ตอนที่ 1105-1106 ความเป็นไปได้
คุณผู้หญิงเหมาอาวุโสมองไม่เห็นคุณผู้หญิงเหมา จึงถามขึ้นอย่างไม่พอใจ
เหมาเยซื่อพูดอย่างใจเย็นว่า “เธอรู้สึกไม่สบาย เลยกลับไปที่ห้องนอนแล้วครับ คืนนี้เธอไม่ลงมาทานข้าวกับพวกเรานะครับ”
“ฮึ่ม” คุณผู้หญิงเหมาอาวุโสรู้ว่าคุณผู้หญิงเหมาไม่ได้ไม่สบายจริง ๆ แต่เธอไม่อยากลงมาต่างหาก
“เมื่อกี้ยังดี ๆ อยู่เลย พอพวกเธอกลับมา เธอก็รู้สึกไม่สบายขึ้นมาทันที โรคนี้มาทันเวลาจริง ๆ ช่างเถอะ ถ้าเธอไม่สบายก็ปล่อยเธอไป”
คุณผู้หญิงเหมาอาวุโสไม่สามารถพูดอะไรต่อหน้าเฉียวเมียนเมียนและเฉียวเฉินมากไปกว่านี้ได้
เธอไม่พอใจอย่างมากกับการกระทำของคุณผู้หญิงเหมา
ในความเห็นของเธอ ลูกสะใภ้ของเธอมาจากครอบครัวที่มีเกียรติและมีมารยาทดีที่สุดเสมอมา เธอไม่เคยทำอะไรที่ไม่เหมาะสมกับสถานะของเธอ
แต่วันนี้เธอแสดงออกได้แย่เกินไป
ต่อหน้าเด็กรุ่นลูกสองสามคน การแสดงออกของเธอแย่มาก เธอไม่มีคุณสมบัติของการเป็นผู้อาวุโสเอาเสียเลย
คุณผู้หญิงเหมาอาวุโสให้ความสำคัญต่อหน้าตาของเธอเสมอ
การกระทำของคุณผู้หญิงเหมาทำให้เธอรู้สึกอับอายอย่างไม่ต้องสงสัย
แบบนี้พี่น้องตระกูลเฉียวจะมองครอบครัวเหมาอย่างไร?
น้องชายอาจจะคิดว่าพี่สาวของเขาถูกครอบครัวเหมารังแกเอาได้
....
อาหารเย็นดำเนินไปอย่างรื่นรมย์
แม้ไม่มีคุณผู้หญิงเหมาอยู่ด้วย ทุกคนก็กินข้าวกันอย่างมีความสุข
หลังอาหารเย็น
หญิงสูงวัยขอให้ลุงจางพาเฉียวเมียนเมียนและเฉียวเฉินไปเดินเล่นในสวนหลังบ้าน ขณะที่เธอเรียกเหมาเยซื่อไปที่ห้องนอนของเธอ
“คุณย่ามีอะไรพิเศษหรือเปล่าครับ ถึงได้เรียกให้ผมเข้ามาคนเดียว” เหมาเยซื่อช่วยพยุงหญิงสูงวัยเข้าไปในห้องนอนและปิดประตู
เขาช่วยพยุงเธอไปที่โซฟาและนั่งลง
หญิงสูงวัยนั่งบนโซฟาแล้วครุ่นคิด
หลังจากนั้นไม่นาน เธอค่อย ๆ เงยหน้าขึ้นและมองดูเหมาเยซื่อด้วยดวงตาที่แก่ชราอย่างเห็นได้ชัด “อาซื่อ หลานว่าเฉียวเฉินดูเหมือนอารองของหลานไหม?”
ในขณะนี้ หญิงสูงวัยแสดงสีหน้าจริงจัง “โดยเฉพาะดวงตาคู่นั้นของเขา แม้แต่ท่าทางก็ยังเหมือนอารองของหลานทุกประการ นอกจากนี้หูของอารองเขามีเอกลักษณ์ที่แตกต่างจากคนทั่วไปมาก”
“ตอนนี้ ย่าสังเกตเห็นหูของเฉียวเฉิน หลานรู้ไหมว่าหูของเขาเหมือนกับหูของอารองของหลานทุกประการด้วยเหมือนกัน? นี่คงไม่ใช่แค่เรื่องบังเอิญมากเกินไปหรอกหรือ? แม้ว่าจะมีคนมากมายบนโลกที่หน้าตาคล้ายคลึงกัน แต่ก็ไม่มากหรอกที่จะดูเหมือนกันขนาดนี้”
เมื่อหญิงสูงวัยพูดจบ เธอก็รู้สึกตื่นเต้น
เหมาเยซื่อพอจะเดาได้ว่าคุณผู้หญิงเหมาต้องการจะบอกอะไรแก่เขา
ไม่แปลกใจหรอกที่เธอต้องการคุยกับเขาเพียงลำพัง
เพราะเขาเองก็เคยคิดเช่นนี้เหมือนกัน
แม้ว่าความคิดนั้นจะแวบเข้ามาในหัวของเขาเพียงชั่วครู่ แต่ตอนนี้คุณผู้หญิงเหมาอาวุโสได้หยิบยกเรื่องนี้ขึ้นมาพูดอย่างจริงจัง ทำให้เหมาเยซื่อคิดเรื่องนี้อย่างจริงจังขึ้นมาด้วยเช่นกัน
“คุณย่า สงสัยว่า..เฉียวเฉินจะเป็นลูกของอารองหรือเปล่าครับ”
การแสดงออกของหญิงสูงวัยเปลี่ยนไป
“หลายไม่คิดว่ามีความเป็นไปได้หรอกหรือ? เขากับอารองของหลาน...คล้ายกันเกินไป คล้ายกันมากจนย่าต้องคิดเรื่องนี้”
“คุณย่า ผมเองก็เคยคิดเรื่องนี้มาก่อน แต่ผมเกรงว่าจะเป็นไปได้น้อย ย่าไม่ควรคาดหวังมากเกินไปนะครับ ไม่อย่างนั้นจะผิดหวังเอาได้”
“ยังไงล่ะ” ผู้อาวุโสกล่าวอย่างกระวนกระวายว่า “ไม่เป็นไร ถ้าเขาดูเหมือนอารองของหลาย แต่นี่ขนาดหูก็ยังเหมือนกันทุกประการ มันจะเป็นเรื่องบังเอิญได้อย่างไร? อีกอย่ง ย่าเคยถามเขาเกี่ยวกับปีเกิดของเขา เหมือนจะเป็นลูกหลงของอารองของหลาน”
“มันเป็นเรื่องบังเอิญไปซะทุกด้าน จะเป็นเรื่องบังเอิญได้จริง ๆ อย่างนั้นเหรอ?”
เมื่อเห็นว่าหญิงสูงวัยกระวนกระวายใจเพียงใด เหมาเยซื่อก็ไม่อยากจะดับความหวังของเธอ เขาเงียบไปครู่หนึ่งก่อนจะถามด้วยรอยยิ้มว่า “คุณย่า หมายความว่ายังไงครับ”
“ไปสืบหน่อย” หญิงสูงวัยสูดหายใจเข้าลึก ๆ บีบสายประคำบนข้อมือของเธอและสวดมนต์อย่างเงียบ ๆ
“ไปตรวจสอบปีที่เขาเกิด ย่ารู้สึกว่าลูกของอารองยังมีชีวิตอยู่อย่างแน่นอน ถ้าเฉียวเฉินเป็นเด็กคนนั้นจริง ๆ พระเจ้าคงจะสงสารอารองของหลานจริง ๆ”
“ตั้งแต่นี้ไป อารองของหลายจะมีทายาทแล้ว”
เหมาเยซื่อยังคงนิ่งเงียบ
ถ้าเฉียวเฉินเป็นสมาชิกในครอบครัวเหมาจริง ๆ ก็เป็นข่าวดีสำหรับอารองของเขา
แต่ก็น่าแปลกใจ
เพราะอารองของเขายังโสด เขาได้ไปตรวจที่โรงพยาบาลและพบว่าสุขภาพของเขา มันคงยากที่จะมีลูก
ยิ่งตอนนี้เขาอายุมากแล้ว ความสามารถในการมีทายาทก็คงยิ่งแย่ลง
แทบไม่มีโอกาสมีลูกได้อีกเลย
แม้ว่าสถานะของเขา เขาสามารถรับเด็กสองสามคนจากครอบครัวในเครือมาดูแลได้อย่างง่าย ๆ แต่มันก็แตกต่างจากการมีลูกที่กำเนิดโดยเขาเองได้
ดังนั้นเขาจึงไม่เลือกที่จะรับเลี้ยงบุตรบุญธรรม
หญิงสูงวัยกังวลเรื่องนี้มาโดยตลอด
“ได้ครับ” แม้ว่าเหมาเยซื่อไม่คิดว่าจะมีความบังเอิญเช่นนี้เกิดขึ้นบนโลก แต่ในเมื่อหญิงสูงวัยต้องการให้ตรวจสอบ เขาจึงต้องทำ
เมื่อเธอรู้ความจริงแล้ว เธอก็จะเลิกคิดเรื่องนี้ไปเอง
อย่างไรก็ตาม นี่ไม่ใช่ปัญหาอะไรสำหรับเขา
“หลานว่าย่าคิดมากไปหรือเปล่า? แต่ย่าไม่คิดอย่างนั้นนะ เฉียวเฉินน่าจะเป็นลูกของตระกูลเหมาเรานั่นแหละ ไม่อย่างนั้น ถ้าเขากับเมียนเมียนเป็นพี่น้องกันจริง ๆ ทำไมเขาถึงไม่เหมือนกันเลยเล่า?”
“แม้ว่าคนหนึ่งจะคล้ายกับพ่อของเขาและอีกคนหนึ่งจะคล้ายกับแม่ของเขา พี่น้องก็ต้องมีส่วนที่คล้ายคลึงกันบ้างใช่ไหมล่ะ”
“แต่เขาดูไม่เหมือนเมียนเมียนเลย เป็นพี่น้องจากพ่อแม่เดียวกัน หลานไม่คิดว่าเรื่องนี้มันผิดปกติไปหน่อยเหรอ?”
หญิงสูงวัยรู้สึกตื่นเต้นอีกครั้ง
แม้ว่าเธอจะไม่แน่ใจนักว่าเฉียวเฉินเป็นเด็กคนนั้น แต่เธอรู้สึกว่ามีโอกาสถึงหกสิบเปอร์เซ็นต์ที่จะเป็นไปได้
เธอกังวลอยู่เสมอว่าลูกชายคนที่สองของเธอจะไม่มีลูก
ถ้าเฉียวเฉินเป็นลูกของเขาจริง ๆ เธอจะสามารถขจัดความกังวลของเธอได้
ดังนั้นเธอจึงต้องสืบเรื่องนี้ให้ชัด
แม้ว่าเธอจะคิดมากไป เธอก็ต้องสืบให้รู้เรื่องให้ได้
เหมาเยซื่อสังเกตเห็นเรื่องที่คุณผู้หญิงเหมาอาวุโสพูด
เฉียวเมียนเมียนและเฉียวเฉินไม่เหมือนกันจริง ๆ
“คุณย่าครับ อย่างกังวลใจเกินไปครับ” เหมาเยซื่อกังวลมากว่าหาก คุณผู้หญิงเหมาอาวุโสตื่นเต้นเกินไป อาการเจ็บป่วยที่เคยเป็นจะกลับมา เขานั่งลงข้าง ๆ เธอ จับมือเธอและพูดด้วยรอยยิ้มว่า “มันเป็นไปไม่ได้ เด็กคนนั้นถูกใครบางคนพาไปในตอนนั้น ไม่มีใครรู้ว่าเขาไปอยู่เสียที่ไหน”
“เขาอาจจะยังมีชีวิตอยู่”
“อาจจะเป็นเฉียวเฉิน”
“แต่อย่าตั้งความหวัง อย่าคิดมากกับเรื่องนี้จนเกินไปไ
เหมาเยซื่อคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้และพูดว่า “หลังจากกลับไปแล้ว ผมจะให้เว่ยเจิ้งหาคนไปสืบเรื่องนี้”
หญิงสูงวัยพยักหน้า “อืม ตรวจสอบอย่างละเอียด รอบคอบ อย่าเพิ่งทำให้เป็นที่เอิกเกริก”