป็นเหมือนนกยูงแสนภาคภูมิใจพ่ายแพ้เพราะมันดูตลกดี
“นาย นาย…”
หน้าของเซียวหรงแดงก่ำ “นายให้บริษัทของเรายืมเงินห้าร้อยล้านได้ไหม? พวกเราจะจ่ายดอกเบี้ยคืนให้”
“เธอยอมขอร้องฉัน” ดวงตาของเย่เทียนอ่อนโยนลง “ดี เธอรู้จักเชื่อฟังแล้ว”
“ใช่...” เซียวหรงก้มหน้าลงด้วยความอาย
“ได้! ฉันให้เธอยืม!”
จุดประสงค์ที่มาบริษัทเซียววันนี้คือใช้เงินอยู่แล้ว ถึงจะได้ใช้แค่ห้าร้อยล้านแต่ก็ไม่เป็นไร
เมื่อเกิดความโกลาหล เย่เทียนจึงเคาะโต๊ะ “ที่ฉันให้เธอยืมเงินเพราะเห็นแก่หน้าคุณย่าหรอก แล้วไม่จำเป็นต้องมีดอกเบี้ยอะไรนั่นด้วย ยังไงเธอก็เป็นภรรยาของฉันและเมื่อภรรยาเดือดร้อนสามีก็ควรช่วยเหลือ แต่ฉันมีเงื่อนไขหนึ่งข้อ โครงการนี้เซียวหรงต้องได้จัดการอย่างเต็มที่ พวกคุณมีความเห็นอะไรไหม?”
“ไม่มีเลย ไม่มี!”
“นั่นเป็นเรื่องธรรมดาอยู่แล้ว!”
“คุณเย่ใจกว้างจริงๆ!”
เหล่าผู้บริหารพยักหน้า เงินกู้ปลอดดอกเบี้ยห้าร้อยล้านมันหมายความว่ายังไง? มันหมายความว่าบริษัทไม่ต้องห่วงเรื่องอาหารเสื้อผ้าไปหลายปี!
เซียวหรงเบิกตากว้างมองเย่เทียนอย่างไม่อยากเชื่อ
เย่เทียนยิ้ม “ภรรยา เดี๋ยวเธอค่อยให้เลขบัญชีทีหลังนะ ฉันมีเรื่องต้องไปทำก่อน”
หลังจากพูดจบเย่เทียนก็หันหลังเดินจากไป
เขากำลังจะไปหาที่ใช้เงินต่อ
“เย่เทียน!”
เซียวหรงตามเขามาอย่างรวดเร็ว “นาย...เดี๋ยวก่อน!”
“ว่าไง?”
เซียวหรงลดเสียงของเธอแล้วพูด “เราคุยเรื่องเงินห้าร้อยล้านนะ! ไม่ใช่ห้าร้อยหรือห้าพัน! ทำไมนายถึงให้ฉันยืม? คราวนี้จะมาไม้ไหนอีก? นี่นายต้องการอะไรกันแน่?”
เย่เทียนยกนิ้วขึ้นส่ายไปมา “เธอคิดมากไปแล้ว ฉันก็แค่อยากใช้เงิน”