ตอนที่ 6 พลังของผู้ใช้พลังจิต(อ่านฟรี)
ตอนที่ 6 พลังของผู้ใช้พลังจิต
เรย์ยกมือขึ้นปาดน้ำฝนที่ไหนบนหน้าซึ่งบดบังการมองเห็นออก เขาเห็นว่าคอนราดยกมือขึ้นส่งสัญญาณให้หยุดลง เรย์มองไปรอบตัว คุ้นเคยกับสถานที่นี้เป็นอย่างดี เพราะที่นี่คือส่วนหลังบ้านที่ตนเองมักจะมาวิ่งเล่นอยู่บ่อยครั้งสมัยเป็นเด็ก
แต่ตอนนี้ทัศนียภาพรอบเรย์มันต่างออกไปเล็กน้อย เพราะมีกล่องและลังไม้พร้อมด้วยเครื่องเรือนที่เสียหายกองรวมกันเป็นกองขยะอยู่จำนวนมาก ใจกลางของกองขยะสิ่งของเหล่านั้นมีสิ่งที่เรียกว่ารอยแยกมิติปรากฏอยู่
รอยแยกมิติมีลักษณะคล้ายกับภาพถ่ายใบหนึ่งที่ฉีกขาด มันมีความผันผวนของพลังงานอยู่ ๆ รอบ เพียงแต่ภาพที่ขาดในที่นี้คือสภาพแวดล้อมของจริง และด้านในใจกลางแม้จะไม่เห็นอีกฝั่งเพราะมันมีแต่ความมืดมิดและกลิ่นอายความตายจนน่าขนลุกอย่างบอกไม่ถูก
รอบด้านจากรอยแยกมิติไม่กี่เมตร มีสิ่งที่เรียกว่า “ซอมบี้ซากศพ” หยุดยืนแน่นิ่งไม่ขยับ แม้สายฝนจะชโลมไม่ทั่วทั้งตัวของพวกมันจนเลือดสีดำและน้ำฝนที่กระทบตัวหลอมรวมไหลผ่านเนื้อและร่างกายที่เน่าลงกับพื้น
หญ้าและพืชพรรณในส่วนหลังจากสัมผัสกับน้ำฝนและเลือดสีดำของซอมบี้ก็เหี่ยวเฉาลงแยกออกอย่างชัดเจน
“พวกมันจะไม่โจมตีจนกว่าจะเข้าใกล้หรือมันได้กลิ่นกับเห็นพวกเรา ตอนนี้ฝนตกกลิ่นพวกเราจงอ่อนมาก มันจึงยังไม่จู่โจม แต่ทันทีที่เราลงมือทุกตัวจะเคลื่อนไหวตาม ถ้ากลัวก็ถอยไปอยู่กับฟาริสที่ชั้นสองตอนนี้ยังทัน” คอนราดพูดออกมา แม้จะไม่เอ่ยชื่อ แต่เรย์และริชาร์ดก็รู้ว่าคอนราดหมายถึงพวกตน
“เริ่มกันเถอะ” เรย์กัดฟันพูด เขาไม่คิดจะหนีอีกแล้ว
คอนราดพยักหน้าส่งสัญญาณให้โบเวนลงมือ แน่นอนว่ารวมถึงฟาริสที่อยู่บนบ้านชั้นสองห่างออกไปด้วย
ปัง!
เสียงปืนดังขึ้นจากปืนเอ็ม1903 สปริงฟิลด์ของฟาริสยิงทะลุศีรษะของซอมบี้ที่อยู่หน้าสุดร่างของซอมบี้ล้มลงตึกกระแทกกับพื้นหญ้าเหี่ยวเฉาที่ชุ่มน้ำ ซอมบี้อีกเจ็ดตัวหันกลับมามองพวกเขาทั้ง 4 คนอ้าปากร้องคำรามส่งกลิ่นเน่าเหม็นซากศพคนตายลอยผ่านสายฝนกระทบจมูก จนเรย์คิดอยากจะยกมือขึ้นมาปิดจมูก
เมื่อเห็นเนื้อแสนโอชะทั้ง 4 คนยื่นห่างไปไม่ไกล ซอมบี้ก็สับขาวิ่งเข้าใส่ผู้ที่อยู่หน้าสุดคือ โบเวน
โบเวนยิ้มเยาะจับปืนกลเบาเบรนเล็งไปที่ซอมบี้ลั่นไกลสาดกระสุนยิงไปที่ตัวและหัวของพวกมันไม่ยั้ง กระสุนทั้งแม็กกาซีนถูกยิงจนหมดกลับล้มซอมบี้ได้เพียงสองตัวเท่านั้น ต่างจากฟาริสผู้อยู่บนชั้นสองลั่นไกปืนนัดที่สองก็สังหารซอมบี้ไปอีกตัว
เรย์ได้แต่เก็บความสงสัยไว้ ก่อนจะกลับมาตั้งสติกับซอมบี้อีกสี่ตัวที่อยู่ตรงหน้า
โบเวนปล่อยปืนกลเบาเบรนที่ไร้กระสุนไว้ข้างตัวก่อนจะคว้ามีดสปาต้าสองเล่มข้างหลังออกมา หมุนควงกระโจนเข้าหาซอมบี้ตัวหนึ่ง
แต่ยังมีซอมบี้อีก 3 ตัวที่ยังไม่มีใครจัดการ พวกมันตรงมาหาพวกเขาสามคน คอนราดยืนขวางหน้าทั้งสอง ก่อนจะใช้นิ้วคีบบุหรี่ที่ปากดีดเข้าใส่ซอมบี้ตัวที่วิ่งเข้ามาใกล้สุด
บุหรี่ม้วนนั้นก็แปรเปลี่ยนเป็นลูกไฟขนาดสองเมตรกระแทกเข้ากับร่างซอมบี้ซากศพแผดเผาร่างของมันอย่างรุนแรง
ร่างของซอมบี้บิดหงิกไปมาจากความร้อนที่เผาร่างกาย ก่อนจะร้องคำรามพยายามวิ่งเข้าหาคอนราดแต่มันเดินไม่ถึงสองก้าวก็ล้มแน่นิ่งลงส่วนเปลวไฟนั้นยังเผาอยู่บนร่างของมันก่อนจะมอดดับลงจากน้ำฝนเหลือเพียงซากหงิกงอดำเป็นตอตะโกส่งเสียงดังซี่ ๆ จากน้ำฝนที่กำลังดับไฟและกลิ่นเนื้อเน่าที่โดนย่างลอยเตะจมูก
คอนราดไม่สนใจซอมบี้ตนนั้นอีก เขาหยิบไฟแช็กน้ำมันเงินมันวาวออกมาจุดขึ้น
รอบตัวของคอนราดปรากฏคลื่นพลังอย่างรุนแรง ก่อนที่เปลวไฟเล็ก ๆ สองกลุ่มของไฟแช็กจะแยกตัวลอยออกมาและขยายขนาดขึ้นอย่างรวดเร็ว คอนราดโบกสะบัดมือควบคุมให้ไฟพวกนั้นพุ่งเข้าหาซอมบี้ทั้งสองตัว
คอนราดยกมือตวัดชี้ไปที่ซอมบี้เปลวไฟขยายใหญ่ขึ้นอย่างเช่นก่อนหน้าจากนั้นก็แผดเผาร่างของซอมบี้ทั้งสองตัวจนพวกมันมอดไหม้ไปท่ามกลางสายฝน
นั้นคือ...พลังพิเศษ?
ทั้งเรย์และริชาร์ดต่างก็ยืนอึ้งกับสิ่งที่คอนราดกระทำ
มันคือพลังที่เหนือจินตนาการของทั้งสองไปไกล แม้จะเคยรู้ว่าคอนราดมีพลังพิเศษ ในตอนที่คอนราดเคยแสดงพลังสะกดข่มจนตัวของริชาร์ดสั่นกลัวมาแล้วในห้องทำงาน
แต่นั้นมันไม่ใช้พลังที่ชัดเจนเป็นนามธรรมเท่ากับครั้งนี้มาก่อน
“ย้า!” ในตอนนั้นเสียงของโบเวนก็ดังขึ้น ก่อนที่เขาจะผ่าร่างของซอมบี้ออกเป็นสองส่วนด้วยพละกำลังที่น่าตกใจ ทำเอาทั้งสองตกใจอีกครั้ง
แม้มีดสปาต้าทั้งสองเล่มจะดูคมจนน่าหวาดเสียว แต่กำลังของคนปกติมันจึงยากที่จะผ่าร่างกายออกเป็นสองส่วนแบบนั้น
“พวกเขาไม่ใช่คนปกติ”
“อืม”
สองพี่น้องมองหน้ากันอย่างกระดากอาย เรื่องที่คิดว่าต้องสู้กันอย่างดุเดือดกลับจบลงอย่างรวดเร็ว โดยที่เขาและริชาร์ดมิได้ทำอะไรเลยนอกจากยืนดู
“โบเวนคอยคุ้มกันผมด้วย”
โบเวนเดินเข้าไปข้าง ๆ คอนราดที่ตอนนี้หยุดยืนอยู่หน้ารอยแยกมิติ
“คุณกำลังทำอะไร” เรย์สังเกตเห็นทุกอย่างรีบถามออกมา
“หาดวงตามิติเพื่อปิดรอยแยกมิติ” คอนราดตอบคำถามของเรย์
“เดี๋ยวก่อน ถ้ารอยแยกนี่คือจุดที่พวกซอมบี้ซากศพอะไรนั้นออกมา ทำไมพวกเราไม่เข้าไปด้านใน อาจจะ...อาจจะเจอกับพ่อแม่ของผมที่หลุดเข้าไปเมื่อครั้งก่อนก็ได้” เรย์พูดออกมาด้วยความคาดหวัง
ริชาร์ดได้ยินความคิดของน้องชายมือของเขาก็สั่นเทา แต่ก็ยังยั้งความคิด เพราะด้วยความที่เคยเป็นทหารมาก่อนและกล่าวออกมา “มันคงมีพวกนั้นอยู่เต็ม เราไม่อาจจะเอาชีวิตคนไปเสี่ยงตายเพื่อพวกเราได้”
“ผมรู้ แต่...” เรย์อดคิดไม่ได้ แม้จะอันตรายแต่ตนก็อาจจะช่วยพ่อกับแม่ได้ ถ้าคอนราดยอมเข้าไปช่วย
คอนราดส่ายหัวและกล่าวกับเรย์ว่า “รอยแยกมิติตรงนี้ห่างจากรอยแยกมิติที่เกิดในบ้านพอสมควร ซึ่งมันยากที่จะไปยังจุดนั้นด้านหลังดินแดนของรอยแยกมิติ ด้วยพลังในตอนนี้ของผม ถ้าผมเข้าไปคงตายในไม่กี่นาที อีกอย่างมันยังมีอันตรายอื่นอีกถ้าเราไม่รีบปิดรอยแยกมิติ เพราะมันไม่ได้มีแต่ซอมบี้ซากศพ”
เรย์ได้ยินก็รู้สึกไร้ซึ่งหนทาง ตนเองเป็นเพียงคนธรรมดา ลำพังแค่ซอมบี้ซากศพซักตัวก็ยังจัดการไม่ได้ จะเข้าไปก็มีแต่เข้าไปตายเท่านั้น
...
คอนราดเดินไปรอบ ๆ รอยแยกมิติ
ก่อนจะยืนใบหน้าเข้าไปด้วยความระมัดระวังตามด้วยร่างกายท่อนบน โบเวนที่อยู่ข้าง ๆ ก็คอยระวังเต็มที่ คอนราดเข้าไปในรอยแยกมิติครึ่งตัวก็รีบดึงตัวเองออกมาจากด้านในรอยแยกมิติอย่างรวดเร็วที่สุด
ว๊ากกกก!!
ในขณะเดียวกันก็มีเสียงร้องน่าขนลุกดังมาจากด้านหลังรอยแยกมิติ มันต่างจากเสียงซอมบี้ซากศพทั่วไปที่เรย์เจอมาวันนี้ แต่ก่อนที่เจ้าของเสียงจะออกมาได้ รอยแยกมิติก็หายไปก่อนที่มันจะออกมาได้ทัน
“หัวหน้า เป็นอะไรไหม”
“ไม่เป็นอะไร”
คอนราดกล่าวตอบโบเวน
“มันคือตัวบ้าอะไรกัน...” ริชาร์ดที่อยู่ด้านหลังมือถือเล็งปืนไปยังจุดที่เคยมีรอยแยกมิติอยู่ด้วยท่าทางสั่นไหว
“มันคือซอมบี้นักล่า”
คอนราดลุกขึ้นมาโดยไม่สนใจว่าตัวเองจะเปียกอยู่รีบหยิบกล่องโลหะออกมาก่อนจะใส่ของที่เหมือนกับไข่มุกเข้าไปในกล่อง เรย์มองอย่างตั้งใจ มันอยากรู้ว่าดวงตารอยแยกมิติเป็นอย่างไร
“ไข่มุกนั้นคือดวงตามิติ” เรย์ถามอย่างสงสัย
คอนราดเพียงพยักหน้าตอบ
หลังจากรอยแยกมิติหายไปรอบพื้นที่บ้านที่เคยอยู่ในสภาพเสื่อมโทรมก็สลายหายกลับไปแทบจะเป็นเหมือนเก่าก่อนหน้า ยกเว้นแค่สภาพบ้านที่พังเสียหาย
เรย์และริชาร์ด พร้อมด้วยกลุ่มของคอนราดอีกสามคนกลับมารวมกันในบ้านอีกครั้ง
“พวกคุณรู้ไหม ว่าตามปกติแล้วสิ่งที่เรียกว่ารอยแยกมิตินั้นยากมากที่จะเกิดซ้ำสองในจุดที่ใกล้กันขนาดนี้” คอนราดกล่าว
“คุณกำลังหมายความว่ายังไง พวกเราไม่ได้จงใจทำให้มันเกิดขึ้นอย่างแน่นอน” ริชาร์ดรีบพูดออกมา เขาจะไปมีปัญญาทำเรื่องแบบนี้ได้ยังไงเพราะเขาเองก็พึ่งรู้ถึงการมีอยู่ของวอมบี้ก็วันนี้นี่เอง
“เรื่องนั้นอาจจะไม่ได้เกี่ยวกับคุณ แต่อาจจะมีของที่พวกคุณไม่รู้จักแล้วเอาเข้ามาไว้ที่นี่” คอนราดกล่าวออกมา ในตอนนี้ริชาร์ดก็เหมือนจะคิดอะไรได้
“หรือว่าจะเป็น...” ริชาร์ดวิ่งเข้าไปที่ห้องทำงาน ก่อนจะรื้อเอากล่องหนึ่งออกมา ซึ่งมันซ่อนอยู่ในสิ่งของอื่น ๆ อย่างมิดชิด
ก่อนจะเปิดมันออก
“แบบนี้เองสินะ” คอนราดที่ตามมาทางด้านหลังถึงกับเลิกคิ้วขึ้น
“มันหมายความว่ายังไง...” เรย์ไม่เข้าใจ เขาจึงมองไปยังของที่อยู่ในกล่อง ด้านในกล่องเหล็กมีดวงตามิติอีกเม็ดหนึ่ง
“ดวงตามิติ!! ทำไมมันถึงมาอยู่ที่นี่ได้!” เรย์พูดโผงผางออกมาอย่างตกใจ
“ถ้าเกิดว่า...พวกมันสร้างรอยแยกมิติอีก…” เรย์ไม่กล้าพูดคำต่อไปออกมา
“มีกล่องเหล็กในบ้านไหม” คอนราดถาม
“มี..อยู่ตรงนั้น” ริชาร์ดชี้ไปยังมุมหนึ่งของห้อง คอนราดหันไปมองโบเวน ชายหนุ่มนักกล้ามตรงไปที่กล่องเหล็ก แต่ของที่อยู่ด้านในออก ก่อนจะยกกล่องเหล็กมาวางข้าง ๆ เท้าของคอนราด
คอนราดความกล่องในมือของริชาร์ด จากนั้นก็หยิบดวงตามิติขึ้นมาทีละชิ้นห่อด้วยกระดาษไม่ให้มันสัมผัสกัน ก่อนจะเก็บเข้าไปในกล่องโลหะรีบปิดมันลงในทันที
“อย่าบอกเรื่องดวงตามิตินี้กับใคร” คอนราดหันมากล่าวย้ำเตือนกับพวกเขาทั้งสอง
เรย์และริชาร์ดพยักหน้าอย่างเข้าใจ แม้ทั้งสองอยากจะรู้ว่าดวงตารอยแยกมิติพวกนี้มาอยู่ในบ้านได้อย่างไร แต่คนที่รู้อย่างมาคัส บิดาของพวกเขาทั้งสองก็หายตัวไปแล้ว ดังนั้นจึงยากที่ใครจะให้คำตอบได้ ยกเว้นว่าอาจจะมีเอกสารอะไรที่บอกที่มาที่ไปของดวงตารอยแยกมิติหลงเหลืออยู่ในห้องทำงานนี้
“หัวหน้า พวกตำรวจมากันแล้ว” ฟาริสที่เดินลงมาจากชั้นสองเข้ามาบอกกับคอนราด
“ถ้างั้นผมจะไปพบพวกเขา นายสองคนช่วยกันจัดการที่เหลือก็แล้วกัน” คอนราดกล่าวจบก็เดินออกไปทางประตูหน้าบ้านท่ามกลางสายฝน
ส่วนโบเวนและฟาริสก็เดินออกมาข้างนอก เรย์อยากรู้ว่าพวกเขาจะจัดการศพของซอมบี้ยังไงจึงตามมา ส่วนริชาร์ดนั้นยังคงอยู่ในห้องทำงาน