บทที่ 35 แสดงความจริงใจ
ครึ่งชั่วโมงต่อมา ทั้งสองสาวมาถึงถนนหน้าตลาดซวงหลงและลงจากมอเตอร์ไซค์
ดูเหมือนว่านี่เป็นครั้งแรกที่หลินเสี่ยวหยุนได้มาถึงถนนชนบทแบบนี้
"เซียวเซียว เราควรหาที่ไหนดี? แถวไหนเขาขายผักกันน่ะ? ”
"หาตรงที่คนอยู่เยอะๆแล้วกัน อาจจะหาง่ายขึ้น ”
"งั้นพวกเรารีบไปหากันเถอะ"
"เกือบเก้าโมงแล้ว คาดว่าเขาคงเก็บแผงลอยกลับบ้านไปแล้วล่ะ"
"ไปหาก่อนแล้วค่อยว่ากัน"
“......”
......
20 นาทีต่อมา ทั้งสองสาวก็เจอจริงๆ
มีแผงลอยมากมายอยู่ตรงปากทางเข้า
บางคนขายผัก, ขายปลา,
หนึ่งในนั้นมีแผงขายผักที่ขายหมดแล้ว เจ้าของแผงกําลังเก็บของอยู่
เป็นชายหนุ่มรูปหล่อ
ซ่งเซียวและหลินเสี่ยวหยุนมองจากระยะไกล
หลินเสี่ยวหยุนตื่นเต้นมาก ในที่สุดเธอก็พบหลี่หานแล้ว
น่าเศร้าที่เขากำลังเก็บแผงลอยเตรียมกลับบ้าน
เดิมทีเธออยากจะแสร้งทําเป็นลูกค้าธรรมดา ไปซื้อผักกับหลี่หาน จากนั้นก็ใช้โอกาสนี้พูดอะไรบางอย่าง
อย่างน้อยก็ทําให้หลี่หานเห็นเธอโดยไม่เปิดเผยร่องรอย
แต่แค่นี้ก็เพียงพอแล้ว
"จริงสิ เซียวเซียว เธอบอกว่าเธอเคยถามเขาว่าเขาเป็นผู้เขียน 'จิ้งจอกขาวกับบัณฑิต' ด้วยเหรอ?"
"อืม ถามแล้ว ในเวลานั้นเขาตอบตรงๆว่าใช่ ”
"แล้วเธอคิดแบบนั้นจริงๆเหรอ?"
"ฉันก็ไม่รู้เหมือนกัน ถ้าเป็นจริง มันก็เหลือเชื่อมาก และคําตอบของเขาตรงไปตรงมา เขายังบอกฉันด้วยนะว่าจะเชื่อไม่เชื่อก็แล้วแต่ มันรู้สึกลึกล้ำและคาดเดาไม่ได้ ฉันเลยบอกว่าฉันไม่เข้าใจเขา ”
"ฉันคิดอยู่ว่าสิ่งที่เขาพูดเป็นความจริง เขาคือนักเขียนของจิ้งจอกขาวและบัณฑิตจริงๆนั่นแหละ"
"หืม? เสี่ยวหยุน เธอแน่ใจนะ? ”
"ก็ไม่หรอก แต่ความรู้สึกมันบอกแบบนั้นอะ"
"งั้นเหรอ? แต่ฉันคิดว่าถ้าเขาเป็นผู้เขียนจิ้งจอกขาวกับบัณฑิตจริงๆเขาควรจะปฏิเสธมัน ”
"ทําไมล่ะ?"
"เธอลองคิดดูสิ เขาชอบวิถีชีวิตที่ขายผักในปัจจุบันซึ่งหมายความว่าเขาชอบเก็บตัวและไม่อยากให้ใครมารบกวน ดังนั้นก็ต้องปฏิเสธสิ? ถ้าเขาเป็นผู้เขียนจิ้งจอกขาวกับบัณฑิตจริง งั้นต้องมีคนมาหาเขาแน่ ตัวอย่างเช่นกองถ่าย มีกองถ่ายหลายกองที่อยากจะเชิญหลี่หานมาแต่งเพลงให้ แต่ไม่สามารถติดต่อได้ ”
"เซียวเซียว เธอพูดมีเหตุผล แต่ฉันคิดว่าเขาอาจจะคิดไกลกว่านั้น ”
"ห้ะ... มันหมายความว่าไง? ”
"ความหมายก็คือ เขาคือคนเขียน 'จิ้งจอกขาวกับบัณฑิต' มันจะแพร่กระจายไปหรือไม่สําหรับเขาแล้วมันเหมือนกันหมด มีชื่อเสียงก็ดี ไม่มีชื่อเสียงก็ดี มีคนมาหาเขาก็ดี ไม่มีใครมาหาเขาก็ได้ ชีวิตของเขาจะไม่เปลี่ยนแปลง คนที่จงใจปกปิดตัวตนและต้องการเก็บตัวก็ถือว่าเป็นผู้ซ่อนเร้น แต่สามารถเรียกได้ว่าเป็นเร้นลับเท่านั้น ”
"ผู้ซ่อนเร้น? เธอหมายความว่าเขาเป็นผู้ซ่อนเร้น? ผู้ซ่อนตัวคืออะไร? ”
"ผู้ซ่อนเร้นไม่ได้จงใจปกปิดตัวตนของตัวเอง เขาก็คือเขา ไม่จําเป็นต้องซ่อนตัวตนใด ๆ ของตน เพราะไม่ว่าสถานะจะเป็นอย่างไร มันก็ไม่รบกวนชีวิตของเขา ใช้ชีวิตธรรมดาในภูเขา ซ่อนกายอยู่ในเมือง”
"ใช้ชีวิตธรรมดาในภูเขา ซ่อนกายอยู่ในเมือง ฉันเคยได้ยินประโยคนี้ แต่ไม่เคยเข้าใจความหมายของมันเลย ตอนนี้ฉันเข้าใจมันแล้ว กล่าวคือ ผู้ซ่อนเร้นคือผู้สูงส่งอย่างแท้จริง แต่เสี่ยวหยุน เธอดูสิว่าเขาอายุเท่าไหร่? อย่างมากก็แก่กว่าเราหนึ่งหรือสองปี นี่คือผู้สูงส่งที่ซ่อนตัวอยู่ในเมือง? มันเป็นไปไม่ได้ ”
"มันเป็นไปไม่ได้จริงๆ ดังนั้นฉันเพิ่งไปว่าไม่แน่ใจไง ”
"เขาเป็นคนที่เข้าใจยากจริงๆ อ๊า เขาดูเหมือนจะมาหาฉัน ”
"จริงเหรอ? หืม? ดูเหมือนว่ามันกําลังมาทางนี้จริงๆ ”
"หยุดเพ้อเจ้อได้แล้ว เป็นไปไม่ได้แน่นอน ฉัน... ฉันต้องหลบก่อน ถ้าเขาเห็นฉัน... ”
"งั้นฉัน... ฉันก็หลบเหมือนกัน ”
"เธอจะซ่อนตัวทําไม เขาไม่รู้จักเธอนะ"
"ก็จริง"
......
หลี่หานเก็บแผงลอยและผูกตะกร้าไว้กับรถจักรยานยนต์
หลังจากนั้นก็เดินไปที่ร้านขายของที่อยู่ไม่ไกล
เขาจะไปซื้อของบางอย่าง
เมื่อวานเขาบอกกับเด็กโข่งพวกนั้นว่า วันนี้ตอนขายผักเสร็จเรียบร้อยแปล้ว จะชวนพวกเด็กๆไปกินข้าว
เมื่อใกล้จะถึงหน้าแผงขายของ ก็เห็นหญิงสาวยืนอยู่ริมถนน
รูปร่างเล็กและสวยงามมาก
หลี่หานมองสองครั้ง
นี่เป็นครั้งแรกที่เขาเห็นสาวสวยแบบนี้บนถนน
และหลังจากนั้นเขาก็เห็นใบหน้าของหญิงสาวที่ดูเหมือนจะแดงเล็กน้อย
นี่...
หลี่หานกล่าวขอโทษหญิงสาวในใจ
เดินเข้าไปในร้านขายของ
เลือกขนมขบเคี้ยวที่เด็กโข่งพวกนั้นน่าจะชอบ จ่ายเงินและถือขนมออกจากร้านค้า
หืม?
ผู้หญิงคนนั้นหายไปแล้ว
หลี่หานรู้สึกเสียใจเล็กน้อย
เดินไปที่รถมอเตอร์ไซด์และเก็บขนมไว้อย่างดี
สตาร์ทรถและกลับบ้าน
ซ่งเซียวและหลินเสี่ยวหยุนกําลังขี่มอเตอร์ไซค์ออกไปอีกมุมหนึ่ง
ซ่งเซียวหัวเราะคิกคัก "เสี่ยวหยุน มัวแต่มองจนเขาออกไปแล้ว เราจะกลับเลยไหม? ”
เสี่ยวหยุนกล่าว "ก็ต้องกลับกันอยู่แล้วสิ ”
ซ่งเซียวพูด "ไปกันเถอะ นั่งมอเตอร์ไซค์กลับกันดีกว่า นึกไม่ถึงจริงๆ ว่าจะเจอเขาจริงๆ ”
......
เหิงเตี้ยน
"เหล่าตู้ คุณไม่รู้รายละเอียดการติดต่อของหลี่หานจริงๆหรือ? เราเป็นเพื่อนกันมากี่ปีแล้ว คุณทําแบบนี้ไม่ได้นะ! ”
"เหล่าหลัว ฉันจะโกหกนายทําไม? ฉันไม่เคยเห็นหน้าหลี่หานเลย เรื่องเพลงประกอบหนังทั้งหมดเป็นฝีมือของคุณหนูซู ได้ยินคุณซูบอกว่าหลี่หานมาที่ร้านเหิงเตี้ยนแค่ครั้งเดียว หลังจากนั้นก็ไม่เคยมาอีกเลย รายละเอียดการติดต่อน่าจะเป็นคุณซูคนเดียวที่มี คุณไปหาคุณซูเถอะ ”
"ถ้าฉันสามารถถามเธอได้ฉันจะมาถามนายทำไมล่ะเหล่าตู้ นายขอให้ฉันสักครั้งสิ? เธอลงทุนใน ‘ความทุกข์ของภูติจิ้งจอก’ ของนายและเป็นหุ้นส่วนของนาย นอกจากนี้นายเป็นผู้กำกับของเรืองนี้หนิ การขอทราบเรื่องทั่วไปแบบนี้เป็นเรื่องปกติอยู่แล้ว ”
"เอ่อ..ก็ใช่ ฉันจะลองดูแล้วกัน เหล่าหลัว ต่อให้นายได้เบอร์ติดต่อของหลี่หานมาก็คงต้องผิดหวังอยู่ดีแหละ ”
"ทําไมล่ะ?"
"ก่อนหน้านี้เหล่าจ้าวก็เคยมาถามฉันเหมือนกันเรื่องเพลงประกอบหนังนี่แหละ ฉันถามคุณซูเกี่ยวกับหลี่หานแล้ว ดูเหมือนหลี่หานจะไม่แต่งเพลงใหม่ขึ้นมาเร็วๆนี้ นายคงต้องผิดหวังแล้วแหละ ”
"ถ้านายถามเขาทางโทรศัพท์แบบนี้ หลี่หานคงคิดว่านายไม่มีความจริงใจเพียงพอหรอก นายต้องไปหาเขาเป็นการส่วนตัวแล่วล่ะ ”
"ความจริงใจเพียงพอ? งั้นน่าจะต้องไปเยี่ยมหลี่หานที่บ้านด้วยตัวเองแล้วแหละ ”
"ฉันก็คิดแบบนั้นเหมือนกัน แต่ไม่รู้ว่าเขาอยู่ที่ไหนเนี่ยสิ?"
"คุณซูน่าจะรู้นะ ให้ฉันช่วยถามให้ไหม?"
"ดี! ฉันรบกวนด้วยนะ เหล่าตู้”
“......”
......