WS บทที่ 307 การแลกเปลี่ยนครั้งยิ่งใหญ่
ห้องของเอ็มม่ากับเลอแรนก้าต่างก็อยู่ในหอคอยของพ่อมดลีโอ เมอร์ลินเคาะประตูเบา ๆ แต่ไม่มีเสียงตอบรับ
พวกเธอไม่อยู่ที่นี่ เรื่องนี้ไม่ไกลจากที่เขาคาดไว้ ถ้าเอ็มม่าและเลอแรนก้ากลับมา พวกเธอก็คงมาหาเขาไปนานแล้ว ถึงเขาจะหลับลึกแต่เดอะเมทริกซ์ยังทำงานอยู่ตลอดเวลา มันได้บอกเขาว่าในช่วงสิบวันที่ผ่านมาไม่มีใครมาพบเขาเลยสักคนเดียว
“การเดินทางจากเมืองปรากาซไปยังวงแหวนมนต์ดำที่อยู่ใกล้ที่สุด แค่ครึ่งเดือนก็ถือว่ามากสุดแล้ว ดังนั้นตอนนี้พวกเธอควรจะกลับมาได้แล้ว…”
เมอร์ลินขมวดคิ้ว ย้อนกลับไปตอนที่เขาออกจากดินแดนมนต์ดำ เขาบอกเอ็มม่ากับเลอแรนก้าว่า ถ้ามีเวลาควรไปเยี่ยมครอบครัวของเขาในเมืองปรากาซ อย่างไรก็ตาม พวกเขาได้หายไปจากดินแดนมนต์ดำเกือบสองเดือนแล้ว นี่ไม่ใช่เรื่องปกติ โดยเฉพาะเลอแรนก้าเพราะเธอจะไม่ยอมให้โอกาสในการเรียนรู้ในดินแดนมนต์ดำหลุดมือไป ต่อให้นางออกไปข้างนอกก็คงออกไปไม่นานแน่นอน
ดังนั้นจึงมีความเป็นไปได้สูงที่พวกเขาประสบปัญหาบางอย่าง เมื่อเมอร์ลินคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้ อารมณ์ของเขาก็ค่อนข้างว้าวุ่นใจ
“ดูเหมือนฉันจะต้องรีบกลับเมืองปรากาซจริง ๆ สินะ!”
เมอร์ลินพึมพำแต่ก่อนจะกลับไปที่เมืองปรากาช เขายังต้องไปที่หอสมุดเพื่อแลกเปลี่ยนวัตถุดิบปรุงยาสำหรับปรุงน้ำยาโมคราและน้ำยาอื่น ๆ ตามที่พ่อมดฮาวล์กล่าวไว้ว่าส่วนผสมสำหรับน้ำยาโมครานั้นหายากมากและสามารถแลกเปลี่ยนได้ในหอสมุดเท่านั้น
เขาพึงพอใจกับผลของน้ำยาโมครา ตราบใดที่เขาแลกเปลี่ยนวัตถุดิบยาที่จำเป็น เขาก็สามารถพยายามปรุงมันใช้เองได้ในอนาคต
…
“พ่อมดเมอร์ลิน ท่านต้องการสิ่งใดขอรับ?” ในหอสมุด พ่อมดชุดเทาระดับสองยืนอยู่หน้าเมอร์ลินกล่าว
หลังจากที่เห็นว่าเมอร์ลินเป็นนักเวทย์หกธาตุที่มีชื่อเสียงของดินแดนมนต์ดำ พ่อมดชุดเทาก็ไม่กล้าที่จะละเลยเขาและรีบถามด้วยอย่างเคารพ
“พาฉันไปดูวัตถุดิบปรุงยาที”
เมอร์ลินยิ้มอย่างอ่อนโยนและตอบอย่างใจเย็น เขาไม่ใช่พ่อมดหน้าใหม่ในดินแดนมนต์ดำอีกต่อไป ด้วยความแข็งแกร่งและสถานะของเขา เขาไม่ด้อยไปกว่าชื่อเสียงของพ่อมดไคลส์ในดินแดนมนต์ดำเมื่อตอนนั้นเลย
“พ่อมดเมอร์ลิน ท่านต้องการปรุงยาใช่ไหมขอรับ?”
