ตอนที่แล้ว1083-1084
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไป1087-1088

1085-1086


1/10

Ep.1085

“อยู่ระดับเทวะขั้น 7 เท่านั้นเองหรือ?” เสิ่นหยวนเกือบกัดลิ้นตัวเอง เหม่อมองมาทางซูเฉินด้วยความประหลาดใจ นิ่งอึ้งไปพักหนึ่ง ก่อนเอ่ยถามต่อว่า “แล้วเจ้าใช้วิธีใดในการฝ่ากระแสวังวนมิติเข้ามา?”

“ผู้เยาว์เพียงใช้ลูกเล่นเล็กๆน้อยๆ” ซูเฉินยิ้มบาง

ก่อนจะรู้ข้อมูลอีกฝ่ายหรือรู้สึกว่าไว้ใจได้ ซูเฉินจะไม่เปิดเผยไพ่ตายของเขา

ผู้ทรงเกียรติเสิ่นหยวนชะงักไปเล็กน้อย แต่ก็ไม่ได้ซักไซ้ต่อ ทุกคนล้วนมีความลับเป็นของตัวเอง ในเมื่อซูเฉินไม่อยากพูด เขาก็ไม่จำเป็นต้องล้วงลึก

“สถานการณ์ข้างนอกเป็นอย่างไรบ้าง?”

เสิ่นหยวน ผ่อนลมหายใจอย่างช้าๆ  เอ่ยถามต่อ

“ไม่ค่อยดีเท่าไหร่” สีหน้าของซูเฉินหมองลง บอกเล่าสิ่งที่หวูซางกล่าวออกมาทีละเรื่อง

“ไม่น่าเชื่อว่าจะมีขยะเช่นนั้นอยู่ในหมื่นเผ่าพันธุ์!”

ได้ยินแบบนั้น เสิ่นหยวนมีน้ำโหขึ้นมาทันที สบถด่าด้วยความโกรธ

และเป้าหมายที่ด่าทอก็ไม่ใช่ใครอื่น เป็นนักพรตเทียนซ่าน

“ผู้อาวุโส ท่านเคยเข้าร่วมมหาศึกมิติครั้งก่อนใช่หรือไม่?” ซูเฉินเลียบเคียงถามดู

มหาศึกมิติเมื่อหมื่นปีก่อน เป็นการต่อสู้ที่มหาอำนาจทั้งสามฝ่าย หมื่นเผ่าพันธุ์ , สัตว์ร้ายมิติ และจักรวรรดิจักรกล ร่วมมือกันต่อสู้กับอสูรร้ายจากต่างแดน

ในเมื่อผู้ทรงเกียรติเสิ่นหยวน รังเกียจการกระทำที่นักพรตเทียนซ่านเปิดอุโมงค์เชื่อมไปยังถิ่นของอสูรร้าย ซูเฉินจึงตั้งข้อสันนิษฐานนี้ขึ้นมา

“ข้าเคยเข้าร่วมจริงๆ” เสิ่นหยวนพยักหน้ารับ ก่อนถอนหายใจและพูดว่า “แต่ช่างน่าเศร้า ที่เหล่าผู้แข็งแกร่งในขอบเขตเทพเจ้า รวมไปถึงข้า เกือบทั้งหมดล้วนล่วงลับไปแล้ว”

ล่วงลับ?

ซูเฉินขมวดคิ้ว ในเมื่อผู้ทรงเกียรติเสิ่นหยวนล่วงลับไปแล้ว งั้นคนที่กำลังพูดอยู่ อย่าบอกนะว่าเป็นร่างจำแลง?

