ตอนที่ 17 ดื่มฉลอง(อ่านฟรี)
ตอนที่ 17 ดื่มฉลอง
ชื่อของห้องพักที่ติดด้านหน้านั้นจะใช้ชื่อของหัวหน้าทีมเป็นหลัก ดังนั้นมันจึงไม่มีชื่อเลขห้องอะไร ส่วนเหตุผลที่ใช้แบบนี้นั้นก็เพื่อแสดงให้เห็นว่าสถานที่นี้อยู่ภายใต้การดูแลของใคร ในบางครั้งหัวหน้าทีมก็มีอิทธิพลในทีมมากกว่าผู้จัดการซะอีก
คอนราด โบเวน เรย์เดินเข้ามาในห้อง คอนราดและโบเวนแยกกันไปจัดการกับตัวเองชำระล้างร่างกายในห้องน้ำคนละห้อง ในห้องพักทีมมีห้องน้ำถึงสองห้องซึ่งนั้นทำให้ไม่ต้องนั่งรอกันนานนัก
ส่วนเรย์นั้นนั่งมองไปรอบ ๆ พยายามทำความคุ้นเคยกับที่นี่ บรรยากาศของห้องของหัวหน้าคอนราดนั้นแต่กต่างจากห้องของหัวหน้าไดร่าพอสมควร
ห้องหัวหน้าไดร่าให้บรรยากาศเหมือนห้องสมุดที่เต็มไปด้วยความรู้ ทั้งยังมีข้าวของเก็บเป็นระเบียบเรียบร้อย ในแบบฉบับของผู้หญิง
แต่ห้องพักของทีมหัวหน้าคอนราดนั้นเต็มไปด้วยกลิ่นอายของทหารรับจ้างไม่มีผิด มีเตียงนอนแบบชั้นที่สามารถนอนได้ 6 ที่ แสงไฟในมุมห้อง โต๊ะสำหรับเล่นไพ่ และชั้นวางอาหารกระป๋องหลากหลาย ยังมีชั้นวางพวกอาวุธและกระสุนปืนอยู่ด้วย ที่นี่ไม่ต่างจากค่ายทหารมากนัก
แม้จะมีบรรยากาศแบบนี้ แต่เรย์กลับไม่ได้รู้สึกไม่คุ้นเคยแต่อย่างใด อาจจะเพราะริชาร์ด พี่ชายของเขาก็เป็นทหารมาก่อน ห้องและข้าวของก็จัดแต่งในลักษณะนี้เช่นกัน ทำให้เรย์นั้นคุ้นชินไปโดยไม่รู้ตัว
“เฮ้ เรย์ตอนนี้นายฝึกที่เรียกว่าคาถาของผู้ใช้เวทมนตร์สำเร็จหรือยัง” โวเวนเดินออกมาจากห้องนี้ด้วยสภาพที่เปลือยท่อนบน ส่วนท่อนล่างนั้นนุ่งผ้าขนหนูเพียงผืนเดียว
“เสร็จแล้ว แต่เป็นคาถาสนับสนุนเท่านั้นไม่ได้มีพลังโจมตีอะไร”
“หืม...สุดยอดไปเลย แบบนี้นายอาจจะทำการเปิดระดับสองได้แล้วสิ ผู้ใช้เวทมนตร์นี่ดีเป็นบ้าเลย ต่างจากพวกเราผู้ใช้พลังกายภาพกว่าจะฝึกสำเร็จก็แทบรากเลือดเลย พอนึกถึงตอนเข้าทีมแรก ๆ แล้วฉันก็ฝึกหนักทุกวันเลยละ คิดถึงชะมัด” โบเวนเดินไปหยิบชุดธรรมดามาเปลี่ยน
“แต่ผู้ใช้พลังกายภาพก็มีร่างกายที่แข็งแรงไม่ใช่หรือยังไง” เรย์มองกล้ามของโบเวนด้วยความอิจฉา สำหรับผู้ชายแล้วโดยเฉพาะวัยรุ่น ๆ แบบเรย์ การมีกล้ามและซิกแพคนั้น มันคือสิ่งที่ใฝ่ฝัน
