บทที่ 41 การอัพเกรดกำแพง
บทที่ 41 การอัพเกรดกำแพง
“กำแพง,หอก,หิน…” มู่เฟิง พึมพำเบาๆ
สิ่งที่เขาต้องทำในตอนนี้คือพยายามคิดหาวิธีรับมือให้มากที่สุดเพื่อป้องกันเผ่ามังกรเหมิงที่อาจจะหวนคืนกลับมา
ตามหลักแล้วเผ่า มังกรเหมิง ได้ปล้นขนสัตว์ของพวกเขาไป และขโมยเปลวไฟศักดิ์สิทธิ์ แม้แต่โถหินและกระบองของเผ่าก็ถูกปล้นเอาไปไม่น้อย เผ่าต้าเจียงสูญเสียเป็นอย่างมาก
แต่เมื่อคืนหลี่หูได้พูดกังวลว่ายังมีอีกเรื่องนึงที่เขารู้สึกกังวลก็คือ ผู้หญิง!
มู่เฟิงตื่นจากภวังค์
ในชีวิตก่อนของเขา เขาได้ศึกษาประวัติศาสตร์และได้ข้อมูลการต่อสู้ระหว่างชนเผ่าดึกดำบรรพ์จะเกิดขึ้นจาก 3 ปัญหา นั่นคือ อาหาร ดินแดน และผู้หญิง!
อาหารสำหรับกิน ดินแดนมีไว้สำหรับอยู่อาศัย และผู้หญิงเพื่อผสมพันธุ์และสืบพันธุ์ลูกหลานต่อไป
ในสถานการณ์เช่นนี้ มู่เฟิง ไม่อนุญาตให้เกิดขึ้นเด็ดขาด! ดังนั้นเขาจึงหาวัตถุดิบให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้เพื่อเตรียมการป้องกันให้พร้อม และรับมือกับสถานการณ์การปล้นรอบต่อไปจากเผ่า มังกรเหมิง ที่อาจจะมาถึง
นอกจากมาตรการป้องกันแล้วเขายังจำเป็นต้องเข้าใจถึงความแข็งแกร่งของเผ่า มังกรเหมิง ดังนั้นเขาจึงเรียกหลี่หูที่กำลังยุ่งอยู่มาหา
“หลี่หู ความแข็งแกร่งของเผ่า มังกรเหมิง เป็นเช่นไรบ้างพวกเขามีกี่คน?”
“ทั้งเผ่าของพวกเขามีประชากรมากกว่า 600 คน และชายหนุ่มกว่า 260 คนที่สามารถต่อสู้ได้!” หลี่หูตอบตามตรง
“มีคนมากกว่า 260 คน แต่เผ่าของเรามีเพียง 120 คนเท่านั้นที่สามารถต่อสู้ได้…” มู่เฟิง พึมพำเบาและถอนหายใจด้วยความโล่งอก
“อย่างน้อยก็มีไม่มากนัก”
“อะไรนะ?”หลี่หูตกใจ “พวกเขามีมากกว่าพวกเราต่างหาก!”
“ไม่เป็นไร!” มู่เฟิง พูดด้วยสีหน้าผ่อนคลาย
“อาวุธที่พวกเขาใช้คืออะไร?”
“กระบองหิน กระบองกระดูก มีอะไรหรอ?”หลี่หูถามขึ้นโดยไม่รู้ตัว
“อืม งั้นก็ดี!” มู่เฟิงคิดในใจ “วางใจเถอะหากคนของเผ่า มังกรเหมิง กล้ากลับมาที่นี่พวกเราจะสามารถเอาชนะเขาได้อย่างแน่นอน!”
“เป็นไปได้งั้นหรือ?” หลี่หู อยากถามประโยคนี้แต่ไม่กล้าส่งเสียงออกมา ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า มู่เฟิง ที่เพิ่งเป็นหัวหน้าเผ่าเพียงไม่กี่วันก็เกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ให้กับเผ่า ทั้งเรื่องอาหารการกินได้รับการแก้ไขแล้วอีกทั้งเรื่องไฟศักดิ์สิทธิ์ก็เช่นกัน
แต่ว่าคน 260 คนจากเผ่า มังกรเหมิง เป็นชายหนุ่มที่แข็งแรงมาก! เผ่าของพวกเขามีคนเพียง 120 คน จะจัดการคนที่มากถึง 200 ได้อย่างไร ไม่ว่าคิดอย่างไรก็ไม่มีทางชนะ
“หัวหน้าเผ่า!” หลี่หู กล่าวขึ้นด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำ
“หากครั้งนี้เราเอาชนะเผ่ามังกรเหมิง ไม่ได้ ข้าจะปกป้องเผ่าของเราเองส่วนพวกเจ้าจงหนีไป เมื่อถึงเวลานั้นข้าหวังว่าท่านจะพา ไป๋หยา และคนของเผ่าออกไปจากที่นี่และอพยพไปทางทิศตะวันออก!”
มู่เฟิง ขมวดคิ้วส่ายหัวและยิ้ม “ท่านลุงหลี่หู เผ่ามังกรเหมิง ยังไม่มา ทำไมท่านถึงเกรงกลัวถึงขนาดนี้?อีกอย่างพวกเราก็ได้ทำการป้องกันเอาไว้แล้วไม่ใช่หรอกหรือ?อีกอย่างก็ไม่แน่นอนซะหน่อยว่าพวกเขาจะมา!”
“ไม่! พวกมันต้องมาแน่ เผ่าต้าเจียงของเราเปรียบเสมือนเนื้อชิ้นหนึ่งสำหรับพวกมันไปแล้ว พวกมันจะต้องกลับมาในไม่ช้าก็เร็ว!”
มู่เฟิง ยิ้มออกมาอีกครั้งและกล่าวว่า
“วางใจเถอะ หากพวกมันมาจริงๆข้าสามารถขับไล่คนพวกนั้นไปได้!”
“เป็นไปได้ยังไง?” ในที่สุดหลี่หูก็ถามคำถามนี้ออกมา
“วางใจเถอะ เชื่อข้า!” มู่เฟิง ตบไหล่เบาๆของ หลี่หู หลี่หูพยักหน้าเชื่อใจอย่างจริงจัง แรงงานทั้งหมดของเผ่าต้าเจียง ได้ลงมือพร้อมกันและไม่นานก็สามารถสร้างกำแพงป้องกันขึ้นที่ทางออกเดียวของเผ่า กำแพงป้องกันประกอบด้วย 3 ชั้น ด้านในสุดทำจากหินและปูนด้วยโคลนทั้งหนาและแข็งแรง
ชั้นกลางเป็นรั้วไม้ เพียงไม่กี่วันก็จะแตกหน่อเชื่อว่าอีกไม่นานกิ่งก้านก็จะสูง
ชั้นนอกสุดเป็นเถาวัลย์หนามที่งอกออกมา หนามแหลมยาวประมาณ 1 นิ้ว ปีนขึ้นเต็มรั้วต้นไม้ปกคลุมอย่างหนาแน่นไม่สามารถเข้ามาได้
ความสูงของกำแพงป้องกันมีความสูงถึง 2 เมตร เมื่อปิดกั้นทางเข้าของเผ่าทำให้ทุกคนรู้สึกสบายใจมากยิ่งขึ้น ด้านหลังกำแพงมีก้อนหินขนาดเท่ากำปั้นวางอยู่ ข้างก้อนหินมีกองหอกไม้ไผ่ยาวประมาณ 2 เมตรตัดปลายแหลม
เมื่อเห็นว่าทุกอย่างครบเสร็จสิ้นแล้ว มู่เฟิง ก็ให้หลี่หูและคนอื่นๆ ทำหุ่นฟางเอาไว้ด้านหน้ากำแพงข้างนอกเผ่าประมาณ 30 เมตร
“หลี่หูพาคน 20 คนไปจัดการกับเรื่องนี้!” มู่เฟิง ออกคำสั่ง
“รับทราบ อุกะอุกะ” หลี่หูหันไปสั่งคน 20 คน
มู่เฟิง พยักหน้า “ตอนนี้พวกเจ้าลองหยิบหอกไม้ไผ่ขึ้นมาแล้วลองขว้างออกไป ดูซิว่าพวกเจ้าสามารถขว้างออกไปข้างนอกได้หรือไม่
“แต่กำแพงกั้นพวกเราทำให้เรามองไม่เห็น!” มีคนคนหนึ่งพูด
“ไม่ต้องสนใจหรอกแค่โยนมันออกไปก็พอ!” มู่เฟิง กล่าว
พร้อมกันนั้นเขาก็หยิบหอกไม้ไผ่ขึ้นมาและเขวี้ยงออกไปนอกกำแพงด้วยมือข้างเดียว
“ในเวลาเดียวกันเขาก็ตะโกนว่า”ขว้างหอก!”
คน 20 คนที่อยู่ด้านหลังลงมือพร้อมกันหอกไม้ไผ่ 20 อันบินออกไปหลังจากผ่านกำแพงบนสุดเห็นได้ชัดว่าไม้ไผ่ตกอยู่ในระยะใกล้กำแพง
มีเสียง “ฉึก” ดังมาจากด้านนอก และมีเสียง “ฟุบ” เพียงแค่ 3 เสียงเท่านั้น
มู่เฟิง ขมวดคิ้ว “ถูกแค่ 3 คนนั้นหรอ!”
จากนั้นเขาก็มองไปที่หลี่หู “ท่านออกไปดูว่ามีไม้ไผ่ปักบนหุ่นฟางที่ปักเอาไว้เท่าไหร่”
หลี่หูรีบวิ่งออกไปนอกกำแพงแล้วพบกับไม้ไผ่ที่ปักลงหุ่นฟาง 3 ตัว
มู่เฟิง ขมวดคิ้วแล้วกล่าวว่า “ดึงออกจากหุ่นฟางเหล่านั้นแล้วมาลองอีกครั้ง!”
หลี่หูทำตาม มู่เฟิง ยังคงเป็นผู้นำในการขว้างหอกต่อไป
“ไม่ได้เอาใหม่!”
หลี่หูพาคนออกไปดูหุ่นฟางอีกครั้ง หลังจากที่ มู่เฟิง ขว้างหอกไป ครั้งนี้มีปักอยู่บนหุ่นฟาง 4 ตัว
มู่เฟิง ยังคงให้หลี่หูทำหุ่นฟางเพิ่มขึ้นอีกหลายสิบตัว ประมาณเกือบ 100 ตัววางกระจัดกระจายอยู่นอกกำแพงจากนั้น มู่เฟิง ก็พาคนทดสอบการขว้างหอกอีกครั้ง
คราวนี้เขาใช้คนมากกว่า 50 คนและจำนวนที่หอกไม้ไผ่แทงหุ่นฟางเพิ่มขึ้นเป็น 10
หลังจากการทดลองซ้ำแล้วซ้ำเล่า ก็ยังคงเป็นเช่นเดิม มู่เฟิง ประเมินคร่าวๆว่าอัตราความแม่นยำมีเพียงประมาณ 10 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น!หรือจะให้พูดอีกอย่างก็คือ หากโยนผ่านกำแพงสูง 2 เมตรสายตาจะถูกขัดขวางและ จำนวนที่จะถูกหอกแทงนั้นมากที่สุดแค่ 10 จุด เท่านั้น
และยังมีอีกข้อหนึ่งก็คือ หุ่นฟางอยู่กับที่ในขณะที่คนขยับตัวอยู่ตลอดเวลา…