ตอนที่ 11 ประวัติของหน่วยงานนักล่าความตายและการเปิดระดับ 1(อ่านฟรี)
ตอนที่ 11 ประวัติของหน่วยงานนักล่าความตายและการเปิดระดับ 1
ในเอกสารข้อมูลนั้นมันคือข้อมูลพื้นฐานของหน่วยงานนักล่าความตาย ที่เล่าถึงเรื่องการก่อตั้งหน่วยงานนักล่าความตายและระบบภายในองค์กร
“หน่วยงานนักล่าความตาย” ก่อตั้งมา 4 ปีแล้ว นับตั้งแต่เหตุการณ์ซอมบี้บุกครั้งแรกของอาณาจักรลัวอาเมื่อ 5 ปีก่อน ซึ่งถือว่าไม่นาน
ในตอนนั้นเป็นข่าวได้ลงไว้ว่าซากโรงงานไฟนิวเคลียร์ระเบิด แต่แท้ที่จริงแล้วไม่ใช่ เนื่องจากในอาณาจักรลัวอาไม่มีวิทยาการหรือการใช้งานโรงงานไฟฟ้านิวเคลียร์มา 300 ปีเห็นจะได้แล้ว
ในเหตุการณ์ครั้งนั้นมีคนตายไปกว่า 1560 คน โดยทั้งหมดกลายเป็นซอมบี้และโดนฆ่าตาย
หน่วยงานนักล่าความตายทำงานอยู่ภายใต้อาณาจักรลัวอา มีสำนักงานใหญ่ประจำที่เมืองหลวงเอลินเมีย แห่งอาณาจักรลัวอา ซึ่งสำนักงานใหญ่อยู่ภายใต้การดูแลของผู้อำนวยการของหน่วยงานนักล่าความตาย ที่ได้รับการแต่งตั้งผ่านการคัดเลือกจากคณะกรรมการของหน่วยงานที่สำนักงานใหญ่
หน่วยงานนักล่าความตาย มีสาขากระจายตัวประจำอยู่ทุกเมืองภายในอาณาจักรลัวอา โดยในแต่ละสำนักงานสาขาเหล่านั้นจะอยู่ภายใต้การดูแลของ “ผู้จัดการ” ซึ่งมียศทางทหารเทียบเท่าพันเอกพิเศษ คอยประสานงาน ควบคุมดูแล พร้อมทั้งมีอำนาจตัดสินใจในหน่วยงานนักล่าความตายประจำสาขาอย่างเต็มรูปแบบ เพื่อคอยดำเนินงานตามแนวทางที่สำนักงานใหญ่มอบหมายให้
นอกจากนั้นแล้วยังมีตำแหน่งที่รองลงมาและถือเป็นหัวใจสำคัญนั้นก็คือเจ้าหน้าที่ภายในหน่วยงานนักล่าความตาย ประกอบไปด้วย “เจ้าหน้าที่ทั่วไป” ที่ดูแลงานด้านเอกสาร และสุดท้ายคือ “เจ้าหน้าที่ระดับปฏิบัติการ” หรือที่ส่วนใหญ่เรียกกันติดปากว่า “พวกหมาล่าเนื้อ” ในระดับของเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการนั้นพวกเขาแบ่งออกไปเป็นทีม ในหนึ่งทีมจะมีกันอยู่ราว ๆ 3-5 คนไม่เกินจากนั้น ในทีมจะมีตำแหน่งหัวหน้าที่และที่เหลือเป็นสมาชิกทีม
ถ้าเกิดหัวหน้าทีมตายคนในทีมจะแต่งตั้งหัวหน้าทีมขึ้นมาควบคุมชั่วคราว หลังจากนั้นค่อยรอการแต่งตั้งจากผู้จัดการสาขาอีกที
นอกจากนั้นในทีมยังแบ่งระดับออกไปอีก ซึ่งจะได้รับเงินเดือนและการสนับสนุนที่ต่างกันออกไปและยังเป็นตัวกำหนดความยากของภารกิจที่ทีมจะได้รับไปด้วย
ทีมระดับเหล็ก 1-3 ดาว
ทีมระดับทองแดง 1-3 ดาว
ทีมระดับเงิน 1-3 ดาว
ทีมระดับทอง 1-3 ดาว
โดยหนึ่งดาวนั้นหมายถึงต่ำที่สุด