คล้ายตระหนักถึงความคิดของซูเฉิน เสิ่นหยวนอธิบายว่า “ตัวข้าในตอนนี้ เป็นเพียงเศษเสี้ยวจิตวิญญาณของร่างเดิมที่หลงเหลืออยู่เท่านั้น”

“อ้อ”

ซูเฉินค่อยเข้าใจ

“ซูเฉิน ปีนี้เจ้าอายุเท่าไหร่?” เสิ่นหยวน เอ่ยถาม

ซูเฉินดูเหมือนคนอายุราวๆ 20 ปี  แต่ฐานฝึกตนกลับสูงส่ง มันได้ทะยานมาถึง ระดับเทวะขั้น 7 แล้ว นี่ไม่ค่อยสอดคล้องกันเท่าไหร่

ดังนั้น เขาจึงเกิดข้อสงสัยว่าซูเฉินใช่เคยกินผลไม้ที่ช่วยถนอมผิวมาหรือไม่

“น่าจะเกือบ 20 ปี”

ซูเฉินนึกทบทวนอยู่ครู่หนึ่ง แล้วตอบกลับ

เป็นเวลาเกือบสามปีแล้วที่เขาถูกส่งเข้ามาในโลกใบนี้  ขณะนั้นอายุ 17 ปี ตอนนี้หากบอกว่าอายุเกือบ 20 ปี ก็ไม่น่าจะผิดพลาด

“แค่ 20 ปีเท่านั้นเองหรือ?”

ดวงตาของเสิ่นหยวนเบิกกว้าง ในหัวใจเต็มไปด้วยความตื่นตกใจ

อายุ 20 ปี แต่สามารถเลื่อนขั้นสู่ระดับเทวะขั้น 7 พรสวรรค์เช่นนี้เป็นอะไรที่ไม่เคยพบเคยเจอมาก่อนเลย!

หลังจากได้สติกลับมาจากอาการช็อค เสิ่นหยวนบังเกิดความปิติยินดีเป็นอย่างยิ่ง

ด้วยพรสวรรค์ของซูเฉิน หากคิดยกระดับสู่ขอบเขตเทพเจ้า สมควรใช้เวลาไม่นาน

และเมื่อซูเฉินยกระดับเป็นขอบเขตเทพเจ้า เขาจะสามารถร่วมมือกับหวูซางเพื่อสังหารนักพรตเทียนซ่านและสัตว์ร้ายมิติ จากนั้นปิดผนึกอุโมงค์เชื่อมต่อไปยังถิ่นของอสูรร้ายอีกครั้ง

“ซูเฉิน หากเจ้าก้าวสู่ขอบเขตเทพเจ้า เจ้ามั่นใจไหมว่าจะสามารถกำจัดนักพรตเทียนซ่านได้?” ผู้ทรงเกียรติเสิ่นหยวนเลียบเคียงถาม

“ตราบใดที่ผมยกระดับเป็น ระดับเทวะขั้น 10 ผมมั่นใจว่าการกำจัดนักพรตเทียนซ่านไม่ใช่เรื่องยาก” ซูเฉินตอบน้ำเสียงหนักแน่น

คำพูดนี้ไม่ได้โอ้อวดแม้แต่น้อย หากเขายกระดับสู่ระดับเทวะขั้น 10 แล้วใช้ [เทคนิคปลุกศูนย์รวมวิญญาณสวรรค์] เขาก็จะเลื่อนขั้นสู่ขอบเขตเทพเจ้าได้ทันที และด้วยกำลังรบที่คงกระพันในลำดับชั้นเดียวกัน การสังหารเทียนซ่าน ก็ไม่ต่างจากการบี้มดให้ตาย

ได้ยินแบบนั้น สีหน้าของ ผู้ทรงเกียรติ เสิ่นหยวน นิ่งค้างไป

นี่ใช่คุยโวมากไปหน่อยกระมัง แต่ทว่า ดูจากท่าทีของซูเฉินแล้ว คล้ายไม่ได้กำลังล้อเล่นอยู่เลย เป็นไปได้ไหมว่าเขามีความสามารถสังหารศัตรูข้ามขั้น?

