32
บทที่ 32: ตัวเต็งตกชั้นและตัวเต็งเลื่อนชั้น
ถ้าหากชัยชนะสองนัดติดทำให้สื่อท้องถิ่นของลูตันตั้งคำถามว่านี่จะเป็นแค่ช่วงสั้นๆของทีมรึเปล่าล่ะก็ ชัยชนะครั้งต่อไปก็จะเป็นการทำให้ทุกคนร้องเพลงฉลองให้กับลูตัน
วันที่ 16 สิงหาคมลูตันมีเกมลีกเกมที่สองโดยพวกเขาต้องออกไปเยือนทีมจิลลิ่งแฮม
นี่เป็นครั้งแรกที่เกาป๋อพาทีมไปเล่นเกมเยือนในลีก ก่อนออกเดินทางเกาป๋อระมัดระวังและเตรียมความพร้อมสำหรับทุกอย่าง
ไม่ว่าจะเป็นการจราจรบนถนน สภาพอากาศ ฯลฯ
จอห์น แอสตันไม่เคยเห็นเฮดโค้ชคนไหนเข้มงวดเท่ากับเขามาก่อน ตอนจอห์น แอสตันเป็นนักเตะเฮดโค้ชของเขาส่วนใหญ่แค่บอกว่า "ลงไปเตะตูดฝั่งตรงข้ามแล้วคืนนี้ฉันจะเลี้ยงพวกนายที่บาร์เอง!!!"
จากนั้นพวกนักเตะก็เฮแล้วลงไปเล่น
มันดูไม่มืออาชีพแต่ก็เหมาะกับภาพลักษณ์ของชาวอังกฤษ
แอลกอฮอล์กับฟุตบอลอังกฤษเป็นของคู่กันมาช้านาน มาจนถึงช่วงปี 1990 ที่ทีมในลีกชั้นนำของอังกฤษพึ่งจะมาเริ่มคุมเข้มให้นักเตะในทีมดื่มให้น้อยที่สุด และเกาป๋อก็ขอให้ทุกคนในทีมงดเหล้าช่วงที่ซ้อมและแข่งขัน โดยเขาใช้ตัวเองเป็นตัวอย่าง เขาจะไม่แตะเหล้าเลยถ้าไม่ใช่วันหยุดหรือช่วงพัก
นอกจากนี้ในเกือบทุกเกมเกาป๋อจะขอให้ทีมโค้ชของเขารวบรวมข้อมูลของฝ่ายตรงข้ามให้ได้มากที่สุด เพื่อจะศึกษาคู่ต่อสู้ แล้วปรับแทคติกของตัวเองตามลักษณะทีมฝ่ายตรงข้าม
ยกตัวอย่างเช่นการมาร์คนักเตะของฝ่ายตรงข้ามบางคน แล้วใช้เป็นจุดอ่อนสำหรับการเจาะเกมรับพวกเขา
ไม่ว่าจะมากหรือน้อย ด้วยการวิเคราะห์ข้อมูลพวกนี้รวมกับการฝึกซ้อม ทำให้ผลลัพธ์ที่ได้คือการจัดการทีมต่างๆ หรืออย่างน้อยก่อนเริ่มเกมพวกเขาก็มั่นใจว่ามีวิธีจัดการฝ่ายตรงข้ามเสมอ
การรู้เขารู้เราเป็นวิธีเดียวที่จะช่วยให้ชนะ
นี่คือวิธีที่เกาป๋อมั่นใจว่าจะพาชัยชนะมาให้เขา
โชคร้ายที่งานวิเคราะห์พวกนี้ไม่ใช่งานที่จะทำได้ด้วยเฮดโค้ชเพียงคนเดียว โชคยังดีที่ตอนนี้ในทีมโค้ชมีจอห์น แอสตันที่เป็นคนที่เหมาะกับการฝึกนักเตะแถมยังช่วยด้านบริหารทีมได้ เพราะถึงยังไงเขาก็เป็นคนที่อยู่กับทีมมานานหลายปี เพราะฉะนั้นงานหลักของเขาก็คือการประสานระหว่างเบื้องบนและล่างนั่นเอง
และตำแหน่งอื่นๆอย่างพวกโค้ชเทรนร่างกาย หรืออื่นๆก็ไม่เหมาะจะมาช่วยวิเคราะห์ข้อมูล
เพราะฉะนั้นเกาป๋อเลยไม่มีทางเลือก แม้ว่าเกาป๋อจะเชื่อว่าทีมลูตันนั้นเก่งเกินลีกทูไปแล้ว แต่ขนาดทีมพรีเมียร์ลีกบางทีมยังเจอทีมในลีกล่างเอาชนะได้เลย นับประสาอะไรกับทีมอย่างลูตันจะไม่พลาด?
