1039-1040

14/15

Ep.1039

“โอ้สวรรค์! ซูเฉินเลื่อนเป็น ระดับเทวะขั้น 5 แล้ว!”

“เขาทำได้ยังไงกัน!?”

ได้เป็นสักขีพยานของฉากนี้ เสียงอุทานด้วยความตกใจดังขึ้นจากรอบด้าน

พวกเขาเห็นมันได้อย่างชัดเจน ว่าก่อนหน้านี้ซูเฉินอยู่แค่ ระดับเทวะขั้น 3 เท่านั้น แต่ในพริบตาเดียว เขาได้ก้าวสู่ระดับเทวะขั้น 5 แล้ว นี่ทำให้ทุกคนรู้สึกประหลาดใจและเหลือเชื่อนัก

ขณะเดียวกันก็เข้าใจ ไม่น่าแปลกใจเลยว่าทำไมซูเฉินถึงกล้าท้าทายเหล่า ระดับเทวะขั้น 6 ที่แท้ก็มีไพ่ตายที่สามารถยกระดับได้ตลอดเวลานี่เอง

ฉีชิงเฉวียนและคนอื่นๆงุนงงไปชั่วครู่ เมื่อรู้สึกตัว พวกเขาก็ตื่นเต้นทันที

ความสามารถในการต่อสู้ของซูเฉิน เหนือกว่าลำดับชั้นเดียวกันมาก การสังหารศัตรูข้ามขั้นเป็นเรื่องง่ายดายดั่งยกน้ำขึ้นดื่ม

หรือความหมายก็คือ เมื่อเขายกระดับสู่เทวะขั้น 5 ก็จะสามารถบดขยี้ฟ่านเสียนและคนอื่นๆได้!

“เจ้าเด็กนี่มีไพ่ตายซุกซ่อนอยู่จริงๆด้วย”

สุดยอดห้าเผ่าพันธุ์ถอนหายใจด้วยอาการสั่นสะท้าน

ก่อนหน้านี้ พวกเขายังตกลงกันว่าจะร่วมมือกันกำจัดซูเฉินอยู่เลย โชคดีที่ได้คำพูดของบรรพชนเผ่าอมตะจึงฉุกคิดได้ ไม่กระทำการโดยผลีผลาม

มิฉะนั้น คงต้องถูกซูเฉินสังหารเอาอย่างแน่นอน

ใบหน้าของฟานเสียนและทั้งสามแปรเปลี่ยนไปเช่นกัน

ซูเฉินยกระดับสู่ ระดับเทวะขั้น 5 มันเหนือความคาดหมายของเขาอย่างสิ้นเชิง ชวนให้รู้สึกกดดันอย่างหนัก

ชื่อเสียงของผู้คนก็เหมือนร่มเงาของต้นไม้

ชื่อเสียงของซูเฉินเรื่องการสังหารศัตรูข้ามขั้นได้แพร่กระจายออกไปแล้ว เช่นนั้นพวกเขายังจะสามารถสังหารซูเฉินได้อีกหรือไม่?

ณ ตอนนี้ ฟ่านเสียนและทั้งสามเริ่มเกิดความไม่สบายใจ แต่เมื่อเรื่องมันมาถึงจุดนี้แล้ว ขึ้นหลังเสือคงยากที่จะลง แม้พวกเขายอมรามือไม่ฆ่าซูเฉิน แต่ซูเฉินคงไม่มีทางปล่อยพวกเขาไป

ดังนั้นจึงเหลือหนทางเดียว นั่นคือฆ่าซูเฉินซะ!

“เขาเป็นแค่ ระดับเทวะขั้น 5 ไม่มีอะไรต้องกลัว ถ้าพวกเราร่วมมือกัน ยังพอฆ่าได้!”

ฟ่านเสียนปลุกจิตวิญญาณต่อสู้ ร้องคำรามออกมา พุ่งเข้าสังหารซูเฉินเป็นคนแรก

หานเจี้ยนอู่และอีกสองคนก็เข้าใจความจริงข้อนี้เช่นกัน กัดฟันแน่น ตามหลังฟ่านเสียนไปติดๆ

“ช่างไม่รู้จักประมาณตน!”

มุมปากของซูเฉินฉายแววดูแคลน ขณะที่ฟ่านเสียนและคนอื่นๆกำลังตรงเข้ามา เหนือหัวเขา กระบี่ยาวพลันปรากฏขึ้น และทุกด้ามล้วนปลดปล่อยคลื่นอสนีบาตอันน่าสยดสยอง ปลายแหลมของมัน ชี้ไปทางระดับเทวะทั้งสี่คน

โอ้สวรรค์! ทั้งหมดนั่นล้วนเป็นกระบี่เทวะ!

เมื่อกระบี่เทวะทั้ง 100 เล่มปรากฏขึ้น ทั้งหมดต่างตกตะลึง

แน่นอน พวกเขาเคยเห็นกระบี่เทวะมาก่อน แต่ที่โผล่มา 100 เล่มในคราเดียวเช่นนี้ มันสร้างความตกใจยากจะลบเลือนแก่พวกเขา

“ซูเฉินทำเช่นนี้ได้อย่างไร?”

ดวงตาของฟ่านเสียนเบิกกว้าง มองลึกเข้าไปข้างในจะเห็นว่ามันเต็มไปด้วยระลอกคลื่นของความหวาดกลัว

เขานึกภาพไม่ออกจริงๆ ว่าคนๆหนึ่งจะสามารถควบคุมกระบี่เทวะครบทั้ง 100 เล่มได้อย่างไร?

หากกระบี่เทวะทั้ง 100 เล่มนี้โจมตีพวกเขา ต่อให้พวกเขามีกลยุทธชนิดสามารถเบิกฟ้า เกรงว่าคงไม่มีโอกาสรอดอยู่ดี!

กู่จุนหวาดกลัวอกแทบแตกตาย หลังจากลังเลครู่หนึ่ง เขาก็ตัดสินใจหันหลังหนี

“เตรียมตัวตาย!”

ซูเฉินย่อมไม่ปล่อยให้ใครหนีไป ระยะห่างระหว่างเขากับพวกฟ่านเสียนอยู่ไกลออกไปเล็กน้อยเท่านั้น ไม่มีทางหลุดรอดเงื้อมมือไปได้!

ในชั่วพริบตา กระบี่เทวะธาตุสายฟ้านับร้อยเล่มพุ่งตกลงมา

ระหว่างทาง พวกมันค่อยๆหลอมรวมกัน เสมือนดั่งสายธารช้างเผือก ทอแสงระยิบระยับ ขณะเดียวกันมาพร้อมพลังอำนาจทำลายล้างอันน่าสะพรึงกลัว

“สู้มัน!” ฟ่านเสียนคำรามสุดชีวิต นำโล่ขนาดประมาณ 100 จั้งออกมาขวางหน้าไว้อย่างรวดเร็ว

เขารู้ดี มันสายเกินไปแล้วที่จะหลบหนีตอนนี้ มีหนทางเดียวคือต้านสุดชีวิตเท่านั้น

“แต่ ... มันจะสามารถทนได้จริงๆน่ะหรือ?”

เมื่อต้องเผชิญหน้ากับกระบวนท่าสังหารอันน่าพรั่นพรึงถึงขีดสุดเช่นนี้ หัวใจของฟ่านเสียนคล้ายพังทลายลงอย่างสิ้นเชิง ได้แต่ยืนโง่งมอยู่ที่เดิม

หานเจี้ยนอู่เองก็สูญเสียจิตต่อสู้ไปแล้วเหมือนกัน เขาทำเช่นเดียวกับกู่จุน หมุนตัววิ่งหลบหนีไป

กระนั้น ภายใต้การครอบคลุมของร้อยกระบี่คืนสู่หนึ่ง ทุกสิ่งที่พวกเขาทำล้วนไร้ประโยชน์

วินาทีถัดมา พร้อมกับเสียงดังสนั่นหวั่นไว กระบี่เทวะธาตุสายฟ้าฟาดฟันลงมาอย่างรวดเร็ว

ฟ่านซีหยางและคนอื่นๆสลายเป็นผุยผงทันที ศพหายไปไม่เหลือแม้แต่กระดูก!

15/15

Ep.1040

เมื่อควันจางลง รอบด้านตกอยู่ในความเงียบงันราวกับไม่มีเสียงผู้ใดหายใจ

ทุกคนตะลึงงันอ้าปากค้าง สายตาที่มองซูเฉินเต็มไปด้วยความหวาดกลัวและยำเกรง

หนึ่งกระบวนท่าสามารถสังหาร ระดับเทวะขั้น 6 ได้ทีเดียวถึงสี่คน ความแข็งแกร่งของซูเฉินได้เป็นที่ประจักษ์แล้ว!

ซูเฉินเก็บชิ้นส่วนและกระบี่เทวะทั้ง 100 เล่ม จากนั้นเขาก็กวาดสายตามอง

ตำแหน่งที่ดวงตาของเขามองผ่าน ไม่ว่าจะเป็นในทิศทางใด ผู้คนในทิศทางนั้นล้วนก้มหัว พวกเขาไม่กล้าหายใจ เพราะเกรงว่าการเคลื่อนไหวไม่คาดคิด จะดึงดูดความสนใจของซูเฉิน  นำมาซึ่งเภทภัยหายนะ

ซูเฉินกวาดสายตามองไปรอบๆ ในที่สุดก็หยุดลงบนตำแหน่งของคนของทางตระกูลฟ่าน

แม้ฟ่านเสียนและฟ่านซีหยางจะตายไปแล้ว แต่ตระกูลฟ่าน ตระกูลหาน และตระกูลกู่ ก็ยังมีคนอื่นๆอยู่

ภายใต้สายตาของซูเฉิน หัวใจของทุกคนในตระกูลฟ่านเกิดอาการสั่นสะท้าน

พวกเขาต่างรู้ดี ว่าซูเฉินจะไม่มีวันยอมปล่อยพวกเขาไป ดังนั้นไม่พูดอะไรซักคำ หนีกระเจิงไปทุกทิศทาง

เพียงแต่ว่า พวกเขาต้องการจะหลบหนีจากเงื้อมมือของซูเฉิน นั่นไม่ต่างอะไรกับเรื่องเพ้อฝัน!

ซูเฉินขยับเท้าวูบไหว หายวับไปจากที่เดิมราวกับภูติผี

ทันใดนั้น รอบด้านเต็มไปด้วยเสียงกรีดร้องอันน่าสยดสยอง

ใช้เวลาไม่ถึงนาที ผู้คนจากสามมหาอำนาจ ถูกกุดหัวจนสิ้น

เห็นภาพนี้ หนังศีรษะของผู้ชมต่างด้านชา ในหัวใจเต้นแรงบังเกิดความไม่สบายใจ

พวกเขาทั้งหมดกังวลเล็กน้อย ว่าพวกตนจะถูกซูเฉินโจมตีด้วยหรือไม่

หลังจากซูเฉินกลับมาที่เดิม เขาหรี่ตาลง หันไปมองสุดยอดห้าเผ่าพันธุ์ พร้อมประกายเย็นแวบวาบในดวงตาเขา

“ซูเฉิน พวกเราไม่ได้ล่วงเกินเจ้า!”

ภายใต้สายตาของซูเฉิน บรรพชนเผ่าปีศาจราตรีหวาดกลัวแทบอกแตกตาย กล่าวด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ

สุดยอดห้าเผ่าพันธุ์ของพวกเขามีความแค้นเคืองอย่างสุดซึ้งกับซูเฉิน  แต่หลังจากต้องประสบความสูญเสียไปหลายครั้ง พวกเขาก็ล้มเลิกความคิดนั้นไปแล้ว

กระทั่งก่อนหน้านี้ในงานประลองระดับดวงดาว ลูกหลานในเผ่าพันธุ์ของพวกเขาก็ยอมทำตามคำสั่งของซูเฉิน

หากซูเฉินยังไม่ยอมปล่อยพวกเขาไป  ถึงเวลานั้นต่อให้อยากร้องไห้ก็คงไม่มีน้ำตาแล้ว!

“ในเมื่อพวกแกไม่ได้ล่วงเกินฉัน แล้วทำไมต้องทำท่าทางหวาดกลัวเหมือนคนผิดด้วย?”

ซูเฉินพ่นลมหายใจเบาๆ

บรรพชนเผ่าปีศาจราตรีกลืนน้ำลายลงคอ ลอบกล่าวในใจว่า “ก็ถูกเทพสังหารเช่นเจ้าจับตามอง ใครบ้างเล่าไม่รู้สึกกลัว”

อย่างไรก็ตาม คำเหล่านี้ทำได้เพียงบ่นในใจเท่านั้น เขาไม่กล้าพูดต่อหน้าซูเฉิน

“มอบสิ่งประดิษฐ์เทวะทั้งหมดที่พวกแกมีออกมา แล้วไสหัวออกไปจากที่นี่ซะ!”

ซูเฉินกวาดสายตามองคนของสุดยอดห้าเผ่าพันธุ์ แค่นเสียงเย็นชา

คนของสุดยอดห้าเผ่าพันธุ์ แม้เมื่อครู่จะประพฤติตัวดีมาก แต่ถึงอย่างไรทั้งหมดเคยทำให้เขาขุ่นเคือง ดังนั้นแม้ซูเฉินจะไม่ฆ่าพวกมัน แต่ก็ต้องให้พวกมันจ่ายราคาที่เหมาะสม

บรรพชนระดับเทวะของสุดยอดห้าเผ่าพันธุ์มองหน้ากัน ก่อนส่งสิ่งประดิษฐ์เทวะทั้งหมดของพวกเขาออกไปอย่างไม่ลังเล

ทั้งหมดต่างรู้ดี ว่าซูเฉินต้องการฉวยโอกาสนี้สร้างปัญหา หากพวกเขาไม่จ่าย เกรงว่าซูเฉินคงลงมือแน่นอน

แม้สิ่งประดิษฐ์เทวะจะมีค่า แต่สุดท้ายมันเป็นแค่วัตถุนอกกาย เพื่อรักษาชีวิต ได้แต่ทำตามที่ซูเฉินบอก

ซูเฉินเก็บสิ่งประดิษฐ์เทวะ กล่าวอย่างเฉยเมยว่า “ไสหัวไปได้แล้ว!”

คนของสุดยอดห้าเผ่าพันธุ์ คล้ายได้รับคำนิรโทษกรรม บินหนีออกไปจากสถานที่นี้อย่างรวดเร็ว

จากนั้น ซูเฉินนำ [รถศึกอัจฉริยะ] ออกมา กวักมือเรียกฉีชิงเฉวียนและคนอื่นๆขึ้นรถ

“เสี่ยวจือ กลับไปที่ป้อมปราการมิติ”

รอจนทุกคนขึ้นรถ ซูเฉินค่อยออกคำสั่ง

“รับทราบ”

[รถศึกอัจฉริยะ] เพิ่มความเร็ว บินตรงสู่ปลายทางป้อมปราการมิติ

ชาวต่างเผ่ารอบๆเฝ้ามอง [รถศึกอัจฉริยะ] จนหายลับไปจากสายตา ถึงเวลานี้ทุกคนค่อยโล่งอก

...

“เมื่อไหร่เขตแดนลับมิติจะเปิดขึ้น?”

ระหว่างทาง ซูเฉินเอ่ยถาม

“หนึ่งเดือนจากนี้” ฉีมู่เฟิงตอบตรงๆ

หนึ่งเดือน?

ซูเฉินพึมพำ ระหว่างใช้สมอง ดวงตาของเขาค่อยๆหรี่ลง ก่อนถามว่า “งั้นนิกายซ่อนวิญญาณอยู่ที่ไหน?”

นิกายซ่อนวิญญาณได้รับคำสั่งจากนักพรตเทียนซ่าน ให้ส่งคนมาฆ่าเขา

ด้วยอุปนิสัยของซูเฉิน เขาย่อมไม่มีทางปล่อยพวกมันไป!