ตอนที่แล้วEP 703 ยอมรับคำสั่งจากพระเจ้า!
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปEP 705 กลยุทธ์ในการประชาสัมพันธ์

EP 704 การประชุมใหญ่เพื่อรับมือกับแผ่นดินไหว!


กำลังโหลดไฟล์

EP 704 การประชุมใหญ่เพื่อรับมือกับแผ่นดินไหว!

By loop

ในเช้าวันจันทร์.

ตอนเช้าวันนี้มีเมฆมาก

เมื่อเจ้าหน้าที่จากสำนักงานเขตกวางหมิงกำลังมาทำงาน ดูเหมือนเจ้าหน้าที่บางส่วนจะรู้เรื่องของเมื่อวานแล้วเรื่องที่ซ่งชิงหมิงเดินทางมาหาดงซูบิน

“ได้ยินข่าวเรื่องนี้หรือยัง”

“เรื่องนั้นใช่ไหม เรื่องป้ายโฆษณานะ”

“ฮะๆ นายไม่ได้เห็นสีหน้าของเจ้าของโรงกลั่นเหล้าองุ่น เขาหน้าซีดไปเลยล่ะ”

“ตอนนี้ชายที่ได้ฉายาว่าเทพเจ้าแห่งความโชคร้ายอยู่ที่สำนักงานของเราแล้ว ใครกันจะกล้าขวางกั้นเขาไว้ได้?

“แล้วเรื่องหลังจากนั้นล่ะ? แต่ดูเหมือนป้ายโฆษณาที่อยู่หน้บ้านของฉันตกเย็นตอนที่ฉันกลับไปเมื่อวานนี้มันถูกรื้อทิ้งไปจนหมดแล้วนะ”

“แล้วทำไมจู่ๆ เรื่องถึงเป็นแบบนี้ได้ล่ะ ก่อนหน้านี้ซ่งชิงหมิงก็ประกาศแล้วว่าเขาจะไม่รื้อป้ายพวกนี้ออก”

“อันที่จริงก็ไม่รู้ที่ไปที่มาของเรื่องเท่าไรหรอก อย่างไรก็ตาม เลขาธิการซูบินไม่รู้ว่าจะใช้วิธีอะไร เขาสามารถจัดซ่งชิงหมิงได้ ทั้งๆที่ซ่งชิงหมิงไม่อยากจะรื้อมัน”

“สิ่งนี้เกิดขึ้นจริงหรือ ฉันรู้สิเมื่อวานฉันทำงานล่วงเวลาด้วย แต่ฉันรู้ว่าเมื่อวานมันตื่นเต้นมาก”

“เมื่อวานที่ฉันแอบเห็น เจ้าของโรงกลั่นเหล้าเองก็เห็นว่าทำตัวไม่ถูกเลย ดูเกอเกอกั้งกั้งหลังจากพูดคุยกันเสร็จ และดูเหมือนเขาจะอายมากๆด้วยหลังจากพูดคุยกับเลขาซูบินจบ?” ในตอนนั้นดงซูบินก็มาทำงานพอดีถึงแม้เขาจะไม่ได้ยินบทสนทนาของลูกน้องของเขาแต่เขาก็รับรู้ได้ว่าทั้งคู่กำลังพูดเรื่องอะไรอยู่ จึงกระทืบเท้าเป็นการเตือนไป

เมื่อป้ายถูกรื้อถอน ดงซูบินแสดงให้ทุกคนเห็นถึงอำนาจที่อยู่เบื้องหลังของดงซูบินอีกครั้งและมันคืออำนาจที่ไม่ธรรมดาการกระทำครั้งนี้คือการส่งสัญญาณให้กับผู้นำคนอื่นๆที่คิดจะอยู่ฝั่งตรงข้ามกับเขา  การที่ใครคิดจะมาเป็นศัตรูกับดงซูบินตอนนี้ก็เหมือนการขุดหลุมฝั้งศพตัวเอง ต่อให้เป็นเลขาธิการคณะกรรมการมณฑลอย่างหวังอันชิก็แทบจะไม่ใช้คู่ต่อสู้ของเขา!

ตอนนี้ดงซูบินอย่างเห็นจริงๆว่าใครกันจะกล้ามีปัญหากับเรื่องที่เขาพึงแสดงให้ทุกคนเห็นไป!

ใครกันที่จะโง่พอเข้ามาปะทะกับดงซูบินตอนนี้!

รู้ไว้ส่ะด้วยว่าสิ่งที่เกิดขึ้นในวันนี้เป็นเพราะซงชิงหมิงเริ่มมีปัญหากับเขาก่อน!

ตอนนี้ดงซูบินกำลังเดินตามแผนของเขาที่วางไว้หลังจากได้รับข่าวแผ่นดินไหว"ฉันจะจัดการทุกคนที่พยายามจะขวางทางฉัน" ดงซูบินพยายามจะเปลี่ยนแปลงความคิดของคนอื่นๆ อย่างไรก็ตาม เขายังไม่สามารถทำอะไรได้ไม่มากตอนนี้เพราะด้วยอำนาจทางการเมืองของเขาที่สะสมอยู่ยังถือว่าอยู่ในระดับที่ต่ำมากเมื่อคิดถึงแผ่นดินไหวที่กำลังจะมาถึงไม่นานหลังจากนี้ดงซูบินจึงพยายามจะสร้างให้เขาเป็นจุดสนใจ และพยายามลดความเสียหายของแผ่นดินไหวที่จะเกิดขึ้นให้ได้มากที่สุดและพยายามจะทำทุกอย่างที่ทำได้ในเขตพื้นที่ที่เขาดูแลอยู่ เขาจะไม่ยอมให้ประชาชนในพื้นที่เขาต้องตายจากเหตุการณ์นี้แม้แต่คนเดียว นี่ไม่ใช่เพียงเพื่อความปลอดภัยของประชาชนในเขตของเขาเท่านั้น แต่ยังรวมถึงการรักษาตำแหน่งของเขาเองจากภัยพิบัติแผ่นดินไหวและจะกลับมาทีอำนาจในหนานฉางแห่งนี้อีกครั้งหลังเรื่องทุกอย่างสงบ

ณ สำนักเลขาธิการ.

ทันทีที่เขาเข้ามาดงซูบินโทรศัพท์หาลูกน้องของเขาทันที "ผู้อำนวยการโจว ป้ายโฆษณาของโรงกลั่นเหล้าองุ่นถูกรื้อถอนไปจนหมดหรือยัง"

ในตอนท้ายของโทรศัพท์ โจวหยินหยูยิ้มและพูดว่า: "ฉันเพิ่งส่งคนไปดูในตอนเช้าและดูเหมือนว่ามันจะถูกรื้อถอนจนหมดแล้ว"

"ฉันเข้าใจแล้ว" ดงซูบินกล่าวว่า: "ในอนาคตจะต้องมีการขออนุญาตสำหรับป้ายโฆษณาดังกล่าว คุณเองควรจะต้องพิจารณาอย่างถี่ถ้วน คุณต้องตรวจสอบเอกสารและตรวจสอบคุณภาพก่อน นอกจากนี้ ไม่ใช่แค่เพียงโรงกลั่นเหล้าองุ่นแห่งเดียวเท่านั้น แต่ป้ายโฆษณาอื่นๆ ที่มีแล้ว ติดตั้งแล้วในเขตของเราทั้งหมด ในทุกวันนี้ยังต้องแก้ไขและตรวจยืนยันอย่างถี่ถ้วน เมื่อพบป้ายที่ไม่ผ่านเกณฑ์แล้ว จะต้องถูกรื้อถอนทันทีโดยไม่มีการเจรจาใดๆ สุดท้าย จะมีการจัดทำรายงานและเอกสารจะถูกส่งไปยังมณฑล”

“เข้าใจแล้ว ฉันจะดำเนินการตามที่คุณสั่ง”

“เอาล่ะ ดำเนินการตามนี้อย่างเคร่งครัด”

ในที่สุด ดงซูบินก็ได้ดำเนินเสร็จสิ้นตามแผนไปหนึ่งแผน

เขารู้ว่าจะมีแผ่นดินไหวครั้งใหญ่อีก 20 วันข้างหน้าและแผ่นดินไหวก็ใกล้เข้ามาเรื่อยๆแล้ว!

ดงซูบินไม่มีเวลาที่จะมาชักช้าแล้วและตอนนี้สายตาของเขาจริงจัง เขาเปิดคอมพิวเตอร์ทันทีและเริ่มพิมพ์อะไรบางอย่าง และพบข้อมูลที่เกี่ยวข้องบนอินเทอร์เน็ตและเอกสารบางอย่างที่เขามีอยู่ และเริ่มแผนต่อไปนี้...

