1037-1038

12/15

Ep.1037

“ใช่ ... เป็นนักพรตเทียนซ่านที่บอกให้ข้ามาฆ่าเจ้า!” หยางซิวลี่ว่าง่ายมากคราวนี้ ไม่กล้าปากแข็งอีกต่อไป

เมื่อทราบเรื่องผู้บงการเบื้องหลัง ซูเฉินสังหารหยางซิวลี่ในหมัดเดียว จากนั้นเริ่มรวบรวมชิ้นส่วน ขณะเดียวกันเดินไปก้มหยิบสิ่งประดิษฐ์เทวะที่กระจัดกระจายไปทั่ว

อีกด้านหนึ่ง หลังจากหุ่นเชิดทองคำสังหารระดับเทวะต่างเผ่าที่หลบหนีจนหมดสิ้น มันก็กลับมาหาซูเฉิน

ฉีมู่เฟิงและคนอื่นๆก็มารวมตัวกันรอบซูเฉินเช่นกัน

ในตอนนี้  ม่านพลังค่อยๆสลายลงอย่างช้าๆ อักษรรูนสีทองตกลงมาจากฟากฟ้า

อักษรรูนสีทองเหล่านี้คือเครื่องหมายที่ใช้เข้าสู่เขตแดนลับมิติ ดูเปี่ยมล้นไปด้วยจิตวิญญาณ เมื่อพวกมันตกลงบนร่างซูเฉินและคนอื่นๆ ก็สลายหายไปอย่างไร้ร่องรอย

ซูเฉินเปิด [มิติสันโดษ] เพื่อตรวจสอบ หลังจากพบว่าอู๋หยาจื่อและคนอื่นๆต่างก็ได้รับอักษรรูน เขาก็โล่งใจ

“ไปกันเถอะ”

ซูเฉินรวบรวมชิ้นส่วนและสิ่งประดิษฐ์เทวะตามต้องการแล้ว จึงเรียกสมาชิกคนอื่นๆ

“ซูเฉิน ดูเหมือนจะมีบางอย่างไม่ถูกต้อง”

ฉีมู่เฟิงเหยียดมือและชี้ออกไป กล่าวเตือนเขา

ซูเฉินหันหน้าตามอย่างเชื่อฟัง และพบว่ามีกลุ่มต่างเผ่าที่นำโดยฟ่านเสียนกำลังรวมตัวกัน จับจ้องเขาไม่วางตา

“พวกคุณรออยู่ที่นี่ ฉันจะแวะไปดูซักหน่อย” ซูเฉินกำชับคนอื่นๆ เดินไปข้างหน้าอย่างช้าๆ

เขาสามารถเดาได้เลย ฟ่านเสียนและคนอื่นๆต้องมาล้างแค้นตนแน่นอน

เพราะท้ายที่สุดแล้ว ก่อนหน้านี้เขารังแก และสังหารลูกหลานตระกูลฟ่านในงานประลอง

“ซูเฉิน กล้าดียังไงมาฆ่าลูกหลานตระกูลฟ่านของข้า! จงกุดหัวตัวเองเสีย หรือจะบังคับให้พวกเราต้องลงมือ?”

ข้างกายฟ่านเสียน เป็นชายชราร่างเล็ก สายตาที่เปล่งออกมา สาดแสงเย็นชา จ้องเขม็งมาทางซูเฉิน

มิใช่ใครอื่น เขาคือ ระดับเทวะขั้น 6 อีกคนของตระกูลฟ่าน  --ฟ่านซีหยาง

หลังจากได้รับข่าวว่าลูกหลานของตระกูลฟ่านถูกซูเฉินสังหารจนหมด เขาก็รีบมาที่นี่ทันที เพื่อฆ่าซูเฉิน ล้างแค้นให้แก่ลูกหลานตระกูลฟ่าน!

“ฟ่านซีหยาง ตระกูลฟ่านของพวกเจ้าคิดแหกกฏหรือ?”

ซางฉุยซานเดินมาข้างกายซูเฉิน เผชิญหน้ากับฟ่านซีหยาง เอ่ยถามเสียงเย็น

กฏที่มีมาตลอดก็คือ ผู้ที่เข้าร่วมงานประลองระดับดวงดาว จะเป็นหรือตายล้วนขึ้นอยู่กับความสามารถของพวกเขาเอง ใครก็ตามที่ถูกฆ่า ขุมกำลังของฝ่ายนั้นไม่อาจล้างแค้นให้กันได้

แต่ตระกูลฟ่านทำแบบนี้ เห็นได้ชัดว่าคิดแหกกฏ

“กฏเกณฑ์นับเป็นสิ่งใด? ซูเฉินกล้าฆ่ารุ่นเยาว์ทั้งหมดจากตระกูลฟ่านของข้า มันต้องชดใช้ด้วยชีวิต!”

ขณะที่ซางฉุยซานกำลังจะเถียงต่อ ก็ถูกซูเฉินขัดจังหวะ “ผู้อาวโส เรื่องนี้ผมขอจัดการเอง”

สิ้นเสียง เขากวาดสายตาไปยังฟ่านเสียนและคนอื่นๆ เอ่ยอย่างเฉยเมยว่า “นอกจากคนของตระกูลฟ่านแล้ว ยังมีใครอีกไหมที่ต้องการฆ่าฉัน?”

หากอีกฝ่ายคิดว่าอาศัยแค่ ระดับเทวะขั้น 6 ก็สามารถจับตัวเขาได้ เกรงว่าคงหลงตัวเองมากเกินไป  ดังนั้นไอ้หน้าไหนที่โผล่หัวมา เขาตั้งใจจะกวาดล้างมันทั้งหมดทีเดียว

“ซูเฉิน! เจ้ากระทำสิ่งชั่วร้ายมามาก ไม่รู้ว่ามีพวกเราถูกฆ่าไปกี่คนแล้ว ครั้งนี้ตระกูลหานของพวกเราจะไม่ยอมละเว้นชีวิตเจ้า!” ชายชราที่มีดวงตาเล็กตี่ ตะโกนเสียงดัง

“ซูเฉิน เขาคือหานเจี้ยนอู่แห่งตระกูลหาน เป็น ระดับเทวะขั้น 6” ซางฉุยซานเตือน

ตระกูลหาน ตระกูลฟ่าน ...

ซูเฉินทวนชื่อพวกมัน ดวงตาของเขาค่อยๆหรี่ลง จากนั้นกล่าวว่า “ยังมีใครอยากฆ่าฉันอีกไหม?”

“ตระกูลกู่ของข้าก็เป็นหนึ่งในนั้น” บรรพชนตระกูลกู่ --กู่จุนก้าวออกมาข้างหน้า ประกาศเสียงดัง

ตัวเขาเองก็นับเป็นยอดฝีมือในระดับเทวะขั้น 6 เช่นกัน ซานฉุยซานเห็นภาพนี้ สีหน้าของเขาเปลี่ยนเป็นเคร่งเครียดผิดปกติ

มีระดับเทวะขั้น 6 มากถึง 4 คนต้องการสังหารซูเฉิน เกรงว่าแบบนี้ต่อให้เขาคิดก้าวเข้ามาช่วย มันก็ไม่สามารถรักษาชีวิตของซูเฉินไว้ได้อยู่ดี

ดังนั้นแผนในตอนนี้ มีแต่ต้องถ่วงเวลาให้ซูเฉินหลบหนีไปจากที่นี่เท่านั้น

แม้วิธีการนี้ค่อนข้างดูน่าอับอายเล็กน้อย แต่ก็ยังดีกว่าจบชีวิตลง

รักษาภูเขาเขียวต้องไม่กลัวฟืนไฟ รอจนซูเฉินแกร่งมากพอ ค่อยกลับมาแก้แค้นก็ยังไม่สาย

13/15

Ep.1038

คิดได้แบบนี้ ซางฉุยซานกระซิบว่า “ซูเฉิน ข้าจะหยุดพวกเขาให้ เจ้ารีบหนีไปซะ”

ซูเฉินเข้าใจว่าซางฉุยซานกำลังคิดอะไรอยู่ แต่หากบอกให้เขาหนีไปโดยไม่สู้เลย มันเป็นไปได้หรือ?

“ผู้อาวุโส ไม่ต้องกังวล แค่มดปลวกไม่กี่ตัวเท่านั้น พวกมันไม่อาจก่อคลื่นลมกับผมได้” ซูเฉินผุดยิ้มบาง

มดปลวก?

ในสายตาของซูเฉิน ระดับเทวะขั้น 6 เป็นได้แค่มดปลวก?

ซางฉุยซานอ้าปากค้าง สีหน้าของเขาดูเหม่อลอยเล็กน้อย

“นอกจากตระกูลฟ่าน ตระกูลหาน และตระกูลกู่แล้ว คนที่ยังลังเลจงถอยไปให้หมด จะได้ไม่ต้องโดนลูกหลง”

ซูเฉินประกาศเสียงดัง ก่อนหันมาพูดกับซางฉุยซานว่า “ผู้อาวุโส ท่านเองก็ควรไปจากที่นี่ด้วย”

ซางฉุยซานตะลึงงัน ฟังจากน้ำเสียงของซูเฉิน ราวกับว่าเขาต้องการเชือดคนจากสามตระกูลใหญ่ด้วยกำลังตนเพียงลำพังเลย

กระนั้น ซูเฉินอยู่แค่ ระดับเทวะขั้น 3 เท่านั้น! ต่อให้เขามีหุ่นเชิดระดับเทวะขั้น 5 เข้ามาช่วยเหลือ แต่ก็ไม่น่าจะเป็นคู่ต่อสู้อีกฝ่ายได้ ถูกไหม?

ในขณะเดียวกัน ได้ยินเสียงกระซิบกระซาบดังขึ้นรอบๆ

“ซูเฉินต้องบ้าไปแล้วแน่ๆ! ถึงกับคิดสู้คนจากตระกูลใหญ่ทั้งสามเพียงลำพัง?”

“ผู้ใดกันที่มอบความกล้าหาญเช่นนี้แก่เขา?”

“ชายผู้นี้ นับแต่เริ่มมีชื่อเสียง นานวันยิ่งบ้าบิ่นโอหัง แต่ครั้งนี้นับว่าบ้าบิ่นที่สุดแล้ว”

ซูเฉินในระดับเทวะขั้น 3 แต่กลับกล้างัดเหล็กแข็งกับระดับเทวะขั้น 6 ถึง 4 คน

ผู้คนที่มุงดูต่างเห็นพ้องเป็นเอกฉันท์ ว่าซูเฉินต้องตายอย่างแน่นอน

อีกด้านหนึ่ง คนจากสุดยอดห้าเผ่าพันธุ์รวมกลุ่มกันเพื่อหารือถึงเรื่องนี้

บรรพชนเผ่าปีศาจราตรีกล่าวเสียงเบาว่า “นี่เป็นโอกาสอันดีที่จะสังหารซูเฉิน พวกเราควรร่วมวงด้วยดีไหม?”

“เป็นโอกาสดีจริงๆ ซูเฉินฆ่าคนของเราไปมาก พวกเราไม่ควรละเว้นเขา”

เผ่ามายา เผ่าอสูรศักดิ์สิทธิ์ และเผ่าเทพต่างก็เห็นด้วย

บรรพชนเผ่าอมตะครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนเอ่ยอย่างช้าๆว่า “แม้ซูเฉินจะกระทำการบุ่มบ่าม แต่ทุกครั้งเขามั่นใจว่าจะชนะ ด้วยเหตุนี้เอง นับแต่มีชื่อเสียงเป็นต้นมา เขาถึงไม่เคยพ่ายแพ้เลย พวกเจ้าลองนึกดู ว่าเขาจะไม่เตรียมไพ่ตายใดๆซุกซ่อนไว้เลยหรือ? อาศัยแค่ความกล้า เขาคงไม่สามารถสู้กับ ระดับเทวะขั้น 6ได้”

เมื่อคําพูดนี้เปล่งออกมา สีหน้าของเหล่าบรรพชนที่เหลือแปรเปลี่ยนไป

นับแต่ซูเฉินมีชื่อเสียง จากทวีปแผ่นดินใหญ่สู่มิติภายนอก ไม่ทราบว่าได้สังหารยอดฝีมือไปแล้วกี่คน  และจนถึงตอนนี้ยังไม่มีใครปราบเขาได้

แล้วอีกอย่าง สีหน้าของซูเฉินดูยิ้มแย้มไร้กังวล คล้ายพร้อมรับมือกับสถานการณ์ และพวกที่ไม่เห็นซูเฉินอยู่ในสายตา คงไม่ได้พบจุดจบที่ดี

เช่นเดียวกันครั้งนี้ แทบไม่มีใครเห็นหัวซูเฉิน ยิ่งเป็นอย่างนั้นยิ่งเข้าทางซูเฉิน

“พวกเรามารอดูดีกว่าว่าจะเกิดอะไรขึ้น อย่าเพิ่งเข้าไปยุ่ง” บรรพชนเผ่าปีศาจราตรีกล่าวอย่างระแวดระวัง

อีกสี่คนที่เหลือต่างเห็นด้วย

...

“ซูเฉิน ดูเหมือนเจ้าต้องการจะสู้กับพวกเราทุกคนในคราเดียวสินะ?” ฟ่านเสียนจ้องมองซูเฉิน หัวเราะอย่าบ้าคลั่ง

ในความคิดเขา ระดับเทวะขั้น 6 ผนึกกำลังกัน ต่อให้ซูเฉินมีปีก ก็ยากจะบินหลบหนี ตอนนี้ได้แต่แสร้งพูดอวดดีไปเท่านั้น

มุมปากของซูเฉินยกยิ้มเล็กน้อย กล่าวดูแคลน “พวกแกมีคุณสมบัติอะไรถึงจะมาสู้กับฉัน? ก็แค่กลุ่มคนใกล้ตายกลุ่มหนึ่งเท่านั้น”

ทันทีที่คำนี้หลุดออกมา บริเวณโดยรอบเกิดเสียงฮือฮา

สมแล้วจริงๆที่เป็นเทพสังหาร ไม่ว่าเมื่อไหร่ ไม่ว่าเวลาไหน ก็ยังเอ่ยวาจาเย่อหยิ่งจองหองเช่นนี้เสมอมา!

ฝูงชนที่มุงดูต่างทอดถอนหายใจ

“ช่างอวดดี!”

ฟ่านซีหยางและอีกสามคนที่เหลือโกรธจัด ไม่คิดปล่อยให้ซูเฉินอาละวาดอีกต่อไป  กลิ่นอายสังหารลุกฮือในคราเดียว! กระจายออกจากร่างของพวกเขา

เห็นการต่อสู้กำลังจะปะทุขึ้น ผู้ชมรอบๆต่างกลัวโดนลูกหลง รีบถอยเว้นระยะห่างอย่างรวดเร็ว

ซูเฉินยังคงยืนนิ่งอยู่ที่เดิม ใบหน้าเขาไร้ซึ่งความหวั่นไหวใดๆ ชวนให้ความรู้สึกลึกล้ำ

ขณะที่ฟ่านเสียนและคนอื่นๆกำลังจะลงมือ ร่างกายซูเฉินก็ขยายใหญ่ขึ้นทันใด พริบตาเดียวสูงขึ้นเป็นสิบจั้ง

ในเวลาเดียวกัน กลิ่นอายบนร่างเขาเพิ่มขึ้นตาม หลังจากทะลวงสู่ ระดับเทวะขั้น 4 แล้ว มันก็กระโดดขึ้นไปยัง ระดับเทวะขั้น 5 ต่อทันที

ถึงอย่างไรฟ่านเสียนและคนอื่นๆต่างเป็น ระดับเทวะขั้น 6 ซูเฉินไม่อาจประมาท ดังนั้นใช้ 120,000 แต้มพลังงานเพื่อแลกเปลี่ยนกับ [คุณสมบัติเลเวล 15 อย่างเต็มรูปแบบ]

ส่งผลให้ฐานฝึกตนเลื่อนขึ้นมาเป็นเทวะขั้น 4 บวกกับการเปิดใช้งาน [เทคนิคปลุกศูนย์รวมวิญญาณสวรรค์] --

--จึงทะยานสู่ ระดับเทวะขั้น 5!