ตอนที่ 7 5 ดาวเลย!
หลังจากที่วิลล์จัดการพวกโจรสลัดที่อยู่บนเรือเสร็จแล้ว ไอ้ดำน้อยและสัตว์ร้ายตัวอื่นๆก็ได้เคลียร์สนามรบกันจนเสร็จ ซึ่งฉากที่เกิดขึ้นนั้นดูน่ากลัว ดังนั้นไม่ขอพูดถึงแล้วกันนะ
จากนั้นวิลล์ก็คืนกลับร่างมนุษย์แล้วจึงซ่อนถุงมืออินฟินิตี้ไว้ในมือขวาด้วยความคิด
ถุงมืออินฟินิตี้นั้นได้ถูกผูกติดกับจิตวิญญาณของเขาซึ่งไม่สามารถแยกออกได้เลย แต่เขาสามารถซ่อนมันไว้ในมือขวาของเขาได้ซึ่งมันเป็นทริคเล็กๆที่เขาพัฒนาขึ้นเมื่อปีก่อน
บางครั้งวิลล์ก็สงสัยว่าถ้าเขามีชื่อเสียงขึ้นมาในอนาคต จะมีคนตั้งฉายาว่า มือขวาทองคำ ให้เขามั้ย..
หลังจากส่งไอ้ดำน้อยและตัวอื่นๆกลับป่า ก็เหลือแค่วิลล์เพียงคนเดียวที่ยังอยู่เพื่อค้นหาคนที่หลบหนีเข้าไปในป่า ทำไมถึงตามหาพวกเขางั้นหรอ? ก็เพราะเขาต้องการใช้คนพวกนั้นเพื่อพาเขากลับสู่สังคมคนปกติไง เขาไม่รู้วิธีขับเรือและเขาก็ยังต้องการข้อมูลบางอย่างจากคนพวกนั้น ซึ่งนี่ก็เหมือนกับการยิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัว
หลังจากเป็นนักล่ามานานกว่าหนึ่งปีและมักจะชอบเล่นซ่อนหากับไอ้ดำน้อยแก้เหงา พอไม่นานเขาก็ได้เจอพวกคนพวกนั้น
เพียงแต่สถานการณ์ของพวกเขาตอนนี้จะไม่ค่อยดีนัก…
“ไอ้ดำใหญ่แกทำอะไร ไปให้พ้นเลย! แกกำลังทำให้ลูกค้าของตรูกลัวนะเว้ย!”
ถ้าไม่ใช่เพราะไอ้ดำใหญ่กำลังอิ่มอยู่ ทุกคนคงไม่รอดแล้ว
แต่ถึงอย่างนั้น ความรู้สึกที่ถูกงูหลามยาว100เมตรจ้องมองก็น่ากลัวจริงๆนั่นแหละ!
พวกเขาจึงกลัวจนขยับตัวไม่ได้จนกระทั่งวิลล์เดินเข้ามาหาพวกเขา
ไอ้ดำใหญ่นั้นไม่ค่อยฉลาดนัก แต่มันก็เข้าใจคำสั่งง่ายๆบ้าง ดังนั้น มันจึงหดหัวลงแล้วเลื้อยจากไป
“ฮู่ว…โคตรน่ากลัวเลย! ฉันคิดว่าจะต้องตายซะแล้ว!”
“ฉันไม่เคยเห็นงูที่ตัวใหญ่ขนาดนั้นมาก่อนเลยในชีวิต!”
พวกเขาต่างก็หมดแรงหลังจากได้ผ่านภัยพิบัตินี้ไป แต่พวกเขาก็นึกเอะใจบางอย่าง งูหลามตัวนั้นดูเหมือนว่ามันจะมีชื่อ?