หลังจากอ่านเอกสารในมือทั้งหมด เรย์ก็พอจะเข้าใจเรื่องราวคร่าว ๆ ได้บ้างแล้ว แต่ที่เขาแปลกใจมากกว่านั้นก็คือ เรื่องราวของซอมบี้ในอาณาจักรลัวอานั้นพึ่งปรากฏออกมาเมื่อ 4-5 ปีที่แล้วเท่านั้นเอง
จากที่ทำความหน่วยงานนักล่าความตายตั้งขึ้นมาเพื่อกำจัดซอมบี้โดยเฉพาะ แต่ขณะเดียวกันมันก็เป็นการรวบรวมผู้มีพลังมาทำงานให้กับอาณาจักรลัวอาด้วยเช่นกัน
นอกจากอาณาจักรแล้ว พวกกลุ่มองค์กรต่าง ๆ ยังมีผู้มีพลังคอยทำงานให้หรือไม่?
เรย์เก็บความสงสัยไว้ในใจ ก่อนจะเก็บเอกสารและออกไปหาริชาร์ดเพื่อออกไปกินมื้อเย็นกัน
ในระหว่างช่วงทานมื้อเย็นนั้นเรย์ยังได้ยินข่าวเกี่ยวกับการก่อความไม่สงบในเมืองบ้างเป็นบางครั้ง โดยเรย์เดาว่าในเรื่องเหล่านั้นคงมีซอมบี้ปรากฏออกมาด้วย
...
เช้าวันต่อมา เรย์จัดการเรื่องราวของตัวเอง และข้าวของบางอย่างที่ยังไม่เข้าที่ เก็บเข้าไปในห้องของเขา ก่อนจะหาอะไรทำฆ่าเวลา พอใกล้เที่ยงเรย์ก็เดินทางไปยังโรงแรมนักล่า เพื่อพบกับไดร่าตามที่เธอบอกกับเขาไว้
เรย์เข้าไปในโรงแรมนักล่าก็ได้รับการทักทายจากฮอลลี่หญิงสาวที่ทำหน้าที่อยู่ที่เคาน์เตอร์ต้อนรับในทันที
“เฮ้..เรย์ นายมาแล้ว” ฮอลลี่ทักทายเรย์อย่างเป็นกันเองสุด ๆ เธอรู้ชื่อของเรย์หลังจากพวกเขาพูดคุยและทำความรู้จักกันเมื่อวานนี้
ฮอลลี่เป็นเจ้าหน้าที่ทั่วไปของหน่วยงานนักล่าความตาย แต่เห็นแบบนี้เธอเคยเป็นหนึ่งในเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการมาก่อน แต่เพราะฮอลลี่เป็นคนกลัวเลือดมาก พอเห็นเลือดเธอจะเป็นลมในทันที
ดังนั้นผู้จัดการจำใจได้แต่ย้ายเธอมาทำหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ทั่วไป
แน่นอนว่าเรื่องทั้งหมดนี้ฮอลลี่เป็นผู้เล่าให้กับเขาฟังเอง เธอเป็นคนพูดเก่งและร่าเริงราวกับมีพลังงานล้นเหลือตลอด
“สวัสดีตอนบ่ายคุณฮอลลี่ หัวหน้าไดร่าอยู่หรือเปล่า” เรย์ทักทายกลับไปอย่างเป็นมิตรเช่นกัน
“หัวหน้าไดร่าทำงานทั้งคืนจึงนอนที่นี่ เธอน่าจะตื่นแล้ว คงอยู่ในห้องของพักทีมของเธอ”
ฮอลลี่ตอบกลับเรย์ก่อนจะกวักมือเข้ามาให้เขาเบา ๆ และกระซิบว่า “คุณได้บรรจุเข้าทีมหรือยัง”
“ยังเมื่อวานผมยังไม่ได้ทำอะไรสักอย่างเลย”
“คุณนี่ชักช้าจัง คนอื่น ๆ ที่มาพร้อมกันได้บรรจุเข้าทีมและลงสนามจริงแล้วตั้งแต่เมื่อวานตอนเย็นแล้ว แต่เห็นว่าคนที่มาใหม่ตายไปหนึ่ง” ฮอลลี่พูดมาถึงตรงนี้ก็เบาเสียงลง
เมื่อได้ยินว่ามีคนตาย เรย์ก็ตกใจพอสมควร ในใจเขาได้แต่คิดว่า...อันตรายไปแล้ว ทำไมพวกเขาถึงรีบให้คนที่มาใหม่ไปสู้กับซอมบี้ในวันแรกด้วย...
เรย์ไม่รู้ว่า 3 คนเมื่อวานใครคือคนที่ตายไป แต่พอมาคิดดูแล้วมันก็ไม่ใช่เรื่องที่เขาต้องไปยุ่งด้วย เพราะทุกคนที่มาที่หน่วยงานนักล่าความตายต่างก็สมัครใจมาทั้งนั้น และยังเซ็นยินยอมในเอกสารแล้วด้วย
“ผมขอไปหาหัวหน้าไดร่าก่อน”
เรย์ขอตัวก่อนจะเดินไปขึ้นลิฟต์ตรงไปยังชั้น 3 เดินไปที่ห้องสุดทางเดิน ซึ่งเป็นห้องพักทีมของไดร่า ชายหนุ่มยกมือเคาะประตูสามครั้งตามมารยาท
“หัวหน้าไดร่าอยู่ไหมครับ”
“เข้ามา” เสียงของไดร่าดังขึ้นมา
เรย์เปิดประตูเข้าไปด้านใน ไดร่ายังคงนั่งอยู่ที่เดิมเหมือนกับที่เขาเข้ามาที่นี่เมื่อวาน เธอจับจ้องไปที่หนังสือในมือตามเคย แต่นอกจากหัวหน้าไดร่าแล้ว ในห้องยังมีหญิงสาวอีกสองคนที่พักอยู่ในห้อง คนหนึ่งคือเซลีนแต่อีกคนนั้นเรย์ไม่เคยเจอมาก่อน
“สวัสดีครับคุณเซลีน เออ...สวัสดีพี่สาว” เรย์ทักทายเซลีน แต่อีกคนเขาพึ่งจะเคยเจอกันครั้งแรกดังนั้นจึงไม่รู้จะเรียกว่าอะไร
“สวัสดี ฉันอัลลิดา ผู้ใช้พลังกายภาพระดับ 4” หญิงสาวที่สูง 175 และเต็มไปด้วยกล้ามในแบบหญิงสาวผู้แข็งแกร่ง นักรบหญิงผู้สง่างาม เธอเดินเข้ามากอดเรย์และทักทายเข้าอย่างไม่ถือตัว อัลลิดากอดเรย์อย่างเต็มแรงจนใบหน้าของเขานั้นแนบชิดกับหน้าอกไซซ์ E ของเธอ
“เออสวัสดีครับคุณอัลลิดา ผมเรย์” เรย์รีบถอยออกมาเล็กน้อยพร้อมกับใบหน้าแดง
เมื่ออัลลิดาเห็นแบบนั้นก็หัวเราะออกมาเสียงดัง แต่พอเธอเห็นว่าไดร่ามองมาก็รีบแก้ตัวทันที
“ใจเย็นหัวหน้า ฉันก็แค่ทักทายเขาเท่านั้น จริงไหม แต่ถ้านายต้องการจริง ๆ ก็มาหาฉันได้เลยนะ” อัลลิดาขยิบตาให้เรย์หนึ่งทีก่อนจะเดินกลับไปนั่งพักผ่อน
“เธอควรจะพักให้มาก ไม่งั้นแผลจะไม่หายเอาได้” เซลีนพูดด้วยความเป็นห่วง อัลลิด้ายกแขนขึ้นมาแบ่งกล้ามก่อนจะกล่าวว่า “ไม่เป็นไรหรอกน่า...ฉันแข็งแรงจะตายไป”
แต่พอพูดถึงตรงนี้เธอก็มีสีหน้าเจ็บขั้นมา มือจับไปที่แผลที่เอวซึ่งมีผ้าพันแผลพันรอบอยู่ เรย์พึ่งสังเกตเห็นถึงมัน เขาก็เชื่อมโยงไปถึงเรื่องที่ฮอลลี่บอกว่ามีคนตายขึ้นมา
ดูท่าเมื่อวานพวกเขาจะเจอกับศึกหนักกันมา...
เรย์กลับมาสนใจเรื่องของตนเองต่อ ตอนนี้หัวหน้าไดร่าและเขากำลังนั่งอยู่ตรงข้ามกัน
“ก่อนอื่นเรามาเริ่มกันที่ระดับของผู้มีพลังพิเศษก่อน ระดับของผู้มีพลังพิเศษที่คุณควรจะรู้ไว้ในตอนนี้คือ ระดับ 1-7 หรือถูกเรียกอีกอย่างในภาพรวมว่า ระดับมนุษย์ เป็นระดับที่อยู่ในตัวตนไม่เกินมนุษย์ พลังยังไม่สามารถสร้างผลกระทบเป็นวงกว้างได้มากพอ ส่วนระดับต่อไปนั้นคือ ระดับ 8-14 หรือที่ถูกเรียกโดยรวมว่า ระดับเหนือมนุษย์ นี่คือระดับที่คุณควรจะรู้ในตอนนี้ก่อน” ไดร่าอธิบาย
“ระดับมนุษย์ ระดับเหนือมนุษย์ มีถึง 14 ระดับย่อย” เรย์พึมพำออกมา
“คุณจะต้องเริ่มจากการดื่มมันเข้าไปจนเปิดระดับแรกของผู้มีพลังพิเศษก่อน” ไดร่ายื่นขวดที่บรรจุเลือดสีขาวมาด้านหน้าของเรย์ ขวดมีขนาดไม่ใหญ่มากนัก มันเหมือนกับขวดที่เรย์เคยเห็นมาก่อนหน้านั้น ขวดแก้วแบบเดียวกันกับที่โบเวนและฟาริสใช้เก็บเลือดสีขาวจากซอมบี้
พอนึกว่าของเหลวในขวดนั้นมาจากซอมบี้เน่า ๆ ชวนอ้วกพวกนั้น เรย์ก็รู้สึกขนลุกซู่ขึ้นมาในทันที แต่มือของเขาก็ยังคว้าขวดขึ้นมา ก่อนจะให้กำลังใจตัวเอง
เอาวะ!
เรย์กระดกเลือดสีขาวในขวดจนหมด ตอนแรกเรย์คิดว่ารสชาติและกลิ่นมันคงแย่น่าดู แต่พอดื่มเข้าไปจริงแล้ว มันกลับไม่ต่างจากดื่มน้ำเปล่า แถมยังไม่มีกลิ่นอะไรอีก
“รู้สึกยังไง” ไดร่าจับจ้องไปที่เรย์
“เออ เหมือนน้ำเปล่า นอกนั้นก็ไม่รู้สึกอะไร” เรย์ตอบไปอย่างแถตรง
“รอแป๊บ”
เรย์งงว่าไดร่าให้รออะไร แต่แล้วในตอนนั้นเองเรย์อยู่ ๆ ก็รู้สึกเจ็บขึ้นมา
ความรู้สึกเจ็บเริ่มจากท้องและไล่ขึ้นมาที่หัวใจ จนในที่สุดเรย์ทนไม่ไหวร้องครวญครางออกมาด้วยความทรมาน
ใบหน้าและทั่วร่างกายของชายหนุ่มมีเส้นเลือดปูดโปนขึ้นราวกับใต้ผิวหนังมีบางสิ่งชอนไช มือของเรย์พยายามคว้าจับไปทั่วหวังจะคว้าอะไรไว้ได้ก็ยังดี เพื่อระบายความเจ็บของตน
แต่บนโต๊ะไม่มีอะไรให้เขาคว้า เรย์จึงล้มลงไปกับพื้น เก้าอี้ที่เขานั่งอยู่ก็หงายล้มไปด้านหลังเช่นกัน
“อ๊าก...เจ็บ เจ็บ!!”
เรย์พยายามทุบไปที่หัวใจของตนเองดังตุบ ๆ
ตอนนั้นเองอัลลิดาก็เดินเข้ามาคว้าเรย์ขึ้นมานั่งกับโต๊ะ จากนั้นก็ใช้เชือกมัดชายหนุ่มไว้เพื่อไม่ให้ดิ้นจนทำร้ายตัวเองไปมากกว่านี้
เรย์ไม่มีทางสู้แรงของอัลลิดาได้เลยแม้แต่น้อย ถึงจะไม่สามารถขยับได้ แต่ความเจ็บนั้นก็ไม่ต่างจากเดิม เขารู้สึกว่าหัวใจกำลังโดนใบมีดโกนเล็ก ๆ กรีดไปมาตามจังหวะการเต้นของหัวใจจากนั้นก็แพร่กระจายไปทั่วทั้งร่าง เรย์ร้องตะโกนเสียงดังลั่นห้องจนสุดแรง ดวงตาเบิกกว้างน้ำลายไหลฟูปากเพราะอาการช็อกอย่างรุนแรงจากความเจ็บปวด
และแล้วในที่สุดเซลีนก็ลงมือด้วย หญิงสาวยื่นมือมาแตะที่หน้าผากของเขา พร้อมกับกล่าวว่า “อย่าหมดสติในตอนนี้ไม่อย่างนั้นคุณจะตาย”
เรย์ที่พอได้ยินเสียงของเซลีนก็กลับมาคงสติได้อีกครั้งอย่างน่าแปลกใจ เขารู้ได้ว่าความเจ็บยังคงอยู่ แต่กลับไม่คิดว่ามันเจ็บแบบเดิมคล้ายกับมันลดลงไป
ผู้ใช้พลังจิตสามารถขยายความรู้สึกนึกคิดได้ ตอนนี้เซลีนกำลังขยายความรู้สึกอดทนอดกลั้นของเขาเพื่อให้จิตใจของเรย์ทนมันได้
หลังจากตั้งสติได้ในที่สุดเรย์ก็รับรู้ได้บางอย่าง ในตัวของเขามีจุดพลังงานที่แปลก ๆ เกิดขึ้นหนึ่งจุด จุดพลังงานกำลังรวมเอาเลือดสีขาวเข้ามาอย่างต่อเนื่อง จนในที่สุดมันก็หยุดลงพร้อมกับที่พลังงานสีขาวนั้นหมดไปเช่นกัน
กึก!
เสียงที่บางเบาเกิดขึ้น ความเจ็บทั้งหมดก็หายไป
เรย์หยุดดิ้นแล้วตอนนี้เขาไม่สามารถปรับอารมณ์กับสิ่งที่เกิดขึ้นได้ทัน เรย์กำลังสับสนและงงสุด ๆ ไปเลยว่ามันเกิดอะไรขึ้นแน่วะเนี่ย ทำไมการเปิดระดับแรกมันถึงเป็นแบบนี้