ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 2  เจาะไม้เพื่อจุดไฟ

บทที่ 1 หัวหน้าใหญ่


บทที่ 1 หัวหน้าใหญ่

“แย่แล้ว ผู้อาวุโสกระอักเลือดอีกแล้ว!”

“รีบไปตามลุงหลี่หูมาเร็วเข้า!”

“ข้าควรทำอย่างไรดี? เพลิงศักดิ์สิทธิ์ได้หายไปตอนนี้ท่านผู้อาวุโสก็เป็นเช่นนี้อีก..”

หืม?

“เกิดอะไรขึ้น?” เด็กหนุ่มร่างผอมที่นอนอยู่ค่อยๆลืมตาขึ้น

“ฉันอยู่ที่ไหน?”

เด็กหนุ่มมองสำรวจสภาพแวดล้อมทั้งซ้ายและขวา มีเส้นใยแสงสลัวสลัวกับหินสีดำสนิท แสงแห่งเดียวอยู่ไม่ไกลนัก

“ถ้ำงั้นหรอ?”

เด็กหนุ่มลุกขึ้นนั่งเอามือกุมหลังทันที “เจ็บจัง!”

“ทำไมฉันถึงไม่อยู่ที่นี่?”เด็กหนุ่มใช้มือยันต์ตัวเองลุกขึ้นจากเตียง เขาก้มหน้ามองใต้ร่างของตัวเอง มีหนังสัตว์ปูพื้นเอาไว้

“หนังสัตว์?”เด็กหนุ่มประหลาดใจ เขาพยายามค้นคว้าหาความทรงจำอย่างละเอียด

“ในทิเบตยังมีขนสัตว์แบบนี้อยู่อีกหรอ?แถมยังอาศัยอยู่ในถ้ำ?

ยังไม่ทันที่เขาจะได้ตั้งตัว มีชาย 2 คนสวมเสื้อผ้าขนสัตว์เดินเข้ามาในถ้ำและมองไปที่เด็กหนุ่มที่พึ่งลุกขึ้น ทั้งสองตกตะลึงอย่างเห็นได้ชัดจากนั้นสีหน้าก็เต็มไปด้วยความยินดี

“มู่เฟิงตื่นแล้ว!”

“เจ้ารีบตามเราไปพบผู้อาวุโสเดี๋ยวนี้!”

เด็กหนุ่มที่ยังไม่ทันได้รู้จักชายทั้งสองคนก็ถูก “ลาก”ออกจากถ้ำ

“เดี๋ยว ฉันต้องไปพบใครนะ?”เด็กหนุ่มรู้สึกสงสัยในหัวใจของเขา

หลังจากออกจากถ้ำแสงนอกถ้ำทำให้ดวงตาของเด็กหนุ่มแข็งค้างฉากที่เขาเห็นคือทุกคนมีสีหน้าตื่นตกใจและรีบวิ่งไปในทางเดียวกัน

คนเหล่านั้นไว้ผมยาวสวมหนังสัตว์เป็นเสื้อผ้าใบหน้าสกปรกแทบจะมองไม่เห็นลักษณะหน้าตาของตัวเอง

เด็กหนุ่มตกใจมาก “เกิดอะไรขึ้น ทำไมทิเบตถึงมีชนเผ่าดั้งเดิมอยู่ที่นี่?”

มีคนเห็นเด็กหนุ่มถูกชายทั้งสองลากไปก็อุทานด้วยความตกใจ “พวกเจ้าดูสิ มู่เฟิง ฟื้นแล้ว!”

ฝูงชนต่างหลีกทางให้โดยอัตโนมัติปล่อยให้พวกเขาพาเด็กหนุ่มเดินผ่านเข้าไปยังกระท่อมมุงจาก

ภายในห้องมีแสงสลัวอีกครั้ง แต่เด็กหนุ่มยังคงมองออกว่ามีคนยืนอยู่ภายในห้องนั้นพวกเขากำลังยืนล้อมชายชราคนหนึ่งที่นั่งอยู่ข้างเสาไม้

ชายชราหรี่ตาเล็กน้อย แสงสะท้อนทำให้สามารถมองเห็นสีหน้าซีดเซียวของเขา เส้นผมสีเทามีคราบเลือดที่ยังไม่แห้งอยู่

เมื่อเขาเห็นชายชรา ในหัวของเด็กหนุ่มก็เกิดข้อมูลบางอย่างของชายชราขึ้นมาในความทรงจำอย่างรวดเร็ว ชายชราผู้นี้เป็นหัวหน้าเผ่าและเป็นคนเก็บเขาจากป่ามาเลี้ยง

นอกจากข้อมูลของชายชราแล้วในหัวของเด็กหนุ่มก็เป็นเสมือนภาพยนตร์ที่มีข้อมูลต่างๆผุดขึ้นมา ไม้เท้า แท่นดิน ผู้คนที่ล้อมรอบสัตว์ป่าและร้องตะโกนไปมา….

เด็กหนุ่มอดตกตะลึงงันไม่ได้ในใจสงสัยว่าเหตุใดตนเองจึงมีความทรงจำเช่นนี้

“ผู้อาวุโส มู่เฟิง มาแล้ว!” มีคนตะโกนขึ้น

ชายชราลืมตาขึ้นมาแล้วมองไปที่เด็กหนุ่มก่อนจะพูดอย่างรักใคร่

“มู่เฟิง!”

เด็กหนุ่มยังคงลังเลแต่ร่างกายของเขาโผเข้าหาชายชราอย่างช่วยไม่ได้และพูดอย่างโศกเศร้าว่า “ผู้อาวุโส!”

ชายชรายื่นมือออกมาลูบศีรษะของเขาอย่างอ่อนแรงแต่ไม่ได้พูดอะไร เขาเงยหน้ามองคนรอบข้างเล็กน้อย “หลี่หู เล่า?”

ยังไม่ทันพูดจบแสงในกระท่อมก็มืดลง มีคนคนหนึ่งก้มตัวเข้ามาภายในบ้าน “ผู้อาวุโสข้ามาแล้ว!”

ชายที่เหมือนหอคอยเหล็กเดินไปหาชายชราคุกเข่าลงข้างหนึ่งและจับมือของชายชราเอาไว้ “ผู้อาวุโสท่านจะไม่อะไร?”

ชายชราส่ายหัวเล็กน้อยและพูดเสียงอ่อนแรง

“ข้ามีเวลาอีกไม่มาก..”

“ผู้อาวุโส!”เสียงคนรอบข้างสั่นระริก

“ผู้อาวุโส ท่านห้ามเป็นอะไรเด็ดขาด ถ้ามีอะไรเกิดขึ้น พวกเราจะทำอย่างไร” หลี่หูกล่าวด้วยความตื่นตระหนก

สีหน้าของชายชราเศร้าสลดแต่กลับแฝงไปด้วยความดื้อรั้น เขาส่ายหัวและพูดว่า “ข้าไม่มีทางเลือกอื่นแล้วแต่พวกเจ้ายังต้องมีชีวิตอยู่ต่อไป!”

หลี่หูกำมือชายชราแน่นอีกครั้ง เต็มไปด้วยความไม่เต็มใจและอยากจะพูดอะไรบางอย่าง

ชายชราเงยหน้าและส่งสัญญาณ หลี่หูหุบปากลงทันที

เขาสูดหายใจเข้าลึกๆ เห็นได้ชัดว่าต้องอธิบายเรื่องหลายอย่าง

“หลังจากที่ข้าตายแล้ว  มู่เฟิง จะดำรงตำแหน่งหัวหน้าเผ่า พวกเจ้าต้องเคารพเขาเหมือนกับข้า”

ทุกคนตกใจแต่พยักหน้าอย่างเศร้าโศก “เข้าใจแล้ว!”

“เพลิงศักดิ์สิทธิ์ได้หายไปแล้ว ถ้าคิดจะมีชีวิตอยู่ต่อไปก็คงต้องอพยพไปทางทิศตะวันออก”

หลี่หูพึมพำ “อพยพไปทางทิศตะวันออก…”

แต่เขายังคงพยักหน้าให้กับชายชราอย่างแรง “ข้ารู้แล้ว”

ชายชราหันเหความสนใจมาที่เด็กหนุ่มที่กำลังตกตะลึง

“มู่เฟิง!”

เด็กหนุ่มตอบโดยไม่รู้ตัว “ผู้อาวุโส!”

แต่ในใจของเขาในตอนนี้เต็มไปด้วยความตกตะลึง เขาจำได้ว่าเขาเป็นนักวิชาการด้านประวัติศาสตร์ที่มหาวิทยาลัยเจียงเซี่ย เขาบังเอิญตกลงไปในปากถ้ำสีดำ ขณะที่สำรวจโบราณสถานกู่คุนหลุน  แต่หลังจากที่ตื่นขึ้นมาเขาก็ปรากฏตัวในถ้ำและปรากฏฝูงชนที่แต่งตัวเหมือนชนเผ่าดึกดำบรรพ์

เห็นได้ชัดว่าเขาข้ามมิติมา!

จากถ้ำหนึ่งไปยังอีกถ้ำหนึ่ง เขาปรากฏตัวในร่างของเด็กหนุ่มที่ชื่อ มู่เฟิง!

ความทรงจำเกี่ยวกับเด็กหนุ่ม กำลังไหลเข้าสู่สมองของเขา และทำให้รู้ว่าชายชราที่อยู่ตรงหน้าเขาคือหัวหน้าเผ่าต้าเจียง เขาบาดเจ็บสาหัสและกำลังจะตาย

สิ่งที่แย่ที่สุดก็คือ “เพลิงศักดิ์สิทธิ์”ในเผ่าได้ถูกขโมยไป

มู่เฟิง คิดว่าชายชราคนนี้ดีต่อเขามาก  แม้ว่าเขาจะไม่ใช่ญาติพี่น้องแต่ดูเหมือนว่าเป็นญาติสนิทที่สุดของเขา เขาโศกเศร้าเสียใจและร้องไห้ออก

“ผู้อาวุโส ท่านต้องไม่ตาย!”

ชายชราปล่อยมือจากหลี่หูหันมายกเช็ดน้ำตาให้กับ มู่เฟิง อย่างช้าๆ

“เด็กโง่ ต่อไปเจ้าจะต้องเป็นหัวหน้าเผ่าแล้วห้ามร้องไห้อีก!”

“ผู้อาวุโส!” มู่เฟิง ตะโกนอย่างเศร้าโศก เสียงคนอื่นๆก็ตะโกนเช่นกัน

ชายชราส่ายศีรษะเบาๆและเอื้อมมือไปจับศีรษะของเด็กหนุ่ม

“ข้าทำดีที่สุดแล้วเพื่อเผ่านี้ต่อไปทุกคนจะพึ่งพาเจ้า!”

มู่เฟิง ยังไม่ทันได้ตั้งตัวแต่สัญชาตญาณของเขาทำให้เขาหลับตาลง มีข้อมูลลึกลับสายหนึ่งพุ่งเข้ามาในสมองของเขา

คนรอบข้างยังคงพร้อมหน้าพร้อมตาและตะโกนเสียงดังแค่คำว่า “ผู้อาวุโส!”

คนคนหนึ่งหันไปทางหลี่หู “หัวหน้า!”

ใบหน้าของหลี่หูเศร้าโศกยิ่งกว่าเดิมแต่เขากลับส่ายหน้าอย่างหนักแน่น “นี่เป็นการตัดสินใจของผู้อาวุโสเราไม่สามารถทำลายประเพณีการรับมรดกได้!”

“แต่….”

หลี่หูสูดหายใจเข้าลึกๆและตะโกนเสียงต่ำว่า “ไม่มีแต่!”

………..

ไม่รู้ว่าผ่านไปนานเท่าไร  มู่เฟิง ลืมตาขึ้นมาอีกครั้งและพบว่าใบหน้าของชายชราซีดเผือด หน้าอกของเขาที่แต่เดิมหายใจช้าๆตอนนี้ยิ่งช้าลงไปอีก เหมือนตะเกียงน้ำมันใกล้หมด-เห็นแล้วคงมีเวลาเหลือเพียงไม่มาก

ใบหน้าของคนรอบข้างเต็มไปด้วยความโศกเศร้าแต่ดวงตาของพวกเขายังคงเต็มไปด้วยความหวังเมื่อมองมาที่ มู่เฟิง

หลี่หูคุกเข่าข้างหนึ่งและหันหน้าไปหา มู่เฟิง “ท่านหัวหน้าเผ่า!”

คนที่เหลือคุกเข่าลงและทำท่าเหมือนหลี่หูเช่นกัน

“ท่านหัวหน้าเผ่า!”

มู่เฟิง ยังคงตกตะลึงอยู่ภายในใจเขาเพิ่งรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นเขากลายเป็นหัวหน้าเผ่าดึกดำบรรพ์ๆและรับรู้เรื่องยุ่งเหยิงที่กำลังจะเกิดขึ้น!