ตอนที่แล้ว1013-1014
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไป1017-1018

1015-1016


5/8

Ep.1015

“เป็นผู้ทรงเกียรติหวูโหยวงั้นหรอ?”

ซูเฉินรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย เมื่อได้สติ ออกคำสั่งแก่ [รถศึกอัจฉริยะ] ทันที “เสี่ยวจือ เร่งความเร็วตามไป”

หากเป็นคนอื่น เขาจะไม่สนใจเลย แต่หวูโหยวผู้นี้ไม่เหมือนกัน ครั้งก่อนที่เจอกันในทวีปเผ่าวิญญาณ อีกฝ่ายได้มอบหินพลังงานจำนวนมากให้ อีกทั้งยังเตือนเขาเกี่ยวกับเรื่องของนักพรตเทียนซ่าน

ซูเฉินจึงมีความประทับใจในตัวหวูโหยวมาก  และจะไม่ยอมทนดูเขาถูกสัตว์ร้ายมิติฆ่าตาย

[รถศึกอัจฉริยะ] ได้รับคำสั่งก็เพิ่มความเร็วทันที แต่เนื่องจากอยู่ไกลกัน จึงไม่สามารถเข้าถึงได้ในระยะเวลาอันสั้น

ซูเฉินออกคำสั่ง “เสี่ยวจือ ฉายภาพของพวกเขา”

ภาพบนหน้าจอควบคุมส่วนกลางสลับสับเปลี่ยน ไม่นานก็ปรากฏร่างของสองผู้ฝึกตนจากหมื่นเผ่าพันธุ์และหนึ่งสัตว์ร้ายมิติ

ซูเฉินสามารถเห็นได้อย่างชัดเจน ว่าหนึ่งในนั้นมิใช่ใครอื่น เป็นผู้ทรงเกียรติหวูโหยว อีกหนึ่งเป็นคนในชุดคลุมเขียว ผมสีเงิน ให้ความรู้สึกน่ายำเกรงแต่ชราภาพมากแล้ว

อย่างไรก็ตาม สถานการณ์ของทั้งสองคนในเวลานี้ย่ำแย่มาก กำลังหลบหนีอย่างทุลักทุเล

“สัตว์ร้ายมิติตัวนี้คงแข็งแกร่งมาก”

ซูเฉินพึมพำ ผู้ทรงเกียรติหวูโหยวคือผู้แข็งแกร่งในระดับเทวะขั้น 3 ทว่ากลับถูกไล่จนเตลิดเปิดเปิงเช่นนี้ เห็นได้ชัดว่าความแข็งแกร่งของสัตว์ร้ายมิติตัวนี้ต้องทรงพลังเป็นพิเศษ

“ซูเฉิน? ผู้อาวุโสในชุดเขียวคือเฉินเจิงแห่งเกาะหลิงหยวน ส่วนสัตว์ร้ายมิติที่ไล่ตามพวกเขา คือหวงไคแห่งเมืองเป่ยหมิง”

ซางอวิ๋นกล่าวด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ จากนั้นเขาก็เตือนว่า “พวกเราไม่ควรเข้าไปข้องเกี่ยวกับเรื่องนี้”

“ทำไม?”

ซูเฉินไม่เข้าใจ “เพราะหวงไคคือสัตว์ร้ายมิติระดับเทวะขั้น 5 อีกทั้งยังมีความแข็งแกร่งระดับสูงในลำดับชั้นเดียวกัน แล้วยังโหดเหี้ยมเป็นอย่างมาก หากโดนมันจับได้ น้อยคนนักที่จะรอดชีวิต” ซางอวิ๋นอธิบาย

“แข็งแกร่งแค่ไหน? แกร่งกว่าบรรพชนตระกูลฉีรึเปล่า?” ซูเฉินกล่าวอย่างเฉยเมย

จนถึงตอนนี้  คู่ต่อสู้ในเทวะขั้น 5 เขาเคยประมือด้วยมีแค่ฉีชิงเฉวียนเท่านั้น เลยถามออกไปเพื่อเปรียบเทียบดู ว่าหวงไคแข็งแกร่งแค่ไหน

“น่าจะแข็งแกร่งกว่าบรรพชนตระกูลฉี” ซางอวิ๋นตอบ

ต่อหน้าฉีมู่เฟิงและฉีมู่เล่ย เดิมเขาไม่ต้องการดูถูกฉีชิงเฉวียน แต่ความเป็นจริงก็คือ ฉีชิงเฉวียนมิใช่คู่ต่อสู้ของหวงไค นอกจากนี้ เขายังกังวลมาก ว่าซูเฉินจะไม่ฟังคำเตือน แล้วกระโจนเข้าร่วมสู้ จึงได้แต่ต้องพูดไป

“อ้อ” ซูเฉินพยักหน้าว่าเข้าใจ หากหวงไคแข็งแกร่งกว่าฉีชิงเฉวียน งั้นก็แสดงว่ามีกำลังรบไม่ธรรมดาจริงๆ

อย่างไรก็ตาม นั่นก็ยังไม่พอที่จะเผชิญหน้ากับเขา จากนั้น เขาถามอีกครั้งว่า “แล้วเฉินเจิงคนนั้นเป็นเทวะขั้นไหน?”

“คนผู้นั้นเองก็อยู่ในระดับเทวะขั้น 5 เช่นกัน” ซางอวิ๋นตอบ

ได้ยินแบบนั้น ซูเฉินอดไม่ได้ที่จะส่ายหัว ทั้งๆที่อยู่ในขั้น 5 ของระดับเทวะ แต่เกรงว่าเฉินเจิงคงอ่อนแอที่สุด เพราะเมื่อตกอยู่ภายใต้การโจมตีของหวงไค เฉินเจิงแทบจะไม่สามารถตอบโต้กลับได้เลย เรียกได้ว่าถูกทุบตีจนฉี่แทบราด น่าขายหน้าจริงๆ

ส่วนผู้ทรงเกียรติหวูโหยว แม้จะมีความแข็งแกร่งกว่าคนอื่นๆในลำดับชั้นเดียวกัน แต่เมื่อต้องเผชิญหน้ากับศัตรูที่แกร่งกว่าถึงสองขั้น  เขาก็ไม่มีโอกาสแม้จะเข้าแทรกแซง

สามารถมีชีวิตรอดมาได้จนถึงตอนนี้ เรียกได้ว่าปาฏิหาริย์แล้ว

“ซูเฉิน เจ้าจะไปที่นั่นจริงๆน่ะหรือ?”

เห็น [รถศึกอัจฉริยะ] ยิ่งนานยิ่งเข้าไปใกล้ขึ้นเรื่อยๆ ซางอวิ๋นกังวลใจมาก

ซูเฉินหัวเราะและกล่าวว่า “ผู้ทรงเกียรติหวูโหยวคือคนรู้จักของผม ผมต้องช่วยชีวิตเขา”

“แต่ทำแบบนั้นหวงไคจะปล่อยพวกเราไปหรือ?” ซางอวิ๋นเตือนด้วยสีหน้าเคร่งเครียด

ช่วยคนไม่ใช่เรื่องผิด แต่ต้องทำเท่าที่กำลังตนไหว

สำหรับผู้แข็งแกร่งเช่นหวงไค มีหรือจะปล่อยให้คนนอกเข้ามาแทรกแซงง่ายๆ?

หากเกิดความขัดแย้งกันขึ้นมา เกรงว่าทุกคนคงไม่รอดชีวิต

6/8

Ep.1016

“วางใจเถอะ พวกเราจะถือโอกาสนี้ช่วยเขา และหากฆ่าสัตว์ร้ายมิติตัวนี้ได้ ก็จะถือว่าเป็นผลดีต่อหมื่นเผ่าพันธุ์เช่นกัน” ซูเฉินกล่าวอย่างชัดถ้อยชัดคำ

“…”

ได้ยินแบบนั้น ซางอวิ๋นอ้าปากค้าง สีหน้าท่าทีกลายเป็นแข็งทื่อ

เขายอมรับว่าซูเฉินแข็งแกร่งมาก คิดฆ่าศัตรูข้ามขั้นถือเป็นเรื่องง่ายดายพอๆกับการล้วงกระเป๋า แต่ท้ายที่สุดแล้ว ซูเฉินยังมีระดับแค่เทวะขั้น 3 เท่านั้น! ห่างชั้นกับหวงไคถึงสองขั้น

–ต่อให้เขาแข็งแกร่งสักแค่ไหน แต่ก็ไม่น่าจะสู้ศัตรูที่เหนือกว่าถึง 2 ขั้นได้หรอก ถูกไหม?

ยังไม่พูดถึงเรื่องที่ว่า เฉินเจิงเองก็เป็นระดับเทวะขั้น 5 เหมือนหวงไคเช่นกัน แต่ฝ่ายแรกไม่สามารถสู้ฝ่ายหลังได้เลย

ซางอวิ๋นยังคงคิดหาวิธีเกลี้ยกล่อม แต่กลับถูกฉีมู่เฟิงขัดจังหวะ

“ผู้อาวุโส สัตว์ร้ายมิติระดับเทวะขั้น 5 ไม่นับเป็นสิ่งใดในสายตาซูเฉิน”

“นี่ …”

ซางอวิ๋นกลืนน้ำลาย มองฉีมู่เฟิงอย่างตะลึงงัน

เขาเคยสนทนากับฉีมู่เฟิงมาก่อน ในความทรงจำของเขา ฉีมู่เฟิงเป็นคนไม่พูดจาโกหกปลิ้นปล้อน แต่ไฉนคราวนี้ถึงยกซูเฉินให้สูงขนาดนี้?

หรือซูเฉินจะเก็บงำความแข็งแกร่งเอาไว้อีกจริงๆ?

ซางอวิ๋นยิ่งคิดยิ่งฟุ้งซ่าน

ระหว่างนั้นเอง [รถศึกอัจฉริยะ] ได้ไล่ตามพวกหวูโหยวทันแล้ว

จู่ๆก็มียาวอวกาศปรากฏขึ้นอย่างกะทันหัน ทำให้ทั้งสามที่กำลังหลบหนีและไล่ล่าตกใจ หยุดการเคลื่อนไหว เพ่งมองไปทาง [รถศึกอัจฉริยะ]

“ทำไมข้าถึงรู้สึกว่ายานลำนี้ดูคุ้นตาแปลกๆ?”

ผู้ทรงเกียรติหวูโหยวเพ่งมองสำรวจดู พึมพำกับตัวเอง

ครั้งก่อนบนทวีปเผ่าวิญญาณ เขาเคยเห็น [รถศึกอัจฉริยะ] มาแล้ว อย่างไรก็ตาม นั่นไม่ใช่รูปแบบในปัจจุบันของรถศึก ดังนั้นเลยไม่อาจระบุแน่ชัดได้

“ทุกคนรอฉันบนรถ”

ซูเฉินกำชับฉีมู่เฟิงและคนอื่นๆ ก่อนเปิดประตูและก้าวออกไปคนเดียว

“ซูเฉิน!”

ทันทีที่เห็นซูเฉิน ผู้ทรงเกียรติหวูโหยวเซอร์ไพรส์จนอธิบายไม่ถูก  ราวกับพบเจอพระมาโปรด

“หวูโหยว เผ่าพันธุ์มนุษย์ผู้นี้เป็นสหายของเจ้าหรือ?” เฉินเจิงถาม

“ไม่ถึงกับเป็นสหาย แต่มีมิตรภาพอันดีต่อกัน” หวูโหยวอธิบาย

เพื่อที่จะผูกมิตรกับซูเฉิน เขายอมเสี่ยงอันตราย บอกเล่าเรื่องที่นักพรตเทียนซ่านต้องการทำร้ายซูเฉิน

แต่ซูเฉินจะรับน้ำใจหรือไม่ เขาไม่รู้

เฉินเจิงรู้สึกว่าชื่อซูเฉินฟังดูคุ้นๆ แต่นึกอยู่นานก็นึกไม่ออก เลยเอ่ยถามว่า “เขาเป็นเทวะขั้นไหน?”

หากซูเฉินมีขั้นใกล้เคียงกัน เขาจะได้ชักชวนให้ร่วมมือกันต่อสู้กับหวงไค

หวูโหยวนึกทบทวน ครั้งก่อนที่เจอกันดูเหมือนซูเฉินจะเป็นแค่ผู้ฝึกตนขั้น 10 เท่านั้น ยังไม่ทะลวงสู่ระดับเทวะ พริบตานั้นรอยยิ้มบนใบหน้าเขาแข็งค้างทันที ยิ้มเจื่อนๆว่า “หลายเดือนก่อน เมื่อครั้งอยู่บนแผ่นดินใหญ่ ดูเหมือนเขาจะอยู่แค่ขั้น 10 ธรรมดาเท่านั้น”

เนื่องจากเพิ่งเข้าสู่มิติภายนอกได้ไม่นาน หวูโหยวเลยยังไม่ทราบเรื่องที่ว่าซูเฉินได้สังหารระดับเทวะในมิติภายนอกไปหลายสิบคน ดังนั้น ความทรงจำที่เขามีต่อซูเฉิน  จึงยังเป็นเมื่อหลายเดือนก่อน

“แค่ขั้น 10 ธรรมดาเท่านั้นเองหรือ?”

เฉินเจิงเกือบสำลักลมหายใจตาย  ผู้ฝึกตนขั้น 10 ไม่อาจเป็นได้แม้แต่มดในสายตาของระดับเทวะ เช่นนั้นซูเฉินมาที่นี่เพื่ออะไร? หาเรื่องตายหรอ?

หวงไคกวาดสายตามองซูเฉิน ผุดยิ้มเยาะ “มนุษย์ เจ้ามาหาที่ตายหรือ?”

“ฉันมาที่นี่เพื่อรำลึกอดีตกับเพื่อนเก่า” ซูเฉินชี้ไปทางหวูโหยว ตอบกลับเสียงเรียบ

“อ้อ ยังมีอีกอย่าง ฉันว่าจะแวะมาฆ่าแกด้วย!”

ทันทีที่คำนี้หลุดออกมา ไม่เพียงหวงไคที่ตกตะลึง กระทั่งหวูโหยวและเฉินเจิงก็ยังตะลึงงันอ้าปากค้าง

ซูเฉินคิดสังหารหวงไคในระดับเทวะขั้น 5 กระนั้นหรือ? ผู้ใดกันที่มอบความกล้าให้เขาพูดเช่นนี้? คงเสียสติไปแล้วใช่หรือไม่?

“ฮ่า ฮ่า ฮ่า” หวงไคหัวเราะอย่างบ้าคลั่ง จับจ้องซูเฉิน เอ่ยเสียงเย็น “เจ้าหนู รู้รึเปล่าว่าข้าเป็นใคร?”

ในความคิดหวงไค ซูเฉินต้องไม่รู้จักสถานะของเขาแน่นอน มิฉะนั้นคงไม่ปากกล้าเช่นนี้

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด