ตอนที่ 1099-1100 เฉินเฉิน เด็กคนนี้หน้าตาคล้ายนายท่านเหมาคนรอง
ส่วนเรื่องที่คุณผู้หญิงเหมากังวลนั้น คุณผู้หญิงเหมาอาวุโสไม่ใคร่จะใส่ใจนัก
เธอรู้สึกว่าตราบเท่าที่หลานชายของเธอชอบ ก็ไม่ต้องกังวลอะไร
ตราบใดที่ผู้หญิงคนนั้นไม่ได้ทำเรื่องเลวร้าย เธอก็สามารถยอมรับได้
อีกอย่างเฉียวเมียนเมียนยังพูดจาไพเราะต่อหน้าเธอ
ทำให้คุณผู้หญิงเหมาอาวุโสพอใจกับหลานสะใภ้ที่น่ารักและปากหวานคนนี้มาก
เมื่อเทียบกับคุณผู้หญิงเหมาอาวุโสแล้ว คุณผู้หญิงเหมาที่นั่งอยู่ที่โซฟา ไม่มีแม้แต่รอยยิ้มบนใบหน้าเสียด้วยซ้ำ
เธอมองมาที่เฉียวเมียนเมียนด้วยท่าทีรังเกียจและไม่พอใจ
เธอไม่เข้าใจจริง ๆ ว่าทำไมคนฉลาดอย่างคุณผู้หญิงเหมาอาวุโสจึงถูกเด็กสาวคนนี้หลอกเอาได้
เห็น ๆ กันอยู่ว่าคุณผู้หญิงเหมาอาวุโสให้ความสนใจกับสถานะทางครอบครัวของฝ่ายตรงข้ามมาโดยตลอด
ทว่าตอนนี้เธอไม่ได้ใส่ใจเกี่ยวกับภูมิหลังของครอบครัวที่ยากจนของเฉียวเมียนเมียนเลย
เธอยังบอกอีกว่าไม่เป็นไร ถ้าหากหลานชายของเธอชอบ ภูมิหลังเหล่านั้นไม่สำคัญ
หึ ไม่สำคัญอย่างงั้นหรือ ทำไมตอนนั้นเธอไม่เลือกแต่งงานกับชายยากจนคนนั้นเสียเล่า? เธอเลือกแต่งงานกับนายท่านเหมาอาวุโส ผู้ซึ่งมีภูมิหลังทางครอบครัวเหมาะสมกับเธอแทนทำไม?
แม้แต่ตัวเธอเองยังต้องเลือกแต่งงานกับครอบครัวที่เหมาะสม ทว่าพอพูดถึงหลานชายของตัวเอง กลับบอกว่าไม่เป็นไร
เมื่อย้อนคิดถึงเรื่องที่เฉียวเมียนเมียนขอให้เธอขายหุ้นทั้งหมดของบริษัทเหมา เพื่อแลกกับการหย่ากับลูกชายของเธอ ทำให้เธอโกรธแค้นมาก
ผู้หญิงที่โลภขนาดนี้ คู่ควรกับลูกชายที่มีค่าของเธออย่างนั้นหรือ?
ยิ่งคิดก็ยิ่งโกรธ เธออดไม่ได้ที่จะพูดด้วยน้ำเสียงขุ่นเคือง
“แม่คะ กังวลอะไรกับเธอ ไม่มีใครกล้ารังแกเธอหรอกค่ะ หลานชายของแม่ปฏิบัติกับเธออย่างกับสมบัติล้ำค่า เธอจะถูกใครรังแกได้ยังไง?”
หญิงชราได้ยินคำพูดกระหนะกระแหนของเธอ แต่แสร้งทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ เธอหันมามองแล้วพูดด้วยรอยยิ้ม “ไม่ใช่หรือไง? เมียนเมียนเป็นคนรักของอาซื่อนะ ในฐานะสามี ถ้าเขาปล่อยให้ภรรยาถูกคนอื่นรังแกน่ะสิ อย่างงั้นก็ไม่ใช่สามีที่ดีแล้ว”
“อีกอย่าง...” คุณผู้หญิงเหมาอาวุโสเหมือนจะไม่สังเกตเห็นใบหน้ามืดมนของคุณผู้หญิงเหมา และยังคงยิ้มต่อไป
“เมียนเมียน เป็นลูกสะใภ้ของตระกูลเหมาเรา ถ้าใครกล้ารังแกเธอ ฉันนี่แหละที่จะเป็นคนแรกที่อยู่ข้างเธอ ถ้าครอบครัวเหมาถูกคนอื่นรังแก จะไม่เป็นที่ขบขันหรอกหรือ?”
เหมาเยซื่อยิ้มอย่างเห็นด้วย “คุณยาพูดถูก”
คนแก่กับคนหนุ่มเข้ากันเป็นปี่เป็นขลุ่ย
พวกเขาล้วนอยู่ข้างเฉียวเมียนเมียน
ใบหน้าของคุณผู้หญิงเหมามืดลงด้วยความโกรธ เธอรู้สึกว่าตัวเองกลายเป็นคนนอกของครอบครัวนี้
เธอเต็มไปด้วยความโกรธ แต่ต่อหน้าคุณผู้หญิงเหมาอาวุโส เธอไม่กล้าที่จะแสดงอาการโกรธออกมา
ในบ้านหลังนี้ คนที่เธอเกรงกลัวที่สุดก็คือคุณผู้หญิงเหมาอาวุโส
เพราะมีท่านอยู่ใกล้ ๆ เธอจึงต้องควบคุมอารมณ์ของตัวเองเอาไว้
“โอ้ใช่ เมียนเมียน ย่าได้ยินจากอาซื่อว่า เธอพาน้องชายมาด้วย” คุณผู้หญิงเหมาอาวุโสไม่ได้สนคุณผู้หญิงเหมาอีกต่อไป หลังจากพูดคุยกับเธอได้ครู่หนึ่ง เธอก็จ้องมองไปที่เฉียวเฉิน ที่ยืนอยู่ข้างหลังเฉียวเมียนเมียน
หลังจากเลื่อนสายตามองเขาแล้ว เธอพูดด้วยรอยยิ้มว่า
“ชายหนุ่มรูปหล่อที่ยืนอยู่ข้างหลังนี่เหรอ น้องชายของเธอ?”
เฉียวเมียนเมียนดึงเฉียวเฉินออกมาจากด้านหลังเธอ
“คุณย่าคะ นี้น้องชายของหนูคะ เขาอายุน้อยกว่าหนู 2 ปี ยังเรียนอยู่โรงเรียนมัธยมคะ เฉินเฉิน นี่คุณย่า เรียกคุณย่าสิ”
เฉียวเฉินกลัวและประหม่าในทีแรก
แต่เมื่อเขาได้เห็นสายตาที่อ่อนโยนและเปี่ยมด้วยความรักของหญิงชรา ความกังวลใจของเขาก็ลดลง และเขาก็ไม่กลัวอีกต่อไป
หญิงชราไม่เหมือนคนที่เข้ากับคนอื่นได้ยาก
ใบหน้าของเขาแดงเล็กน้อย เขาเปิดปากเรียกคุณย่าออกมาเบา ๆ
หญิงชรายิ้มอย่างพึงพอใจ และมองดูเขาอย่างอบอุ่นครู่หนึ่งก่อนจะพูดด้วยความประหลาดใจ
“อาซื่อ หลานคิดว่าเฉินเฉินหน้าตาคล้ายกับอารองของหลานไหม?”
“จึจึ พวกเขาดูเหมือนกันอย่างกับแกะ”
เหมาเยซื่อสังเกตเห็นมานานแล้ว จึงพยักหน้าตอบ “ครับ เฉินเฉินกับอารองหน้าตาคล้ายกัน”
“จะคล้ายกันแค่นิดหน่อยได้อย่างไร?” ยิ่งคุณผู้หญิงเหมาอาวุโสมองเขามากเท่าไหร่ เธอก็ยิ่งแปลกใจมากขึ้นเท่านั้น เธอถอนหายใจอย่างแปลกใจอีกครั้ง
“เขาดูเหมือนอารองของหลานจริง ๆ ถ้ามีใครมาบอกว่านี่เป็นลูกชายของอารองของหลาน ย่าก็เชื่อ”
นายท่านรองก็คือ ลูกชายคนรองของคุณผู้หญิงเหมาอาวุโส
เธอย่อมรู้ดีว่าเขาหน้าตาเป็นอย่างไรตอนทีเขายังเป็นหนุ่ม
เด็กชายตัวเล็ก ๆ คนนี้ที่ชื่อเฉียวเฉินละหม้ายคล้ายลูกชายคนรองของเธอเมื่อตอนที่เขายังเป็นหนุ่ม
ต่างกันอย่างเดียวคือ เด็กหนุ่มดูผอมและผิวซีด
ถ้าเขาอ้วนขึ้นห้าหรือสิบกิโล ถือว่าเหมือนลูกชายคนรองของเธอทุกประการ
หลายคนอาจจะดูคล้าย
แต่ถ้าจะบอกว่าคล้ายเหมือนออกมาจากพิมพ์เดียวกัน ก็มีไม่มากนัก
“ใช่ครับ คุณผู้หญิง”
ลงจางที่ตามพวกเขาเข้ามาพูดขึ้น “ตอนที่ผมเห็นคุณเฉียวครั้งแรก ผมเองก็ตกใจเช่นกัน คุณเฉียวและนายท่านรองดูคล้ายกันมาก”
“น่าเสียดายที่ตารองไม่อยู่บ้าน” คุณผู้หญิงเฉียวอาวุโสมองไปที่เฉียวเฉินและกล่าวว่า
“ไม่เช่นนั้น เขาต้องแปลกใจมากแน่ เมียนเมียน เธอและเฉินเฉินคนใดคนหนึ่งคงคล้ายพ่อ อีกคนคงคล้ายแม่ล่ะสินะ”
คุณผู้หญิงเหมาอาวุโสรู้ว่าเฉียวเมียนเมียนมีน้องชาย
หลังจากที่รู้ว่าเฉียวเมียนเมียนและเหมาเยซื่อแต่งงานกันแล้วเธอได้ให้คนไปสืบเรื่องของเฉียวเมียนเมียนมาก่อนแล้ว
เธอจึงรู้เกี่ยวกับเรื่องราวพื้นฐานในครอบครัวของหญิงสาวอยู่บ้าง
แต่คุณผู้หญิงเหมาอาวุโสไม่เคยรู้ว่าเฉียวเฉินหน้าตาเป็นอย่างไร
เมื่อเห็นว่าพี่น้องดูไม่เหมือนกัน เธอจึงถามด้วยความสงสัย
โดยทั่วไปแล้ว หากพวกเขาเป็นพี่น้องกัน แม้ว่าคนหนึ่งจะคล้ายพ่อ อีกคนจะคล้ายแม่ พวกเขาก็ต้องมีบางอย่างที่คล้ายคลึงกันอยู่ดี
แต่พี่น้องคู่นี้ดูไม่คล้ายกันเลย
ทั้งสองคนหน้าตาดีด้วยกันทั้งคู่ก็จริง แต่ดูไม่เหมือนพี่น้องกัน
เฉียวเมียนเมียนตกตะลึง
ดูเหมือนว่าไม่ใช่ครั้งแรกที่มีคนพูดว่าเธอหน้าตาไม่คล้ายเฉียวเฉิน
บางคนก็เคยตั้งคำถามเช่นเดียวกับคุณผู้หญิงเหมาอาวุโสมาก่อน
แต่เธอกับเฉียวเฉินดูหน้าตาไม่เหมือนพี่แม่เฉียวเลย
ในทางกลับกัน เฉียวอันซิน หน้าตาคล้ายพ่อเฉียว
“หนูก็คิดว่าอย่างนั้นค่ะ” เฉียวเมียนเมียนตกตะลึงไม่กี่วินาที
ไม่ใช่ว่าเธอต้องการจะปิดบังอะไร
เธอแค่ไม่รู้จะพูดอะไร
เธอดูไม่เหมือนพ่อหรือแม่เฉียวเลย แล้วเธอหน้าตาเหมือนใครเล่า?
“พ่อกับแม่ของเธอนี่คลอดลูกออกมาได้หน้าตาดีทั้งคู่เลย” คุณผู้หญิงเหมาอาวุโสยิ้มและกล่าว
“เฉินเฉินคนนี้ดูเหมือนลูกตระกูลเหมาของฉันด้วยซ้ำ นี่คงเป็นพรหมลิขิตที่ชักนำให้ครอบครัวเรากับครอบครัวเฉียวมารู้จักกันล่ะสินะ”
เพราะคุณผู้หญิงเหมาอาวุโสชอบเฉียวเมียนเมียน เธอจึงชอบเฉียวเฉินไปด้วย
ตอนนี้ ยิ่งเฉียวเฉินหน้าตาคล้ายลูกชายคนรองของเธอ เธอจึงสนใจเขาเป็นพิเศษ
เธอมองไปที่เฉียวเฉินราวกับว่าเขาเป็นหลานชายอีกคนของเธอ
ยิ่งคุณผู้หญิงเหมาอาวุโสแสดงให้เห็นว่าเธอชอบสองพี่น้องนั่นมากเท่าไหร่ คุณผู้หญิงเหมาก็ยิ่งเป็นกังวลมากขึ้นเท่านั้น
อย่างแรกเลย เพราะเธอไม่ชอบเฉียวเมียนเมียน ตอนนี้เธอเลยพาลไม่ชอบเฉียวเฉินไปด้วยอีกคน