1051-1052
1/8
Ep.1051
“ไม่ใช่ว่าเจ้าต้องไปเขตแดนลับมิติอยู่แล้วหรอกหรือ? ข้าว่าแค่เฉพะที่นั่นก็น่าจะมีแร่มากพอที่เจ้าต้องการแล้วนะ” ผู้สูงศักดิ์จินกวงกล่าว
“อ้อจริงด้วย”
ซูเฉินพยักหน้าว่าใช่ ตอนอยู่บนแผ่นดินใหญ่ ฉีมู่เฟิงเคยพูดเรื่องนี้กับเขา เล่าว่ามีสมบัติดีๆมากมายอยู่ในเขตแดนลับมิติ หากไม่ใช่เพราะถูกจินกวงย้ำเตือน ซูเฉินคงลืมเรื่องนี้ไปแล้ว
“เหล่าจิน ผมหมดธุระแล้ว ไว้เจอกันใหม่คราวหน้า” ซูเฉินกล่าวร่ำลา เตรียมตัวออกเดินทาง
เขารู้ที่อยู่ของหินแก่นแท้พลังงานแล้ว การเดินทางครั้งนี้นับว่าไม่สูญเปล่า จำต้องรีบกลับไปให้เร็วที่สุด เดี๋ยวจะไม่ทันเวลาเปิดเขตแดนลับมิติ
“เข้าใจแล้ว ไว้เจอกันใหม่”
ผู้สูงศักดิ์จินกวงถอนหายใจยาว ทุกวินาทีที่ซูเฉินยังอยู่ เขาหายใจไม่ทั่วท้อง เวลานี้ในที่สุดก็จะได้ผ่อนคลายเสียที
ซูเฉินเองก็ไม่พูดอะไรเช่นกัน หมุนตัวและเดินกลับมายัง [รถศึกอัจฉริยะ]
แต่ใครจะทันคิด ว่าเดินไปได้ไม่กี่ก้าว จู่ๆนกสำรวจก็ร้องเตือนขึ้น “เจ้านาย! มีผู้แข็งแกร่งกำลังใกล้เข้ามาหาพวกเรา”
“แข็งแกร่งแค่ไหน?”
แม้เอ่ยปากถาม แต่ดูเหมือนซูเฉินจะไม่ค่อยใส่ใจมากนัก
“ดูเหมือนจะเป็นระดับเทวะขั้น 7” นกสำรวจตอบด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ
ระดับเทวะขั้น 7?
หางตาของซูเฉินกระตุกทันที หากต่ำกว่าระดับเทวะขั้น 6 เขาคงไม่สนใจ แต่ระดับเทวะขั้น 7 นับว่ามีโอกาสเป็นภัยคุกคามแก่เขา
อย่างไรก็ตาม อีกฝ่ายมาหาเขาใช่หรือไม่ เรื่องนั้นยังไม่แน่ใจ
ไม่นาน ยานอวกาศสีทองก็ปรากฏขึ้นในสายตา ความเร็วของมันไวมาก เมื่อเทียบกับ [รถศึกอัจฉริยะ] แล้วไม่ด้อยกว่ากันเลย
“เป็นโม่ชางไห่แห่งเขาเป่ยลู่! ทำไมเขาถึงมาที่นี่?”
สีหน้าของจินกวงหมองลงถนัดตา กล่าวด้วยน้ำเสียงเคร่งเครียด
นั่นเพราะโม่ชางไห่ไม่ได้เป็นแค่ ระดับเทวะขั้น 7 เท่านั้น แต่อีกฝ่ายยังมีหุ่นเชิด ระดับเทวะขั้น 6 อยู่กับตัว สามารถเรียกได้เลยว่าเป็นผู้ครอบครองกำลังรบที่แข็งแกร่งเป็นพิเศษ
การปรากฏตัวอย่างกะทันหันของเขา ทำให้ผู้สูงศักดิ์จินกวงเกิดความไม่สบายใจ
ซูเฉินไม่รีบร้อนจากไป เขาชักเริ่มมั่นใจแล้วว่าโม่ชางไห่คงมาหาเขาแน่ๆ
ซึ่งถ้าเป็นเช่นนั้น ต่อให้เขาขึ้นรถออกเดินทาง สุดท้ายก็จะถูกอีกฝ่ายขวางอยู่ดี
ยิ่งไปกว่านั้น เขาอยากดูเหมือนกันว่าจะเกิดอะไรขึ้นต่อไป
หลังจากยานอวกาศทองคำบุกมาถึง ประตูห้องโดยสารก็เปิดออกทันที ชายชราคนหนึ่งก้าวออกมาจากข้างใน
ชายชราหรี่ตาลง เบนมองไปรอบๆ ก่อนหยุดลงบนร่างซูเฉิน กล่าวเสียงเย็น “เจ้าคือซูเฉิน?”
“ถ้าใช่แล้วจะทำไม?” ซูเฉินกล่าวอย่างไม่แยแส
“เราผู้เฒ่ามาเยือนเพราะมีสองเรื่องต้องจัดการ หากเจ้ายอมตกลง ข้าจะไม่ทำให้เจ้าต้องลำบากใจ” โม่ชางไห่กล่าวเสียงเป็นธรรมชาติ
“ลองว่ามาสิ” ซูเฉินถูจมูกตัวเอง กล่าวอย่างใจเย็น
แม้ฝ่ายตรงข้ามจะเป็นถึง ระดับเทวะขั้น 7 แต่เขากลับไม่มีท่าทีหวาดกลัวแม้แต่น้อย นั่นเพราะเขาสะสมแต้มพลังงานไว้เป็นจำนวนมาก สามารถแลกเปลี่ยนชิ้นส่วนเพื่อยกระดับฐานฝึกตนขึ้นเป็น ระดับเทวะขั้น 5 ได้ทุกเวลา
“สมแล้วกับสมญานามเทพสังหาร นับว่าพอมีความกล้าอยู่บ้าง”
เมื่อเห็นท่าทีของซูเฉินยังสงบเยือกเย็น โม่ชางไห่ปรบมือชมเชย จากนั้นกล่าวต่อว่า “มอบหุ่นเชิดทองคำและสมบัติที่นักพรตเทียนซ่านต้องการมา แล้วข้าจะไว้ชีวิตเจ้า”
“นักพรตเทียนซ่านส่งแกมา?”
ดวงตาของซูเฉินค่อยๆหรี่ลง ในแววตาทอประกายเย็นยะเยือก
หากอีกฝ่ายถูกเทียนซ่านส่งมาจริงๆ เขาจะไม่มีทางปล่อยมันไปอย่างแน่นอน
“เจ้าไม่จำเป็นต้องรู้เรื่องนี้ แค่บอกมาว่าจะให้หรือไม่ก็พอ” โม่ชางไห่แค่นเสียงเย็น กล่าวด้วยสีหน้าดุร้าย
ในเวลาเดียวกัน แรงกดดันมหาศาลแพร่กระจายออกจากร่างเขา
ผู้สูงศักดิ์จินกวงได้รับผลกระทบนี้ ชักฝีเท้าถอยไม่หยุด
ฉีมู่เฟิง และคนอื่นๆใน [รถศึกอัจฉริยะ] สีหน้าของพวกเขาแปรเปลี่ยนไป
ทั้งหมดสังเกตเห็นแล้ว ว่าโม่ชางไห่คือตัวตนระดับเทวะขั้น 7 ซึ่งนั่นสูงกว่าซูเฉินถึง 3 ระดับ เช่นนั้นแล้วซูเฉินจะเป็นคู่ต่อสู้ได้หรือไม่?
ณ ขณะนี้ ทั้งหมดอดกังวลขึ้นมาไม่ได้
2/8
Ep.1052
“ก็แล้วถ้าฉันไม่ให้ แกจะทำไม?” ซูเฉินพ่นลมหายใจ
“ในเมื่อไม่รู้จักชั่วดี เช่นนั้นเราผู้เฒ่าคงต้องกุดหัวเจ้า!!”
โม่ชางไห่สีหน้าบึ้งตึง ในดวงตาทอประกายเย็นวาบ แสดงท่าทีราวกับสามารถกลืนกินซูเฉินได้ทั้งตัว
จะกุดหัวฉัน?
ซูเฉินเบ้ปาก กล่าวเหยียดหยาม “น่ากลัวว่าแกคงไม่มีโอกาสนั้น”
สิ้นเสียง ร่างของเขาขยายใหญ่ขึ้น เมื่อสูงถึงสิบจั้ง เขาใช้แต้มพลังงาน 200,000 เพื่อแลกเปลี่ยน [คุณสมบัติเลเวล 16 อย่างเต็มรูปแบบ] ทันที
ด้วยเหตุนี้เอง ระดับฐานฝึกตนของเขาจึงทะยานขึ้นเป็น ระดับเทวะขั้น 6
“วาจาใหญ่โต! คิดว่าด้วยกำลังรบอันน้อยนิดของเจ้าจะสามารถจองหองต่อหน้าข้าได้หรือ? วันนี้เราผู้เฒ่าจะสอนให้ได้รู้ ว่าความแข็งแกร่งที่แท้จริงคืออะไร!”
โม่ชางไห่แผดเสียงเย็น ขณะที่กำลังจะลงมือ ทันใดนั้นฝีเท้าเขากลับชะงักไป
ระหว่างนี้ เขาสัมผัสถึงกลิ่นอายที่ซูเฉินปลดปล่อยออกมาได้อย่างชัดเจน ว่ามันบรรลุถึงระดับเทวะขั้น 6 แล้ว
ยังไงก็ตาม ข้อมูลที่ได้รับมาก่อนหน้านี้ ระบุไว้อย่างชัดเจนว่าซูเฉินอยู่แค่ระดับเทวะขั้น 4 เท่านั้น ต่อให้ใช้วิชาแปลงร่างก็ขยับมาได้ถึงขั้น 5 เท่านั้น แล้วไฉนตอนนี้มันถึงขึ้นเป็น ระดับเทวะขั้น 6 เล่า?
อย่าบอกนะว่าซูเฉินซ่อนระดับฐานฝึกตนเอาไว้?
เมื่อฉุกคิดได้ถึงเรื่องนี้ หนังศีรษะของโม่ชางไห่ด้านชา เขาเคยได้ยินเรื่องความสามารถในการต่อสู้ของซูเฉินมาก่อน ว่าสามารถสังหารศัตรูข้ามขั้นได้ราวกับพลิกฝ่ามือ
ในตอนแรก เหตุผลที่เขากล้าบุกเข้ามาหาซูเฉิน เป็นเพราะเขามีฐานฝึกตนสูงกว่าซูเฉินถึงสองขั้น เลยคิดว่าสามารถบดขยี้ซูเฉินได้อย่างง่าดาย
แต่สถานการณ์ในปัจจุบัน ซูเฉินเป็น ระดับเทวะขั้น 6 แล้วเขาจะบดขยี้ซูเฉินได้อย่างไร? ดีไม่ดีชีวิตน้อยๆของเขาอาจต้องจบลงที่นี่
“ซูเฉินตัดผ่านไปได้อีกขั้นแล้ว!”
สีหน้าของจินกวงตกตะลึงอย่างหาที่เปรียบมิได้ ตามข้อมูลที่เขารวบรวมไว้ก่อนหน้านี้ ในงานประลองระดับดวงดาว ซูเฉินเพิ่งตัดผ่านสู่ ระดับเทวะขั้น 4 เท่านั้น ซึ่งมีพยานหลายคน ข้อมูลไม่น่าจะผิดพลาด
นั่นหมายความว่า ซูเฉินใช้เวลาเพียงไม่กี่วัน ก็สามารถทะลวงอุปสรรค ยกระดับไปอีกขั้น
แต่สิ่งที่เขาไม่เข้าใจก็คือ การยกระดับของเหล่าเทวะนั้น แต่ละขั้นต้องใช้เวลาหลายสิบหรือหลายร้อยปีในการตัดผ่าน ทว่าความเร็วในการเลื่อนขั้นอันน่าสะพรึงเช่นซูเฉิน เป็นอะไรที่ไม่เคยได้ยินมาก่อนเลย!
หากมีคนถามว่าสัตว์ประหลาดที่มากพรสวรรค์ที่สุดในโลกคือใคร คำตอบคงมีเพียงหนึ่งเดียว
หลังจากที่รู้ว่าซูเฉินเลื่อนขั้นแล้ว ฉีมู่เฟิงและคนอื่นๆตื่นเต้นมาก ความกังวลในใจพลันสลายไป
“นี่เจ้า ... ซ่อนกำลังรบเอาไว้อย่างนั้นหรือ?”
โม่ชางไห่เหม่อมองซูเฉิน มุมปากของเขาเริ่มสั่นระริก ไม่คาดฝันเลยว่าซูเฉินจะสามารถยกระดับได้ในช่วงระยะเวลาสั้นๆ
เขาจึงตั้งข้อสันนิษฐานว่าซูเฉินน่าจะซ่อนระดับฐานฝึกตนไว้
“นั่นไม่ใช่เรื่องที่แกต้องสนใจหรอก” ซูเฉินยิ้มดูแคลน จากนั้นกล่าวยั่วยุว่า “แกมาเพื่อฆ่าฉันไม่ใช่หรอ มัวรออะไรอยู่ รีบลงมือซักทีสิ ฉันรอจนเมื่อยแล้ว”
โม่ชางไห่กลืนน้ำลาย กล่าวด้วยน้ำเสียบสั่นเครือ “ซูเฉิน ข้าแค่ล้อเจ้าเล่น ขออย่าได้ถือสา”
ซูเฉินได้มาถึง ระดับเทวะขั้น 6 แล้ว เขาย่อมไม่กล้าลงมือกับซูเฉิน ได้แต่พูดดีๆด้วยเท่านั้น และภาวนาให้ซูเฉินไม่ถือสาเขา
ได้ยินแบบนั้น ดวงตาของจินกวงสาดประกายดูแคลน
ก่อนหน้านี้โม่ชางไห่ทำตัวหยิ่งผยองมาก เอาแต่พูดว่าจะฆ่าซูเฉิน แต่หลังจากรู้ว่าซูเฉินยกระดับ ก็พลิกลิ้นทันที ช่างเป็นความเสื่อมเสียเกียรติของ ระดับเทวะขั้น 7 นัก
แม้แต่ศักดิ์ศรีของตัวเองก็ยังไม่เหลือไว้ นี่มันเรื่องไร้สาระอะไรกัน?
ซูเฉินแค่นเสียงหัวเราะ กล่าวอย่างเฉยเมย “ในเมื่อแกไม่กล้าลงมือ ถ้างั้นฉันไม่เกรงใจแล้วนะ!”
สิ้นเสียง เขาขยับเท้าวูบ กลายเป็นเส้นแสงดาราพรั่งพราว พุ่งตรงเข้าสังหารโม่ชางไห่
“จะรังแกกันมากเกินไปแล้ว!”
โม่ชางไห่กัดฟันแน่น คว้าอากาศที่ว่างเปล่า เรียกแท่งเหล็กที่ทอประกายดวงดาราระยิบระยับออกมา พุ่งเข้าหาซูเฉิน
ในเมื่อซูเฉินไม่คิดปล่อยเขาไป เช่นนั้นโม่ชางไห่ก็ไม่เหลือทางอื่นนอกจากสู้ตาย!