“ฮ่า ๆ นั้นก็จริง โดยเฉพาะความอึดบนเตียงละนะ ฮี่...” โบเวนขยับเอวไปมาราวกับคิดถึงเรื่องบนเตียงของตนก่อนจะกล่าวต่อ “จริงสิคุณก็อายุจะ 18 แล้ว ว่าไงเดียวผมพาไปยังสถานที่ทำให้เป็นผู้ใหญ่เอาไหม”
โบเวนกระซิบบอกเรย์ เรย์ได้ยินก็รู้สึกใจเต้นตุ้ม ๆ ต่อม ๆ แต่ไม่ได้ตอบอะไรไป เพราะหัวหน้าคอนราดออกมาจากห้องน้ำอีกห้องแล้วเช่นกัน ก็เป็นเวลาเดียวกับที่ฟาริสมาถึงพร้อมกับชายอีกคนหนึ่ง
“หัวหน้าผมเจอเด็กใหม่ทีมเราอีกคนตอนขึ้นลิฟต์มาพอดี”
“ถ้างั้นก็ดีแล้ว นี่คือ กวิน สมาชิกคนที่ 5 ของทีมเรา” คอนราดแนะนำชื่อกวินให้คนอื่น ๆ
“ผมโบเวน ผู้ใช้พลังกายภาพระดับ 3” ก่อนจะรับหน้าที่แนะนำชื่อของคนอื่น ๆ ในทีมให้กวิน “หัวหน้าคอนราด คุณคงได้ยินชื่ออยู่แล้ว แล้วก็ผู้ที่พาคุณมาเขาชื่อ ฟาริส ผู้ใช้พลังกายภาพระดับ 3 เช่นกัน ส่วนนั้นเป็นสมาชิกใหม่เหมือนกับคุณ เรย์ ผู้ใช้พลังเวทมนตร์ระดับ 1”
“สวัสดีครับหัวหน้าคอนราด”
“สวัสดีครับรุ่นพี่ฟาริส รุ่นพี่โบเวน แล้วก็คุณเรย์”
กวินเดินเข้ามาทักทายทุกคน เรย์ก็ยิ้มทักทายก่อนจะกล่าวว่า “แค่เรย์เฉย ๆ ก็ได้ครับ เราเข้ามาพร้อมกัน”
กวินพยักหน้า อันที่จริงหลังจากได้เรียนรู้เรื่องของผู้มีพลังพิเศษกวินก็รู้สึกอิจฉาพวกผู้ใช้พลังจิตและผู้ใช้พลังเวทมนตร์ เพราะเขาอยากได้พลังแบบนั้นบ้าง แต่ใช่อยากได้แล้วจะได้ ของแบบนี้มันถูกกำหนดมาตั้งแต่เกิดแล้ว
แน่นอนว่ากวินที่เป็นเด็กใหม่ไม่ได้แสดงความอิจฉาอะไรออกไป เพราะอย่างไรมันคงดูไม่ดีและอาจจะไม่ได้การยอมรับจากรุ่นพี่ในทีม
กวินเลยใช้รอยยิ้มเข้าตีสนิทแทน
“แน่นอน ผมขอเป็นเพื่อนกับคุณก็แล้วกัน”
“ด้วยความยินดี”
เรย์ก็เห็นสีหน้าของกวินตอนได้ยินว่าตนเป็นผู้ใช้เวทมนตร์เช่นกัน มันเหมือนเด็กที่อยากแย่งของเล่นของเขาในสมัยเด็ก ๆ แต่เรย์ก็ไม่คิดมากเพียงเพราะเรื่องแค่นี้ เขาแค่รักษาระยะห่างไว้ก็พอ ในฐานะเพื่อนร่วมงานก็เท่านั้น
“เอาละรีบแต่งตัวแล้วออกไปข้างนอกกันก็แล้วกัน” หัวหน้าคอนราดบอกกับทุกคน ฟาริสรีบวิ่งไปอาบน้ำเปลี่ยนชุดในทันที เพราะเขาตอนนี้ช้าสุดแล้ว
...
เวลาสี่โมงเย็น
ทางเขตเหนือของเมืองเรซี ที่นี่เป็นย่านอาหารของเมือง เพราะเป็นจุดที่ปลูกพืชพันธุ์ได้ดีที่สุด พอมีพืชพันธุ์ก็ตามมาด้วยการเลี้ยงสัตว์ ดังนั้นจึงกลายเป็นย่านอาหารของเมือง
มีร้านค้าและร้านอาหารมากมายในพื้นที่ เวลาคนในเมืองจะกินเลี้ยงฉลองสิ่งใดก็จะมาที่นี่ไม่ว่าจะชนชั้นใดในเมืองก็ตาม
ตอนนี้คอนราดและพวกนั่งกินเนื้อย่างมื้อใหญ่อยู่ที่ชั้นสองของร้านอาหารหมูบิน ร้านอาหารประจำของทีมที่มักจะมาดื่มกินกันบ่อย ๆ
“เอากี่เนื้อนี่ซะ”
“ดื่มนี้ด้วย คุณทำงานได้แล้วควรจะดื่มและสนุกกับชีวิต”
“เอ้า...ดื่ม ๆ”
“หัวหน้าก็ด้วย”
“เฮ้ เหลือให้ฉันด้วย”
“มา ๆ วันนี้ผมเลี้ยงเอง”
เรย์และกวินมองไปที่หัวหน้าคอนราด โบเวน ฟาริส ทั้งสามคนดื่มกันอย่างสนุกสนานต่างจากท่าทีของปกติอย่างมาก
หัวหน้าคอนราดที่เข้มขึงและจริงจังกลายเป็นคนดื่มหนัก ฟาริสที่รอบคอบก็กินไม่หยุดพร้อมกับดื่มไปด้วย ส่วนโบเวนนั้น เออ...เขายังคงเหมือนเดิมไม่ต่างจากปกติ แต่โดยร่วมทุกคนใช้ช่วงเวลาอย่างสนุกสนานกันอย่างคุ้มค่า
“เรย์ดื่มนี่สิ ผู้ชายนะต้องคอแข็งดื่มได้เยอะถึงจะดี” โบเวนสิ่งแก้วพร้อมกับเทเบียร์ให้กับเขา
“เออ..” เรย์รู้สึกลังเล ตอนนี้เขาเริ่มมึน ๆ บ้างแล้ว
“ดื่มไปเถอะ งานแบบพวกเรานั้นเสี่ยงอันตรายอาจจะตายได้ทุกเมื่อดังนั้นจงใช้ชีวิตให้คุ้มเมื่อมีโอกาส ก่อนตายจะได้ไม่มานั่งเสียใจ” คอนราดกล่าวจบก็ยกแก้วเบียร์ขึ้นมากระดกจนหมด
“ฮู้...ดื่มให้กับชีวิตที่อาจตายตอนไหนก็ได้ หมดแก้ว” ฟาริสยกแก้วขึ้นมา คนอื่น ๆ ก็ยกขึ้นมาพูดตาม
“ดื่มให้กับชีวิตที่อาจตายตอนไหนก็ได้ หมดแก้ว”
“ดื่ม...หมดแก้ว”
เรย์ไม่รอช้าทำตามทุกคน เพราะถ้าไม่งั้นมันจะเป็นการเสียมารยาท แต่แล้วเพราะดื่มเร็วไป เรย์จึงสำลักอย่างรุนแรง ทำเอาเบียร์ที่ดื่มไปไหลออกจากจมูก
โบเวนและฟาริสที่เห็นก็ถึงกับหัวเราะพากันสำลักเบียร์ตามไปด้วย
นั้นทำให้เรย์ถึงกับ “อายฉิบหาย” ขึ้นมาในใจทันทีกับความอ่อนหัดของตนเอง
คอนราดและกวินก็ยิ้ม ๆ ออกมา
ทุกคนเริ่มสนิทกันมากขึ้น สิ่งที่เรียกระยะห่างของคนแปลกหน้าหายไปอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะโบเวนที่สนิทกับทุกคนได้อย่างรวดเร็ว
แต่ความสนุกก็ผ่านไปอย่างรวดเร็ว พอเที่ยงคืนทุกคนก็ต้องแยกย้ายกันกลับบ้าน
เรย์รู้สึกมึนหัวมาก ส่วนทางด้านหัวหน้าคอนราดนั้นยังคงสติสมบูรณ์และไม่ต้องพูดถึงพวกผู้ใช้พลังกายภาพอย่างโบเวน ฟาริสและกวิน ที่ร่างกายเหนือกว่าคนอื่น ๆ พวกเขาเมาไม่นานก็กลับมาสร่างเมาแล้ว
ทำเอาเรย์นึกถึงคำพูดของโบเวนที่พูดไปส่ายเอวไป
“ฉันไปก่อนนะ จะรีบไปกินของหวาน” โบเวนยิ้มอย่างมีเลศนัยก่อนจะหันหลังไปขึ้นรถแท็กซี่ที่จอดรออยู่
คอนราดก็กลับไปพร้อมกับโบเวทมนตร์ไปที่ฐาน เพราะพวกเขาพักที่นั่น กวินก็แยกกลับไปก่อนแล้วเมื่อสักครู่ เรย์กว่าจะกลับมาถึงบ้านก็เกือบสี่ทุ่มกว่าแล้ว
ริชาร์ดเข้านอนไปแล้วดังนั้นเรย์จึงกลับเข้าห้องของเราไป เรย์ไม่ได้ทำการฝึกคาถาในวันนี้ เพราะเขามึนหัว จึงอาบน้ำและนอนในทันที
...