เสิ่นหยวน บังเกิดข้อสงสัย แต่ก็ไม่เก็บมาคิดมากความ เพราะสิ่งสำคัญที่สุดในตอนนี้  คือต้องช่วยซูเฉินยกระดับโดยเร็วที่สุด

2/10

Ep.1086

“ซูเฉิน เจ้าต้องรวบรวมตราหยกกำเนิดเซียนทั้งสามชิ้นให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้” เสิ่นหยวน กล่าวย้ำเตือน

“ผู้อาวุโส แล้วผมต้องทำยังไงเมื่อสามารถรวบรวมพวกมันครบแล้ว?” ซูเฉินถาม

ก่อนหน้านี้ เขาได้ข้อมูลจากเฉินฉางมา ว่าเมื่อรวบรวมตราหยกกำเนิดเซียนได้ครบ จะสามารถเปิดกรุสมบัติได้

แต่สิ่งใดเล่าที่อยู่ในกรุสมบัติที่ว่านั่น? เขาไม่ทราบ นอกจากนี้ เขายังไม่อยากเชื่อเต็มที่ว่าสิ่งที่เฉินฉางพูดนั้นเป็นความจริงทั้งหมด

ผู้ทรงเกียรติเสิ่นหยวนไม่คิดปิดบัง อธิบายว่า “เมื่อรวบรวมตราหยกได้ครบ เจ้าจะสามารถเปิดเขตแดนลับได้ ที่นั่นมีทรัพยากรมากมายสำหรับฝึกตน รวมไปถึงแร่ทุกชนิด”

หัวใจของซูเฉินเริ่มเต้นแรง ทรัพยากรฝึกฝนทั่วไปไม่มีประโยชน์สำหรับเขา แต่เหล่าสัตว์เลี้ยงวิญญาณและคนอื่นๆสามารถใช้ได้

นอกจากนี้ หากเขาได้หัวใจจักรกลมาเพิ่ม [รถศึกอัจฉริยะ] จะสามารถอัพเกรดได้อย่างต่อเนื่อง และมีโอกาสไปถึงรูปแบบสุดท้าย

“ผู้อาวุโส ข้างในเขตแดนลับมีหัวใจจักรกลอยู่มากแค่ไหน?” ซูเฉินถามหยั่งเชิง

“ไม่มากเท่าไหร่ แค่ประมาณ 10,000 ดวง เท่านั้น” เสิ่นหยวน กล่าวเสียงเรียบ

10,000 ดวง!?

ซูเฉินรู้สึกอึ้งจนอธิบายไม่ถูก แม้เขาจะไม่รู้ว่า [รถศึกอัจฉริยะ] ต้องใช้หัวใจจักรกลจำนวนเท่าไหร่ที่อัพเกรดสู่ขั้นสุดท้าย แต่ในความคิดเขา  แค่ 10,000 ก็น่าจะเพียงพอแล้ว

ณ ตอนนี้ เสิ่นหยวน กล่าวอีกครั้งว่า “นอกจากทรัพยากรฝึกฝนจำนวนมากแล้ว ในเขตแดนลับยังมีคุณสมบัติที่โดดเด่น นั่นก็คือมันสามารถชะลอกระแสเวลาได้”

ชะลอกระแสเวลา?

แม้รู้ความหมาย แต่ซูเฉินยังไม่ค่อยเข้าใจนัก เขาเหม่อมองเสิ่นหยวน รอคำอธิบายจากอีกฝ่าย

ผู้ทรงเกียรติเสิ่นหยวนยิ้มบาง “พูดง่ายๆก็คือ ข้างนอกใช้เวลาสามเดือน เทียบเท่ากับในเขตแดนลับเป็นเวลา 100 ปี”

จริงหรือนี่?

ซูเฉินตะลึงลาน

หากมีเวลาป็น 100 ปีจริงๆ ต่อให้ไม่มีแต้มพลังงาน เขามั่นใจว่าตนสามารถยกระดับสู่เทวะขั้น 10 ได้แน่นอน

นอกจากนี้ อู๋หยาจื่อและคนอื่นๆน่าจะสร้างกระบี่เทวะครบทั้ง 5,000 เล่มได้ทันเช่นกัน

ยิ่งไปกว่านั้น ต้นผลสายฟ้าห้าสายและพืชวิญญาณอื่นๆ น่าจะโตเต็มวัยแล้ว

ส่วนเหล่าสัตว์เลี้ยงวิญญาณ สมควรยกระดับฐานฝึกตนไปได้อีกหลายขั้น โดยเฉพาะอสูรเทพปลุกวิญญาณ ที่เดิมทีก็มีระดับสูงอยู่แล้ว มีโอกาสสูงที่มันจะได้เลื่อนขั้นกลับไปในขอบเขตเทพเจ้า

ตราบใดที่มีเวลาให้ใช้เป็น 100 ปี ถึงเวลานั้นอย่าว่าแต่จัดการกับนักพรตเทียนซ่านเลย ต่อให้ต้องเผชิญกับอสูรร้ายที่ดาหน้าเข้ามาอย่างไม่มีวันจบสิ้น ซูเฉินมั่นใจว่าจะสามารถฆ่าพวกมันทั้งหมด

“เป็นเรื่องจริงแน่นอน”

ผู้ทรงเกียรติเสิ่นหยวนให้คำมั่น จากนั้นกล่าวต่อว่า “แต่ทุกคนมีโอกาสครั้งเดียวเท่านั้น”

แค่โอกาสเดียวสำหรับซูเฉิน นับว่าเพียงพอแล้ว

หลังจากสงบสติอารมณ์ลง เขาเอ่ยถามว่า “ผู้อาวุโส เช่นนั้นแล้วตราหยกกำเนิดเซียนอีกสองชิ้นอยู่ที่ไหน?”

“ชิ้นหนึ่งอยู่ในเขตแดนลับมิติ อีกชิ้นหนึ่งอยู่ในวิหารสวรรค์หวนหยู และข้าสามารถส่งเจ้าไปได้ทันที” เสิ่นหยวน ตอบตามความจริง

หืม?

ซูเฉินตะลึงงันเล็กน้อย

เพราะสองสถานที่นี้ เดิมเป็นสถานที่ที่เขาจะไปอยู่แล้ว ไม่นึกฝันเลยว่าตราหยกกำเนิดเซียนจะอยู่ในทั้งสองสถานที่นี้จริงๆ นี่มันราวกับเป็นเจตนารมณ์ของสวรรค์เลย

“แต่เจ้าต้องจำจดไว้อย่างหนึ่ง เมื่อเข้าไปในสองสถานที่นั้น นอกจากถูกอำนาจเขตแดนสะกดพลังแล้ว ยังมีอันตรายอื่นแอบแฝงอยู่” ผู้ทรงเกียรติเสิ่นหยวนเตือน

ซูเฉินไม่ค่อยสนใจเรื่องนี้ หันไปถามว่า “ผู้อาวุโส ผมได้ยินมาว่ามีอสูรเทพอยู่ในวิหารสวรรค์หวนหยู นั่นเป็นเรื่องจริงไหม?”

เหตุผลหลักที่ถามถึงอสูรเทพ ก็เพื่ออสูรเทพปลุกพลังของเขา เพราะหากมันต้องการกลับคืนสู่ขอบเขตเทพเจ้า ทางลัดที่ไวที่สุดคือกลืนกินอสูรเทพด้วยกันเอง

“ย่อมมี” เสิ่นหยวน พยักหน้า ก่อนพูดต่อว่า “อย่างไรก็ตาม เจ้าไม่ต้องกังวล อสูรเทพตนนั้นได้รับบาดเจ็บสาหัสในมหาศึกมิติเมื่อครั้งก่อน ตอนนี้มันน่าจะตายไปแล้ว”

เมื่อทราบถึงสถานการณ์ที่แน่นอน ซูเฉินไม่อยากเสียเวลาอีกต่อไป  หันมากล่าวกับเสิ่นหยวนว่า “ผู้อาวุโส ผมต้องการออกจากที่นี่ทันที ที่แรกเอาเป็น ... ไปที่เขตแดนลับมิติก่อนแล้วกัน”

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด