1077-1078
1/8
Ep.1077
ซูเฉินไม่เปลืองน้ำลายอีกต่อไป ปลดปล่อยพลังจิต ลากตัวหวังตงมาเบื้องหน้าเขา
“พลังจิต!? นี่เจ้าเป็นปรมาจารย์พลังจิตด้วย?”
เฉินฉางจ้องซูเฉินด้วยดวงตาเบิกกว้าง หากมองลึกเข้าไป จะเห็นระลอกคลื่นของความหวาดกลัวสะท้อนในแววตาเขา
คนอื่นๆก็ตกใจไม่แพ้กัน ใบหน้าของหวังตงซีดเผือด สั่นเทิ้มไปทั้งร่าง
จากกลิ่นอายที่แผ่ออกมา ใครๆก็สามารถรับรู้ได้ว่าซูเฉินคือผู้วิวัฒนาการขั้น 10 แต่ขณะนี้เขากลับใช้พลังแห่งจิตวิญญาณ ซึ่งบ่งบอกว่าเป็นผู้ฝึกตนสองอาชีพ และทั้งคู่ยังมาถึงขั้น 10 แล้ว!
แต่ซูเฉินดูยังไงก็อายุ 20 ปีเท่านั้นนี่นา! แล้วเขาจะสามารถฝึกสองอาชีพพร้อมกันได้อย่างไร? ไหนจะระดับฐานฝึกตนที่สูงขนาดนี้อีก
“ซูเฉิน ... ไม่สิ ผู้อาวุโส ได้โปรดอย่าฆ่าข้า!” หวังตงร้องขอความเมตตาเสียงดัง
ภายใต้พันธนาการจากพลังจิตของซูเฉิน เขาสูญเสียความสามารถในการต้านทานอย่างสิ้นเชิง ขยับสักนิ้วยังทำไม่ได้ เจ้าตัวทราบทันที ว่าหากอยากรอดชีวิต วิธีเดียวคือต้องอ้อนวอนซูเฉินเท่านั้น
ซูเฉินไม่หวั่นไหว เอื้อมมือคว้าคอหวังตง จากนั้นกำเบาๆ
เกิดเสียงดังกริ๊ก! ศีรษะของหวังตงพับลง กลิ่นอายแห่งชีวิตเหือดหายไป
“หวังตงตายแล้ว ...”
เห็นหวังตงจบชีวิตต่อหน้าต่อตา ความตื่นตระหนกแผ่ซ่านไปทั่วหัวใจของเผ่ามนุษย์ที่เหลือ
ก่อนหน้านี้ พวกเขาเคยด่าทอซูเฉิน แล้วซูเฉินจะปล่อยพวกเขาไปไหม?
ด้วยความแข็งแกร่งของสองอาชีพที่ซูเฉินมี หากยืนกรานคำเดียวว่าจะลงมือ เฉินฉางไม่มีทางหยุดได้
ซูเฉินโยนศพหวังตงทิ้งอย่างไม่ใยดี กวาดสายตามองไปรอบๆ ภายใต้การจับจ้องของเขา ทุกคนหุบปากเงียบ ไม่กล้าแม้จะหายใจ
สุดท้ายซูเฉินหยุดสายตาลงบนร่างของชายวัยกลางคนขั้น 8 มุมปากเขาค่อยๆยกโค้งเป็นรอยยิ้มพิศวง
ปุก!
ภายใต้สายตาของซูเฉิน ร่างของชายวัยกลางคนขั้น 8 หนาวสะท้าน คุกเข่าลงแทบเท้าซูเฉิน ร้องตะโกนว่า “ผู้อาวุโส ข้าผิดไปแล้ว ได้โปรดให้โอกาสข้าสักครั้ง!”
ซูเฉินพ่นลมหายใจเบาๆ “ตบปากตัวเองร้อยครั้ง เสร็จแล้วหักแขนทั้งสองข้างของแก แล้วฉันจะยอมปล่อยไป”
“ขอบพระคุณผู้อาวุโส!”
ชายวัยกลางคนขั้น 8 รู้สึกดีใจเป็นอย่างยิ่ง แม้คำขอของซูเฉินจะโหดร้ายไปบ้าง แต่อย่างน้อยก็สามารถรักษาชีวิตน้อยๆของเขาไว้ได้
เพี๊ยะ! เพี๊ยะ! เพี๊ยะ!
ชายวัยกลางคนไม่ออมแรง ตบแต่ละฉาดเสียงดังฟังชัด เพื่อให้ซูเฉินพอใจ ชั่วพริบตาเดียวเลือดกลบปาก
เห็นอีกฝ่ายมีสมอง ซูเฉินละความสนใจจากเขา ก้าวขึ้นไปบนสังเวียน
“ซูเฉิน เจ้าจะขึ้นสังเวียนตอนนี้เลยหรือ?” เฉินฉางถามด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ
เนื่องจากซูเฉินมีถึงสองอาชีพ และทั้งคู่ยังอยู่ในขั้น 10 ฉะนั้นย่อมมีคุณสมบัติก้าวสู่สังเวียนอย่างแน่นอน
กระนั้น ขึ้นไปตอนนี้ ยังเร็วไปนิด เพราะจะต้องถูกขอท้าประลองนับครั้งไม่ถ้วน แม้กำลังรบของเขาจะแข็งแกร่งแค่ไหน แต่ให้ทนหลายวันติดกันคงไม่น่าไหว
ซูเฉินเข้าใจดีว่าเฉินฉางต้องการจะสื่ออะไร ผุดยิ้มบาง “ไม่เป็นไร ก็แค่ฝูงมดปลวก”
ว่าจบ ก็ก้าวขึ้นสังเวียนต่อ
“เฮ้อ!”
เฉิงฉางพูดไม่ออกไปครู่หนึ่ง ถอนหายใจยาว
แม้แต่คนแข็งแกร่งที่สุด ก็ไม่มีทางยืนหยัดบนสังเวียนประลองเป็นเวลาถึงสิบวันได้ ในความคิดเขา จุดจบของซูเฉินต้องน่าอนาถแน่นอน ทั้งยังมีโอกาสเสียชีวิตน้อยๆไป
เมื่อซูเฉินก้าวขึ้นสังเวียนประลอง บริเวณรอบด้านเงียบงันลงทันที ชาวต่างเผ่าทุกคนมองมาทางซูเฉินด้วยดวงตาเบิกกว้าง
ณ เวลานี้ พวกเขารู้สึกสับสนมาก ไม่เข้าใจว่าเหตุใดมนุษย์รุ่นเยาว์ผู้นี้ถึงขึ้นไปบนสังเวียน?
“ไอ้หนู เจ้าขึ้นมาบนสังเวียนทำไม?”
ชาวเผ่าปีศาจราตรีอดไม่ไหว ตะโกนเสียงดัง
เขาไม่ได้คิดถึงเรื่องที่ว่าซูเฉินขึ้นสังเวียนมาเพื่อเข้าร่วมประลอง เพราะเผ่ามนุษย์อ่อนแอเกินไป งานประลองหมื่นเผ่าพันธุ์ถูกจัดขึ้นหลายครั้ง แต่ไม่มีครั้งใดที่เผ่ามนุษย์กล้าเข้าร่วมเลย
ยังไม่พูดถึงเรื่องที่ว่า ตอนนี้เป็นวันแรกของงานประลองหมื่นเผ่าพันธุ์ แต่กลับก้าวขึ้นไปตั้งแต่เช้าตรู่ นี่มันไม่สมเหตุสมผลเอาซะเลย อ๊าาาา!
“แน่นอน ข้าก็ต้องเข้าร่วมประลองน่ะสิ”
ซูเฉินกล่าวอย่างไม่ยี่หระใดๆ
2/8
Ep.1078
เข้าร่วมงานประลอง?
