ตอนที่แล้วบทที่ 30 การรักษาชีวิตคน 
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 32 เข้าไปในภูเขาเพื่อหาผักป่า

บทที่ 31  มอบดาบรับคน


บทที่ 31  มอบดาบรับคน

สิ่งที่ต้องการทำก็คือซุปไก่ เพราะตอนนี้ร่างกายของ ซั่วเฟิง  เหมาะสมที่สุดที่จะดื่มน้ำซุปไก่เพื่อบำรุงร่างกาย

ตอนที่ต้มน้ำซุปไก่หอมกรุ่นไปทั่วถ้ำ  หมิงกวง และภรรยาอดไม่ได้ที่จะเดินเข้ามาหา มู่เฟิง แล้วถามว่า

“มู่เฟิง นี่คือ การตุ๋น ที่เจ้าพูดถึงนั้นหรอ?มันหอมมาก!”

“ใช่!”  มู่เฟิง หยิบชามหินขนาดเล็กขึ้นมาเทน้ำซุปให้เต็ม แล้วดึงน่องไก่ 2 ข้างมาวางไว้ในชาม  จากนั้นยกมันเดินตรงไปหา ซั่วเฟิง

“ซั่วเฟิง  มันร้อนนิดหน่อยระวังด้วย!”

ในใจของเขากับคิดว่า “น่าเสียดาย ไม่มีต้นหอม ขิงกับเห็ดหอมไม่อย่างนั้นจะหอมกว่านี้!”

ในตอนนั้นเองสมองของเขาพลันเปล่งประกายขึ้นมา

“ใช่แล้ว ต้นหอม ขิง กระเทียม และเห็ด สิ่งเหล่านี้สามารถทำเป็นเครื่องเทศและอาหารได้!”

ในใจของเขาเกิดความคิดดีๆในใจทันที

ซั่วเฟิง ได้กลิ่นหอมมานาน  เขาดึงน่องไก่และจับมันไว้ในมือสูดดมกลิ่นหอมจากนั้นก็กัดมัน!”

แค่คำนี้ก็แทบทำให้น่องไก่ทั้งขาถูกกัดเข้าไปในป่า เขาแลบลิ้นออกมาเพราะความร้อน

ถึงกระนั้นนี่เป็นครั้งแรกที่ซั่วเฟิง ได้ลิ้มรสความอร่อย เช่นนั้นเขาจึงแทบจะกินโดยไม่พูดไม่จา เคี้ยวคำใหญ่ๆเข้าไป 2 คำแล้วกลืนลงคอ

มู่เฟิง รู้สึกหมดหนทาง และคิดถึงไก่ที่มันกินเศษเนื้อปลาโดยไม่มีการเคี้ยว เหมือนกับ ซั่วเฟิง ในตอนนี้

จากนั้นเขาก็ละทิ้งความคิดนี้ออกไปเนื่องจากมนุษย์และสัตว์ป่าไม่เหมือนกัน ขณะที่ มู่เฟิง กำลังถอนหายใจ  ซั่วเฟิง ก็กินน่องไก่อีกข้างลงไป จากนั้นก็ยกชามหินขึ้นมาดมน้ำต้มไก่ แล้วเงยหน้าดื่มจนหมด

ดูจากท่าทางของเขาแล้วเหมือนน้ำซุปไก่ไม่ร้อน แต่เหมือนเขาเทลงตรงสู่ท้องราวกับไม่ต้องผ่านปาก

“ยังมีอีกหรือไม่?”  ซั่วเฟิง เพิ่งดื่มน้ำซุปหมดในพริบตาและยังคงไม่พอใจก่อนจะมองไปที่ มู่เฟิง

“มี!”  มู่เฟิง ถือชามหินหันไปตักน้ำซุปให้เขาและนำไก่ที่เหลือทั้งหมดมาให้ซั่วเฟิง

ซั่วเฟิง ก็ไม่เกรงใจเช่นกันเขากินเนื้อหมดราวกับพายุทอร์นาโดและดื่มน้ำซุปจนหมด

มู่เฟิง ตกตะลึง ไก่ 1 ตัวมีน้ำหนักไม่น้อยกว่า 7-8 จิน บวกกับน้ำซุปโถใหญ่ แต่ ซั่วเฟิง สามารถกินหมดได้เพียงคนเดียว!

ไม่ใช่ว่าเขาสงสารไก่แต่เป็นเพราะที่ปริมาณมากขนาดนี้ ซั่วเฟิง เอาท้องไปไว้ที่ไหน แต่ก็เห็นได้ชัดว่าเขาคิดมากเกินไป   ซั่วเฟิง ที่กินอิ่มหนำสำราญลูบท้องของตัวเองและผายลมออกมา จากนั้นเขารีบลุกขึ้นจากเตียงเอามือปิดจมูกและกล่าวว่า “ออกไปพูดข้างนอกกัน!”

มู่เฟิง มองไปที่ ซั่วเฟิง ด้วยความประหลาดใจ “เจ้าไม่ต้องการพักผ่อนแล้วหรือ?”

“ไม่! กินอิ่มขนาดนี้ถ้ายังคงนอนอยู่มันจะแน่นอึดอัด!”  ซั่วเฟิง ส่ายหัว

“ข้าไม่เป็นไร!”

หมิงกวง เดินติดตามมาด้านหลังด้วยความตกใจ อีกทั้งเขายังมั่นใจเกี่ยวกับคาถาที่ มู่เฟิง ใช้ ยิ่งเห็นลูกชายอาการดีขึ้นเช่นนี้ดวงตาของเขายิ่งเป็นประกายมากขึ้นเท่านั้น

ซั่วเฟิง ออกมาจากถ้ำสูดอากาศบริสุทธิ์เข้าไปอีกใหญ่

“วางใจเถอะมังกรขนดอกที่ข้ากินเข้าไปจะไม่เสียเปล่า ข้าจะไปตีอีกตัวมาคืนเจ้า!”

