ตอนที่ 6 เฟิสบลัด (First Blood)!
“กรร”
เมื่อเรือสินค้าที่โดนไล่ตามก็แล่นมาถึงเกาะ ความสิ้นหวังก็ปรากฏขึ้นบนใบหน้าของทุกคน
ลืมเรื่องเจ้าตัวใหญ่สองตัวนั้นไปได้เลย ไม่ว่าจะไอ้ดำน้อยหรือไอ้ขาวน้อย แค่สัตว์ร้ายที่อยู่ข้างหลังพวกมันเป็นฝูงก็ทำให้พวกเขากลัวแล้ว
“กัปตันครับ! หัวหลังกลับแล้วหนีกันเถอะครับ” ลูกเรือก็เริ่มหวาดกลัว และตามที่เขาแนะนำ
ชายวัยกลางคนที่ถูกเรียกว่ากัปตันก็ลังเลไปชั่วขณะ แต่เมื่อเขามองกลับไปข้างหลัง ตวกตาของเขาก็มั่นคงขึ้นพร้อมกับออกคำสั่ง
“จอดเรือ!”
“เรือลำนี้มันจบแล้ว ถ้ายังไม่อยากถูกขายเป็นทาส ลงจากเรือแล้ววิ่งไปให้ไกลที่สุดซะ”
“จะรอดหรือตายมันก็แค่เกี่ยวกับเวลาและเงิน ใครจะอยู่ใครจะไป มาวัดกันที่ดวงนี่แหละ”
“ถ้าใครรอดกลับไปได้ จงจำไว้ว่าจะต้องล้างแค้นให้พวกพ้อง พวกมันชดใช้ด้วยเลือด”
ชายกลางคนก็พูดปลุกใจพลางมองไปที่ลูกเรือของเขา
“ใช่แล้ว อย่าได้หมดหวัง!”
“ลองมองในแง่ดีสิ ถ้าสัตว์พวกนั้นเป็นมังสวิรัติหละ ฮีฮี”
ในขณะกำลังแล่นเรือเข้าไปและมองไปที่สัตว์ดุร้ายข้างหน้าพวกเขา ทุกคนก็พากันเงียบอีกครั้งซึ่งพวกเขานันกลัวจะทำเสียงดังจนสัตว์พวกนั้นตื่นตัว
ในตอนนั้นวิลที่อยู่ในร่างสัตว์ ก็อยู่ในฝูงนั้นด้วยโดยกลมกลืนไปกับฝูง
เมื่อเรือเข้ามาจอดที่เกาะแล้ว ก็ไม่มีสักคนที่กล้าจะลงมาคนแรก เนื่องจากคนแรกที่ลงไปต้องกลายเป็นอาหารให้สัตว์พวกนั้นเพื่อเปิดโอกาสให้คนอื่นได้หนี
เมื่อเจอกับความเป็นและความตาย ก็จะมีแต่คนเห็นแก่ตัวกันทั้งสิ้น!!!
“ฮ่า ฮ่า ฮ่า หนีต่อไปสิ”
ทันใดนั้นเรือโจรสลัดที่ไล่ตามมาก็โพล่ออกมาซึ่งโจรสลัดที่อยู่บนเรือก็หัวเราะกันอย่างน่ารังเกลียด
เกมแมวจับหนูก็ได้จบลงแล้ว!
“ยอมแพ้ซะ ฉันสัญญาว่าจะเอาแค่เงิน และปล่อยพวกแกไปฮ่า ฮ่า”
“กัปตันนี่แย่จริงเลยน้า ถ้าพวกมันเกิดอยากเป็นอาหารให้สัตว์หล่ะจะทำยังไง”
“ถ้ายังตัดสินใจกันไม่ได้ งั้นช่วยมันตัดสินใจสิ เอาปืนใหญ่ยิงใส่ข้างเรือมัน”
“ครับ กัปตัน”
กัปตันตาเดียวก็เลียปากแห้งๆแผบๆ หลังจากเขาได้ข่าวจากหนอนว่าพวกคนเหล่านี้ได้สมบัติล้ำค่ามาโดยบังเอิญ เขาจึงได้นำลูกน้องออกไปดักรอพวกมัน
แต่เขาไม่คาคดิดว่าบนเรือสินค้ารำนี้จะมีนักสู้เก่งๆมากมาย แต่พวกมันก็กลับหนีไปในตอนที่เขาไม่ได้สนใจพวกมัน
ยังไงก็ตาม ด้วยเรือที่เสียหายแบบนี้ ขัดขืนไปก็เปล่าประโยชน์
เสียงยิงปืนใหญ่สองกระบอกก็ได้ปลุกลูกเรือที่กำลังมึนงงอยู่ และตัวเรือด้านนอกที่หล่นลงไปในน้ำก็เป็นตัวเตือนพวกเขาให้หายมึนงง
กัปตันชายกลางคนก็สังเกตเห็นแววตาหวาดกลัวจากลูกเรือ ดังนั้นเขาจึงแสดงสายตาดุร้ายออกมา
“ทุกๆคนพุ่งไปพร้อมกับข้า การยอมแพ้ก็คือความตาย หรือพวกนายอยากจะเป็นทาสไปตลอตชีวิตกันหะ?”
คำพูดของกัปตันวัยกลางคนก็ได้พุ่งเข้าไปในใจของลูกเลือก ดังนั้นเลิกลักเลที่จะติดตามกัปตันของพวกเขาเข้าป่า
…
เมื่อพวกมันเห็นว่าเจ้าแมลงน้อยวิ่งมาทางมัน ไอ้ดำน้อยและสัตวตัวอื่นๆก็ก็เตรียมจะโมตีแต่ทันใดนั้นพวกมันทั้งหมดกลับนั่งลงนิ่งๆเพราะเสียงคำรามของฮันนี่แบดเจอร์
การได้เห็นฉากอันพิศดารนี้ทำให้คนที่เห็นต่างมีความสุขและสับสนกันไปพร้อมๆกัน!!!
แต่ละคนนั้นก็วิ่งไปโดยที่เชื่อว่าพวกเขาจะต้องตายแต่พวกเขาก็ต้องประลาดใจกับเหตุการณ์ตรงหน้า ซึ่งพวกเขาพบว่าสัตว์พวกนี้ไม่สนใจพวกเขาแถมยังปล่อยพวกเขาไปด้วย
เมื่อกัปตันกลางคนวิ่งเข้าไปในป่าพร้อมกับลูกเรือของเขา ซึ่งพวกเขานั้นก็อดไม่ได้ที่จะหันหลังกลับไป เพราะมันแปลกเกินไป แต่เหนือสิ่งอื่นใดก็คือพวกเขาดีใจที่ไม่ต้องถูกกิน
สัตว์บนเกาะนี้คงไม่ใช่มังสวิรัติจริงๆหรอกใช่ไหม?
พวกเขาไม่ใช่พวกเดียวที่ไม่สามารถหาคำตอบในเรื่องนี้ได้
ใครก็ได้บอกฉันทีมันเกิดอะไรขึ้นบนโลกใบนี้กัน?
หรือว่าพวกมันอิ่มแล้วจนไม่สนใจสิ่งมีชีวิตตัวเล็กอย่างพวกข้า?
กัปตันตาเดียวก็งงวยไปสักพัก
“กัปตัน พวกมันหนีไปไกลแล้วครับ เราจะทำยังไงกันดีครับ ไล่ตามพวกมันไปดีใหมครับ?”
“ไปที่เรือของพวกมันและหาของมีค่าก่อน”
ถ้าสมบัติมันทำให้เขาพอใจ เขาก็ใจดีพอที่จะปล่อยพวกมันไป
หลังจากนั้นอีกไม่กี่นาทีต่อ….
“กัปตัน เราโดนหลอกแล้วครับ บนเรือมีเงินแค่แสนแบรี่เท่านั้นเองครับแถมไม่มีสมบัติเวรนั่นแม้แต่เงาเลย!!”
เมื่อได้ยินคำพูดของลูกเรือ หน้า-v’กัปตันตาเดียวก็อึมครึมขึ้นมา แต่เขานั้นเชื่อว่าเจ้าหนอนนั่นไม่มีทางโกหกเขาแน่ นอกจากว่ามันจะไม่อยากให้ครอบครัวมันมีชีวิตรอด
“สิ่งนั้นน่าจะอยู่กับพวกมัน ตามพวกมันไปเร็ว” เขาก็กัดฟันกึกๆ ซึ่งกัปตันตาเดียวได้ตัดสินใจว่าจะทำให้พวกมันรู้สึกเสียใจไปตลอดชีวิตที่กล้าทำเรื่องแบบนี้กับเขา
แม้ว่าสัตว์ร้ายที่ยืนเรียงแถวบนชายหาดจะทำตัวนิ่งๆไม่ทำอะไรและมันได้แสดงหลักฐานให้เห็นแล้วว่ามันไม่ได้ทำอะไรกับผู้คนที่ผ่านไปแต่โจรสลัดก็ยังคงระมัดรัวังตัวหลังจากเอาเรือจอดที่ขอบป่า
และพวกเขาก็ระมัดระวังกันไปเรื่อยๆจนคนที่เดินนำหน้าสุดไปจนถึงชายป่าซึ่งมันทำให้พวกเขาผ่อนคลายลง
พวกเขาพบว่าดูเหมือนเจ้าสัตว์พวกนั้นจะแปลกจริงๆ ไม่รู้ว่ามันอิ่มแล้วหรือเป็นมังสวิรัตกันแต่พวกการทำให้กลัวด้วยขนาดตัวแบบนี้มันช่างเสียของจริงๆ
ในขณะที่พวกเขากำลังคิด ทันใดนั้นพวกเขาก็ได้ยินเสียงคำถามของสัตว์ที่ทำให้พวกเขาตกใจ
และจากนั้นใบหน้าของพวกเขาก็ซีดเซียวลงมากๆ
เพราะว่าสัตว์ที่ยืนเรียงอยู่แถวหน้านั้นได้เริ่มวิ่งไล่ล่าโจรสลัดด้วยพลังอันมหาศาล
“วิ่ง!”
“ฉันนึกว่าพวกมันไม่ดุร้ายสะอีก ทำไมมันเป็นอย่างนี้เนี่ย?”
“อย่ากินฉัน อย่า..อ้าก”
“มือฉัน มือฉัน”
“ช่วยด้วย ช่วยฉันด้วย”
โจรสลัดส่วนใหญ่นั้นเป็นคนธรรมดา และพวกเขาก็แค่แข็งแรงกว่าคนทั่วไป ดังนั้นพวกเขาจึงสู้กับสัตว์พวกนี้ไม่ค่อยจะได้
ในตอนนั้นกัปตันตาเดียวก็ฟื้นจากอาการตกใจ ลูกเรือครึ่งหนึ่งที่มากับเขานั้นก็ได้ตายไปแล้ว และทั้งหมดก็ตายอย่างน่าเจ็บปวดโดยพวกเขาเกือบทั้งหมดได้กลายเป็นอาหาร
ในขณะที่เขากำลังตกใจและเตรียมหนีกลับไปบนเรือ วิลที่มองดูเขาอยู่นานก็ได้มายืนอยู่ด้านหลัง
จากนั้นกรงเล็บอันแหลมคมก็ได้ตัดไปที่คอขอกัปตันอย่างนุ่มนวล และทันใดนั้นหัวที่แสดงใบหน้าอันตกตะลึงก็ได้กลิ้งลงบนพื้น ขณะที่ลำตัวก็ก้าวถอยหลังไปสองก้าวแล้วจึงล้มลงไป
การฆ่าใครสักคนนี่มันรู้สึกแย่จริงๆ!
แต่สำหรับ วิล ผู้ที่มีประสบการณ์ป่าเถื่อนมาเป็นปี การเลือดสาดในระดับนี้อย่างมาก็แค่ทำให้เขารู้สึกไม่สบายใจเฉยๆ และจากนั้นเขาก็ไม่รู้สึกอะไร
โลกที่เขาอยู่ตอนนี้คือโลกที่ความแข็งแกร่งคือสิ่งสำคัญและการฆ่ากับการถูกฆ่านั้นคือเรื่องปกติ
ดังนั้น เขาจึงต้องปรับตัวให้เข้ากับโลกนี้ให้เร็วที่สุดและไม่ควรจะเอาเวลามาเห็นใจคนอื่น