ตอนที่แล้วตอนที่ 58 สนิทกันให้มากขึ้น
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 61+62 รอโทรศัพท์จากเขา

ตอนที่ 59+60 เธอโตขึ้นแล้ว


ณ บ้านตระกูลลู่

หลังจากที่แม่ลู่วางสาย สีหน้ากังวลใจของเธอก็ถูกแทนที่ด้วยรอยยิ้มขบขัน เธอเดินไปหาสามีที่กำลังนั่งดูทีวีอยู่บนโซฟาและพูดว่า “ทายสิ ว่าใครโทรมา”

“อี้ชิงเหรอ?” พ่อลู่ตอบอย่างไม่ใส่ใจ

แม่ลู่หัวเราะออกมาดัง ๆ กับคำตอบของพ่อลู่ และพูดด้วยน้ำเสียงค่อนข้างตื่นเต้น “ไม่ใช่! เจียงเหยาต่างหากเล่า เธอโทรมาถามว่าชิงสีได้โทรกลับมาที่บ้านหรือยัง  นี่เธอยังบอกให้ฉันบอกชิงสีด้วยนะถ้าเขาโทรมา ว่าเธออยู่ที่บ้านไห่ชิงสองสามวัน แล้วก็ขอให้ฉันบอกเขาให้โทรไปหาเธอที่นั่นด้วยล่ะ”

แม่ลู่กล่าวต่อด้วยความยินดีว่า “ดูเหมือนว่าครั้งนี้ที่พวกเขาได้ใช้เวลาอยู่ด้วยกัน เจียงเหยาไม่เพียงไปส่งชิงสีที่สนามบิน เธอยังรอโทรศัพท์ชิงสีด้วย แบบนี้สิ ถึงจะเหมือนคู่แต่งงานที่รักกันหน่อย”

“ผมไม่ได้บอกคุณก่อนหน้านี้หรอกเหรอ? เจียงเหยาน่ะยังเด็ก เธออายุ 18 เองนะ แล้วเด็กอย่างเธอจะรู้อะไรเกี่ยวกับการแต่งงานเล่า? ตอนอายุเท่ากับเธอ ฉันน่ะคิดแต่เรื่องเรียนกับเรื่องเพื่อน เมื่อเธอโตพอ เป็นผู้ใหญ่มากพอ ในที่สุดก็คิดเรื่องแต่งงานเองนั่นแหละ ก็ดูสิ? ตอนนี้เธอเข้าใจมันแล้วหรือยังล่ะ? ผมก็เห็นนะ ว่าชิงสีอยากอยู่กับเธอตลอดทั้งวัน ตอนที่เขากลับมาบ้าน แล้วตอนนี้ความคิดของเจียงเหยาที่มีต่อเขาก็เปลี่ยนไปมากเช่นกัน ตอนนี้พวกเขาดูเป็นคู่ที่รักกันมาก” พ่อลู่กล่าวด้วยรอยยิ้มอย่างไม่แปลกใจอะไร

“เด็ก ๆ ก็แบบนี้แหละ พวกเขาต่างก็มีความคิดเป็นของตัวเอง ปล่อยให้พวกเขาจัดการเรื่องส่วนตัวกันเองเถอะ อย่าเข้าไปยุ่งกับพวกเขามากนักเลย”

“ใช่ ใช่ คุณน่ะรู้ดีที่สุด!” แม่ลู่กล่าวประชด

“ฉันไม่รู้เลยนะเนี้ยว่าคุณเองก็รู้ว่าเจียงเหยาน่ะเด็กเดินไป ถ้าอย่างนั้น ทำไมคุณไม่หยุดชิงสีเล่า ตอนที่เขาบอกว่าจะแต่งงานกับเธอน่ะ? ทำไมถึงทำให้ฉันกลายเป็นแม่ใจร้ายไปได้”

“คุณไม่รู้จักนิสัยของลูกชายคุณหรอกรึ? คุณคิดว่าจะหยุดเขาได้เหรอ? ผมน่ะเห็นว่าชิงสีชอบเจียงเหยา ในเมื่อเราห้ามเขาไม่ได้ ทำไมผมจะต้องหยุดเขาด้วยเล่า? ตอนนี้ทุกอย่างก็ดีแล้วไม่ใช่รึไง?”