“นะ..นะ..นายเป็นใคร?” ชายหนุ่มก็ได้ถามขึ้นด้วยความกลัว เขามั่นใจว่าคนๆนี้ไม่ใช่หนึ่งในพวกนั้น และมีความเป็นไปได้สูงที่พวกโจรสลัดที่ไล่ตามพวกเขามาจะถูกจัดการไปแล้ว เพราะดูเหมือนว่างูหลามยักษ์นั่นเชื่อฟังเขามาก
ทุกคนต่างรู้สึกสับสนไม่น้อย
ในขณะนั้น กัปตันวัยกลางคนก็ก้าวขึ้นมาด้านหน้า “สวัสดี ฉันเฒ่าจอห์น เป็นกัปตันเรือลำนี้ ขอบคุณที่ช่วยชีวิตพวกเราไว้นะ”
วิลล์รู้ก็สึกประหลาดใจ ตอนแรกเขาคิดว่าตัวเองจะไม่เข้าใจภาษาของคนพวกนี้เสียอีก แต่สุดท้ายเขากลับฟังรู้เรื่อง เขาจึงเดาว่ามันน่าจะเป็นความสามารถของถุงมืออินฟินิตี้ด้วย
การสื่อสารจึงสะดวกยิ่งขึ้น!
ดังนั้นวิลล์จึงเริ่มพูดแนะนำตัว “ฉันวิลล์ ฉันเป็นเจ้าของเกาะนี้รวมถึงสัตว์ร้ายที่พวกนายเห็นบนชายหาดก็เป็นสัตว์เลี้ยงของฉัน และไอ้ดำใหญ่นั่นด้วย”
หนึ่งในเทคนิคการเจรจา พูดความจริงผสมเท็จ!
ทักษะการเจรจาข้อที่2 หน้าด้านเข้าไว้!
และแน่นอนว่าในขณะที่เขาหยุดพูด หลายคนต่างก็กลั้นลมหายใจในขณะมองมาที่เขาด้วยความเคารพอย่างและเหลือเชื่อ!
การที่สามารถควบคุมสัตว์ร้ายได้มากมายขนาดนี้ คนผู้นี้จะแข็งแกร่งมากขนาดใหนกัน!
หากเราสามารถโน้มน้าวให้เขาช่วยได้ ลำพังเพียงแค่สัตว์ร้ายพวกนั้นก็สามารถจัดการกับพวกโจรสลัดข้างนอกได้แล้วใช่มั้ยนั่น?
ทุกคนต่างตื่นเต้นรวมทั้งเฒ่าจอห์นด้วย
“นายท่านแห่งเกาะที่เคารพ ได้โปรดช่วยพวกเรากำจัดโจรสลัดพวกนั้นด้วย หากท่านต้องการสิ่งใดตอบแทน เราจะพยายามอย่างเต็มที่เพื่อหาสิ่งนั้นมาให้ท่าน!”
คำขอนี้ง่ายดายมากเพราะพวกโจรสลัดถูกฆ่าตายหมดแล้ว และสิ่งเดียวที่เขาต้องทำคือรอเก็บเกี่ยวผลประโยชน์!
ในฐานะลูกชายของนักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จ การทำดีโดยไม่หวังสิ่งตอบแทนนั้นก็เหมือนนักฆ่าที่ฆ่าลูกค้าหลังจากจัดการเป้าหมายไปแล้ว?
แม้ว่าสถานะของเขาจะคล้ายกับลูกค้าที่จ้างนักฆ่าโดยไม่มีเงิน แต่เขาก็ไม่สามารถเสียสละความจริงใจไปได้!
ดังนั้นวิลล์จึงพูดว่า “ช่วยพวกนายกำจัดโจรสลัดงั้นหรอ ฉันว่าพวกนายคงจ่ายไม่ไหวหรอก”
เฒ่าจอห์นนั้นรู้ว่าชายหนุ่มที่สวมชุดหนังสัตว์ตรงหน้าคือความหวังสุดท้ายของเขา ดังนั้นเขาจึงไม่ยอมล้มเลิกไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น
เฒ่าจอห์นจึงขบฟันแน่น
“ตราบใดที่ท่านสามารถกำจัดโจรสลัดชั่วพวกนั้นและคุ้มกันพวกเรากลับไปที่หอการค้าได้ ฉันจะตอบแทนท่านอย่างงามแน่นอน!”
“คุณเป็นเรือสินค้าจากหอการค้างั้นหรอ?”
“ใช่ ฉันเป็นประธานหอการค้าบลูเบิร์ด!”
เฒ่าจอห์นก็ยืดอกอย่างภาคภูมิ การสร้างหอการค้าขนาดใหญ่เช่นนี้ถือเป็นผลงานที่เขาภูมิใจที่สุดในชีวิต
ดวงตาของวิลล์ก็สว่างวาบ เขานั้นม่คาดคิดว่าจะจับได้ปลาตัวใหญ่แบบนี้
“เอาล่ะ ฉันจะช่วยจัดการโจรสลัดพวกนั้นให้หมดและพาพวกนายกลับไปแล้วกัน แต่นายจะต้องจ่ายให้ฉันพันล้านเบรี่ ได้ใหม?”
เมื่อได้ยินเช่นนั้น ใบหน้าที่มั่นอกมั่นใจใจของจอห์นก็ห่อเหี่ยวลงทันที แถมกล้ามเนื้อบนใบหน้าของเขาเริ่มกระตุกอย่างควบคุมไม่ได้
“โฮ่โฮ่ นายท่านพูดเล่นแล้ว ถึงแม้จะขายหอการค้าบลูเบิร์ดทั้งหมดแต่ก็ยังไม่ได้มีค่าถึงพันล้านเบรี่” เฒ่าจอห์นก็พูดออกมาแห้งๆ
“นี่กล้าทำตัวภาคภูมิใจแต่ทั้งๆที่จนเนี่ยนะ?!”
วิลล์ก็ตอกกลับแบบไม่ไว้หน้าซักนิด นี่คือถิ่นของเขา ไม่ว่าเขาจะบี้คนพวกนี้ให้แบนหรือทำอะไรมันก็ขึ้นอยู่กับอารมณ์ของเขา
“แล้วจะให้เท่าไรล่ะ? ฉันจะไม่ทำอะไรที่มันไม่คุ้มกับเงินที่ได้หรอกนะ”
เมื่อเผชิญพระผู้ช่วยที่กำลังเรียกร้องเงิน เฒ่าจอห์นจะทำอะไรได้อีกนอกจากทำตาม
“สิบล้านเบรี่หละ?”
“ชีวิตของพวกนายมีค่าแค่นั้นหรอ? งั้นก็ลาก่อน!”
พูดจบวิลล์ก็เดินออกไป
เฒ่าจอห์นก็รีบร้อนรั้งเขาไว้ “ห้าสิบล้าน! นั่นคือเงินทั้งหมดที่ฉันจ่ายไหว!”
แม้จำเป็นต้องขายทรัพย์สินบางส่วนออกไป แต่เฒ่าจอห์นก็ไม่ได้พูดออกไป
“ห้าร้อยล้านขาดตัว นั่นยังน้อยเมื่อเทียบกับทั้งชีวิตของนายนะ แต่เนื่องจากนายจริงใจ งั้นฉันจะยอมรับคำขอก็ได้ถึงแม้ว่ามันจะไม่ค่อยคุ้มเท่าไรก็เถอะ” วิลล์ก็พูดออกมาราวกับว่าเขาไม่เต็มใจที่จะยอมรับข้อเสนอของเขา
เมื่อได้ยินเช่นนั้น ใบหน้าของเฒ่าจอห์นก็เปลี่ยนไปมาหลายครั้ง แต่เขาก็ยังคนนิ่งและยังไม่ได้พูดอะไร หลังจากสูดหายใจเข้าลึกๆ เขาก็วางมือบนสิ่งของที่เอวของเขา แม้ในขณะหลบนี้ เขาก็ไม่ลืมที่จะเอาสินค้าที่มีค่าที่สุดของการเดินทางนี้ติดมาด้วย
“ฉันไม่มี500 แต่ฉันใช้สิ่งนี้แทนได้”
ขณะที่เขาพูดนั้น เฒ่าจอห์นก็ได้หยิบกล่องหนึ่งออกมาจากกระเป๋าคาดเอวของเขาและเปิดมันออกต่อหน้า
และข้างในนั้นก็คือ ผลปีศาจ!
แถมยังเป็นผลปีศาจสายพารามีเซีย!
ครั้งนี้ วิลล์ก็จ้องมองเฒ่าจอห์นด้วยสายตาที่เปลี่ยนไป
เขานั้นเคยกังวลว่าจะหาผลปีศาจผลที่สองได้จากไหน และทันใดนั้นมันกลับมีคนส่งของหวานนี้มาถึงหน้าประตูบ้านเขาเลย!
เอาไปเลยห้าดาว!
#เกือบไม่ได้ลงฮ่าๆ พรุ่งนี้ต่อนะ