มู่เฟิง ไม่ใส่ใจ เขาส่ายหัวและกล่าวว่า “ไม่จำเป็น!”

“อะไรไม่จำเป็น ข้ารู้ว่ามังกรขนดอกนั้นจับได้ยากข้าจะชดใช้ให้กับเจ้าอย่างแน่นอน!”  ซั่วเฟิงพูดขณะยืดหลังตรง

“แต่ตอนนี้ในเผ่ามีมากกว่า 100 ตัว!” มู่เฟิง ยิ้มและพูดขึ้น

“เป็นไปได้ยังไง  100 กว่าตัวเจ้าโกหกข้าใช่ไหม?”

“ข้าจะโกหกเจ้าทำไม?”  มู่เฟิง หัวเราะและส่ายหัว

“ไปดูด้วยตาตนเองแล้วจะรู้!”

ซั่วเฟิง เดินตาม มู่เฟิง ไปยังภูเขาทางเหนือ หมิงกวงไม่ได้ตามมาเห็นได้ชัดว่าเขาวางใจในทั้งสองคน เมื่อทั้งสองมาถึงกรงไก่  ซั่วเฟิง มองดูไก่ที่อยู่ในกรงด้วยความประหลาดใจจนพูดไม่ออก  และเขามองไปที่แกะป่าที่อยู่ในคอกแกะแล้วถามอย่างไม่แน่ใจ

“สิ่งเหล่านี้ถูกจับในช่วง 2 -3 วันที่ข้าสลบอยู่อย่างนั้นหรอ?”

“ใช่!” มู่เฟิง ยิ้มและพยักหน้า

“เป็นอย่างไรบ้างเจ้าเชื่อหรือยัง?”

“เชื่อแล้ว!” ซั่วเฟิง มองไปที่แกะป่าและไก่ดวงตาของเขาเป็นประกาย  มู่เฟิง พันนึกได้ว่าวันนี้เขาต้องการไปหา หมิงกวง  เพื่อสอบถามบางอย่าง ตอนนี้เขามองไปที่เด็กหนุ่มตรงหน้าด้วยดวงตาเป็นประกายและถามว่า “ซั่วเฟิง  ซุปเมื่อครู่อร่อยไหม?”

“อร่อยมาก!” ซั่วเฟิง ยิ้ม

“ข้าไม่เคยกินอะไรอร่อยๆแบบนี้มาก่อน!”

“อืม แต่ถ้าข้าสามารถใส่อย่างอื่นได้อีกรสชาติจะยิ่งอร่อยยิ่งขึ้น!”

“หา ยังอร่อยได้กว่านี้อีกหรอ?”  ซั่วเฟิง ประหลาดใจและรีบถามทันที

“มันคืออะไร?”

“เอ่อ มันคือเครื่องเทศ อย่างเช่น ต้นหอม เห็ด หรืออะไรทำนองนั้น”

“เครื่องเทศ...เห็ด?” ซั่วเฟิง เผยสีหน้าที่ไม่เข้าใจ

“ไปเอามาจากไหนล่ะ?”

มู่เฟิง รู้สึกยินดีที่ ซั่วเฟิง ให้ความสนใจกับคำพูดของเขาเขายิ้มและพูดว่า

“มีป่าและภูเขาอยู่ข้างนอก!ดังนั้นเราสามารถออกค้นหาที่นั่น!”

ซั่วเฟิง เข้าใจความหมายของ มู่เฟิง ทันที “เจ้าหมายความว่าเจ้าจะเข้าไปในป่างั้นหรือ?แต่ในป่ามันอันตรายเกินไปมันมีสัตว์ดุร้ายและเราไม่มีอาวุธ!”

เขาหมายความว่ามีสัตว์ป่ามากมายและมีอันตรายอยู่ข้างนอกแต่ถ้าเขามีอาวุธเขาก็กล้าที่จะออกไป

มู่เฟิง เข้าใจเขาเป็นอย่างดีและสิ่งที่รออยู่ก็คือประโยคนี้ของเขานั่นเอง

“ทำไมจะไม่มี?” เขาพลิกมือออกมา ในมือถือมีดสั้นเหล็กขนาดเท่าแขนเล่มหนึ่ง

“นี่...นี่มัน!”

“นี่คือ..”  ซั่วเฟิง หายใจถี่ “นี่คืออาวุธระดับทอง!มันเป็นมีดที่คมที่สุด!”

เขามองไปที่ มู่เฟิง อย่างไม่เชื่อ “เจ้าได้มันมาจากไหน?”

ไม่รอให้ มู่เฟิง ตอบเขาถามขึ้นอย่างร้อนรนว่า

“นี่สำหรับข้าหรอ?”

มู่เฟิง ยิ้มและพยักหน้ามอบมีดให้กับเขา   ซั่วเฟิง ที่รับมีดมามีกลิ่นอายที่เปลี่ยนไปอย่างฉับพลันใบหน้าพร้อมดำคล้ำใช้แววมั่นใจและดุร้าย เขาเลียริมฝีปากและกล่าวว่า “ด้วยอาวุธระดับทองอันนี้ข้าจะพาเจ้าเข้าไปในป่า!”

มู่เฟิง มองและพยักหน้าด้วยรอยยิ้ม ในใจของเขาเต็มไปด้วยความเจ็บปวด

“แม่ง มีดเล่มนี้ราคาตั้ง 200 คะแนน!”