ตอนที่ 43 ฉันอยากเป็นลูกชายของเขา!
กลุ่มชายหญิงต่างตกใจกับการซื้อรถของเย่เทียนจนพวกเขาต้องหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาถ่ายรูป
เย่เทียนไม่ได้สนใจคนพวกนั้น หลังจากนั้นคนพวกนี้ก็ตามเขาไปที่พื้นที่ของแลมโบกินี่ “ถ้าพูดถึงแลมโบกินี่ ฉันสามารถแนะนำรถได้หลายรุ่นที่คุ้มราคาให้นายได้...”
“นี่ นี่ นี่ รถคันนี้สีสวยจัง ฉันซื้อมันด้วยแล้วกัน” เย่เทียนโบกมือเรียก
อู๋ตี๋ “เอ๊ะ ว่าไงนะ?!”
คนรอบข้าง Σ(っ°Д°;)っ
“นาย...นายซื้อรถจากการดูสีเนี่ยนะ?” อู๋ตี้กลืนน้ำลายลงคอ เขารู้สึกเจ็บราวกับโดนคนต่อย
แน่นอนว่าเขาอยากให้เย่เทียนซื้อรถเพิ่มอีกสองสามคัน เขาจะได้ค่าคอมมิชชั่นเพิ่มขึ้นแล้วจะได้ไม่ต้องใช้ชีวิตอย่างยากลำบากอีก แต่เขาไม่สามารถปล่อยให้เย่เทียนเลือกซื้อแบบนี้ได้ การซื้อรถขึ้นอยู่กับประสิทธิภาพของรถไม่ใช่ดูที่สี!
“นายคิดดูอีกทีเถอะนะ รถพวกนี้มันไม่เหมาะกับนายเลย มันไม่คุ้มกับราคาสักนิด!” อู๋ตี๋ไม่สนใจกับการมองของผู้จัดการที่จ้องมาที่เขา และเลือกโน้มน้าวเย่เทียนต่อไป
เย่เทียนเอนตัวไปที่รถและถามราคากับอู๋ตี๋ “นายพูดถูก รถพวกนี้มันไม่เหมาะกับฉันจริงๆ”
อู๋ตี๋รู้สึกโล่งใจทันที
แลมโบกินี่มีราคาแค่ 750,000 เท่านั้น! อยากเชื่อไหมล่ะ?
รถถูกๆแบบนี้จะกล้าซื้อไปให้ได้ยังไง!
ถ้าอู๋ตี๋รู้ว่าเย่เทียนคิดว่ารถพวกนี้ถูกเกินไป เขาคงเป็นลมไปแล้ว
“อู๋ตี๋ นายช่วยแนะนำรถที่มีราคามากกว่า 3 ล้านหยวนให้หน่อยสิ ฉันจะซื้อไปเป็นของขวัญดังนั้นมันไม่ควรมีค่าน้อยเกินไป”
“เอ๊ะ!?” อู๋ตี๋รู้สึกหัวหมุน “จะเอากี่คันล่ะ?”
คนรอบข้าง “เ*ดแม่ง...”
เย่เทียนนับนิ้วด้วยท่าทางจริงจัง “พ่อกับแม่ของฉัน เสี่ยวเหยา เสี่ยวถง สือสือ เหว่ยเหว่ย ผางเหว่ย เหล่าฉิน จื่อฉี เหล่าเจียง อากวง หลี่เฟิง...”
สวีเหว่ยเหว่ยกลืนน้ำลายลงคอ “หลี่เฟิง...นั่นไม่ใช่คณะกรรมการคุ้มครองสิ่งแวดล้อมที่เจอเมื่อวานเหรอ? พึ่งเจอกันก็จะให้รถแล้ว?”
สวีเหว่ยเหว่ยไม่สนใจเรื่องเงิน แต่เธอรู้สึกว่าการใช้จ่ายของเย่เทียนมันมากเกินไป
เย่เทียนพูดด้วยท่าทางเคร่งขรึม “ตามคำกล่าวที่ว่า: ผู้ที่ถือเงินเดือนสำหรับทุกคนไม่ควรถูกแช่แข็งตายในลมหิมะ การมีส่วนร่วมของหลี่เฟิงที่ช่วยทำให้โลกเป็นสีเขียวนั้นไม่มากเกินไปที่จะให้รางวัลแก่เขา”
พระเจ้า ผู้ชายคนนี้คือของจริง ใจดีมาก! รัศมีบนตัวมันจ้าซะเหลือเกิน!
หัวใจของสวีเหว่ยเหว่ยกำลังสั่น พอเธอนึกถึงความคิดของเธอเมื่อครู่ สวีเหว่ยเหว่ยก็ก้มหน้าลงไปด้วยความอายไป
ความคิดของฉันยังห่างไกลกับเย่เทียนมากนัก!
สวีเหว่ยเหว่ย!
เธอต้องปรับปรุงตัวเอง!
สู้ๆ!
ช่วงที่สวีเหว่ยเหว่ยที่กำลังคิดเรื่องนั้นอยู่ เย่เทียนก็นำรายการไป...แล้วเริ่มชี้รถที่อยู่ในรายการ “นี่ นี่ นี่ นี่...”
อู๋ตี๋ตกใจเป็นอย่างมาก แต่คนข้างหลังเขาต่างอึ้งไปหมด เพราะเย่เทียนชี้รายการรถอย่างกับสั่งข้าวในร้านอาหาร
“ฉันไม่ได้ออกมาจากบ้านนานเกินไปเลยปรับตัวเข้ากับคนในสังคมไม่ทันใช่ไหม? ทำไมฉันรู้สึกว่าเขาสั่งเหมือนสั่งข้าวในร้านอาหารเลยล่ะ?”
“นายก็รู้สึกแบบนั้นด้วยเหรอ? ฉันเองก็ด้วย!”
“เทียบกับเขาแล้ว ฉันช่างจนจริงๆ!
“ถ้าใครเป็นผู้หญิงของเขาได้ อย่าพึ่งดีใจไปเลย แค่เรื่องรถก็คงได้เปลี่ยนทุกวันโดยห้ามซ้ำกันเป็นเดือน...”
“เธออยากเป็นผู้หญิงของเขาเหรอ หึ ไร้เดียงสา! ฉันอยากเป็นลูกชายของเขา...”
ความยิ่งใหญ่ของเย่เทียนต่างทำให้ทุกคนตกใจ
ในที่สุด
เย่เทียนก็สั่งซื้อเสร็จ เมื่อคำนวณรายการต่างๆแล้วมันเป็นจำนวนเงินมากกว่า 70 ล้าน
ไม่เห็นแพงเลย
“ผู้จัดการใหญ่อยู่ที่ไหน?” เย่เทียนเรียกหาผู้จัดการใหญ่
ผู้จัดการใหญ่เลิกคิ้ว “คุณเย่ต้องการอะไรเหรอครับ?”
เย่เทียนดึงอู๋ตี๋ให้นั่งข้างๆเขา “ที่ฉันซื้อรถมาหลายคันก็เพราะเห็นแก่พี่ชายของฉัน นายวางแผนจะให้ค่าคอมมิชชั่นเขาเท่าไหร่? จะพูดอะไรก็คิดให้ดีๆก่อน ถ้าค่าคอมมิชชั่นทำให้ฉันไม่พอใจ ฉันจะไม่ชำระเงินส่วนหลัง”
“เอ่อ...ปกติแล้วเราจะให้ค่าคอมมิชชั่นแก่พนักงานขาย 3%” ผู้จัดการทั่วใหญ่เกาหัวแล้วพูด
“บัดซบ! แค่ 3% เนี่ยนะ?”
เย่เทียนแปลกใจทันที เขาคิดว่าอู๋ตี๋จะได้รับค่าคอมมิชชั่น 10%
“เราให้เขา 5% ได้! อย่างรู้กันดีกว่าการขายรถไม่ได้กำไรมากนัก...” ผู้จัดการใหญ่รีบบอก
“5% ตกลงไหม” เย่เทียนหันปถามอู๋ตี๋
อู๋ตี๋เกือบจะร้องไห้ด้วยความตื่นเต้น
70 ล้าน!
5% คือ 3.5 ล้าน!
“ตกลง ตกลง!” อู๋ตี้ตัวสั่นอย่างควบคุมไม่ได้
ผู้จัดการใหญ่เป็นคนฉลาด เมื่อเขาเห็นว่าเย่เทียนกับอู๋ตี๋มีความผูกพันกันอย่างลึกซึ้ง เขายิ้มและตบไปที่ไหล่ของอู๋ตี๋ “เสี่ยวอู๋ ตั้งแต่วันนี้ไปคุณได้รับการเลื่อนตำแหน่งเป็นผู้จัดการเขตไห่จิง! เงินเดือนประจำปีคือ 500,000!”
“หืม?”
อู๋ตี้มึนงง
เย่เทียนพยักหน้า “โอเค งั้นจ่ายเงินเลย เดิมทีฉันอยากซื้อรถให้ครบ 100 ล้าน แต่รถของพวกคุณไม่ค่อยมีอะไรเลย ในอนาคตถ้ามีรถรุ่นใหม่เข้ามาก็ไปบอกอู๋ตี๋ให้ติดต่อหาฉันได้เลย”
“ได้ครับ!” ผู้จัดการใหญ่ดีใจเป็นอย่างมาก เกรงว่าต่อให้เป็นปีใหม่ก็ยังไม่มีควาสมสุขเท่านี้
อู๋ตี๋ทนไม่ไหวจนร้องไห้ออกมา “เย่เทียน...”
“อย่าทำแบบนั้นเลยพี่ชาย! นี่เป็นโชคชะตาของนาย จากนี้เราคงได้เจอกันบ่อยขึ้น!” เย่เทียนยิ้มเหมือนพ่อวัยสูงอายุ
ยัยอ้วนลี่ลี่เป็นปลื้มใจ “ที่รัก คุณเยี่ยมมากเลย! ไว้พวกเราค่อยไปฉลองกันทีหลัง ฉันอยากได้กระเป๋า แอร์เมสมากเลยราคาแค่ 100,000 นายช่วยซื้อให้ฉันหน่อยสิ”
อู๋ตี๋ปาดน้ำตาและมองไปที่ผู้หญิงข้างๆ “พวกเราไม่เหมาะสมกัน เลิกกันเถอะ”
“เอ่อ...อะไรนะ?” ลีลี่ถึงกับผงะและโกรธ “อู๋ตี๋! นายกล้าพูดแบบนั้นอีกครั้งไหมล่ะ?”
“ฉันจะพูด! เราเลิกกันเถอะ!” อู๋ตี้พูดอย่างเย็นชา “ยามทุกข์ก็เลือกที่จะจากไป พอร่ำรวยทำไมฉันต้องแบ่งปัน! ตอนนี้ฉันมีเงินเดือนประจำปี 500,000 นอกจากนี้ฉันยังได้ค่านายหน้า 3.5 ล้าน เธอคิดว่าฉันยังต้องอยู่กับเธออีกหรือไง?”
หลี่ลี่ถึงกับตัวสั่น “นาย...นายทำแบบนี้กับฉันได้ยังไง! นายเปลี่ยนเป็นใครไปแล้ว?”
“เธอชอบฉันตรงไหน?” อู๋ตี๋พูดตอบ “ถ้าเธอบอกฉันได้สักนิด ฉันจะไม่เลิกกับเธอ”
“ฉัน...ฉัน...ฉัน...”
แย่แล้ว...ฉันทำหินหล่นใส่ขาตัวเอง!
ลี่ลี่ร้องไห้ “ฉันตีคุณ ดุคุณ ทั้งหมดนี้ก็เพื่อสร้างแรงบันดาลใจในและกระตุ้นคุณ อันที่จริงการดุและทำร้ายคุณมันทำให้ฉันหัวใจสลาย”
“พร่วด...”
เย่เทียนพ่นแชมเปญที่จิบไปออกมา
อะไรมันจะน่ารังเกียจได้ถึงขนาดนี้
อย่าไปยุ่งด้วยเลยจะดีกว่า
“อู๋ตี้...หัวหน้าให้คุณเลื่อนขั้นแล้ว” เด็กสาวขี้อายที่หน้าตาธรรมดาแต่ดูดีสุดๆ เธอกระซิบอู๋ตี้ว่า “อู๋ตี้ คุณเก่งมากเลย”
“เสี่ยวฮุ้ย...” ตาของอู๋ตี๋เต็วไปด้วยความอ่อนโยน “ขอบคุณที่คอยอยู่กับฉัน”
เสี่ยวฮุ้ยยิ้มงเขินๆแล้วก้มศีรษะวิ่งหนีไป
เย่เทียนไม่ได้ตาบอด ทำไมเขาจะไม่รู้ถึงความสัมพันธ์ของคนสองคนนี้ “เหล่าอู๋ นายจำสิ่งที่พวกเราพูดตอนอยู่มหาลัยได้ไหม?”
อู๋ตี้หัวเราะ “จำได้สิ เมื่อดอกไม้บานเราก็ควรรีบเก็บ!”
“ถ้างั้นนายจะรออะไรอยู่ล่ะ! รีบไปตามสิ!”
เย่เทียนเตะตูดอู๋ตี๋
อู๋ตี๋หัวเราะและวิ่งตามเธอไป “รอฉันด้วยเสี่ยวฮุ้ย! ฉันชอบเธอมานานแล้ว! แต่งงานกับฉันเถอะ!”
“ฮือ~~~” ลี่ลี่ร้องไห้เหมือนเด็กที่สูง 1.55 เมตรหนัก 75 กิโลกรัม
หน้าขอสวีเหว่ยเหว่ยที่อยู่ข้างๆแดงขึ้น
เมื่อดอกไม้บานเราก็ควรรีบเก็บ...