ได้ยินแบบนั้น ทุกคนตะลึงงัน
เผ่ามนุษย์ที่อ่อนแอกล้าเข้าร่วมงานประลอง? ช่างน่าขันเสียที่กระไร!
“เจ้าหนูเผ่ามนุษย์! ข้าขอยอมรับในความกล้าที่เจ้าเข้าร่วมประลอง แต่หลังจากนี้อย่ากลัวจนฉี่ราดแล้วกัน” ยักษ์ไททันเยาะเย้ยอย่างไร้ปราณี
“รีบไสหัวออกไปซะ อย่าได้ทำให้ตัวเองต้องอับอาย!”
“งานประลองหมื่นเผ่าพันธุ์เป็นสิ่งที่เผ่ามนุษย์เช่นพวกเจ้ามีคุณสมบัติเข้าร่วมได้หรือ? นึกว่าจะสู้คนอื่นได้รึไง?”
ชาวต่างเผ่าที่อยู่รอบๆเริ่มตะโกนด่าทอ
เผ่าพันธุ์มนุษย์ ในสายตาของพวกเขา ไม่ต่างอะไรจากมดปลวก คิดอาจเอื้อมตราหยกกำเนิดเซียน ช่างไม่รู้จักที่ตาย!
ซูเฉินหรี่ตาลง กวาดมองออกไป เอ่ยอย่างเฉยเมยว่า “ในสายตาข้า พวกเจ้าเทียบไม่ได้กับมดปลวก หากใครไม่พอใจ สามารถก้าวขึ้นมาบนสังเวียน บิดาจะบดขยี้ด้วยนิ้วเดียว!”
เมื่อคำนี้หลุดออกมา บริเวณโดยรอบเงียบงันไปครู่หนึ่ง ต่อมา คลื่นโทสะแผ่กระจายไปทั่ว ชาวต่างเผ่าเกือบทั้งหมดจ้องมองซูเฉินด้วยความโกรธเคือง ในแววตาของพวกเขาเต็มไปด้วยเจตนาฆ่า
เผ่ามนุษย์ที่อ่อนแอ กล้าดียังไงมาดูหมิ่นทุกคนกลางสังเวียนประลองหมื่นเผ่าพันธุ์ นี่ไม่ต่างอะไรกับการฆ่าตัวตาย!
ณ เวลานี้ ชาวต่างเผ่าทุกคนต่างกระตือรือร้น ต้องการขึ้นสังเวียนไปกุดหัวซูเฉิน
“ซูเฉินคิดจะทำอะไรกันแน่?” เฉินฉางที่อยู่ไม่ไกลถึงกับอ้าปากค้าง ในสมองเต็มไปด้วยความคิดสับสนวุ่นวาย
มันก็จริงที่ซูเฉินเป็นผู้ฝึกตนขั้น 10 สองอาชีพ ถือว่ามีคุณสมบัติก้าวสู่สังเวียน แต่ก็ไม่จำเป็นต้องสร้างความเกลียดชังให้ตัวเองแบบนี้ ถูกไหม?
ดูหมิ่นผู้ฝึกตนนับหมื่นต่อหน้าสาธารณชน นี่ไม่ใช่การรนหาที่ตายหรอกหรือ?
กระทั่งผู้แข็งแกร่งระดับเสมือนเทวะยังไม่กล้าทำเช่นนี้เลย
ในขณะที่เฉินฉางยังสับสนว่าเพราะเหตุใด ซูเฉินเปิดปากอีกครั้ง
“ไอ้พวกขยะ! สรุปมีใครกล้าขึ้นสังเวียนไหม ถ้าไม่มีข้าขอตราหยกกำเนิดเซียนไปล่ะนะ!”
ให้ตายเถอะ! เจ้าหมอนี่มันบ้าขนานแท้! บ้าไม่บันยะบันยัง! ทนไม่ไหวแล้ว!
ในคราเดียว ชาวต่างเผ่าหลายคนย่อตัวง่อเข่า เตรียมกระโจนขึ้นสังเวียนเพื่อสั่งสอนซูเฉิน แต่ยักษ์ไททันที่เคยเยาะเย้ยซูเฉินเป็นคนแรกชิงเคลื่อนไหว ก้าวขึ้นสังเวียนเป็นซะก่อน
“เติ้งเซี่ยงกู่แห่งเผ่าไททันขึ้นสังเวียนแล้ว! คราวนี้ซูเฉินไม่รอดแน่!” สีหน้าของเฉินฉางแข็งค้าง หลั่งเหงื่อเย็นแทนซูเฉิน
เติ้งเซี่ยงกู่ไม่เพียงแต่เป็นผู้ฝึกตนขั้น 10 เท่านั้น แต่ยังเป็นเผ่าไททัน ครอบครองพละกำลังมหาศาลอย่างหาที่เปรียบมิได้ ความสามารถในการต่อสู้นี้ มากพอแล้วที่จะติดหนึ่งในร้อยจากบรรดาผู้ฝึกตนจากหมื่นเผ่าพันธุ์ แม้ซูเฉินจะเป็นผู้ฝึกตนสองอาชีพ แต่ก็ไม่มีทางเป็นคู่ต่อสู้ของเติ้งเซี่ยงกู่ได้
ชายวัยกลางคนขั้น 8 ที่กำลังตบหน้าอยู่นอกสังเวียน เมื่อเห็นเติ้งเซี่ยงกู่ลงสนาม เขาค่อยๆหยุดมืออย่างช้าๆ พร้อมปรากฏรอยยิ้มเหี้ยมเกรียมบนมุมปากเขา
“เติ้งเซี่ยงกู่ลงมือด้วยตัวเอง เจ้าเด็กเผ่ามนุษย์นั่นต้องตายแน่แล้ว”
“เติ้งเซี่ยงกู่เป็นยอดฝีมืออันดับสองของเผ่าไททัน เกรงว่าแค่ออกกระบวนท่าเดียวเจ้าเด็กนั่นคงถูกบดจนบี้แบน!”
“สมควรแล้ว! นี่แหละคือจุดจบของพวกที่แสร้งทำเป็นเก่ง!”
ชาวต่างเผ่าใช้สายตาปฏิบัติกับซูเฉินดั่งคนที่ตายไปแล้ว พากันเยาะเย้ยเหน็บแนมไม่หยุด
เติ้งเซี่ยงกู่เดินขึ้นสังเวียนประลอง ไม่รีบร้อนลงมือ เขากวาดสายตามองซูเฉินด้วยความเย็นชา แผดเสียงคำราม “มนุษย์! จงคุกเข่าลงเดี๋ยวนี้! แล้วข้าจะยอมเหลือศพเจ้าไว้!”
ในความคิดของเขา เป็นเรื่องง่ายหากคิดฆ่าซูเฉิน แต่ก่อนหน้านั้น ต้องทำให้ซูเฉินอับอายซะก่อน
ซูเฉินเบ้ปาก กล่าวดูถูกเหยียดหยาม “คำพูดของเจ้า รับรู้ไว้ซะว่ามันอาจชักนำหายนะมาสู่เผ่าไททันได้!”
*(ซูเฉินพูดข้าเจ้าเพราะยังปลอมตัวอยู่นะอย่าลืม)
“ใกล้ตายแล้วยังกล้าอวดดีอีก!”
เติ้งเซี่ยงกู่ไม่สามารถระงับความโกรธในใจได้อีกต่อไป ขบฟันแน่นร้องคํารามออกมา
แทบจะในทันทีหลังจากนั้น เขากําหมัดใหญ่เอาไว้ กระโจนเข้าหาซูเฉินจากกลางอากาศ