เป็นเรื่องเกี่ยวกับความนิยมของความรู้เรื่องแผ่นดินไหว

อย่างที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่าช่วงเวลาของแผ่นดินไหวถึงแม้จะเป็นแผ่นดินไหวขนาด 8 ริกเตอร์ บ้านหรือกำแพงก็จะไม่ถล่มในทันที เมื่อมันเกิดขึ้น จะมีเวลาให้คนที่อยู่อาศัยมีเวลาในการเตรียมตัวอยู่ อาจจะห้าวินาที บางทีสิบวินาที ขนาดบ้านหลังที่เก่าแก่ที่สุดก็ยังพอทนแรงของแผ่นดินไหวได้อยู่บ้าง อย่างน้อยบ้านเหล่านั้นก็ไม่ได้ทำมาจากกระดาษ และบ้านทุกหลังมีระดับการต้านทานแผ่นดินไหวในระดับหนึ่ง นอกจากนี้ที่ต้าเฟิงยังเป็นจุดศูนย์กลางของแผ่นดินไหวขนาด 8 ริกเตอร์ ในหนานฉาง จะได้รับผลกระทบจากแผ่นดินไหวเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ดังนั้นเมื่อเกิดแผ่นดินไหว การตอบสนองจึงเป็นสิ่งสำคัญที่สุดดงซูบิน เห็นสถิติง่ายๆและการสอบสวนจากข้อมูลก่อนหน้านี้ คนส่วนใหญ่ที่เสียชีวิตในแผ่นดินไหวเกิดจากการไม่รู้วิธีการเอาตัวรอด หรือไม่มีบังเกอร์ที่เหมาะสมจึงทำให้เกิดการเสียชีวิตขึ้นมาได้

ดงซูบินจได้ว่าหลักการของการเอาตัวรอดจากแผ่นดินไหว เขาได้รับการศึกษาในขณะที่เขาเรียนอยู่ชั้นประถมด้วยซ้ำ แต่เขาไม่ได้สนใจมันมากนัก หลายปีผ่านมาเขาได้ก็แทบจะลืมวิธีการเอาตัวรอดจากแผ่นดินไหวไปจนหมด อย่างมากที่สุด เขาสามารถจำจุดหนึ่งหรือสองจุดได้ นี่เป็นเรื่องจริงสำหรับนักศึกษา อย่าว่าแต่คนอื่นเลย ดงซูบินเชื่อว่าทุกคนส่วนใหญ่แทบจะลืมเรื่องการเอาตัวรอดจากแผ่นดินไหวไปกันจนหมดแล้ว ดังนั้น ดงซูบินควรให้ความสำคัญกับการทำงานในด้านนี้ หากทุกคนเชี่ยวชาญ ก็เป็นการประเมินที่ระมัดระวังที่สุด เพราะจะมีผู้คนเกือบพันชีวิตที่เสียชีวิตจากเหตุแผ่นดินไหวในเขตอำนาจการดูแลของสำนักงานเขตกวางหมิง ดงซูบินเพียงหวังว่าอัตราการเสียชีวิตจะลดลงครึ่งหนึ่งหลังจากเขาดำเนินการตามแผนที่เขาตั้งไว้ทั้งหมด

เราจะต้องเร่งดำเนินการตามแผนป้องกันให้เร็วที่สุด

ดงซูบินเองคิดว่าเขาคงแบกรับความรับผิดชอบที่ทำให้ผู้คนในเขตการดูแลของเขาตายขนาดนั้นไม่ได้ เมื่อเขาคิดเกี่ยวกับมัน เขามีความคิดบางอย่างอยู่ในหัว เขาจึงให้ทางเจ้าหน้าที่ของเขาประสานงานกับผู้นำชุมชนทุกชุมชน และเรียกประชุมด่วนทันที

ในช่วงเช้า.

ห้องประชุมใหญ่.

ดงซูบินเป็นคนสุดท้ายที่เข้ามาเขารอให้ผู้นำชุมชนทุกชุมชนเข้าไปในห้องประชุมให้ครบก่อน และดูเหมือนหน้าตาของหลายๆคนดงซูบินเองก็จะคุ้นเคยอยู่แล้ว ซึ่งนี้ถือเป็นงานใหญ่ของเขตกวางหมิงมาก

เมื่อเห็นดงซูบินแล้วเกิงเซียงก็มองเขาอย่างลึกซึ้งด้วยการมองที่ "เลขาซูบินครับ ผมมารายงาน" ดงซูบินยิ้มและพูดว่า: “เกิงเซียงอย่างงั้นหรอ, ห๊ะ, คุณกลับมาเมื่อไหร่?”

“ผมเองพึงเรียนจบหลักสูตรและกลับมาในวันนี้” น้ำเสียงของเกิงเซียงดูธรรมดา

ดงซูบินเดินขึ้นไปและตบไหล่ของเขาอย่างเสน่หา “ยินดีตอบรับกลับมา สำนักงานเขตแห่งนี้ขาดคุณไปไม่ได้จริง....

เกิงเซียงเองก็กกล่าวออกมา "ยินดีเช่นเดียวกันครับ"

ดงซูบินยิ้มและพูดว่า: "ไปกันเถอะ เปิดการประชุมชุมชนด้วยกัน"

เกิงเซียงขมวดคิ้วค่อนข้างอึดอัดและไม่เข้าใจว่า ดงซูบินรู้สึกกระตือรือร้นกับเขามากแค่ไหน  ดงซูบินคงไม่คิดร้ายกับเขาอีกแล้วใช่ไหม? เกิงเซียงเองก็มีสีหน้าที่ดูตื่นตระหนก

ดูเหมือนคนในห้องประชุมจะพร้อมกันหมดแล้ว

ผู้เข้าประชุมแบ่งออกเป็นสองกลุ่มคือเจ้าหน้าที่ของสำนักงานเขตกวางหมิง และส่วนที่เหลือเป็นหัวหน้าชุมชน

ดงซูบินนั้งลงในตำแหน่งประธานและดึงไมโครโฟนมาใกล้ปาก เขาไม่อยากเสียเวลาคุยเรื่องไร้สาระ หลังจากกล่าวคำเปิดงานง่ายๆ สองสามประโยค เขาก็ตรงไปที่หัวข้อ: “การประชุมวันนี้ ส่วนใหญ่เพื่อจัดการงานหลายอย่าง ทุกคนรู้จักแหตุการณ์ที่เกิดขึ้นที่หวินชวนนั้นคือเหตุแผ่นดินไหว แผ่นดินไหวในยูซุและแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ในอินโดนีเซียและต่างประเทศก่อนหน้านี้ ได้สร้างความเสียหายและส่งผลกระทบร้ายแรงต่อผู้คนจำนวนมาก หลายคน้องสูญเสียบ้านที่พักอาศัยหรือแม้กระทั้งญาติพี่น้อง...” ในโลกแผ่นดินไหวไม่ว่าจะเล็กหรือใหญ่ นั้นเกิดขึ้นแทบทุกวัน ดงซูบินร้อยเรียงเรื่องราวอย่างมีเหตุผล เขากล่าวว่าอันตรายจากแผ่นดินไหวตั้งแต่แรกเริ่มจนถึง จบและน้ำเสียงของเขาก็หนักแน่น

เมื่อทุกคนฟัง ต่างก็มีการแสดงออกที่แตกต่างกัน

หลังจากพูดคุยกันเป็นเวลานาน ดงซูบินก็เหลือบมองลงมา “ด้วยเหตุนี้ ฉันรู้สึกว่าจำเป็นต้องนำความรู้เกี่ยวกับแผ่นดินไหวมาเผยแพร่เป็นวาระ ภัยพิบัติทางธรรมชาติไม่สามารถป้องกันได้ แต่ควรป้องกันไว้ล่วงหน้า และเตรียมพร้อมสำหรับการป้องกันแผ่นดินไหวและลดภัยพิบัติที่จะเกิดขึ้น เราจะต้องมีแผนป้องกัน นี่คือสิ่งที่เราทำได้ มันจำเป็น เราป้องกันมันได้” ดงซูบินกล่าวต่อว่า “ตั้งแต่วันนี้ ฉันได้จัดการงานหลายอย่าง นำโดยคณะกรรมการชุมชนในชุมชนต่างๆ ในแต่ละชุมชน ภายใต้เขตอำนาจการดูแลของเขตกวางหมิง ได้ดำเนินการเผยแพร่ความรู้เกี่ยวกับแผ่นดินไหวขนาดใหญ่ นี้ถือเป็นนโยบายที่จะต้องนำไปปฏิบัติ งานนี้ควรถือเป็นภารกิจหลักของเขต เจ้าหน้าที่ที่รับผิดชอบในชุมชนควรส่งเอกสารประชาสัมพันธ์ตามบ้านเรือน ต้องมีการแจกจ่ายให้คบต่อให้ครัวเรือนนั้นจะอยู่ห่างไกลขนาดไหนก็ตามหรือจะเข้าถึงลำบากมากก็ตาม มันต้องถูกแจกจ่ายในทุกครัวเรือนและทุกคน!” เสียงที่เงียบของการสนทนาก็ดังขึ้นทันที และพวกเขาพิจารณาปัญหาที่เป็นจริงมากขึ้น

“การป้องกันแผ่นดินไหว? การเผยแพร่ความรู้?”

“นี่ไม่ใช่สภาวะวิกฤตไม่ใช่หรอ”

“จู่ๆเลขาซูบินก็จะดำเนินการเรื่องมันมาไดยังไง? จะต้องใช้กำลังคนและทรัพยากรงบประมาณมากแค่ไหน”

“โบรชัวร์ ประชาสัมพันธ์ ครอบครัว ราคาเท่าไหร่ จะให้ทางชุมชนออกเหรอ?” เจ้าหน้าที่สำนักงานเขต เช่น เกิงเซียง และโจวยินหยู ไม่คิดว่า ดงซูบินจะพูดเรื่องนี้ออกมาด้วยซ้ำมันกระทันหันเอามากๆ และมันก็อธิบายไม่ได้ . การป้องกันแผ่นดินไหวแบบไหนกัน? ของแบบนี้มักจะทำกันตามภารกิจของสำนักป้องกันแผ่นดินไหว เห็นได้ชัดว่าไม่มีคำแนะนำดังกล่าวในข้างต้นและแม้ว่าจะมีการทำประชาสัมพันธ์แล้วจะนำไปใช้กับทุกคนได้อย่างไร? สิ่งนี้จำเป็นหรือไม่? เงินประจำปีของสำนักงานเขตของพวกเขาเองก็ไม่ได้มีมากมายขนาดนั้น มันจะต้องใช้เงินมากแค่ไหนกัน?

ตอนนี้หลายคนถึงกับพูดไม่ออกและไม่รู้ว่าดงซูบินกำลังคิดอะไรอยู่แต่ ดงซูบินได้ชี้แจงอย่างชัดเจนว่าเขาต้องการให้นโยบายการป้องกันแผ่นดินไหวเป็นนโยบายหลัก เขาไม่ได้ขอคำแนะนำจากใคร เขาพูดออกมาด้วยตัวเองว่า: "โบรชัวร์ใครจะรับผิดชอบในการพิมพ์และการผูก รับผิดชอบในการติดตาม ข้อมูลลงในโบชัวร์ เงิน เรื่องเหล่านี้ให้เข้ามาประสานกับผู้อำนวยการโจวในการหารือเรื่องนี้" ดงซูบินมองไปที่หวังหยูริน "ฉันขอย้ำว่างงานนี้ให้ความสำคัญสูงสุดแม้ว่ายังมีภารกิจเรื่องอื่นๆ ให้หยุดลงชั่วคราวเพื่อให้แน่ใจว่าแผนนี้จะดำเนินไปอย่างราบรื่นจำเป็นต้องทำโดยเร็วที่สุด คุณไม่ ต้องรอพิมพ์ให้ครบทุกเล่ม จะพิมพ์เล่มเดียวแล้วพรุ่งนี้รอดูความคืบหน้าก็ได้”

หวังยู่หลิงกระพริบตา “รับทราบค่ะ ฉันจะทำมันออกมาให้ดีที่สุด” ดงซูบินพยักหน้ารับคำพูดและอธิบายว่า “หลังจากกลับไปแล้ว ทางชุมชนจะต้องแบ่งงานกันให้ชัดเจน จัดการเรื่องนี้ให้ดี และหากมีปัญหาใดๆ ให้รายงานฉันโดยเร็วที่สุด”

ทุกคนไม่พูดอะไร และดูเหมือนทุกคนก็จะไม่กล้าพูดด้วย

แม้ว่าจะรู้สึกว่าสิ่งที่ดงซูบินทำนั้นดูไม่มีประโยชน์อะไรเลยแต่ทางชุมชนเองก็ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องทำเท่านั้น

ดงซูบินมองไปที่ด้านล่างและพยักหน้าอย่างพอใจ “ดีล่ะ ปิดประชุม!”

เกิงเซียงเองส่ายหน้าเล็กน้อยและเขาดูเหมือนจะมีข้อสงสัยอยู่ไม่น้อย ดงซูบินไปโดนผีตัวไหนสิงมานะ? แล้วอยู่ดีๆทำไมเขาถึงเอาเรื่องแผ่นดินไหวขึ้นมาพูด? ! .

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด