ตอนที่แล้วบทที่ 27  การรู้แจ้ง
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 29 เผ่าต้องแข็งแกร่งขึ้น

บทที่ 28 การเลี้ยงไก่เป็นงานทางเทคนิค


บทที่ 28 การเลี้ยงไก่เป็นงานทางเทคนิค

“ทำกรงไก่?”ทุกคนมองไปที่ มู่เฟิง ด้วยความสับสน  ไป๋หยาที่อยู่ในฝูงชนเงยหน้าขึ้นดวงตาที่เหมือนดวงดาวเต็มไปด้วยความสงสัย

“พี่ มู่เฟิง  กรงไก่คืออะไร?”

“กรงไก่ใช้เพื่อขังไก่เอาไว้!”  มู่เฟิง ชี้ไปที่คอกแกะ

“สถานที่เลี้ยงแกะเรียกว่าคอกแกะ สถานที่เลี้ยงไก่เรียกว่ากรงไก่!”

เขาหยุดครู่นึงและพูดต่อ “ไก่พวกนี้ยังไม่เคยถูกเลี้ยงดังนั้นจึงไม่สามารถใส่กรงเล็กๆได้ต้องใส่กรงขนาดใหญ่”

“กรงไก่ขนาดใหญ่?ทำไมล่ะ?”  ไป๋หยา ขมวดคิ้วนางเอง แต่คิดไม่ออก

“เพราะพวกมันเคยอยู่ป่า จู่ๆก็สูญเสียอิสรภาพแล้วถูกขังเอาไว้ หากเป็นพื้นที่ที่แคบเกินไปจะทำให้พวกมันรู้สึกหงุดหงิดและตายได้!”  มู่เฟิง อธิบายด้วยรอยยิ้ม

“โกรธจนตาย?”  ไป๋หยา ตกตะลึง คิ้วขมวดเป็นปมใบหน้าเต็มไปด้วยความไม่เข้าใจดูน่ารักยิ่งขึ้น

“เอิ่ม ก็อย่างเช่นว่าถ้าสถานที่อยู่ของมันเล็กเกินไปพวกมันจะไม่กินอาหารและพวกมันก็จะอดตาย!”

“ไก่มีความรู้สึกโกรธด้วยหรอ?” ไป๋หยา มองไปที่ไก่ที่ถูกผูกอยู่ในตอนนี้ด้วยความสงสัยเต็มไปด้วยความเหลือเชื่อ

มู่เฟิง ฟังแล้วหัวเราะส่ายหัวและคิดในใจ “การเลี้ยงไก่เป็นงานทางช่างเทคนิค!” ที่จริงแล้วสิ่งที่เขาพูดนั้นเป็นความจริง ในสมัยก่อนเขาเคยจับไก่ป่าได้ ไม่ว่าจะเอาไปใส่ในกรงไก่ให้อยู่ตัวเดียวหรือรวมกับไก่บ้าน เพียงไม่นานพวกมันจะไม่กินไม่ดื่มและอดตาย

แต่ถ้ามันสามารถอยู่ในพื้นที่ที่กว้างขวางไม่ว่าจะอยู่เดี่ยวหรืออยู่แบบกลุ่มก็จะสามารถรอดชีวิตไปได้

นี่คือเหตุผลของเขา สำหรับการเลี้ยงไก่ เขามีประสบการณ์ที่ยากจะจินตนาการ

“เอาล่ะทุกคนตอนนี้ช่วยกันทำกรงไก่ขนาดใหญ่ให้กับข้าแล้วเอาพวกมันใส่เข้าไป!”

มู่เฟิง หยิบหวายขึ้นมาหลายต้นด้วยมือข้างเดียวจากนั้นหยิบมีดกระดูกขึ้นมา  ตัดปลายหวายออกเป็นท่อนๆจากนั้นก็ปักเฉียงลงกับพื้นดินปลายแหลมลงสู่พื้นมากกว่า 10 เซนติเมตร จากนั้น มู่เฟิง ก็ตัดหวายอีก 2-3 ต้นปักลงสู่พื้นตามหวายอันก่อนซึ่งมีระยะห่างกันประมาณ 5-6 เซนติเมตร

จากนั้นเขาก็ปักหวายไปเรื่อยๆเป็นรูปสี่เหลี่ยมเปียกปูน หลังจากนั้นเขาก็เริ่มไขว้หวายถักเป็นตาข่ายเพื่อให้มั่นคงยิ่งขึ้น

“ตอนนี้ทุกคนช่วยการถักตาข่ายหวายเป็นวงกลมขนาดใหญ่แบบที่ข้าทำให้ดูและมันจะกลายเป็นกรงไก่ขนาดใหญ่!”

มู่เฟิง มองไปที่ความยาวของหวายและคิดสักครู่ก่อนจะกล่าวว่า

“ระวังระยะห่างของหวายหรือตอนที่มันพยายามเบี่ยงออก ถ้ามีช่องว่างมากเกินไปไก่จะสามารถวิ่งออกมาได้!”

ความคิดของพวกเขาง่ายมากเพียงแค่สร้างกรงไก่ให้เหมือนกับกรง “ปากขวด” ที่กว้างแล้วค่อยๆแคบลง ถึงแม้ว่าไกลจะสามารถโผบินได้ระยะหนึ่งแต่ก็ไม่มีทางที่จะพุ่งออกจากกรงไก่ได้

เนื่องจากไก่ไม่สามารถบินในแนวตั้งผ่านอุปสรรคที่สูงถึง 2 เมตรดังนั้นการบินของมันจึงถูกจำกัดด้วยกรง

นี่เป็นประสบการณ์การเลี้ยงไก่ในชาติที่แล้วของ มู่เฟิง  แน่นอนว่า คนเยอะและมีพลังมากแทบจะเป็นเผ่าที่เริ่มทำกรงไก่เป็นที่แรกของยุคดึกดำบรรพ์ พวกเขาใช้เวลาไม่ถึงครึ่งชั่วโมงก็เสร็จ

มู่เฟิง ให้คนเหลือปากกรงเอาไว้โดยเฉพาะเพราะเขาจะเป็นคนสานให้เหลือประตูเล็กๆเองจากนั้นรัดให้แน่น กรงไก่ที่เขาทำขึ้นมานั้นมีความสูงเกือบ 3 เมตร เพียงไม่นานกรงไก่ขนาดใหญ่ 200- 300 ตารางเมตรก็ถูกทำขึ้น

เมื่อ มู่เฟิง ได้เห็นกรงไก่ขนาดใหญ่นี้เขาก็เกิดความรู้สึกขึ้นมาว่า ถ้าเขาสมัครกินเนสบุ๊คในชาติที่แล้ว นี่จะต้องเป็นสถิติโลกอีกรายการหนึ่งอย่างแน่นอน

เขาให้หลี่หูเอาไก่ใส่ลงไปในกรงทีละตัวและพบว่ามีไก่ประมาณ 8 ตัวที่กำลังจะตาย  มู่เฟิง ลองนับดูไก่ที่เหลืออีกประมาณ 104 ตัว มีไก่ตัวผู้ 36 ตัวและไก่ตัวเมียอีก 68 ตัว ตามหลักการของการ “เลี้ยงและการผสมพันธุ์”  มู่เฟิง เลือกไก่ ไก่ตัวผู้และไก่ตัวเมียอย่างละ 36 ตัว โดยวิธีการคัดเลือกในชุดแรกทำให้เหลือไก่ที่สามารถกินได้ในตอนนี้ 32 ตัว

ไก่ทั้ง 32 ตัวเป็นผลงานที่เผ่าต้าเจียงไม่เคยได้กินมาหลายปีเนื่องจากไก่เป็นสิ่งที่วิ่งเร็วและจับยาก

จากการกระทำในวันนี้ทำให้พวกเขาได้เห็นไก่จำนวนมากอยู่ในกรงอยากไม่เคยเห็นมาก่อน เมื่อไก่ถูกคัดเลือกให้อยู่ในกรงแล้วก็มีคำถามขึ้นมาอีกว่าจะเลี้ยงไก่พวกนี้ได้อย่างไร

หมิงกวง หันไปถาม “มู่เฟิง ไก่พวกนี้ควรเลี้ยงอย่างไร?พวกมันไม่ได้กินหญ้าอย่างเดียว!”

“มันง่ายมาก!”  มู่เฟิง ยิ้มและพูดออกมา

“รอบๆเผ่าของเรามีรวงหญ้าที่แห้งเหี่ยวในช่วงฤดูใบไม้ร่วงและฤดูหนาวปีที่แล้วให้คนไปดึงรวงหญ้ามาแล้วโยนทิ้งให้มัน นอกจากรวงหญ้าแล้ว ทุกคนยังสามารถขุดดินเพื่อจับไส้เดือนแมลงเล็กๆ หนอนตัวใหญ่ๆ ที่สามารถให้ไก่กินได้!”

“อ๋อจริงสิ อย่าลืมขุดบ่อน้ำอีกบ่อที่นี่จากนั้นทำเป็นแอ่งน้ำให้มันกินวันละ 2 ครั้งเช้าเย็น”

“อีกอย่าง เอาหญ้าแห้งใส่เข้าไปอีกหน่อย!”

“หญ้าแห้ง?” หมิงกวง รู้สึกแปลกใจ

“มันใช้ทำประโยชน์อันใด?”

“ถ้าไม่มีอะไรผิดพลาด พรุ่งนี้พวกเจ้าจะรู้เอง!” มู่เฟิง ยิ้มอย่างมีเลศนัยก่อนจะสะบัดมือ

“เอาล่ะทุกคนแยกย้ายกันไปทำธุระได้” จากนั้นเขามองไปทางทิศตะวันตกของเผ่าเห็นหลี่หูกลับมาพร้อมกับคนอื่นๆดูเหมือนว่าพวกเขาจะไม่ได้กลับมาด้วยมือเปล่า

ก่อนที่หลี่หูจะถึงกำแพงก็เริ่มตะโกนเสียงดัง

“หัวหน้า ดูสิพวกเราจับแกะป่ากลับมาได้อีก!”