ตอนที่ 1113-1114 แบรนด์ดัง
เขาใช้คำพูดที่ยากจะรับฟังกับเธอ “ฉันมันไร้เดียงสาเกินไปที่คิดว่าเธอจะแคร์ความสัมพันธ์เก่า ๆ ของคุณ หึ ความสัมพันธ์ระหว่างเราตั้งกี่ปี มันไม่มีค่าอะไรสำหรับเธอเลยใช่ไหม เธอมันจริงจังกับคนที่มีเงินมากกว่าล่ะสิท่า ทำไมฉันถึงไม่รู้มาก่อนหน้านี้ว่าเธอมันเป็นผู้หญิงแบบนี้”
แม้ว่าเฉียวเมียนเมียนจะรู้ว่าเขาเป็นคนแบบไหน แต่มือที่จับโทรศัพท์ของเธอก็เริ่มสั่นด้วยความโกรธ
ไม่ว่าอดีตซูเจ๋อจะเป็นคนงี่เง่าแค่ไหน เขาไม่เคยพูดคำที่ทนไม่ได้ไม่ได้กับเธอมาก่อนเลย
เขายังคงต่อว่าเธอต่อไป “เธอมันใจร้ายมาก ครอบครัวซูและฉันทำดีกับเธอขนาดไหนในตอนนั้น ตอนนี้เธอต้องการจะฆ่าครอบครัวซู? แม่ของฉันดีกับเธอเหมือนเธอเป็นลูกสาวแท้ ๆ ของท่าน เธอมันคนเนรคุณ!”
“ซูเจ๋อ ฉันไม่รู้นะว่าคุณกำลังพูดเรื่องอะไร! แต่ฉันไม่มีอะไรจะพูดกับบ้าหมาอย่างคุณ ต่อไปอย่าโทรมาหาฉันอีก ถ้ายังโทรมาอีก ฉันจะบล็อคคุณ” เฉียวเมียนเมียนวางสาย
จากนั้นเธอก็บล็อคที่เพิ่งโทรมาเมื่อสักครู่
เธอยังคงสั่นด้วยความโกรธ หลังจากวางสาย
เธอไม่เคยคิดว่าคน ๆ หนึ่งจะน่ารังเกียจได้ขนาดนี้
เมื่อเธอคิดว่าเธอได้เห็นด้านที่แย่ที่สุดของเขาแล้ว เขาจึงใช้การกระทำของเขาเพื่อบอกกับเธอว่าเธอประเมินความน่าขยะแขยงและไร้ยางอายของเขาต่ำเกินไปล่ะสินะ
ความเข้าใจของเธอที่มีต่อเขาตลอดหลายปีที่ผ่านมา เป็นเหมือนเรื่องตลก
เธอรู้จักเขามาสิบกว่าปี
แต่เธอไม่เคยรู้เลยว่าจริง ๆ เขาเป็นคนอย่างไร
หลังจากที่เฉียวเมียนเมียนเพิ่งจะบล็อคเบอร์ของซูเจ๋อไป เธอก็ได้รับเสียงเตือนข้อความเข้า
เธอมองลงไปและพบว่าเป็นข้อความจากหมายเลขที่ไม่รู้จัก ‘เฉียวเมียนเมียน ต่อให้เธอไม่พอใจฉันแค่ไหน พ่อแม่ของฉันก็ไม่เคยรังแกเธอ เธอจะทำลายตระกูลซูจริง ๆ เหรอ? เธอรู้ไหมว่าพ่อแม่ของฉันกังวลจนกินไม่ได้นอนไม่หลับ? ต้องใจร้ายขนาดนี้เลยเหรอ?’
เป็นข้อความจากซูเจ๋อ
เฉียวเมียนเมียนลบข้อความทิ้งและบล็อกเบอร์ที่ส่งข้อความมาด้วย
เธอเกลียดซูเจ๋อมากจริง ๆ
แต่เธอไม่เคยพาลไปถึงพ่อแม่ของเขา
ซูเจ๋อเป็นคนที่ทำใหเธอผิดหวัง ไม่ใช่พ่อและแม่ซู
เพราะอย่างนั้น แม้ว่าจะบล็อคเบอร์ของซูเจ๋อไปแล้ว แต่เธอก็ต้องถามเหมาเยซื่อเกี่ยวกับเรื่งอนี้
ดูเหมือนว่าบริษัทซูจะได้รับผลกระทบไปด้วย
เขาบอกว่ากงเซลีเป็นคนทำ
แต่เฉียวเมียนเมียนรู้ดีว่าถ้ามีใครทำอะไรกับบริษัทซูจริง ๆ คงไม่ใช่กงเซลี
น่าจะเป็นเหมาเยซื่อเท่านั้น
อีกอย่างเหมาเยซื่อไม่ชอบซูเจ๋ออยู่แล้ว
เธอกลัวว่าหลังจากที่ได้ยินเรื่องที่ลินดาบอกไปในวันนั้น เขาจะมีความคิดที่จะโจมตีบริษัทซู
เฉียวเมียนเมียนนอนไม่หลับ หลังจากถูกโทรศัพท์จากซูเจ๋อปลุก
เธอลุกขึ้นจากเตียงอาบน้ำ และลงไปข้างล่าง พร้อมกับโทรศัพท์
“อรุณสวัสดิ์ค่ะ คุณผู้หญิง” แม่บ้านทักมายเธอด้วยความเคารพ เมื่อเห็นเธอเดินลงมา
“คุณผู้หญิงจะรับอาหารเช้าตอนนี้เลยไหมคะ ฉันจะได้ให้คนครัวจัดเตรียมให้”
เฉียวเมียนเมียนพยักหน้าและค่อย ๆ เดินเข้าไปในห้องอาหาร
ไม่กี่นาทีหลังจากที่เธอนั่งลงที่โต๊ะอาหาร คนรับใช้ก็นำอาหารเช้ามาให้
แม้ว่าเธอจะทานคนเดียว ทว่าอาหารเช้ายังจัดเสิร์ฟมาอย่างมากมาย ทั้งผลไม้ ของหวาน อาหารจีนและอาหารตะวันตก
ขณะรับประทานอาหาร เธอถามแม่บ้านว่า “เหมาเยซื่อออกไปบริษัทนานหรือยัง? เขาไปตั้งแต่เมื่อไหร่คะ?”
__
แม่บ้านโค้งคำนับเล็กน้อยและกล่าวว่า “คุณผู้ชายตื่นตั้งแต่เช้าแล้วค่ะ เขาไปได้ชั่วโมงกว่าแล้ว”
ชั่วโมงกว่า?
เฉียวเมียนเมียนมองดูเวลาและรู้สึกว่าการเป็น CEO ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย
เธอคิดว่าการเป็นเจ้านายจะเป็นเรื่องง่าย
จะนอนตื่นกี่โมง ไปทำงานกี่โมงก็ได้
หรือสามารถหยุดพักได้ตามที่ต้องการ และไม่จำเป็นต้องไปทำงานทุกวันเสียอีก
หรือแม้ว่าจะไปที่บริษัท ก็ไม่มีอะไรให้ทำมากมาย อยากเข้าก็เข้า อยากออกก็ออกได้ตามต้องการ
ตอนนี้เธอตระหนักว่าเธอคิดผิดอย่างสิ้นเชิง
ยิ่งตำแหน่งสูงเท่าไหร่ ก็มีแต่ความตึงเครียดเท่านั้น
หลายสิ่งหลายอย่างต้องทำเป็นการส่วนตัว
“คุณผู้หญิงจะไปหาคุณผู้ชายที่บริษัทไหมคะ? ฉันจะได้ให้คนไปเตรียมรถ” แม่บ้านคิดว่าเธอกำลังจะตามไปหาเหมาเยซื่อที่บริษัท
เฉียวเมียนเมียนกำลังจะตอบ โทรศัพท์มือถือก็ดังขึ้นก่อน
เธอมองไปที่หมายเลขผู้โทรเข้า เป็นสายจากลินดา
เธอรับทันที “พี่เซี่ย มีอะไรคะ?”
“เมียนเมียน เธอยังอยู่ในหยุนเฉินใช่ไหม” ลินดาพูดเข้าประเด็น
“แบบนี้นะ ฉันเพิ่งรับงานโฆษณาดี ๆ มา เห็นว่าเธอมีเวลาว่างสองสามวัน เธอมาถ่ายโฆษณาก็แล้วกัน”
“ถ้าตอนนี้พอมีเวลา ออกมาคุยรายละเอียดกัน”
เฉียวเมียนเมียนตกตะลึง “โฆษณา? โฆษณาอะไรคะ?”
“เป็นโฆษณาแบรนด์เครื่องสำอาง ระดับไฮเอนด์ การรับงานโฆษณาชิ้นนี้เป็นประโยชน์ต่อเธอมาก ไม่มีข้อเสียเปรียบใด ๆ อีกอย่าง เขาเสนอราคามาสูงมากเลยล่ะ ฉันเชื่อว่าเธอต้องพอใจแน่”
“แบรนด์เครื่องอางแบรนด์นี้ ปกติจะใช้คนดังระดับ A นี่เป็นครั้งแรกที่พวกเขาหานักแสดงหน้าใหม่ไปถ่ายโฆษณา ด้วยความดังของแบรนด์ หากเธอเป็นพรีเซ็นเตอร์สำหรับซีซั่นใหม่ ความนิยมของเธอก็จะเพิ่มมากขึ้นไปด้วย”
ลินดาพูดไปอย่างมีความสุข
เฉียวเมียนเมียนรู้สึกว่าเธอพอใจกับสัญญาโฆษณาชิ้นนี้มาก
เฉียวเมียนเมียนถามด้วยความสงสัย “พี่เซี่ย เป็นแบรนด์อะไรคะ?”
ลินดาบอกกับเธอ ทำเอาเฉียวเมียนเมียนตกใจมาก เมื่อรู้ว่าได้ต้องไปถ่ายโฆษณาเครื่องสำอางยี่ห้อใด
“พี่กำลังพูดถึง MC! พี่เซี่ย แน่ใจนะว่าไม่ผิด? MC ติดต่อให้ฉันไปถ่ายโฆษณาเหรอคะ?”
“ไม่ผิดแน่ เป็น MC จริง ๆ ฉันไม่ได้เป็นคนเลือกให้เธอนะ พวกเขาติดต่อเลือกเธอด้วยตัวเอง ฉันจะบอกรายละเอียดเมื่อเธอมาถึงแล้ว ตอนนี้ว่างหรือเปล่า?
“ถ้าว่างก็ส่งที่อยู่มา ฉันจะไปหา”
เฉียวเมียนเมียนประหลาดใจมาก เมื่อได้ยินว่าทาง MC เป็นฝ่ายติดต่อมาเอง
MC เป็นบริษัทยักษ์ใหญ่ของวงการเครื่องสำอาง
อย่างที่ลินดาพูด พรีเซ็นเตอร์คนก่อน ๆ ทุกคนล้วนแต่เป็นคนดังระดับ A
MC ไม่เคยให้ดาราหน้าใหม่มาเป็นพรีเซ็นเตอร์ของพากเขา
นอกจากนี้ เธอยังเป็นดาราหน้าใหม่ที่ไม่มีชื่อเสียง
แม้ว่าเธอจะเคยมีเรื่องอื้อฉาวบ้าง แต่ก็เป็นชื่อเสียงด้านลบ และน้อยคนนักที่จะรู้จักเธอ
ไม่มีอะไรเทียบได้กับดาราชื่อดังเลย
ยิ่งไปกว่านั้น คนที่ติดตามเธอก็เป็นแอนตี้แฟน
ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ ไม่แปลกเกินไปหน่อยเหรอที่แบรนด์เครื่องสำอางชั้นนำจะติดต่อให้เธอเป็นพรีเซ็นเตอร์ของพวกเขา
ไม่สมเหตุสมผลเอาสักเท่าไหร่เลย
เฉียวเมียนเมียนเต็มไปด้วยคำถามและรู้สึกว่าเรื่องนี้ไม่ได้ง่ายอย่างที่เธอคิด