บทที่ 10 ในที่สุดก็รู้แล้วว่าเมื่อวานตายได้ยังไง
ฟูชูหยาดูปฏิสัมพันธ์ของทั้ง 2 ยิ้ม ๆ “พวกลูกสองคนสนิทกันจริง ๆ”
เห็นแบบนี้เธอก็มั่นใจ
ลู่เจ๋อก้มหน้าตัดเค้ก เขารู้สึกว่าแม่เขาดูเหมือนจะเข้าใจอะไรบางอย่างผิด
…
เค้กทำด้วยผลไม้วิญญาณที่เป็นประโยชน์ต่อการบำเพ็ญ หลังจากกินเค้กแล้วลู่เจ๋อกับลู่หลี่ก็ถูกส่งกลับห้องไปบำเพ็ญ
โดยเฉพาะลู่เจ๋อ เนื่องจากวันสอบของเขาใกล้เข้ามาแล้ว ลู่เหวินและฟูชูหยาหวังว่าเขาจะได้ผลลัพธ์ที่ดี
การสอบครั้งนี้เกี่ยวข้องกับการจัดสรรทรัพยากรเป็นเวลาหนึ่งเดือนก่อนสอบเข้ามหาลัย หากคุณได้ทรัพยากรนี้คะแนนของคุณจะดีขึ้น ดังนั้นจึงควรจะดำเนินการอย่างจริงจัง
เมื่อกลับมาถึงห้อง ลู่เจ๋อก็นั่งบนเตียงและเริ่มย่อยพลังที่ได้จากผลไม้วิญญาณและขัดเกลาร่างกายของเขา ไม่มีลูกแก้วสีแดงเหลือแล้ว ดังนั้นการปรับแต่งผิวของเขาจึงหยุดลง เขาทำได้เพียงปรับแต่งกระดูกต่อไป
ไม่นานท้องฟ้าก็มืดลง แมลงต่างกรีดทำลายค่ำคืนอันเงียบสงัด
ห้องของลู่เจ๋อมืดสนิท ดวงตาของเขาปิดแน่นขณะที่เขาหมกมุ่นอยู่กับการบำเพ็ญ
ทันใดนั้นลู่เจ๋อก็รู้สึกตกใจเมื่อจิตสำนึกของเขาจมลงในความมืด
หลังจากได้สติอีกครั้งเสียงร้องของแมลงก็หายไป สิ่งที่มาแทนคือกลิ่นอันสดชื่นของใบหญ้าที่พัดผ่านใบหน้าของเขา
หัวใจของลู่เจ๋อเต้นรัวและลืมตาขึ้น
เมื่อเขาเห็นทุ่งหญ้าที่คุ้นเคย เขาก็แทบจะกระโดดโลดเต้นด้วยความตื่นเต้น
เขากลับมาได้อีกครั้ง!!
เขากลับมาได้ ถ้างั้นลูกแก้วเล็ก ๆ ก็…ฮิฮิ~
ลู่เจ๋อยกยิ้ม ดวงตาของเขาเป็นประกายขณะสำรวจบริเวณโดยรอบ
กระต่ายน้อย พวกแกอยู่ไหนเอ่ย?
แต่ลู่เจ๋อไม่ได้ละเลยยามของเขา มีอันตรายที่ไม่รู้จักที่นี่ เขายังไม่รู้ว่าเมื่อวานเขาตายได้ยังไง
ไม่นานลู่เจ๋อก็เห็นกระต่ายสีเทาตัวใหญ่กำลังกินหญ้าอยู่ข้างหน้า
มันตัวเล็กกว่ากระต่ายขาวเมื่อวานเล็กน้อย แต่ก็ยังสูงเกือบ 80 cm
ลู่เจ๋อเข้าใกล้กระต่ายในระยะ 30 เมตร และกระต่ายก็ทำหูตั้งฟังอย่างระมัดระวัง
เมื่อดวงตาสีแดงของมันเห็นลู่เจ๋อ มันก็อ้าปากแยกเขี้ยวโชว์ฟันแหลมคม
มุมปากของลู่เจ๋อกระตุก ทุกครั้งที่เขาเห็นกระต่ายน่ารักแสดงเขี้ยวของมัน เขาก็มักจะรู้สึกแปลก ๆ
แต่เขาไม่ใช่ลู่เจ๋อคนเดิม เขาสงบแม้กระต่ายจะพุ่งเข้ามา ดวงตาของลู่เจ๋อเย็นชา เมื่อกระต่ายสีเทาเข้ามาใกล้ เขาก็ขยับตัว ในขณะเดียวกันก็ชกไปที่คอกระต่ายอย่างแรง
เปรี้ยง!
เสียงดังคมชัด และกระต่ายสีเทาก็กระเด็นออกไป 2-3 เมตรก่อนจะล้มลงกับพื้น มันกระตุกขา 2-3 ครั้งและแน่นิ่งไป
ฆ่าในหนึ่งวิ!
ลู่เจ๋อยกริมฝีปากขึ้น เขาแข็งแกร่งกว่าเมื่อวานมาก
จากนั้นร่างของกระต่ายสีเทาก็กลายเป็นฝุ่นและทิ้งลูกแก้วสีแดงเอาไว้
ลู่เจ๋อรู้สึกประหลาดใจ เมื่อวานมี 2 ลูก แต่วันนี้มีลูกเดียว?
เขาเปรียบเทียบมวลของกระต่ายทั้ง 2 ตัวที่เขาฆ่า ตัวที่แข็งแกร่งกว่าจะมีลูกแก้วมากกว่างั้นเหรอ?
เขาคงต้องฆ่าอีกสัก 2-3 ตัวถึงจะรู้
ลู่เจ๋อหยุดคิดเรื่องนี้แล้วหยิบลูกแก้วแสงขึ้นมา ลูกแก้วหายไปจากมือเขา มันคงจะเข้าสู่มิติเล็ก ๆ นั่นอีกครั้ง
จากนั้นลู่เจ๋อก็เริ่มค้นหากระต่ายต่อ ไม่นานเขาก็พบกระต่ายอีก 2 ตัว
ตัวสีดำมีขนาดใกล้เคียงกับกระต่ายขาวเมื่อวาน และมีตัวสีเทาอีกตัวที่ดูเหมือนแฝดของตัวที่เขาเพิ่งฆ่าไป
เมื่อมันเห็นลู่เจ๋อ กระต่ายทั้งสองก็พุ่งเข้ามาราวกับว่าพวกมันเห็นกระต่ายตัวเมียที่สวยงาม
ลู่เจ๋อเองก็พุ่งเข้าหาพวกมันด้วย
พวกมันล้วนเป็นลูกแก้วลูกน้อย ๆ ของเขา!
เขาหลบกรงเล็บของกระต่ายทั้ง 2 และต่อยกระต่ายสีเทาตายในหมัดเดียว จากนั้นเขาก็จดจ่อกับกระต่ายสีดำ
กระต่ายดำมีการป้องกันที่แข็งแกร่งกว่าตัวสีเทาและเร็วกว่าด้วย แต่ลู่เจ๋อไม่เหมือนเมื่อวาน เขาชกเข้าที่คอมัน 5 ครั้ง กระต่ายสีดำก็ชักกระตุกและล้มลงกับพื้น
เก็บเกี่ยว 3 ลูกแก้วสีแดง!
…
หนึ่งชั่วโมงต่อมา ลู่เจ๋อนั่งหอบอยู่ในกอหญ้า ตอนนี้เขาเป็นนักล่ากระต่ายที่มีประสบการณ์
ในชั่วโมงนั้น เขาได้ฆ่ากระต่ายขาว 2 ตัวที่ตัวใหญ่กว่าเมื่อวาน จากนั้นเขาก็ฆ่ากระต่ายตัวใหญ่ 6 ตัวและกระต่ายตัวเล็ก 13 ตัว เขาโหดเหี้ยมและไร้ความปราณี!
รวมกับลูกแก้ว 3 ลูกที่เขาได้รับตอนเริ่มต้น เขารวบรวมได้ทั้งหมด 35 ลูก
มันน่าทึ่งมาก!
ลู่เจ๋อหยุดยิ้มไม่ได้ วิถีกรรมกรคือที่สุด!
เมื่อเห็นลูกแก้วเล็ก ๆ เหล่านี้ มันน่าจะเพียงพอให้ใช้ปรับแต่งผิวหนัง กล้ามเนื้อ เส้นเอ็น และกระดูกของเขาให้สมบูรณ์แบบใช่ไหม?
จากนั้นลู่หลี่…ฮี่ฮี่~ น้องสาวจอมซน พี่ใหญ่จะสอนบทเรียนให้เธอ
แต่ทันใดนั้นรอยยิ้มของลู่เจ๋อก็ชะงัก ดวงตาของเขาเบิกกว้างขณะที่เขาจ้องไปยังทุ่งหญ้าข้างหน้าไกลออกไป 10 เมตรอย่างไม่เชื่อสายตา
เหงื่อไหลหยดลงมาที่หน้าผากของเขา
ความสูงของหญ้านั้นไม่เท่ากัน บางที่สูงถึงแค่เข่า บางที่สูงมากกว่า 2 เมตร ลู่เจ๋อจะหายไปในดงหญ้าถ้าเขาเข้าไปในนั้น
ในดงหญ้าสูงประมาณ 1.6 เมตร มีดวงตาคู่หนึ่งอยู่ในดงหญ้า??
ลู่เจ๋อรู้สึกเหมือนตาฝาด เขากระพริบตาและพบว่าดวงตานั้นหายไป แต่หญ้าดูเหมือนจะสั่นไหวเบา ๆ
เมื่อเจ้าของดวงตาเคลื่อนไหวออกมาจากดงหญ้า ในที่สุดลู่เจ๋อก็เห็นว่ามันคืออะไร
มันเป็นหมาป่าสีเขียวตัวใหญ่สูง 1.5 เมตร ขนของมันเป็นสีเขียวบริสุทธิ์คล้ายกับสีของหญ้า ขนเรียบและบาง มันต้องเป็นขนชั้นยอดอย่างแน่นอน เห็นได้ชัดว่าขณะนี้ไม่มีลมพัด แต่ขนของมันยังพริ้วไหว
ตาของมันเป็นสีเขียวเหมือนกับตัวของมัน มีเพียงวงแหวนสีขาวในดวงตาเท่านั้นที่แตกต่าง
ลู่เจ๋อนั่งบนพื้นมองหมาป่าตัวใหญ่ หมาป่าก็มองลู่เจ๋อ
เมื่อสบตากัน ทั้งคู่ก็ตางคนต่างอึ้ง
นี้ไม่เป็นวิทยาศาสตร์เลย มันเสือใช่ไหม จะมีหมาป่าตัวใหญ่ขนาดนี้ได้ยังไง!
แต่สีของมันสวยจริง ๆ นะ
ดวงตาสีเขียวของหมาป่าฉายแววเย็นชา มันดูระมัดระวังเล็กน้อยราวกับว่ามันไม่เคยเห็นสิ่งมีชีวิตแบบลู่เจ๋อมาก่อน
ครู่ต่อมา มันอ้าปากเผยให้เห็นเขี้ยวแหลมคมและคำรามใส่ลู่เจ๋อ
ลู่เจ๋อ: ???
มีหมาป่าตัวใหญ่สูง 1.5 เมตรคำรามใส่เขา มันดูดุร้ายมาก เขาควรทำไงดี?
เขาควรเห่ากลับไหม?
หรือเขาควรแกล้งตาย?
เมื่อลู่เจ๋อกำลังคิดเรื่องนี้ หมาป่าตัวใหญ่ก็ดูเหมือนจะเริ่มหมดความอดทน มันปล่อยสิ่งที่คล้ายใบมีดลมกึ่งโปร่งใสทำให้เกิดเสียงกรีดอากาศ ก่อนที่ลู่เจ๋อจะทันได้ตอบสนอง ใบมีดลมก็เฉือนหน้าอกเขาอย่างไร้ความปราณี
หน้าอกถูกตัดออกเหมือนแผ่นกระดาษ
เลือดไหลออกมามากจนดูเหมือนน้ำพุมนุษย์
อา~ ในที่สุดฉันก็รู้แล้วว่าเมื่อวานฉันตายยังไง…
นี่เป็นความคิดสุดท้ายของเขา ก่อนที่สติของเขาจะจมลงในความมืด
---------------------------