325 - ค่ายกลลวงตา
325 - ค่ายกลลวงตา
"เจ้าเป็นใคร?!"
เย่ฟ่านส่งเสียงคำรามพร้อมกับดึงเตาไฟหลี่ฮัวออกมา คนที่เหลือต่างก็ตกใจและขยับถอยห่างกันเล็กน้อย
"ควับ!"
ทันใดนั้นก็มีใครบางคนกระโดดขึ้นจากพื้นอย่างรวดเร็วราวกับผี เพียงชั่วพริบตาเขาก็หายวับไปในสายหมอกสีแดง ในตอนนี้ท้องฟ้ามืดครึ้มเป็นอย่างมากจึงเป็นเรื่องยากที่จะมองเห็นความผิดปกติได้
ผู้คนพากันหน้าซีด เพียงครู่เดียวร่างกายของพวกเขาก็เปียกชุ่มไปหมด
สิ่งนั้นคืออะไร? มองไม่ชัดเลย!
ชายหนุ่มคนหนึ่งกล่าวขึ้นด้วยเสียงสั่นสะท้านว่า
"ข้าเห็นเขา นั่นไม่ใช่คน มันเป็นสัตว์ประหลาดที่มีขนสีแดง."
เมื่อเย่ฟ่านได้ยินคำพูดนี้หนังศีรษะของเขาก็ชาด้านในทันที
"เกิดอะไรขึ้นกับเขา?!"
มีชายคนหนึ่งที่ไม่เคยลุกขึ้นจากพื้น เขายังคงนั่งอยู่ตรงนั้นราวกับรูปปั้น
หลายคนก้าวไปข้างหน้าและมาถึงด้านหน้าของเขาและทุกคนก็ต้องตกใจจนใบหน้าซีดขาว ชายคนนั้นเสียชีวิตแล้วและสมองที่อยู่ในศีรษะของเขาถูกดึงออกจากรูขนาดใหญ่!
"โฮก!"
ในขณะที่ทุกคนกำลังงุนงงอยู่ใบมีดผุก็ชี้นิ้วกลับไปด้านหลังทันใดนั้นขนนกสีรุ้งเจ็ดตัวก็พุ่งออกไป มันทะลวงเข้าไปในหมอกหนาทึบอย่างรุนแรง!
ที่นั่นเงาสีดำปรากฏตัวออกมาจากหมอก มันส่งเสียงคำรามด้วยความเจ็บปวดก่อนจะวิ่งหนีไปอย่างรวดเร็ว
เย่ฟ่านรีบวิ่งเข้าไปทางนั้น ในบริเวณพื้นที่สิ่งมีชีวิตตัวนั้นเคยยืนอยู่มีเส้นขนสีแดงเส้นเล็กๆร่วงอยู่บนพื้นรวมไปถึงเศษเสี้ยวของสมองมนุษย์ที่ติดอยู่กับขนพวกนั้น
“พวกเราทำอะไรมันไม่ได้ พวกเราไม่สามารถแยกออกจากกลุ่มไม่งั้นพวกเราจะหลงกันทันที” เย่ฟ่านตักเตือนทุกคนไม่ให้ไล่ตามสิ่งมีชีวิตตัวนั้นไป
“น้องชายเมื่อสักครู่นี้เจ้ากำลังจะพูดอะไรหรือไม่” ในเวลานี้สายตาทุกคู่จับจ้องอยู่ที่เย่ฟ่าน ความหวังในการออกไปจากที่นี่ขึ้นอยู่กับเขาเท่านั้น
“น้องชายนักพรตชีวิตของพวกเราขอฝากไว้กับเจ้าแล้ว หากว่าออกจากที่นี่ได้ข้าสาบานด้วยเต๋าของข้าว่าข้าจะติดตามรับใช้เจ้าไปตลอดชีวิต”
เมื่อติดอยู่ในดินแดนแห่งความตายนี้ไม่มีผู้ใดสามารถสงบสติอารมณ์ของตัวเองได้
"พวกเจ้ามีต้นกำเนิดไหม ข้าต้องการมันเพื่อทำลายค่ายกลลวงตานี้" เย่ฟ่านถามคนที่เหลืออีกห้าคน
ใบมีดผุไม่ได้พูดอะไร เขายื่นถุงต้นกำเนิดที่เขาได้รับจากทุกคนออกไปให้เย่ฟ่านในทันที
เมื่อเห็นเช่นนั้นอีกสี่คนที่เหลือก็ยืนต้นกำเนิดของตัวเองให้เย่ฟ่านและทั้งหมดที่พวกเขารวบรวมได้ก็มีประมาณสามร้อยจิน
“แค่นั้นพอเหรอ?” ใบมีดผุถามขึ้น
เย่ฟ่านเองก็หยิบต้นกำเนิดห้าร้อยจินออกมาแล้วพูดว่า
“แทบจะไม่พอ”
“อย่าลังเล เรามีอีกมาก” คนที่เหลือต่างก็ล้วงต้นกำเนิดของตัวเองออกมาทั้งหมดและรวบรวมได้ประมาณสามร้อยจิน คราวนี้พวกเขาไม่เหลือต้นกำเนิดแม้แต่จินเดียว
เย่ฟ่านหยิบธงขนาดใหญ่หนึ่งร้อยแปดผืนออกมาและแกะสลักอักขระเต๋าอย่างระมัดระวังโดยจารึกตัวอักขระตามแบบที่เขาได้ศึกษาจากตำราต้นกำเนิดสวรรค์
เขาต้องการโจมตีแทนการป้องกัน เขาจะใช้ค่ายกลของเขาเพื่อทำลายค่ายกลลวงตานี้ทำให้พวกเขาสามารถมองเห็นเส้นทางที่แท้จริงได้
แน่นอนเขาเข้าใจดีว่าเป็นไปไม่ได้ที่จะทำลายค่ายกลลวงตาอันยิ่งใหญ่ซึ่งถูกทิ้งไว้โดยคนโบราณได้สำเร็จ เว้นแต่เขาจะมีความเชี่ยวชาญในตำราต้นกำเนิดสวรรค์มากกว่านี้
อย่างไรก็ตาม หากต้องการเปลี่ยนภูมิประเทศในพื้นที่เล็กๆ เขายังคงมีความมั่นใจอยู่เล็กน้อย
หนึ่งชั่วยามต่อมา เย่ฟ่านแกะสลักธงขนาดใหญ่จำนวนหนึ่งกำมือเสร็จ จากนั้นจึงแอบตักเตือนหลายคนว่า
“อยู่ใกล้ๆกันไว้อย่าได้หลงทางออกจากกลุ่มอย่างเด็ดขาด”
เมื่อได้ยินท่านตักเตือนในลักษณะนี้ อีกสี่คนที่เหลือยกเว้นใบมีดผุก็รู้สึกประหม่ามาก
"ปัง."
เย่ฟ่านปักธงขนาดใหญ่บนพื้น และใช้นิ้วแทนกระบี่ เขาแกะสลักแผนที่ดาวรอบๆเสาธง จากนั้นจึงฝังต้นกำเนิดจำนวนหนึ่งไว้ตรงกลาง
“นี่ได้ผลจริงเหรอ?” หนึ่งในนั้นสงสัยเพราะเขามองไม่เห็นความเปลี่ยนแปลงอะไรเลย
“ดูสิ เส้นใยหมอกรอบธงผืนใหญ่นั้นปรากฏออกมาแล้ว” อีกคนที่มีความเอาใจใส่ก็สังเกตเห็นอะไรบางอย่างที่แปลกไป
เมื่อได้ยินเช่นนี้หลายคนต่างก็ดีใจเป็นอย่างมาก เย่ฟ่านลุกขึ้นอย่างรวดเร็ว เขาไม่กล้าที่จะชักช้าเพราะเกรงว่าธงค่ายคนที่เขาทำขึ้นจะสูญเสียประสิทธิภาพในไม่ช้า
"พัฟ"
ไม่ไกลนักมีแสงเบ่งบาน ธงใหญ่สามารถทำลายค่ายกลแห่งภาพลวงตาที่ปิดกั้นเส้นทางของพวกเขาไว้ทำให้พวกเขามองเห็นทิวทัศน์อย่างที่ควรจะเป็นได้อีกครั้ง
“แย่แล้วไอ้สาระเลวขนดกตัวนั้นกำลังทำรายธง!” มีคนตะโกนด้วยความโกรธเกรี้ยว
"คชา"
ธงใหญ่ผืนหนึ่งถูกหักเป็นที่เรียบร้อย
"คชา"
ในระยะไกลธงใหญ่อันที่สองถูกหักและล้มลงกับพื้น ทุกคนได้แต่มองการกระทำของปีศาจที่มีลักษณะเหมือนลิงทำลายค่ายกลของพวกเขาโดยที่ไม่สามารถออกไปจัดการมันได้ ไม่เช่นนั้นพวกเขาอาจจะหลุดออกจากกลุ่ม
“สามารถฆ่ามันได้หรือไม่” ใบมีดผุขมวดคิ้ว
"ไม่ได้ ต่อให้สู้กันตรงๆก็ไม่มีทางทำสำเร็จ"
หัวใจของเย่ฟ่านจมลง เขามีลางสังหรณ์ว่าสิ่งมีชีวิตนี้เป็นสิ่งมีชีวิตทรงพลัง และตอนนี้เขายิ่งแน่ใจมากขึ้นว่ามันเป็นวิญญาณที่ปกป้องต้นกำเนิดกำเนิดสวรรค์ในดินแดนแห่งนี้
“เราควรทำอย่างไร?” คนอื่นถาม
"อย่าทำร้ายมัน!"
เย่ฟ่านเตือนอย่างเคร่งขรึมว่านี่เป็นสิ่งมีชีวิตที่ทำหน้าที่ปกป้องต้นกำเนิดสวรรค์ของที่นี่ แม้ว่ามันจะไม่แข็งแกร่งมากเท่าไหร่แต่เชื่อว่าพรรคพวกของมันจะต้องแข็งแกร่งมากกว่านี้
หรือมีสิ่งมีชีวิตบางอย่างถูกปิดผนึกไว้ในต้นกำเนิดสวรรค์? หากไม่เป็นเช่นนั้นมันจะมีเผ่าพันธุ์ที่แปลกประหลาดเช่นนี้คอยปกปักรักษาอยู่ได้อย่างไร!
ในวันธรรมดาสิ่งมีชีวิตเหล่านี้จะต้องนอนหลับพักผ่อนและไม่ออกมาก่อกวนพวกเขา
แต่ในเวลานี้พวกมันสัมผัสได้ว่ามีใครบางคนในกลุ่มที่ฝึกฝนตำราต้นกำเนิดสวรรค์ทำให้พวกมันมีความก้าวร้าวขึ้นมา และแน่นอนว่าเย่ฟ่านย่อมไม่มีทางเปิดเผยเรื่องนี้ให้คนอื่นฟัง
“หากเป็นประมาจารย์ต้นกำเนิดสวรรค์พวกเขาจะคิดอย่างไรในสถานการณ์เช่นนี้?” เย่ฟ่านคิดในใจ
หลังจากนั้นเย่ฟ่านก็สูดลมหายใจเข้าไปอย่างหนักแน่น เขาปักธงค่ายกลทั้งหมดลงไปในครั้งเดียวและต้นกำเนิดที่เขารวบรวมมานับพันจินก็ถูกเทลงไปในหลุมเช่นเดียวกัน
“ทุกท่าน เรามีโอกาสเดียวเท่านั้น!” เย่ฟ่านมองหน้าทุกคนจากนั้นก็กล่าวต่อไปว่า
“หลังจากที่ค่ายกลถูกเปิดใช้งานหมอกทั้งหมดที่ปิดกั้นพวกเราจะถูกทำลายในเวลาชั่วครู่ ในช่วงเวลานี้หาพวกเจ้าหนีไม่ทันจะมีเพียงความตายเท่านั้นที่รอพวกเจ้าอยู่”
สิ่งที่เขาพูดคือความจริง หลังจากที่ธงค่ายกลถูกเปิดใช้งานอย่างเต็มกำลังมันจะทำให้เกิดแผ่นดินไหวครั้งใหญ่และเขาเชื่อว่าจะมีสิ่งมีชีวิตทรงพลังปรากฏตัวออกมาไล่ล่าพวกเขาอย่างแน่นอน
“ทุกคนเตรียมตัวให้พร้อม ข้าจะเริ่มแล้ว”
พูดจบเย่ฟ่านก็โยนต้นกำเนิดหลายร้อยจินสุดท้ายลงในพื้นที่ศูนย์กลางของแผนที่ดวงดาวที่ถูกเขาขีดเขียนไว้
ในทันใดนั้นแสงสีทองก็ถูกยิงขึ้นไปบนท้องฟ้าฉีกหมอกสีแดงที่อยู่โดยรอบออกทั้งหมด ในทันใดนั้นดวงจันทร์ที่อยู่บนท้องฟ้ารวมทั้งดวงดาวก็ปรากฏให้เห็นอย่างชัดเจน
สถานที่ที่พวกเขายืนอยู่สั่นสะเทือนอย่างรุนแรง เปลวไฟที่มีความยาวมากกว่าร้อยลี้ถูกยิงไปข้างหน้าฉีกเปิดเส้นทางที่มืดมิดออกจากกันทั้งหมด
"ไป!"
เย่ฟ่านเป็นคนแรกที่รีบวิ่งออกไป ตามด้วยใบมีดผุและคนอื่นๆที่กำลังวิ่งด้วยสีหน้าสิ้นหวัง ในขณะนี้มีเสียงกรีดร้องด้วยความโกรธเกรี้ยวที่ทุกคนได้ยินอย่างชัดเจนดังมาจากส่วนลึกของหมอกที่ไม่ได้เปิดออก
ในเวลาอันสั้นเย่ฟ่านและใบมีดผุเป็นผู้นำกลุ่มที่วิ่งไปข้างหน้า ด้านหลังของพวกเขาไม่ไกลตามมาด้วยยอดฝีมือหนุ่มอีกสองคน
พวกเขาไม่กล้าที่จะหยุดแม้เพียงชั่วๆและรีบตรงไปยัง "สุสานมังกรไฟ" ในขณะที่หมอกสีแดงยังคงไล่ล่าพวกเขาไม่หยุดยั้ง