ตอนที่ 1103-1104 ผู้หญิงอย่างเธอ
เหมาเยซื่อหมดอารมณ์จะพูด “ถ้าเธอต้องการเงินของผมแล้วไง? ไม่ใช่ว่าผมไม่มีเงินให้เธอนี่ ไม่ว่าแม่จะยินยอมให้เราอยู่ด้วยกันไหม? เราก็อยู่ด้วยกันแล้ว แม่ครับ ผมเคารพแม่นะ นั่นเป็นเหตุผลที่ผมพยายามให้แม่ยอมรับเมียนเมียน แต่แม่กลับดูถูกเธอครั้งแล้วครั้งเล่า แม่ยังพยายามเปลี่ยนความประทับใจที่มีต่อเธอ”
“แต่ดูเหมือนว่าผมจะดูผิดไป”
การแสดงออกของคุณผู้หญิงเหมาเปลี่ยนไป “แกหมายความว่าอะไร?”
ดวงตาของเหมาเยซื่อเต็มไปด้วยความผิดหวัง “ผมจะไม่ทำแบบนั้นอีกต่อไปแล้ว ไม่ว่าแม่จะยอมรับเมียนเมียนหรือไม่ก็ตาม มันไม่สำคัญ ถ้าแม่ไม่ชอบเธอ ผมจะให้แม่กับเธอเจอกันให้น้อยที่สุด หรืออาจจะไม่ต้องเจอกันอีกเลย”
“ไม่สำคัญว่าแม่จะชอบหรือไม่ชอบเธอ อย่างไรเสีย ผมต่างหากที่เป็นคนอยู่กับเธอในอนาคต ไม่ใช่แม่ ตราบใดที่ผมชอบภรรยาของผม ผมไม่บังคับให้ใครมาชอบเธอด้วยหรอก”
หลังจากพูดเช่นนั้น เขาก็หันหลับกลับและเดินไปที่ห้องอาหารโดยไม่รอดูปฏิกิริยาของคุณผู้หญิงเหมา
เขาหยุด หลังจากก้าวขาได้เพียงสองก้าว
เขาหันหน้าและมองไปที่ใบหน้าซีดเซียวของคุณผู้หญิงเหมา เขาพูดอย่างเฉยเมยว่า “ถ้าแม่อยากจะทานข้าวข้างบน ก็แล้วแต่แม่ แม่ครับ แม่ไม่จำเป็นต้องทำแบบนี้กับผม เพราะผมไม่สนใจหรอก”
“แม่ก็อย่าโกรธไปล่ะ ที่มีลูกอกตัญญูแบบผม ถ้าตอนนั้นพ่อไม่ปกป้องและเอาอกเอาใจแม่ ผมเกรงว่าชีวิตของแม่ก็คงไม่ราบรื่นนัก แม่ชอบความรักและความใยจากพ่อไหมล่ะครับ แม่ภูมิใจรึเปล่าที่มีสามีที่ดีที่รักแม่ ผมแน่ใจว่าแม่คงจะเข้าใจความรู้สึกของผมที่มีต่อเมียนเมียน”
“ตอนนี้ ผมแค่ต้องการเอาใจและรักเธอก็เท่านั้น ผมอยากดูแลเธออย่างดีไปตลอดชีวิต จะไม่มีใครทำให้เธอต้องทนทุกข์ได้” เขาหยุดชั่วคราว มองไปที่คุณผู้หญิงเหมา และพูดทีละคำ “แม้ว่าคน ๆ คนนั้นจะเป็นแม่ แม่ก็ไม่อาจทำให้เขาต้องทนทุกข์ได้”
“ถ้าแม่ยืนกรานที่จะเป็นศัตรูกับเมียนเมียน ก็อย่าโทษที่ผมเอาใจออกห่างจากแม่”
“ถ้าแม่ไม่เคาระคนที่ผมห่วงใย ผมก็จะไม่เคารพแม่อีกต่อไป”
คำพูดของเขาทำให้คุณผู้หญิงเหมาโกรธมากจนเลือดขึ้นหน้า
“นี่แกกำลังท้าทายแม่ของแก เพื่อผู้หญิงคนนั้นเหรอ?” คุณผู้หญิงเหมาโกรธจนเสียงสั่น
เหมาเยซื่อพูดอย่างใจเย็นว่า “ผู้หญิงคนนั้นเป็นภรรยาของผมและเป็นลูกสะใภ้ของแม่ ไม่สำคัญหรอกว่าแม่จะไม่ชอบเธอ ก็แค่อยู่ร่วมกันให้ได้ ผมได้บังคับให้แม่ชอบเธอสักหน่อย แต่ผมจะไม่ยอมให้ใครมาทำร้ายเธอ”
“ถ้าแม่ยังแคร์ความสัมพันธ์รหว่างแม่ลูกของเราจริง ๆ ก็อย่าบังคับให้ผมทำในสิ่งที่เลวร้ายแบบนั้นเลย”
หลังจากพูดจบ เขาก็จากไป
ใบหน้าของคุณผู้หญิงเหมาซีดเผือดขณะยืนอยู่ในห้องนั่งเล่นและฟังเสียงหัวเราะที่ลอยออกมาจากห้องอาหารเธอกัดฟันด้วยความเกลียดชัง
เธอไม่ยอมให้เฉียวเมียนเมียนอยู่ในตระกูลเหมา
ไม่ยอม!
...
ในห้องอาหาร
เมื่อเหมาเยซื่อเดินมาถึงห้องอาหาร คนรับใช้ก็จัดวางอาหารเย็นไว้ที่โต๊ะเรียบร้อยแล้ว
คุณผู้หญิงเหมาอาวุโสกำลังพูดคุยกับเฉียวเมียนเมียนและน้องชายของเธออย่างมีความสุข เฉียวเฉินที่เคยรู้สึกไม่สบายใจก่อนหนี้ ตอนนี้รู้สึกผ่อนคลายมากขึ้น เขาไม่รู้ว่าพวกเขาพูดอะไรกับหญิงชรา แต่เธอหัวเราะหนักมากจนน้ำตาไหลอาบหน้า
“กำลังคุยกันอะไรอยู่? ทำไมถึงได้ดูมีความสุขมากแบบนั้นล่ะ?”
เหมาเยซื่อเดินไปหาเฉียวเมียนเมียน โดยมีคนรับใช้ดึงเก้าอี้ออกให้เขา
หลังจากที่เขานั่งลง เขาก็เอื้อมมือไปจับมือเฉียวเมียนเมียน
“ผมอยู่ข้างนอก ยังได้ยินเสียงหัวเราะของคุณย่าเลย”
ทางด้านซ้ายของคุณผู้หญิงเหมาอาวุโส คือเฉียวเมียนเมียน ส่วนด้านขวาของเธอคือเฉียวเฉิน
เธอมองไปที่เฉียวเฉินด้วยความรัก “เฉินเฉินเพิ่งเล่าเรื่องตลกให้ฟังน่ะ เด็กคนนี้ตลกเกินไปแล้ว”
เหมาเยซื่อเหลือบมองไปที่เฉียวเฉินและแสร้งทำเป็นอิจฉา
“ก่อนหน้านี้เพราะเมียนเมียน ย่าเลยไม่สนใจผม ตอนนี้มีเฉินเฉินมาอีกคน ดูเหมือนว่าสถานะของผมในครอบครัวจะแย่ลงทุกวันแล้ว”
คุณผู้หญิงเหมาอาวุโสรู้สึกขบขันเขา “ลูกเอ๋ย นี่หลานอิจฉาภรรยากับน้องเขยของตัวเองเหรอ? ย่าชอบเมียนเมียนกับเฉินเฉิน หลานไม่มีความสุขหรือไง แต่ว่าเมียนเมียนกับเฉินเฉินน่ารักจริง ๆ ย่าอดไม่ได้ที่จะสนใจพวกเขา”
เฉียวเฉินรู้สึกประหม่ามากก่อนที่เขาจะมาถึง
เขารู้สึกเสมอว่าผู้อาวุโสของครอบครัวใหญ่ไม่สามารถเข้าถึงได้ง่าย ๆ พวกเขาเป็นคนที่จริงจังและเข้าถึงยาก
แต่คุณผู้หญิงเหมาอาวุโสไม่สนใจความคิดของเขา
เขาเป็นเหมือนเฉียวเมียนเมียน ถ้าคนอื่นดีต่อเขา เขาก็ดีต่อพวกเขาอย่างดีด้วยเช่นกัน
แม้ว่าพวกเขาจะมีปฏิสัมพันธ์กันเพียงช่วงสั้น ๆ แต่เขาก็สัมผัสได้ถึงความกรุณาและความชื่นชอบของคุณผู้หญิงเหมาอาวุโสที่มีต่อพวกเขา
สิ่งนี้แตกต่างอย่างสิ้นเชิงกับทัศนคติของคุณผุ้หญิงเหมา
เช่นเดียวกับเฉียวเมียนเมียน เฉียวเฉินพูดอย่างไพเราะว่า “คุณย่าชอบฟังผมเล่าเรื่องตลก ถ้าคุณย่ายังไม่เบื่อ ต่อไปผมจะเล่าให้ฟังอีกนะครับ”
“แน่นอน”
เฉียวเฉินนั่งบนที่นั่งแรกทางด้านขวาของหญิงชรา หญิงชราเอื้อมมือออกไปและจับมือเขาไว้ ดวงตาของเธอดูอ่อนโยนและเปี่ยมด้วยความรัก ขณะที่เธอยิ้มและพูดว่า “ถ้าอย่างนั้น ต่อไปเฉินเฉินว่างเมื่อไหร่ ให้มาหาย่าที่บ้านนี้บ่อย ๆ สิ ปกติย่าอยู่กับป้าเหมา เบื่อจะแย่”
“คนหนุ่มสาวจะมาเยี่ยมทีก็ต้องรอพวกเขาว่าง พวกเขาก็มีความสุขของพวกเขา”
“ย่าว่านะ เฉินเฉินมาอยู่กับย่าในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ก็ได้นี่”หญิงสูงวันพูด เริ่มจริงจัง “พี่สาวเขาก็ไปถ่ายละครที่ต่างเมือง พี่เขยก็ยุ่งอยู่กับงาน อีกอย่างผู้ชายอย่างเขาจะดูแลหลานได้ยังไง มาอยู่กับย่าสิ ย่าจะดูแลหลานเอง”
“แต่ไม่เบื่อที่ต้องอยู่กับหญิงชราอย่างย่าน่ะนะ”
“ก็นะ หนุ่มสาวก็มักจะชอบอยู่กับคนวัยเดียวกัน ถ้าเธอไม่อยากอยู่กับหญิงชราอย่างย่า...”
“จะเป็นแบบนั้นไปได้อย่างไรครับ” ก่อนที่หญิงสูงวัยจะพูดจบ เฉียวเฉินก็ยิ้มและพูดว่า “คุณย่าอยากเจอเฉินเฉิน เฉินเฉินก็เต็มใจอยู่กับคุณย่าเหมือนกันครับ เฉินเฉินไม่รู้สึกเบื่อเลยเวลาอยู่กับคุณย่า”
คำพูดของเขาทำให้หญิงชรามีความสุขมากขึ้น เธอหัวเราะอย่างมีความสุขและกล่าวว่า
“เฉินเฉิน เด็กคนนี้ช่างรู้วิธีทำให้คนที่อยู่ด้วยมีความสุขเสียจริง ต่อไปต้องมาเที่ยวพักผ่อนกับย่าล่ะ”
“ได้ครับ”
เหมาเยซื่อมีความสุขที่เห็นว่าน้องเขยของเขาและคุณผู้หญิงเหมาอาวุโสเข้ากันได้ดี
เขาสามารถบอกได้ว่าผู้อาวุโสเหมาอาวุโสชอบเฉียวเฉินจริง ๆ
เหตุผลหลักอาจเป็นเพราะเฉียวเฉินใบหน้าคล้ายกับอารองของเขา
เหมาเยซื่อไม่ได้สังเกตเรื่องนี้ในทีแรก
ตอนนี้เขากำลังให้ความสนใจ เขาจึงตระหนักว่าเฉียวเฉินดูเหมือนอารองของเขาจริง ๆ
ไม่มีใครสงสัยความคล้ายคลึงระหว่างทั้งสองคน
เหมาเยซื่อมองไปที่ใบหน้าของเฉียวเฉินซึ่งไม่เหมือนกับเฉียวเมียนเมียนเลย ดวงตาของเขาฉายแววแปลก ๆ เขาปรับขนาดมองดูเฉียวเฉินอีกครั้ง
“อาซื่อ แล้วแม่ของหลานล่ะ ไปไหนเสียแล้ว?”