ตอนที่แล้วHO บทที่ 183 มาสู้กันเถอะ PART 2
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปHO บทที่ 185 เป่ายิ้งฉุบ

HO บทที่ 184 มาสู้กันเถอะ PART 3


กำลังโหลดไฟล์

ซินหยาเคลื่อนไหวตามสัญชาตญาณ เขาหลบเลี่ยงกรงเล็บพิษของมังกรโคมาโดที่เฉี่ยวผ่านหน้าเขาไปไม่กี่เซนติเมตร โชคดีที่เขาหลบทันไม่อย่างนั้นเขาต้องแย่แน่ ๆ

ในระหว่างนั้นเอง เมลติ้งสโนว์กับวอนเดอร์ริ่งซาวด์ก็กระโดดออกมาจากที่ซ่อนและวิ่งมาหาเขา พวกเขามีพลังชีวิตที่สูงกว่าและซินหยามั่นใจว่าพวกเขาจะสามารถดูแลตัวเองได้ แต่เขาก็ไม่ต้องการให้พวกเขาได้รับบาดเจ็บเช่นกัน

เขาปรารถนาที่จะสร้างยาคืนชีพหรือยาชนิดอื่นเพื่อช่วยทุกคนได้อย่างไร เขารู้สึกว่ามีไฟลุกโชนในหัวใจ เมื่อไปถึงอาร์คาล่า เขาจะให้ความสำคัญกับการสร้างยาที่มีประโยชน์มากขึ้น

“อย่าเข้าไปใกล้มันเกินไป กรงเล็บมีพิษ!” ซินหยาเตือนพวกเขาผ่านช่องแชทเสียงในปาร์ตี้ เขาต้องการให้แน่ใจว่าค่าความโกรธของมอนสเตอร์ยังอยู่กับเขา

เขาไม่ได้หุนหันพลันแล่น ไม่ว่ามันจะเป็นโลกแห่งความจริงหรือโลกแห่งฮาเว่น แต่ในเวลานี้ ความภาคภูมิใจและหัวใจของเขาแข็งแกร่งกว่าจิตใจของเขา

''เนื่องจากไม่มีเวลาสร้างแผนที่ซับซ้อน เราทำได้แค่ทำตามโอกาสเท่านั้น" ซินยาบอกพวกเขาขณะที่เขาหยิบยาสองชนิดออกมา "ฉันจะหันเหความสนใจไปชั่วขณะด้วยยาลูกไฟขนาดเล็ก ในขณะที่คุณพร้อมสำหรับการโจมตี เมื่อมันมาถึงจุดแล้ว เราจะไม่ยอมแพ้ มาเอาชนะมันกันเถอะ”

เมื่อสังเกตเห็นผู้มาใหม่ มอนสเตอร์ก็ไปโจมตีพวกเขา พวกมันเป็นภัยคุกคามที่ต้องการขโมยเหยื่อของมันไป มันจะไม่ยอมให้มันเกิดขึ้น

มอนสเตอร์ตัวนี้คล่องแคล่วอย่างไม่คาดคิด แม้มันจะมีขาที่แข็งแรงและร่างกายที่เหมือนท่อนซุง มันพุ่งเข้าหาเมลติ้งสโนว์

ทางด้านเด็กหนุ่ม เขาพร้อมแล้วที่จะรับมือ เมื่อมันวิ่งเข้าหาเขา เขาฟันดาบของเขาลงไปที่ตัวมัน อย่างไรก็ตาม มอนสเตอร์สามารถหลบเลี่ยงการโจมตีของเด็กหนุ่มอย่างง่ายดาย ทำให้เมลติ้งสโนว์ถูกมันโจมตีเข้า

เมื่อเห็นว่ามอนสเตอร์เริ่มโจมตี เมลติ้งสโนว์ ซินหยาก็รีบปายาลูกไฟขนาดเล็กอย่างต่อเนื่อง พวกเขาไม่ได้สร้างความเสียหายมากนักแต่มันสามารถดึงความสนใจของมันกลับมาหาเขา

เมื่อมอนสเตอร์หันกลับมาหาซินหยา เขารู้สึกว่าหัวใจของเขาเต้นจนทะลุออกมา อะดรีนาลีนที่พุ่งพล่านกระทบเขาอย่างแรง แต่ก็ทำให้ตื่นตัวอย่างที่ไม่เคยเห็นมาก่อน

