ตอนที่ 93+94 อยากดูอีกครั้งไหม?
แม้ว่าเธอจะเคยนอนกับเขามาก่อน ทว่าเจียงเหยาเป็นหญิงสาวที่ขี้อายอยู่เสมอ ในช่วงเวลานั้น เธอไม่กล้าแม้แต่จะจ้องไปที่ร่างกายของเขา นับประสาอะไรกับส่วนนั้นของเขา
ลู่ชิงสีรู้ว่าเจียงเหยาขี้อาย ดังนั้นเขาจึงไม่หลอกล้อเธออีก เขาไม่คาดคิดว่าเธอจะเตะประตู หลังจากที่เจียงเหยาซ่อนตัวเองบนเตียง เขาก็ผูกผ้าเช็ดตัวไว้รอบเอวก่อนจะเดนิไปหยิบชุดชั้นในและกลับเข้าไปในห้องน้ำ เขาออกมาอีกครั้งหลังจากที่เป่าผมจนแห้งแล้ว
ผู้หญิงที่นอนอยู่บนเตียงสั่นศีรษะไปมาครู่หนึ่ง แล้วหยุด เป็นแบบนั้นพักหนึ่ง เขาไม่รู้ว่าเธอกำลังคิดอะไรอยู่ แต่เธอดูน่ารักมาก
ลู่ชิงสีเดินไปและนอนลงข้าง ๆ เจียงเหยา “นอนบนหมอนไม่สบาย พิงบนตัวผ่อน แล้วพักผ่อนสักแปบสิไ
เจียงเหยาลังเลหลังจากที่เธอได้ยินเสียงเขา แต่ก็ปฏิเสธไป “ฉันไม่เป็นไร เตียงที่นี่นุ่มกว่าที่โรงพยาบาล นอนสบายกว่ามากด้วย”
แต่ลู่ชิงไม่สนใจว่าเธอจะเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วย เขาเอื้อมมือออกไปและคว้าตัวหญิงสาวที่นอนข้าง ๆ ยกเธอให้มานอนบนหน้าอกเขาแทนหมอน เมื่อสังเกตว่าติ่งหูของเธอยังคงเป็นสีแดง เขาเพียงเอื้อมมือไปสัมผัสแต่ไม่ได้หยอกล้อเธออีก
ติ่งหูของเจียงเหยานุ่ม แม้ว่านี่จะเป็นฤดูร้อน แต่ติ่งหูของเธอกลับร้อนจัด ลู่ชิงสีทำอะไรไม่ถูกเล็กน้อย ทำไมเธอถึงได้เขินอายง่าย ๆ อย่างนี้?
แม้ว่าจะถูกบังคับให้เปลี่ยนจากนอนหมอนมานอนบนหน้าอกของเขา เจียงเหยาก็ไม่ได้ขัดขืน อันที่จริงการนอนบนอกของลู่ชิงสีนั้นสบายกว่านอนบนหมอนของเธอเสียอีก นอกจากนี้ เธอชอบกลิ่นหอมบนตัวเขา เพราะมันทำให้ใจของเธอสงบลง
เธอกดศีรษะของเธอลงบนหน้าอกของเขา แล้วยกแขนขึ้นวางบนตัวเขา ราวกับว่าเธอกำลังกอดเขาอยู่ สำหรับลู่ชิงสี เขาวางมือลงบนศีรษะของเธอ หลังจากที่เขาสัมผัสที่ติ่งหูของเธอ เขาสัมผัสผมของเธอและลูบไล้เบา ๆ
เจียงเหยาเปลี่ยนตำแหน่งศีรษะของเธอและเริ่มชื่นชมร่างกายของเขา สำหรับรูปร่างของเขา เจียงเหยาต้องใช้คำพูดที่ดีทุกคำในโลกเพื่อมาอธิบายร่างกายที่ไร้ที่ติของเขา
เธอเอื้อมมือไปแตะหน้าท้องของเขาและได้ยินเสียงเหนือศีรษะของเธอ
“คุณชอบมันเหรอ?”
เสียงนั้นกระทบเธอราวกับสายฟ้าผ่า เธอทำอะไรให้เห็นชัดเจนขนาดนั้นเลยเหรอ? เธอเพิ่งจะสัมผัสไปครั้งเดียวเองไม่ใช่เหรอ?
“เปล่า ฉันไม่ได้ชอบ!” เจียงเหยาปฏิเสธในขณะที่เงียบไปนาน แม้ว่าเธอจะปฏิเสธ แต่เธอก็จ้องมองไปที่ส่วนที่อยู่ใต้หน้าท้องของเขาโดยไม่รู้ตัว
เขาแต่งตัวแบบสบาย ๆ ชุดหลวม ๆ กางเกงของเขาแทบจะห้อยอยู่ที่เอวของเขา
เมื่อมองจากมุมสายตาของเธอ เธอสามารถมองเห็นด้านข้างของชุดชั้นในของเขา ซึ่งดูแล้วเซ็กซี่มาก
ลู่ชิงสีเป็นคนแบบไหน? เขาเป็นหนึ่งในหน่วยลาดตระเวนที่เชี่ยวชาญในการใช้อาวุธต่อสู้ เขาสังเกตเห็นการหยุดจ้องมองของเจียงเหยา เขาอดไม่ได้ที่จะหยอกล้อเธออีกครั้ง
“เมื่อกี้ยังไม่พอเหรอ? อยากดูอีกไหม?” ลู่ชิงสีถอนหายใจ
“คืนนี้ผมจะให้คุณดี โอเคไหม? ยังสว่างอยู่เลย จะให้ดูตอนนี้ผมก็อายเหมือนกันนะ”
เจียงเหยากลายเป็นแมวที่พองขนทันที เธอลุกขึ้นและนั่งตัวตรง จ้องไปที่ลู่ชิงสีด้วยความไม่พอใจ
“หุบปาก! ตอนนี้ฉันไม่อยากคุยกับคุณแล้ว”
จากนั้น เธอเริ่มที่จะย้ายออกจากอกเขาราวกับว่าเธอต้องการทิ้งระยะห่างจากเขา
เขาเห็นเจียงเหยาหยุดอยู่ตรงที่ของเธอ และกำลังจะลุกลงจากเตียง โดยไม่แม้แต่จะมองเขา
ลู่ชิงสีรู้ดีว่าเรื่องตลกของเขาได้จบลงแล้ว และหญิงสาวตัวน้อยก็เขินอายเกินกว่าจะกวนใจเขาอีกต่อไป
“น่าเอ็นดูจริง ๆ ได้ ได้ ผมไม่แกล้งคุณแล้ว” ลู่ชิงสีเอื้อมมือออกไปและลากเธออีกครั้ง แต่คราวนี้เจียงเหยาไม่เชื่อฟังเขาง่าย ๆ เธอผลักแขนของเขาออกไปด้วยสุดกำลังของเธอ
ลู่ชิงสีมีอารมณ์ที่จะเล่นเกม ‘เธอผลัก ฉันดึง’ กับเธอในทันที เมื่อเห็นเธอผลักเขาไปมา สุดท้ายเขาก็หมดความอดทนและอุ้มเธอไว้ในอ้อมแขนของเขาทันที เขาวางเธอไว้บนหน้าอกและโอบขาของเธอไว้รอบตัวเขาเพื่อล็อคเธอให้แน่น ขณะที่เธอยังคงจ้องมองเขา
“ผมเหนื่อยแล้ว อย่าดินสิ ให้ผมได้นอนเถอะ”
__
เมื่อได้ยินนั้น คนที่ยังคงดิ้นร้นก็เงียบลงทันที เจียงเหยาตอบด้วยเสียงฮึมและนอนอยู่บนหน้าอกเขาอย่างเชื่อฟัง โดยไม่รู้ว่าเธอกำลังคิดอะไรอยู่ จู่ ๆ เธอก็เงยหน้าขึ้นมองเขา เธอขยับเข้าไปใกล้เขา จูบลงที่ริมฝีปากของเขา และเคลื่อนตัวออกอย่างรวดเร็ว
อืม อย่างที่คาดไว้ เธอเป็นผู้หญิงตัวเล็ก ๆ ที่สามารถโน้มน้าวใจได้ด้วยเหตุผล แต่ไม่หวั่นไหวกับการใช้กำลัง
ลู่ชิงสีอดไม่ได้ที่จะรู้สึกยินดีกับการที่เขาประเมินสถานการณ์ได้ถูกต้อง
ในทีแรกเจียงเหยาวางแผนที่จะนอนเป็นเพื่อนเขาสักพัก หลังจากเขาหลับ เธอจะลงไปข้างล่าง แต่เธอลืมตาตื่นขึ้นมาอีกครั้ง ก็ตอนที่ลู่เสี่ยวเซียวขึ้นมาเคาะประตูเรียก
เธอขยี้ตาด้วยความง่วงงุน และได้ยินเสียงลู่ชิงสีของให้ลู่เสี่ยวเซียวลงไปรอที่ชั้นล่าง
“ตื่นแล้วเหรอ” ลู่ชิงสีกล่าวด้วยน้ำเสียงขี้เล่น “เจ้าหมู”
เจียงเหยาถามด้วยท่าทางงุนงง ขณะที่เธอถูกเขาล้อ “กี่โมงแล้ว?” จากนั้นเธอก็ลุกขึ้นนั่งตัวตรง มองดูนาฬิกาบนโต๊ะข้างเตียง
“คุณพระช่วย! ห้าโมงเย็นแล้วเหรอเนี้ย?” เจียงเหยาขยี้ตา พร้อมกับตกตะลึง “รู้สึกว่าตัวเองหลับไปพักเดียวเอง!”
“นี่ผมแต่งงานกับหมูจริง ๆ ใช่ไหมเนี้ย” ลู่ชิงสีหัวเราะ “ภรรยาเป็นหมูไปแล้ว”
เจียงเหยาเตะเขาอย่างไม่มีความสุข “คุณอากับเสี่ยวเซียวมาถึงแล้ว” หลังจากครุ่นคิดบางอย่าง เธอพูดว่า “ถ้าแม่ถาม ฉันจะบอกว่าฉันอยู่เป็นเพื่อนตอนคุณหลับ แล้วคุณก็หลับจนถึงตอนนี้นะ”
“ผมผิด? ผมตื่นตั้งแต่ 30 นาทีก่อนหน้านี้แล้ว แต่เห็นว่าคุณหลับสนิท ผมเลยไม่ลุก” ลู่ชิงสีกล่าวอย่างไม่เต็มใจ
เจียงเหยาไม่สนใจว่าเขาจะพูดถูกหรือไม่ ยังไงซะ ถ้าใครถาม เธอจะบอกไปแบบนั้น
“ไปล้างหน้าแล้วลงไปกินข้าว เสี่ยวเซียวขึ้นมาเรียกพวกเราให้ลงไปทานข้าว” ลู่ชิงสีก็แค่ล้อเล่น เจียงเหยาเป็นเพียงหญิงสาวตัวเล็ก ๆ แน่นอนว่าเขาควรเป็นสามีที่รับผิดชอบทุกอย่างแทนเธอ
เจียงเหยารีบไปล้างหน้าในห้องน้ำ เมื่อเธอเงยหน้าขึ้นมอง เธอเห็นลู่ชิงสียืนอยู่ข้างหลังเธอ เขาส่งยิ้มอย่างทะลึ่งให้เธอ
เธอเพิ่งนึกขึ้นได้ว่าลู่ชิงสีมักจะยิ้มเวลาที่เขาอยู่กับเธอ ไม่เหมือนตอนทีเขาอยู่กับคนอื่น ใบหน้าของเขามักจะเย็นชาและไร้ความรู้สึกอยู่เสมอ
แต่แม้ว่าตอนนี้เขาจะกำลังยิ้ม เขาก็เพียงแค่ยกมุมริมฝีปากขึ้นเล็กน้อยเท่านั้น สำหรับเจียงเหยา เธอสัมผัสได้ถึงอารมณ์ที่ฉายผ่านแววตาของเขา ว่าเขากำลังยิ้มออกมาจริง ๆ
“กำลังมองอะไรอยู่?” ลู่ชิงสีถาม เมื่อเขาเห็นเจียงเหยามองมาที่เขาหลังจากที่เขาก้มศีรษะและเช็ดหน้า
“เปล่า” เจียงเหยาส่ายหน้า
“ล้างหน้าเสร็จแล้ว ลงไปข้างล่างกันเถอะ อย่าปล่อยให้คนอื่นรอนานเกินไป”
“รอแปบหนึ่งสิ” ลู่ชิงสียกแขนขึ้นแล้วกดลงบนผนังกระเบื้องเซรามิกสีขาวที่อยู่ข้าง ๆ เจียงเหยา เขาโอบเธอด้วยแขน แนบลงบนกำแพง จากนั้นก้มลงจูบเจียงเหยง หลังจากที่เธอถามว่าทำไม
เขาไม่รู้ว่าทำไมเขาถึงจูบเธอ เขารู้สึกเพียงแค่ตอนนี้เขาอยากจูบเธออย่างไม่มีเหตุผล ขณะที่ทำตามหัวใจของเขา เธอเป็นเหมือนขนมหวานที่เขาไม่คิดอยากจะหยุดชิมไปตลอดชีวิต และเธอก็เป็นยาเสพติดตลอดชีวิตของเขา
เจียงเหยากังวลว่าผู้ใหญ่ที่อยู่ชั้นล่างจะรอนาน เธอผลักเขาเบา ๆ หลังจากจูบ ลู่ชิงสีทำหน้ามุ่ยสักครู่ “เราควรลงไปข้างล่างได้แล้ว ถ้าคุณยังจูบฉันอยู่แบบนี้ เดียวริมฝีปากของฉันก็บวมกันพอดี”
แม้ว่าลู่ชิงสีจะไม่จูบเธอต่อ แต่เขาก็โอบเธอไว้ในอ้อมแขนอย่างแน่น จนกระทั่งไม่มีช่องว่างแม้แต่น้อยระหว่างพวกเขา
“เจียงเหยา อย่าหยุดล่ะ” ลู่ชิงสีพูดไปส่ง ๆ เขาปล่อยเธอก่อนที่จะเปลี่ยนมาจับมือ ขณะที่ออกจากห้อง พวกเขาพากันเดินลงไปชั้นล่าง
เจียงเหยาไม่เข้าใจว่าทำไมลู่ชิงสีถึงพูดอย่างนั้น เขาหมายความว่าอย่างไร ‘อย่าหยุดล่ะ?’ หยุดอะไร
เธอกำลังคิดที่จะถามเขา แต่เมื่อเห็นว่าลู่ชิงสีไม่ตั้งใจที่จะอธิบายอะไร เธอจึงไม่พูดอะไรเพิ่มเติมและเดินตามเขาลงไปชั้นล่าง