พ่อลู่ปิดทีวีและหยิบหนังสือพิมพ์บนโต๊ะ ขึ้นมาพลิกจะอ่าน

แม่ลู่โกรธจัด เธอพุ่งเข้าไปหาเขาด้วยความโกรธและคว้าหนังสือพิมพ์จากมือของเขา

“ใช่ซี้ คุณน่ะรู้จักลูกชายของคุณดีที่สุด” แม่ลู่ พ่นลมหายใจ

“ก็ตอนนั้น ฉันกังวลนี่ เจียงเหยาก็อายุยังน้อย เธอเป็นน้องเล็กของครอบครัว ใครก็รู้ลูกคนเล็กนิสัยเป็นยังไง อีกอย่างก่อนแต่งงาน ชิงสีก็เป็นคนเดียวที่ดูแลปรับแต่งห้องหอ เธอไม่ได้เข้ามาดูแม้แต่ครั้งเดียว ราวกับเธอไม่ใช่เจ้าสาวอย่างงั้น อีกอย่าง หลังแต่งงาน ชิงสีกลับมาที่บ้านกี่ครั้งเชียว? กลับมาเมื่อไหร่ เธอก็ทำหน้าบึ้งอยู่ตลอด”

“ปล่อยเรื่องในอดีตให้มันผ่านไปเถอะน่า เอามาพูดตอนนี้จะมีประโยชน์อะไร? ชิงสีเองก็ไม่ได้เก็บเรื่องนั้นมาใส่ใจ แล้วคุณจะกังวลไปทำไมกัน? ตอนนี้เจียงเหยาก็เปลี่ยนไปแล้วไม่ใช่เหรอ?” พ่อลู่ส่ายหน้า

“พูดตามตรง คุณเองก็คงคิดว่าลูกเราถูกเจียงเหยาบ่งการอยู่ใช่ไหมล่ะ? แต่ผมน่ะ คิดว่ามันตรงกันข้าม”

พ่อลู่หัวเราะอย่างสนุกสนาน

“ผมรู้จักลูกชายของผมดี เด็กคนนี้เจ้าเล่ห์ยังกับจิ้งจอก”

แม่ลู่หัวเราะออกมาเสียงดัง เธอภูมิใจในตัวลูกชายของเธอจริง ๆ พวกเขาไม่เคยต้องกังวลเกี่ยวกับเรื่องเรียนของลูกชายมาตั้งแต่เขายังเด็ก เธอกังวลเพียงอย่างเดียวคือเรื่องชีวิตรักของลู่ชิงสี เธอยังเคยนัดดูตัวให้เขาด้วย

แต่เอาจริง เด็กคนนี้ไม่มีอะไรให้ต้องกังวลเลย เขาพบกับสาวน้อยคนนี้เพียงครั้งเดียว แล้วรีบมาบอกแม่ของเขาทันที หลังจากนั้นก็กลับไปที่กองทัพ ไม่ได้เตรียมเรื่องสู่ขอหรือการแต่งงานเลย

ตอนนี้แม่ลู่เดาความคิดของลู่ชิงสีออกแล้ว เขาคงคิดว่าตัวเองคงหนีไม่พ้นฝันร้ายของการดูตัวอย่างต่อเนื่อง ดังนั้นแทนที่จะทะเลาะกับแม่อยู่ร่ำไป แทนที่จะต้องแต่งงานกับลูกสะใภ้ที่แม่เลือกให้ เขาหาภรรยาเอง และฝากเธอไว้ที่บ้านกับพ่อแม่ ส่วนตัวเองหนีไปใช้ชีวิตอิสระที่กองทัพ

แม่ลู่ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าลู่ชิงสี รู้จักกับเจียงเหยาได้อย่างไร แล้วไปตกหลุมรักเธอได้อย่างไร ต่อมาไม่รู้ว่าลู่ชิงสีใช้อุบายอะไร ถึงได้โน้มน้าวให้หญิงสาวแต่งงานกับเขา พร้อมกับมาอ้อนวอนพ่อและแม่ว่าเขาจะแต่งงานกับเจียงเหยา ตอนนั้นเขาทำราวกับว่าเธอคือคนเดียวเท่านั้นที่เขาจะแต่งงานด้วย

ในตอนแรก แม่ลู่ไม่ชอบเจียงเหยาเท่าใดนัก โดยเฉพาะการที่เธออายุยังน้อย เพิ่งจะสิบแปด แม้ว่าตามกฎหมาย เธอจะสามารถจดทะเบียนสมรสได้แล้วก็ตาม

ด้วยความมุมานะของลู่ชิงสี ในที่สุด เธอก็ตกลงแต่งงานกับเขา

ในฐานะอาชีพครู แม่ลู่ชอบเจียงเหยาตรงจุดที่เธอเรียนเก่ง เธอคิดเสมอว่าวันหนึ่งเจียงเหยาจะต้องกลายเป็นนักศึกษาในมหาวิทยาลัย นั่นก็หมายความว่าระดับการศึกษาของเธอจะอยู่ในระดับเดียวกับลูกชายของเธอด้วย เช่นนั้นเธอก็ถือเป็นตัวเลือกที่ดีกว่าหญิงสาวคนอื่น ๆ

หลังจากที่เจียงเหยาวางสาย เธอเดินขึ้นบันได ยังขึ้นบันไดไปไม่ถึงชั้นบน ลู่เสี่ยวเซียวก็กระโดดออกมา ทำให้เธอตกใจเล่น