ในขณะนั้นเอง มีคนวิ่งเข้ามา เมื่อมองดูเขาพบว่าเป็นเว่ย เธอเล็งปืนขณะวิ่งไปที่มอนสเตอร์และพยายามยิงให้เข้าเป้า เธอต้องการซ่อนตัวและเพียงแค่ลอบยิงมันแต่ด้วยการเคลื่อนที่ของมัน ทำให้เธอไม่สามารถเล็งได้

*ปัง ปัง ปัง*

เสียงปืนดังขึ้นและกระสุนสีแดงคู่หนึ่งพุ่งเข้าหาคอเนื้อของมอนสเตอร์ มันหันกลับมาและปล่อยให้กระสุนชนเกล็ดของมัน จากนั้นตัวเลขดาเมจปรากฏขึ้น แต่ตัวเลขนั้นช่างน่าผิดหวัง

ขณะที่เว่ยกำลังยิงไปที่มัน ซินหยากับวอนเดอร์ซาวด์ก็เริ่มโจมตีด้วยเช่นกัน เมลติ้งสโนว์ต้องการเข้าไปช่วย แต่เขารู้ว่าถ้าเขาเข้าร่วมเขาจะได้รับพิษจากกรงเล็บของมอนสเตอร์

พวกเขาทั้งสามต่างร่วมมือกัน ทำให้มอนสเตอร์ตาบอดขณะที่ลดพลังชีวิตอย่างช้า ๆ ซินหยาคิดว่าเขาไม่ต้องกังวลโดยเปล่าประโยชน์ พลังชีวิตของมอนสเตอร์ลดลงเหลือ 400,000 แล้ว และหากพวกเขาทำอย่างนี้ต่อไปมันก็จะตายในไม่ช้า

อย่างไรก็ตาม ดูเหมือนว่าเขาจะคิดเร็วเกินไปเพราะทันทีที่พวกเขาโจมตีจนพลังลดอีก ห้าหมื่นหน่วย ก๊าซสีเขียวกระโชกก็พุ่งออกมาจากลำคอของมอนสเตอร์และการแจ้งเตือนก็ปรากฏขึ้น

คุณติดพิษ!

คุณจะสูญเสียพลังชีวิต 50 หน่วย ทุก ๆ สิบวินาทีเป็นเวลาหนึ่งนาที!

“ทุกคนถอยออกไป!” ซินหยาตะโกนลั่น เขารู้ว่าถ้าพวกเขาอยู่ในระยะของก๊าซ เวลาที่พวกเขาจะติดพิษก็จะยิ่งสูงขึ้นเรื่อย ๆ

ทุกคนเริ่มวิ่งหนีจากมอนสเตอร์และรีบดื่มยาเพิ่มเลือด เมื่อพวกเขาไป ก๊าซกระจายออกไปค่อนข้างไกล ไกลจากระยะการขว้างยาของเขาและการโจมตีของวอนเดอร์ริ่งซาวด์จะสามารถเข้าถึงได้

คนเดียวที่สามารถโจมตีมอนสเตอร์ได้คือเว่ยแต่กระสุนของเธอไม่ได้สร้างความเสียหายมากนัก

เมลติ้งสโนว์ที่เฝ้าดูอยู่ทนไม่ไหวแล้วจึงตัดสินใจวิ่งเข้าไปไม่สนใจเรื่องแก๊ส

เขากระโดดขึ้นสูงเหนือหัวของมอนสเตอร์และฝังดาบซ้ายของเขาไว้ในไหล่ของมัน ในขณะเดียวกันดาบขวาแทงตรงหน้าผากลงมา มอนสเตอร์คำรามด้วยความโกรธ ตาข้างหนึ่งของมันถูกทำลาย

การโจมตีอย่างต่อเนื่องของเมลติ้งสโนว์รวมกับเว่ยทำให้พลังชีวิตของมันลดลงเหลือน้อยกว่าสามแสนแล้ว

แม้ว่าเมลติ้งสโนว์จะพยายามอย่างมากแต่พิษของมอนสเตอร์ก็ทำให้พลังชีวิตของเขาลดลงอย่างรวดเร็ว

"เมลติ้งสโนว์รีบดื่มยาเพิ่มเลือดเร็วเข้า!" ซินหยาตะโกนอย่างร้อนรน เขารอไม่ไหวให้แก๊สกระจายหายไป เขาจะได้รีบเข้าร่วมการต่อสู้อีกครั้ง

เมลติ้งสโนว์ตีลังกากระโดดออกจากมอนสเตอร์ ตอนนี้พลังชีวิตของเขาต่ำมากและเขาอยู่ในสถานะติดพิษ ดังนั้นทั้งหมดที่เขาทำได้คือดื่มยาเพิ่มเลือด ในขณะที่โรมมิ่งวินด์ทำให้มอนสเตอร์เสียสมาธิด้วยการโจมตีของเธอ

เมื่อก๊าซกระจายหายไปแล้ว ซินหยากับวอนเดอร์ซาวด์ก็กระโดดกลับเข้าสู่การต่อสู้ อย่างไรก็ตาม คราวนี้มอนสเตอร์ไม่ยอมให้ตัวเองถูกรุมโจมตีแบบเมื่อกี้ มันเข้าสู่โหมดบ้าคลั่งทันที

ซินหยารู้สึกกดดันจนหายใจไม่ออกครู่หนึ่ง ขณะที่เขามองดูมันกำลังเปลี่ยนสี

เกล็ดของมันกลายเป็นสีเขียวตะไคร่ กรงเล็บมีของเหลวที่กัดกร่อนออกมามากกว่าเดิม หยดสนิมสีแดงตกลงบนพื้นและทำให้พื้นดินเป็นสีดำพร้อมควัยลอยขึ้นมาทันที

ซินหยารู้ทันทีว่าหากพิษนั้นโดนพวกเขาล่ะก็ พวกเขาจะต้องตายทันที เขาอึ้งจนสมองประมวลผลไม่ทัน แต่ก่อนที่เขาจะทันได้พูดหรือทำอะไร เขาก็ได้ยินเสียงท่วงทำนองดนตรีดังขึ้นข้างหลังเขา

การจัดเรียงของตัวโน้ตที่สวยงามคล้ายกับเสียงขับร้องของนางเงือกดังก้องไปทั่วทุ่งโล่ง ซินหยาหันไปและพบว่าวอนเดอร์ริ่งซาวด์กำลังเล่นบทเพลงสะกดใจอยู่

เมื่อวอนเดอร์ริ่งซาวด์เห็นมอนสเตอร์กำลังเข้าสู่โหมดสภาวะบ้าคลั่ง เขามั่นใจว่าพวกเขาทั้งหมดจะต้องตาย เขาไม่อยากให้มันเกิดขึ้น ไม่ เขาจะไม่ปล่อยให้มันเกิดขึ้น

อารมณ์มีส่วนอย่างมากในดนตรี ยิ่งอารมณ์แข็งแกร่งมากเท่าไรก็ยิ่งได้ผลมากขึ้นในการเล่นเพลงของนักดนตรี ด้วยเหตุนี้ ทำให้การโจมตีด้วยบทเพลงสะกดใจจึงได้ผล มอนสเตอร์เข้าสู่ภวังค์และยืนนิ่งไม่ไหวติง

โรมมิ่งวินด์รัวกระสุนใส่ทันทีโดยไม่ต้งอมีใครมาบอกเธอ เธอใช้กระสุนวิญญาณยิงใส่มัน กระสุนพุ่งเข้าใส่มอนสเตอร์เข้าที่หน้าอก สร้างความเสียหายสูงสุด มันถูกผลักให้ห่างจากตำแหน่งเดิม 1.5 เมตร

เมื่อมอนสเตอร์หลุดจากภวังค์ มันก็ส่งเสียงคำรามพร้อมกับพ่นไฟสีดำออกมา มันไม่ได้เคลื่อนไหวมากนักแต่ความเสียหายที่เกิดกับพืชพันธุ์โดยรอบนั้นน่ากลัวมาก ดอกไม้แห้งเหี่ยว ดินที่ไหม้เกรียม ต้นไม้ล้มและพุ่มไม้ที่กำลังไหม้

“'ทุกคน รีบโจมตีเร็วเข้า เราต้องรีบฆ่ามัน” ซินหยาตะโกนซึ่งกำลังจะปายาใส่มัน

เมลติ้งสโนว์พยายามย่องเข้าไปข้างหลังและโจมตีมัน แต่ดาบของเขาแทงไม่เข้า แทนที่จะเป็นมอนสเตอร์ เขากลับได้รับความเสียหายบางส่วน ด้วยความไม่พอใจ เขาถอยห่างออกไปสองสามก้าวเพื่อหามุมที่ดีที่สุดในการโจมตี จากนั้นเขาก็จำทักษะดบแห่งการล้างแค่นของเขาได้! เขาลืมมันไปได้อย่างไร!

ท่วงทำนองอีกเพลงหนึ่งผสานกับเสียงคำรามอันน่าสะพรึงกลัวของมังกรโคมาโด ท่วงทำนองอันเอื่อยเฉื่อยกลอยขึ้นไปในอากาศ ทำให้มันช้าลงตามแต่ละก้าวที่ตั้งใจไว้ วอนเดอร์ริ่งซาวด์ใช้มานาของเขาในการบรรเลงบทเพลงหอยทาก ในขณะที่ซินหยาหยิบยาละอองฝันออกมาแล้วปาไปทางมอนสเตอร์ ทว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น ความเงียบสั้น ๆ ตัดผ่านเพลงที่สงบเงียบ มันคำรามอีกครั้ง ทำเอาพวกมันทั้งหมดตกตะลึง

“บัดซบ ยาละอองฝันใช้การไม่ได้!” โรมมิ่งวินด์ตะโกน เธอหวังว่ายาละอองฝันจะทำงานเพราะมันจะขยายพลังความเสียหายของพวกเขา

วอนเดอร์ริ่งซาวด์กลับมาเล่นเพลงต่อแต่เอฟเฟกต์ของมันอ่อนลง เขาสามารถเห็นได้ว่ามอนสเตอร์กำลังต่อต้านผลของเพลงอยู่ และในไม่ช้าก็จะหลุดออกจากผลของเพลง

ในขณะนั้นเอง แววตาของทุกคนก็พลันสว่าง เสียงกระทบของใบมีดกระทบมอนสเตอร์ไม่หยุดหย่อน

เมลติ้งสโนว์ใช้ท่าก้าวคลื่นเสียง เด็กหนุ่มเคลื่อนที่ราวกับบินได้ เขากวัดแกว่งดาบของเขากับผิวหนังที่แข็งแรงของมังกรโคมาโด ประกายไฟพุ่งจากแรงเสียดทานไปทุกทิศทุกทาง ทำให้ดูอันตราย แต่ก็น่าดึงดูดใจในเวลาเดียวกัน

การฟาดฟันแต่ละครั้งเต็มไปด้วยพลังและความตื่นเต้น การเต้นรำที่อันตรายถึงตายนี้ยังคงดำเนินต่อไปจนกระทั่งพวกเขาได้เห็นเงาของเมลติ้งสโนว์ค่อย ๆ ถอยห่างออกไป ซึ่งเป็นสัญญาณว่าทักษะกำลังจะหมดลง

วอนเดอร์ริ่งซาวด์เป่าขลุ่ยไปที่ริมฝีปากและเป่าท่วงทำนองที่คมชัดขึ้นในแต่ละเสียง

ตัวโน้ตได้ปรากฏออกมา แทงทะลุมอนสเตอร์ ทำให้บาดแผลของใบมีดกว้างขึ้น เสียงแหลมที่บาดหูดังขึ้นเมื่อโน้ตสุดท้ายลงจอดไม่สำเร็จ

มอนสเตอร์ได้หลุดจากภวังค์และเป็นอิสระ มันจึงหันหลังกลับและไล่ตามวอนเดอร์ริ่งซาวด์ เขาไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากใช้พลังมานาสำรองสุดท้ายของเขาเพื่อปล่อยท่วงทำนองของบทเพลงต้องสาป เขาปล่อยให้มันก่อตัวเป็นเกราะป้องกันต่อหน้าเขา เขายืนอยู่หน้าโรมมิ่งวินด์เพื่อปกป้องเธอ

บทเพลงต้องสาปทำให้เขาทนต่อการโจมตีสามครั้งจากมอนสเตอร์ได้ ในช่วงเวลานั้น โรมมิ่งวินด์ชักปืนของเธอและยิงกระสุนเพลิงอีกครั้ง กระแทกเขาที่ท้องผ่านเข้าไปในตัวของมัน

ทันใดนั้นเอง ดาบเพลิงพันเล่มปรากฏขึ้นเหนือหัวของมอนสเตอร์ เมลติ้งสโนว์ดูเหมือนนักรบเมื่อยืนอยู่หน้ามัน เขาสั่งอาวุธของเขาว่า

"ดาบแห่งความตาย จงชำระแค้นซะ!"

ใบมีดแทงมอนสเตอร์อย่างไร้ความปราณีก่อนที่จะแตกออกเป็นอนุภาคของแสง ทันทีที่การโจมตีของเขาโจมตี มันจะทำลายพลังชีวิตของมอนสเตอร์ ด้วยเสียงคำรามครั้งสุดท้าย มันก็ล้มลงกับพื้นและตายในที่สุด