ที่สำคัญลูตันยังแพ้ไม่ได้เพราะพวกเขาถูกหักไป 30 คะแนนแล้วเพราะฉะนั้นพวกเขาต้องเน้นและแน่ใจว่าในทุกๆเกมจะไม่เสียคะแนนไปอีก
นี่จึงเป็นเหตุผลสำคัญที่ทำให้เกาป๋อจะไม่ประมาทเด็ดขาด เขาจะไม่ยอมมาพลาดเพราะไม่ประเมินคู่แข่งให้ดีแน่นอน ในฤดูกาลนี้ข้อผิดพลาดของทีมต้องน้อยที่สุด
จิลลิ่งแฮมเป็นทีมที่ตกมาจากลีกวันในฤดูกาลที่แล้วเหมือนกันกับลูตัน
แต่รายชื่อนักเตะคนสำคัญของจิลลิ่งแฮมยังอยู่ครบ เขาไม่ได้เสียนักเตะตัวหลักเมื่อตอนเล่นในลีกวันไป เพราะฉะนั้นนักวิจารณ์หลายคนจึงเชื่อว่าจิลลิ่งแฮมนี่แหละ ตัวเต็งอันดับต้นๆในการเลื่อนชั้นในฤดูกาลนี้
แต่ถึงแม้ตัวเต็งเลื่อนชั้นอย่างจิลลิ่งแฮมมาเจอกับตัวเต็งตกชั้นอย่างลูตัน แต่ผลที่ออกมากับไม่ได้เป็นแบบที่ทุกคนคิด
ก่อนเกมทุกคนต่างคิดว่าจิลลิ่งแฮมได้เปรียบ แม้ว่าลูตันจะถล่มพอร์ทเวลมาในนัดล่าสุดของลีก แต่พอร์ทเวลก็ไม่ใช่ทีมที่เก่งอะไร แถมนัดนั้นลูตันยังเตะในบ้าน ก็ไม่แปลกที่จะเกิดสกอร์แบบนั้นขึ้นมา แต่นัดนี้เป็นการพบกับจิลลิ่งแฮมทีมเต็งเลื่อนชั้น แถมลูตันยังเตะนอกบ้านอีกด้วย
แต่ลูตันก็ทำให้ทุกคนคิดผิดไปตามๆกัน
จิลลิ่งแฮมที่เล่นในบ้านทำอะไรแทบไม่ได้ ด้วยการเพรสตั้งแต่กองหน้าของลูตัน ทำให้จิลลิ่งแฮมไม่ทันตั้งตัว พวกเขาจะบุกแต่ก็ต้องเจอกับการปิดช่องจ่ายบอล พอแก้ด้วยการเปิดบอลยาว ก็เจอการโหม่งของเจฟฟรีย์ เซ็นเตอร์วัยรุ่นจัดการซะจนจิลลิ่งแฮมไม่ได้เปรียบ
แนวรับของจิลลิ่งแฮมก็ถูกการบุกของลูตันทะลวงซ้ำแล้วซ้ำเล่าจนพรุนไปหมด
และในนาทีที่สิบสองของการแข่งขัน ลูตันก็ได้ประตูขึ้นนำจากชาร์ลี ออสตินหนึ่งในสองกองหน้าของลูตัน เขายิงทำประตูให้กับลูตันในกรอบเขตโทษของทีมจิลลิ่งแฮม
ไม่นานหลังจากลูกแรก ชาร์ลีก็ยิงอีกลูก นาทีที่สิบแปด เควินคีนเปิดบอลมาจากด้านข้างให้กับชาร์ลี ออสติน วิ่งหาช่องว่างส่งบอลเลียดพื้นเข้าไปอีกหนึ่งลูก!
ครึ่งแรกเป็นผลงานของชาร์ลี ออสติน ส่วนในครึ่งหลัง วาร์ดี้ก็เริ่มโชว์ฟอร์ม
ในนาทีที่ 68 วาร์ดเอาชนะกับดักล้ำหน้าแล้วหลุดเดี่ยวเข้าไปทำประตูอีกครั้ง โดยสกอร์ขยับไปเป็น 3-0 แต่ก็อยู่ได้ไม่นาน เพียงแค่นาทีที่ 73 วาร์ดี้ก็หลุดเข้าไปยิงอีกรอบและเปลี่ยนสกอร์ให้กลายเป็น 4-0
แถมนี่คือสกอร์สุดท้ายก่อนจบเกม
สี่ประตูต่อศูนย์! !
ลูตันบุกมาชนะทีมเต็งเลื่อนชั้นอย่างจิลลิ่งแฮม!
หลังจากผู้ตัดสินเป่านกหวีดหมดเวลา เกาป๋อก็ถอนหายใจอย่างโล่งอกและลุกขึ้นจากม้านั่งของโค้ช เขารู้สึกนิ่งมากในเกมนี้ เพราะทุกอย่างเป็นไปตามแผนที่วางไว้ก่อนเกมไม่มีอุบัติเหตุเกิดขึ้นในระหว่างการแข่งขัน
เกมนี้ทุกอย่างสมบูรณ์แบบ ความสมบูรณ์แบบที่ว่าไม่ใช่สกอร์เท่านั้น หากแต่เป็นการเล่นระหว่างเกมด้วย
เกือบทุกอย่างรวมถึงการเล่นถูกเตรียมไว้ตั้งแต่ก่อนเริ่มเตะ
หลังเริ่มเกมได้สิบนาที พวกเขาบุกกลับและทำได้สองประตู
ช่วงครึ่งหลังนาทีที่ 70 พวกเขาบุกอีกครั้งและได้มาอีกสองประตู
แทคติกของฝ่ายตรงข้าม การเปลี่ยนตัว และการบุกหลังเปลี่ยนตัวของฝ่ายตรงข้าม ทุกอย่างนั้นถูกเกาป๋อย้ำซ้ำๆก่อนจะเริ่มเกม
เกมนี้ทุกอย่างมันเป็นใจมาก จนราวกับว่าทุกอย่างถูกกำกับโดยเกาป๋อ
“เควิน มางานแถลงข่าวกับฉัน!”
คนที่เปิดประตูห้องล็อกเกอร์เข้ามาพูดกับเควิน
ห้องล็อกเกอร์กำลังวุ่นวายเพราะเหล่านักเตะต่างกำลังฉลองชัยชนะ แต่เมื่อเกาป๋อเปิดประตูเข้ามาบรรยากาศที่คึกคักก็ค่อยๆลดลง นักเตะต่างมองไปที่เกาป๋อด้วยความเกรงใจและเคารพ เพราะเกาป๋อราวกับพ่อมดที่คอยคุมเกมด้วยเวทย์มนต์อยู่บนม้านั่งข้างสนาม
เหล่านักเตะเริ่มเปรียบเกาป๋อเป็นพ่อมดกันแล้ว เพราะถ้าหากเขาไม่ใช่พ่อมดจะอธิบายถึงผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นพวกนี้ได้ยังไง?
ตอนนี้เหล่านักเตะต่างเคารพในตัวเกาป๋ออย่างมาก แม้ว่าเขาจะอายุแค่ยี่สิบเจ็ดปีและอายุมากกว่านักเตะส่วนใหญ่ในทีมไม่กี่ปี แต่ความแตกต่างระหว่างโค้ชและนักเตะ ยังคงแสดงออกจากตัวเกาป๋อ
บวกกับการที่เกาป๋อไม่ได้ต้องการลงไปคลุกคลีหรือเล่นกับเหล่านักเตะจนเกินไป เขาขีดเส้นแบ่งความสัมพันธ์ที่เรียกว่าเฮดโค้ชเอาไว้อย่างชัดเจน ถ้าจะเปรียบกับพวกนี้เขาต้องเป็นเหมือนพ่อ ไม่ใช่พี่น้องหรือเพื่อนของพวกเขา
"ครับบอส!"
แม้ว่าเควินคีนจะแก่กว่าเขาหลายปี แต่เขาก็ยังเรียกเกาป๋อว่า"บอส"ด้วยความเคารพ