“ฮ่าฮ่า พี่สะใภ้ นี่ตกใจง่ายเสียจริง!” ลู่เสี่ยวเซียวหัวเราะคิกคักราวกับเด็กอายุสามขวบที่กำลังซุกซนอย่างไรอย่างนั้น ขณะที่เธอมองดูท่าทางตกใจและหวาดกลัวของเจียงเหยา เธอเดินเข้ามาใกล้พร้อมกับแหย่ที่ท้องของเธอ แล้วล้อเลียน

“อะไรกัน ชิงสีไปยังไม่พ้นวันเลย นี่คิดถึงเขาแล้วเหรอ? ยังอยากจะให้เขาโทรมาหาถึงที่นี่เลยน๊า”

“อะไรเล่า? ไม่ได้รึไงกัน?” เจียงเหยากลอกตา ทำทีเป็นโมโห

“นี่ ๆ อายุเท่าไหร่แล้ว? ยี่สิบหรือว่าสองขวบ? หะ? ทำอะไรเป็นเด็กไปได้”

“ฉันยังทำให้เธอตกใจกลัวด้วยใช่ไหมล่ะ? น่าสนุกดีออก!” ลู่เสี่ยวเซียวงอแขนของเธอรอบไหล่เจียงเหยา พาเธอเดินกลับไปในห้องของเธอ

“เจียงเหยา บอกฉันมาเลยนะ ว่าเธอกับชิงสีรู้จักกันได้ยังไง? ฉันล่ะอยากรู้เรื่องของเธอมากเลย! ฉันถามชิงสี แต่เขาไม่พูดอะไรสักคำ อีกอย่าง เธอต้องบอกฉันสิ ว่าเธอทำยังไงถึงได้ประสบความสำเร็จในชีวิตแต่งงาน นี่ ๆ ฉันจะถือว่าเธอมีบุญคุณเลยนะ ว่าไง เล่ามา”

“เทคนิคอะไรกัน? บุญคุณอะไรเล่า?” เจียงเหยาเหลือบมองไปที่ลู่เสี่ยวเซียวอย่างอยากรู้ “ทำไมฉันไม่เห็นจะรู้เรื่องเลย”

“ฉันสัญญากับชิงสีไว้แล้ว ว่าจะไม่พูด ถ้าอยากรู้นักก็ไปถามเขาเอาเองสิ” ลู่เสี่ยวเซียวยักไหล่

“นี่ ฉันเป็นคนจริงจังกับสัญญานะ ถ้าเขารู้ว่าฉันบอกเธอ เขาต้องว่าฉันแน่ ๆ”

“เพราะงั้น ถ้าเธออยากรู้ว่าฉันกับพี่ชายของเธอรู้จักกันได้ยังไง เธอก็ต้องไปถามเขาเองแล้วล่ะ” เจียงเหยาเลิกคิ้วและหัวเราะ เธอไม่รู้ด้วยซ้ำว่าพวกเขาพบกันได้อย่างไรและพบกันเมื่อไหร่ แล้วเธอจะเล่าให้ลู่เสี่ยวเซียวฟังได้อย่างไรเล่า

เจียงเหยาอยากรู้มากกว่าเสียอีก ว่าความสำเร็จในชีวิตแต่งงานที่ลู่เสี่ยวเซียวพูดน่ะ หมายความว่าอะไร

แม้ว่าลู่เสี่ยวเซียวจะยืนกรานว่าเธอจะเก็บเรื่องนี้เป็นความลับ เธอก็ไม่ได้คำตอบใด ๆ จากเจียงเหยา

ลู่ไห่ชิงไม่อยู่บ้านถึงห้าวัน ทำให้เจียงเหยาต้องอยู่เป็นเพื่อนลู่เสี่ยวเซียวในเมืองถึงห้าวัน

หลังจากที่ลู่ไห่ชิงกลับถึงบ้าน เขาไม่คาดคิดกับเหตุการณ์ที่เจียงเหยามาอยู่เป็นเพื่อนลู่เสี่ยวเซียว ทำเขาเจ้าตัวประหลาดใจปนดีใจ เขาถึงกับขับรถไปส่งเจียงเหยาด้วยตนเอง

ระหว่างทานอาหารเย็น ลู่ไห่ชิงได้แสดงความรู้สึกสบายใจที่เจียงเหยาไปอยู่ดูแลลู่เสี่ยวเซียวที่บ้าน ทำให้เขาคลายกังวลตอนที่เขาไม่อยู่บ้าน แม่ลู่ถึงกับหัวเราะออกมากับคำพูดของเขา และแนะนำให้ลู่เสี่ยวเซียวมาพักที่บ้านได้ทุกเมื่อที่ลู่ไห่ชิงไม่อยู่บ้าน

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด