ตอนที่ 73+74 คุณนายจ้าว คุณนายเจียง
เมื่อมาถึงจุดนี้ ดวงตาของลู่อี้ชิงก็แดงก่ำและมีน้ำตาไหล “ฉันอกหัก เมื่อคืนฉันไม่กล้าเผชิญหน้ากับเขาเกี่ยวกับเรื่องนี้เลย ฉันพยายามระงับความอยากรู้อยากเห็น และไม่ถามอะไรเขา”
“อี้ชิง พี่อาจไม่อยากฟัง แต่ฉันต้องบอกพี่ว่าจ้าวจวนซ่งเขาเป็นคนหลอกลวง รวมไปถึงครอบครัวของเขาด้วย!” เจียงเหยาโพล่งออกมาทันที เธอรู้สึกเสียใจต่อลู่อี้ชิง หลังจากคิดว่าจ้าวจวนซ่งทำร้ายเธออย่างไรบ้าง
“อี้ชิง จำได้ไหมว่าแม่สามีของพี่มักจะรบเร้าเรื่องให้พี่มีลูก แต่ตอนนี้พวกเขาไม่ได้ทำอะไรอย่างนั้นอีกแล้ว? ลองคิดดูสิ พวกเขาหยุดจู้จี้เรื่องนั้น ในช่วงที่ผู้ช่วยของพี่ตั้งท้อง?”
ลู่อี้ชิงตัวแข็งด้วยความตกใจอย่างมาก
“นี่เธอหมายความว่าแม่สามีของฉันก็รู้เรื่องนั้นด้วยเหรอ”
“เป็นแค่การคาดเดาของฉันค่ะ” เจียงเหยากล่าว
เธอไม่รู้ว่าจะอธิบายเรื่องของการกลับมาเกิดใหม่ของเธอยังไง ดังนั้นจึงไม่สามารถบอกออกไปอย่างตรงไปตรงมาได้ว่ามีเรื่องอะไรเกิดขึ้นหลังจากนี้บ้าง
หลังจากรับประทานอาหารเช้าที่บ้านแล้ว ลู่อี้ชิงและเจียงเหยาก็เข้าไปในเมือง พวกเขามุ่งหน้าไปที่ร้านอาหารตะวันตกที่เจียงเหยาและลู่เสี่ยวเซียวได้เจอกันจ้าวจวนซ่งและผู้ช่วยของเธอเมื่อวันก่อน
...
หนึ่งชั่วโมงต่อมาก็มาถึงยังร้านอาหาร ลูกค้ายังแน่นร้านเหมือนทุกครั้ง พนักงานเสิร์ฟทักทายพวกเขาทันทีที่เดินข้ามาในร้าน
เจียงเหยาและลู่อี้ชิงนั่งตรงกันข้ามกัน
เจียงเหยาแสร้งทำเป็นมองเมนูราวกับเธอไม่คุ้นเคยกับอาหารของที่นี่ ผ่านไปครู่หนึ่ง เธอเงยหน้ามองพนักงานเสิร์ฟแล้วพูดว่า “มีเมนูพวกกาแฟและของหวานแนะนำไหมคะ? พี่ชายของฉันบอกว่าอาหารของร้านคุณอร่อยมาก ครั้งก่อนเขาจ่ายเงินให้ฉัน ทั้งที่ฉันยังไม่ทันได้สั่งอาหารเสียด้วยซ้ำ ตลกใช่ไหมคะ เขาบอกว่าเขาเป็นเพื่อนกับเจ้านายของคุณ”
เจียงเหยาหยุดไปสักขณะ ก่อนจะพูดเสริมด้วยรอยยิ้ม “พี่ชายของฉันชื่อจ้าวจวนซ่งค่ะ”
พนักงานเสิร์ฟอ้าปากค้างด้วยความประหลาดใจเมื่อไดยินชื่อนี้ “โอ้ คุณจ้าว! คุณจ้าวกับเจ้านายของเราเป็นเพื่อนกันคะ! ฉันไม่รู้มาก่อนว่าเขามีน้องสาวที่น่ารักแบบนี้ด้วย คุณจ้าวชอบแบบไหนล่ะคะ ฉันจะได้แนะนำอาหารที่เหมาะกับคุณให้ค่ะ”
“พี่ชายของฉันและฉันมีรสนิยมคล้าย ๆ กัน ปกติเวลาเขามา เขาสั่งอะไรคะ”
เจียงเหยายิ้มอย่างสนุกสนาน “คุณรู้รึเปล่าคะ แค่เอาแบบเดียวกับที่พี่ฉันสั่งก็ได้แล้วคะ พนันได้เลยว่าฉันต้องชอบแน่”
พนักงานเสิร์ฟยิ้มตอบเธอเช่นกัน คุณจ้าวเขาชอบอาหารรสจืด แต่คุณนายจ้าวจะชอบอาหารกลิ่นหอมและรสชาติเข้มข้น บางทีอาจเพราเธอกำลังตั้งครรภ์ ทุกครั้งที่พวกเขาแวะมาที่ร้านของเรา คุณจ้าวมักจะช่วยสั่งอาหารที่ภรรยาของเขาชอบให้เธอ”
“จริงเหรอคะ?” เจียงเหยาสังเกตเห็นลู่อี้ชิงตัวสั่นเมื่อพนักงานพูดถึงการตั้งครรภ์ของคุณนายจ้าวและอาหารที่เธอชอบ
“คุณนายจ้าวใกล้คลอดแล้วใช่ไหมคะ? ได้ข่าวว่าได้ลูกชาย คุณจ้าวจะมีหลานชายในเร็ววันนี้แล้วนะคะ”
จากนั้นพนักงานเสิร์ฟก็แนะนำขนมและกาแฟให้เจียงเหยา หลังจากรับออเดอร์แล้ว พนักงานจึงเดินจากไปด้วยรอยยิ้มที่สุภาพ
ทันทีที่พนักงานเสิร์ฟจากไป ลู่อี้ชิงก็ร้องไห้ออกมา เธอกัดฟันและสาปแช่งด้วยเสียงอู้อี้ “จ้าวจวงซ่ง คนสารเลว!”
เจียงเหยาเอื้อมมือออกไปจับมือลู่อี้ชิง “อี้ชิง...” เธอไม่รู้จะพูดอะไร
ในฐานะผู้หญิงด้วยกันที่ถูกมองว่าเป็นผู้หญิงที่แต่งงานอย่ามีความสุขมาโดยตลอด เหตุการณ์นี้จึงทำร้ายจิตใจและสร้างความเสียใจให้กับเธออย่างไม่ต้องสงสัย
จ้าวจวนซ่งไม่เพียงคบชู้กับผู้ช่วยของเธอเท่านั้น เขายังแนะนำผู้หญิงคนนั้นว่าเป็นภรรยาของเขาอีกด้วย! ลู่อี้ชิงจะต้องเสียใจขนาดไหน เมื่อมีคนมีเรียกผู้หญิงคนอื่นว่าคุณนายจ้าว
_
เจียงเหยา ฉันไม่ค่อยหิวน่ะ พอจะอยู่คนเดียวได้ไหม? ฉันอยากอยู่คนเดียว” ลู่อี้ชิงกล่าวขณะที่น้ำตานองหน้า
“ฉันไม่เป็นไรคะ แต่พี่แน่ใจนะว่าไม่ต้องการให้ฉันอย่เป็นเพื่อน?” เจียงเหยาเป็นกังวลจริง ๆ นี่เป็นเรื่องที่ทำให้เธอต้องเสียใจอย่างมาก โดยเฉพาะคนอย่างลู่อี้ชิงผู้ซึ่งทะเยอทะยานและมั่นใจตัวเองอยู่เสมอ
ลู่อี้ชิงส่ายหน้าดวงตามองมาที่เธอ เจียงเหยากัดริมฝีปากและไม่พูดอะไร เพราะลู่อี้ชิงอย่างอยู่คนเดียว จะให้อยู่เป็นเพื่อนเธอก็คงไม่ช่วยอะไร
หลังจากที่ลู่อี้ชิงออกไปแล้ว เจียงเหยานั่งดื่มกาแฟต่อก่อนออกจากร้านไป เธอซื้อของกินและของใช้ในเมืองก่อนจะขึ้นรถบัสกลับบ้าน
พ่อแม่ของเธอต้องประหลาดใจ เมื่อจู่ ๆ เธอก็กลับมาที่บ้าน พวกเขารีบวิ่งมาหาเธอและช่วยเธอหิ้วถุงที่อยู่ในมือ
พวกเขาขมวดคิ้วเมื่อเห็นรอยที่มือหลังจากที่เธอหิ้วถุงหนัก ๆ ตั้งมากมาย
“เด็กโง่ กลับมาบ้านตัวเปล่าก็ดีใจแล้ว ไม่เห็นจำเป็นต้องซื้ออะไรมามากมายเลย จะซื้ออะไรก็ซื้อที่ตัวเองชอบเถอะ แต่นี่ซื้ออะไรมามากมายล่ะเนี้ย ดูมือสิ” แม่ของเธอบ่นอย่างไม่พอใจขณะที่เธอหิ้วถุงออกจากมือของเจียงเหยา เธอวางถุงพวกนั้นไว้บนโต๊ะ จากนั้นก็หันมาจับมือเจียงเหยา ลูบมือของหญิงสาวเบา ๆ
“อย่าทำแบบนี้อีก เข้าใจไหม? มือของหญิงสาวควรจะอ่อนนุ่ม นี่ลูกกำลังจะเป็นหมอในอีกไม่ช้าแล้วนะ อย่าทำร้ายตัวเองแบบนี้สิไ
“แม่คะ หมอนะไม่ใช่คนในดินแดนมหัศจรรย์ที่ไม่ต้องทำงานเสียเมื่อไหร่? หนูน่ะไม่ต้องการมือที่บอบบางเพื่อจะเป็นหมอหรอกนะคะ หนูต้องการร่างกายที่แข็งแรง แขนที่แข็งแรง สำหรับผ่าตัด จะได้ถือมือได้อย่างมั่นคงไงคะ แล้วถ้าแข็งแรงก็จะมีแรงผ่าตัดไว้นานหลาย ๆ ชั่วโมงไงคะ”
“ใช่ ใช่ ลูกพูดถูก” แม่เจียงพยักหน้าและยิ้มอย่างอบอุ่น เธอมองลูกสาวของเธอและจินตนาการว่าเธอจะต้องเป็นหมอที่ดีในอนาคต “เหยาเหยา จำลุงที่อยู่หมู่บ้านด้านหน้านี้ได้ไหม? เขาเป็นซินแสรักษาโรคทั่วไป ตอนที่ลูกยังเด็ก ลูกน่ะเรียนเก่งจนเราอดไม่ได้ที่จะอวดลูกน่ะสิ แม่เดานะ เขาจะต้องอิจฉาแน่ ๆ เขาเลยพูดติดตลกว่าการส่งเด็กผู้หญิงไปเรียนน่ะเป็นเรื่องเสียเวลา เพราะในสุดก็ต้องแต่งงานและมีครอบครัว ฮึ่ม! ตอนนี้ เป็นไงล่ะ ใคร ๆ ก็รู้ไม่เพียงแต่ลูกจะมีสามีที่ดีเท่านั้น ลูกยังเรียนเก่งอีกด้วย ต่อไปถ้าลูกได้เป็นหมอ ก็ไม่ต้องไปดีกับคนที่พูดจาไม่ดีกับลูกนะ ถ้าพวกเขามาขอให้รักษา ก็จ่ายยาขม ๆ แพง ๆ ให้พวกเขาไปเลย”
มีคนมากมายในหมู่บ้านที่ไม่เห็นด้วยกับครอบครัวเจียงที่ให้การสนับสนุนการศึกษาของเจียงเหยา เด็กผู้หญิงส่วนใหญ่ในหมู่บ้านต่างไม่เรียนต่อ หลังจากเรียนจบการศึกษาภาคบังคับ (ระดับประถมศึกษา) มีคนที่โชคดีเพียงไม่กี่คนที่ได้เรียนต่อในระดับมัธยม
สำหรับครอบครัวเจียงแล้ว ยึดคติว่าจะสนับสนุนลูก ๆ ของพวกเขาที่เรียนเก่งให้ได้เรียนต่อ โดยไม่คำนึงถึงข้อจำกัดทางด้านการเงิน
ระดับการศึกษาของเจียงเหยาสูงกว่าพี่น้องของเธอ หลังจากเรียนจบจากมหาวิทยาลัย ทุกคนต่างนินทาว่าตระกูลเจียงคิดจะทำลายชีวิตการแต่งงานของเจียงเหยา เพื่อให้เธอได้เรียนต่อ แต่น่าแปลกที่เธอกลับตกลงแต่งงานกับลูกชายของตระกูลลู่ที่ร่ำรวย ตั้งแต่อายุสิบแปดปี
ตอนนี้ ทุกคนในหมู่บ้านต่างอิจฉาที่เจียงเหยาเป็นเด็กสาวที่โชคดี เธอเกิดในครอบครัวที่มีพ่อแม่และพี่น้องที่รักเธอ เธอได้แต่งงานกับลูกชายของครอบครัวที่ร่ำรวยที่สุดในเขตนี้ มีข่าวลือว่าไม่เพียงแต่สามีของเธอจะดีกับเธอเป็นอย่างมาก แต่ครอบครัวของสามียังให้เงิน สนับสนุนด้านการศึกษาแก่เจียงเหยาจนถึงระดับมหาวิทยาลัยอีกด้วย
เจียงเหยาหัวเราะคิกคักกับคำพูดของแม่ของเธอ และพูดว่า “ได้ ได้ หนูจะทำตามคำแนะนำของแม่คะ พวกเขาไม่ควรมาหาหนูจริง ๆ นั่นแหละ หนูจะจัดยาที่ขมที่สุดเพื่อเป็นการแก้แค้น ที่มายุ่งกับครอบครัวเราดีไหมคะ”
แม่เจียงรีบส่ายหน้า “แม่ล้อเล่นน่า ฟังนะ ลูกต้องเป็นหมอที่ดี อย่ารังแกคนไข้ เข้าใจไหม?”