“ใช่ นี่คือของที่ฉันต้องการ!”
เมอร์ลินนำสูตรของน้ำยาโมครออกมาทันที มันเพียงรายชื่อของส่วนผสมเท่านั้น สิ่งที่สำคัญกว่าในการผลิตยาคืออัตราส่วน สิ่งนี้สร้างโดยนักปรุงยาที่ทรงพลังซึ่งใช้ข้อมูลการทดลองใช้จำนวนมากเพื่อบันทึกและปรับปรุงทีละน้อย
ก่อนที่ฮาวล์จะจากไป เขาได้มอบสูตรของน้ำยาโมคราให้กับเมอร์ลิน แต่ก็บันทึกสัดส่วนอย่างละเอียดไว้ด้วยซึ่งเป็นส่วนที่มีค่าที่สุด ตอนนี้ เมอร์ลินหยิบออกมาเพียงแค่รายชื่อส่วนผสมเท่านั้น ดังนั้นโดยธรรมชาติแล้วเขาไม่กลัวว่าผู้คนจะค้นพบความลับของน้ำยาโมครา
เมื่อเห็นรายชื่อที่เมอร์ลินให้มา รายการวัสดุปรุงยาที่ครบถ้วนเพียงอย่างเดียวก็ทำให้พ่อมดชุดเทาตกใจอย่างมาก ผู้ที่สามารถแลกเปลี่ยนวัสดุยาจำนวนมากในหอสมุดได้นั้นส่วนใหญ่เป็นผู้ร่ายคาถาระดับสี่หรือสูงกว่า
“พ่อมดเมอร์ลิน วัสดุปรุงยาเหล่านี้มากเกินไปจริง ๆ ท่านช่วยมาเลือกกับเราด้วยขอรับ”
เมอร์ลินพยักหน้าและเดินตามพ่อมดชุดสีเทาไปที่ชั้นสองของหอสมุดซึ่งมีอุปกรณ์เวทมนต์ วัตถุดิบปรุงยา และของอื่น ๆ อีกมากที่วางไว้มากมาย
เนื่องจากองค์กรนักเวทย์ที่มีประวัติอันยาวนานซึ่งสืบทอดมานับพันปี จึงไม่แปลกที่มรดกของดินแดนมนต์ดำนั้นจะอุดมสมบูรณ์มากและวัตถุดิบปรุงยาส่วนใหญ่สามารถพบได้ในหอสมุด
ส่วนการใช้แต้มสนับสนุนนั้นขึ้นอยู่กับความต้องการส่วนตัว วัสดุล้ำค่าบางอย่างไม่สามารถซื้อได้จากภายนอก ดังนั้นการใช้แต้มสนับสนุนมากน้อยเพียงใดก็ยังคุ้มค่า ไม่ต้องพูดถึง แต้มในตอนนี้ของเมอร์ลินยังคงเหลือมากกว่าหลายพันแต้ม หากผ่านไปอีกหนึ่งปี เมอร์ลินจะได้รับแต้มสนับสนุนอีก 10,000 แต้มจากดินแดนมนต์ดำ
ดังนั้น เมอร์ลินจึงสามารถแลกเปลี่ยนวัสดุปรุงยาหรือคาถาอันทรงพลังบางอย่างในหอสมุดได้โดยไม่ต้องกังวลว่าแต้มจะไม่พอ นี่เป็นสิ่งที่ทางดินแดนมนต์ดำคอยช่วยเหลือให้เกล่านักเวทย์ในองค์กรแข็งแกร่งขึ้น!
“พ่อมดเมอร์ลิน เรามีวัตถุดิบยาทั้งหมดอยู่ในรายการในหอสมุด ทานอยากได้เท่าไหร่?”
“คุณมีทั้งหมดเหรอ? ดีมาก ฉันสามารถแลกเปลี่ยนวัตถุดิบทั้งหมดกับแต้มสนับสนุนที่มีได้มากแค่ไหน?”
เมอร์ลินถามคำถามสองข้อในครั้งเดียว แต่ข้อมูลที่เปิดเผยทำให้พ่อมดชุดเทารู้สึกตื่นเต้นแทน พวกเขารู้ดีว่าเมอร์ลินเป็นนักเวทย์ที่ได้รับการจัดลำดับความสำคัญสูงสำหรับการฝึกในดินแดนมนต์ดำ เช่นเดียวกับไคลส์ในตอนนั้น เขาได้รับแต้มสนับสนุนเป็นจำนวนมากทุกปีเช่นกัน
ทั่วทั้งดินแดนมนต์ดำ จำนวนนักเวทย์ที่ได้รับการสนับสนุนเช่นนี้มีเพียงหยิบมือเดียวซึ่งแสดงให้เห็นว่าทางดินแดนมนต์ดำให้คุณค่ากับเมอร์ลินมากเพียงใด
“พ่อมดเมอร์ลิน มีวัตถุดิบมากมายสำหรับปรุงยาเหล่านี้ในหอสมุด หากท่านแลกเปลี่ยนพวกมันทั้งหมดด้วยคะแนนการบริจาคที่เหลืออยู่ ท่านสามารถแลกเปลี่ยนวัสดุยาเหล่านั้นได้มากถึงร้อยชุด!”
“วัตถุดิบปรุงยาร้อยชุด? แค่นั้นก็พอ!”
เมอร์ลินพยักหน้า เขามีความสุขมาก ด้วยวัสดุปรุงยามากมาย เขาสามารถปักหลักอยู่ในที่ปลอดภัยในอนาคตและจดจ่อกับการปรุงยาโมครา การใช้การควบคุมที่แม่นยำของเดอะเมทริกซ์ น้ำยาของเขาจะไม่ด้อยไปว่าที่พ่อมดฮาวล์ทำอย่างแน่นอน
ในระหว่างนั้น พลังจิตของเขาอาจจะเติบโตอย่างดุเดือดภายใต้การสะสมของน้ำยาโมครา นี่เป็นวิธีเพิ่มความแข็งแกร่งอย่างรวดเร็ว แม้แต่การใช้คะแนนการสนับสนุนทั้งหมดในตอนนี้ก็ยังทำให้คุ้มค่า
“ฉันขอแลกเปลี่ยนวัสดุปรุงยาหนึ่งร้อยชุดมาให้ฉัน!” เมอร์ลินตอบอย่างมั่นใจ
“ได้โปรดรอสักครู่!”
พ่อมดชุดสีเทาจากไปพร้อมกับรอยยิ้ม จากนั้นทางหอสมุดได้วุ่นวายอยู่พักใหญ่ เนื่องจากมีการแยกวัสดุปรุงยาจำนวนนับไม่ถ้วน
ประมาณครึ่งชั่วโมงต่อมา พ่อมดชุดเทากลับมาหาเมอร์ลินและกล่าวด้วยความเคารพ “พ่อมดเมอร์ลิน วัตถุดิบปรุงยาพร้อมแล้ว แต้มสนับสนุนในแหวนมนต์ดำของท่านเหลือกว่าร้อยแต้มขอรับ!”
ทันทีที่เขาจัดเตรียมเสร็จ เมอร์ลินก็นำแหวนมนต์ดำคืนมา และเขาสังเกตเห็นว่าแต้มสนับสนุนนับพันบนนั้นเหลือน้อยกว่าร้อยแต้มเท่านั้น อย่างไรก็ตาม เมื่อเขานึกถึงผลลัพธ์ที่จะได้มาหลังจากนั้น การใช้แต้มที่มีของเขาเกือบทั้งหมด มันก็กลายเป็นเรื่องเล็กน้อยไปเลย
“ส่งวัตถุดิบปรุงยามาให้ฉัน”
เมอร์ลินเก็บวัตถุดิบของน้ำยาโมคราไว้ในแหวน จากนั้นจึงยืนขึ้นและออกจากหอสมุดโดยทิ้งความอิจฉาไว้บนใบหน้าของพ่อมดชุดเทาในหอสมุด
…
เมื่อเขาออกจากหอสมุด หัวใจของเมอร์ลินก็ตื่นเต้นขึ้นอย่างช่วยไม่ได้ นอกเหนือจากเขาแล้ว ไม่มีใครสามารถรู้ได้ว่าน้ำยาโมครามันทรงคุณค่ามากพียงใด
หากเขาปรุงน้ำยาโมคราและดื่มพวกมันทั้งหมด เขาไม่รู้ว่าพลังจิตของเขาจะไปถึงระดับไหน?
โดยปกติแล้ว นักเวทย์เหล่านั้นจะใช้เวลาหลายสิบปีในการนั่งสมาธิเพื่อสะสมพลังจิต แต่วิธีการของพวกเขาก็ไม่สามารถเทียบได้กับการดื่มน้ำยาโมคราจำนวนมากได้
ตราบใดที่พลังจิตแข็งแกร่งเพียงพอ เมอร์ลินก็สามารถพยายามสร้างคาถาระดับสามได้ทันที...
“แต่น่าเสียดายที่ไม่มีแต้มสนับสนุนเหลือแล้ว แม้ว่าฉันจะต้องรออีกไม่กี่เดือนก่อนที่จะได้รับแต้มสนับสนุนอีก 10,000 แต้ม ในเวลานั้น บางทีพลังจิตของฉันอาจจะแข็งแกร่งพอแล้ว และฉันสามารถแลกเปลี่ยนคาถาระดับสามได้!”
แม้ว่าเมอร์ลินจะเพิ่งกลายเป็นนักเวทย์ระดับสอง แต่เขาก็มีทรัพยากรเพียงพอที่ดินแดนมนต์ดำจัดหาให้ ด้วยเดอะเมทริกซ์แล้ว ตราบใดที่เขามีพลังจิตเพียงพอ เขาก็สามารถสร้างโครงสร้างคาถาที่แข็งแกร่งขึ้นได้
อย่างไรก็ตามดินแดนมนต์ดำให้คำมั่นว่าจะให้แต้มสนับสนุนแก่เมอร์ลิน 10,000 แต้มทุกปี เดิมทีเขาคิดที่จะเลือกคาถาระดับสามในหอสมุดด้วย อย่างไรก็ตาม ดูเหมือนว่าแต้มสนับสนุนของเขาจะไม่เพียงพออย่างเห็นได้ชัด เขาทำได้แค่รออีกไม่กี่เดือนก่อนที่ดินแดนมนต์ดำจะเพิ่มแต้มสนับสนุน 10,000 แต้มชุดที่สองลงในแหวนมนต์ดำ จากนั้นเขาก็จะสามารถแลกเปลี่ยนเป็นเวทมนตร์ระดับสามได้
…
“อาจารย์ลีโอ เอ็มม่ากับเลอแรนก้ายังไม่กลับมา ผมเลยคิดว่าจะเดินทางกลับไปดูด้วยตัวเอง”
ก่อนที่เมอร์ลินจะจากไป เขามาแจ้งพ่อมดลีโอเกี่ยวกับเรื่องนี้
พ่อมดลีโอพยักหน้า “เอาสิ ตอนนี้พวกออสมูยังไม่เคลื่อนไหวในช่วงนี้ ตราบใดที่เจ้าไม่ออกจากดินแดนมนต์ดำไกลเกินไป เจ้าจะไม่ตกอยู่ในอันตรายใด ๆ”
ดูเหมือนว่าพ่อมดลีโอก็ให้ความสนใจกับกิจกรรมของออซมูเช่นกัน
ต่อจากนั้น เมอร์ลินก็อำลาพ่อมดลีโอและมาที่หน้าวงแหวนเวทย์รูนมากมายของดินแดนมนต์ดำ
*หวู่ม!*
ลำแสงสีขาวส่องผ่านเข้ามา เมอร์ลินเพิ่งกลับมายังดินแดนมนต์ดำได้ประมาณครึ่งเดือน ตอนนี้เขาต้องจากไปอีกครั้งแล้ว
...
"อืม? นายท่านกลับมาแล้วเหรอ”
ในเมืองเล็ก ๆ พ่อมดแบมมูผู้ซึ่งสะสมพลังเวทอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อยตลอดเวลาได้เงยหน้าขึ้นทันที เขามองออกไปข้างนอกบ้าน และสัมผัสได้ถึงเมอร์ลินแล้ว
หลังจากลงนามสัญญาทาส พวกเขาทั้งสองจะมีความเชื่อมโยงที่พิเศษมากระหว่างกัน เว้นเสียแต่ว่าระยะทางจะห่างไกลเกินไป มิเช่นนั้นก็อาจสัมผัสได้ นี่เป็นเอกลักษณ์ของสัญญาทาส
“พ่อมดแบมมู!”
เมื่อพ่อมดแบมมูเพิ่งลืมตาขึ้น ชายหนุ่มในชุดคลุมสีดำก็เดินตรงมาจากด้านนอกประตู จ้องมองพ่อมดแบมมูในห้องอย่างสงบ
พ่อมดแบมมูรีบลุกขึ้นด้วยความเคารพและกระซิบว่า “นายท่าน ท่านเพิ่งกลับไปยังดินแดนมนต์ดำ ข้าไม่คิดว่าท่านจะออกมาเร็วขนาดนี้”
พ่อมดแบมมูรู้ว่าเมอร์ลินได้กลับไปยังดินแดนมนต์ดำและจะอยู่ที่นั่นอย่างน้อยสักหนึ่งปีครึ่งก่อนที่เขาจะกลับมาอีกครั้ง เขายังสามารถใช้ประโยชน์จากเวลานี้และค่อย ๆ ฟื้นฟูพลังเวทย์มนตร์ที่เกือบหมดลงในโครงสร้างคาถาของเขาที่เมืองเล็ก ๆ แห่งนี้
การที่เมอร์ลินกลับมาอย่างรวดเร็วโดยไม่คาดคิดซึ่งทำให้พ่อมด แบมมูรู้สึกหมดหนทางอยู่ลึก ๆ ในใจของเขา ในฐานะทาสของเมอร์ลินในตอนนี้ เขาได้สูญเสียแม้กระทั่งเวลาในการฟื้นฟูพลังเวทย์ในโครงสร้างคาถาของเขา
อย่างไรก็ตาม เมอร์ลินสามารถรู้ความคิดบางอย่างของแบมมูผ่านสัญญาทาสได้ ดังนั้นมันจึงค่อนข้างยากสำหรับพ่อมดแบมมูที่จะจัดเตรียมแผนการใด ๆ ท้ายที่สุดแล้ว เมอร์ลินยังไม่ใช่นักเวทย์ระดับสี่ ดังนั้นเขาจึงมีบริวารได้เพียงคนเดียวและเขาไม่สามารถนำพ่อมดแบมมูเข้าสู่ดินแดนมนต์ดำได้
หลังจากกลับมาที่ดินแดนมนต์ดำในครั้งนี้ เขานึกถึงเมืองปรากาซเลยทำให้แผนการเริ่มต้นของเมอร์ลินเปลี่ยนไป
“คราวนี้ฉันมีธุระยางอย่างต้องไปทำ ฉันเลยต้องไปจัดการมันก่อน อย่างไรก็ตาม คราวนี้ฉันจะพาคุณไปยังสถานที่หนึ่ง ถ้ามันเหมาะสม คุณจะอยู่ที่นั่นในอนาคตและคุณสามารถเติมเต็มพลังเวทย์ของคุณได้อย่างสงบสุข”
พ่อมดแบมมูรู้สึกยินดีและรีบถามทันที “ที่ไหนหรือขอรับ?”
“เมืองปรากาซ!” ภายในน้ำเสียงของเมอร์ลิน มีการเปิดเผยความซับซ้อนออกมาเล็กน้อย