เช้าวันต่อมา เรย์ตื่นขึ้นมาด้วยอาการอึน ๆ คล้ายคนเมาค้าง แต่มันก็ไม่มากมายอะไร วันนี้เขาจึงยกหูใช้โทรศัพท์หมุนเลขโทรไปที่โรงแรมนักล่าความตาย
“สวัสดีค่ะ โรงแรมนักล่าความตายยินดีให้บริการ”
“ฮอลลี่ใช่ไหม ผมเรย์เองครับ”
“เรย์อย่างนั้นเหรอ มีอะไรหรือเปล่า”
“เออคือวันนี้ผมมาแจ้งว่าอาจจะไม่ได้เข้าไปที่นั่น ถ้ามีใครถามหาฝากบอกด้วยว่าผมไม่สบาย”
“ได้สิ ว่าแต่นายไม่สบายเป็นอะไรมากหรือเปล่า”
“เปล่าหรอกพอดี หัวหน้าพากันไปดื่มหนักไปหน่อย”
“เฮ้..ทำไมไม่ชวนฉันไปด้วย”
“เออ...เป็นการดื่มในทีมนะ”
“อย่างนั้นช่างมันเถอะ แค่นี้นะ”
พูดจบฮอลลี่ก็วางสายไปในทันที เรย์ยังงงอยู่ แต่สักพักก็รู้ว่าเธอคงงอนที่โดนทิ้งไว้เมื่อวาน เรย์วางหูโทรศัพท์กลับที่ ก่อนจะจัดการมื้อเช้าช่วยอาหารง่าย ๆ และกลับขึ้นห้อง
วันนี้เรย์ใช้เวลาช่วงเข้าในการจัดเตรียมทุกอย่างให้เข้าที่ ชุดเกราะยุทธวิธีระดับสูงของเรย์ถูกเอาขึ้นมาและจัดเตรียม กระเป๋าของผู้ใช้เวทมนตร์ก็ถูกเอาออกมาเช่นกัน เรย์นำเลือดสีขาวทั้ง 10 ขวดใส่ลงไป จากนั้นก็ของอย่างอื่นที่เกี่ยวข้องทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นกระดาษคาถาทั้งสี่แผ่นหรือแม้แต่หินตรวจจับก็ด้วย
เมื่อลองจัดของทุกอย่างแล้ว เขาก็สังเกตเห็นว่าของในชุดนั้นถูกออกแบบมาให้กับผู้มีพลังได้แสดงพลังออกมาได้มากที่สุดและยังรักษาความคล่องตัวไว้ด้วย
โดยเพราะกระเป๋าของผู้ใช้พลังเวทมนตร์ที่เหมือนกับกระเป๋าพยาบาลเคลื่อนที่ มันใส่ของได้หลายอย่าง แถมยังไม่ใช่มากแต่พื้นที่การใช้สอยถูกคำนวณมาอย่างดี หนังสือเวทมนตร์และของอื่น ๆ ก็หยิบออกมาได้ทันทีถ้าต้องการ
“เราสามารถพกมันไปไหนมาไหนได้สบาย” เรย์พยักหน้าด้วยความพอใจ ตอนนี้เขาหันมาสนใจการฝึกฝนของตนเองต่อ
แม้ว่าเรย์จะเป็นเพียงขั้นที่ 1 จึงเรียนคาถาติดตัวได้แค่คาถาเดียว แต่เขายังสามารถสลักคาถาลงไปที่หนังสือเวทมนตร์เพื่อใช้มันได้ เรย์จึงหันมาสนใจการสลักคาถาลงในหนังสือต่อ
แต่ตอนนี้ในหนังสือของเขาใน 4 หน้าของกระดาษทองคำนั้นมีคาถาบอลเพลิงสลักไว้แล้ว เรย์จึงคิดจะสลักคาถาอื่น ๆ บ้าง
ตอนนี้เรย์มีกระดาษคาถาอยู่ 4 แผ่นสองแผ่นคือคาถาบอลแสงและคาถาบอลเพลิง อีกสองแผนเรย์ยังไม่ได้เรียนรู้มัน
“คาถาสามแผ่นที่หัวหน้าไดร่าให้มานั้นหนึ่งในนั้นคือคาถาชำระล้างที่ใช้ในการสลักกระสุนชำระล้าง นั้นหมายความว่ามันสามารถฆ่าซอมบี้ได้” เรย์หยิบกระดาษคาถาชำระล้างขึ้นมา