ตอนที่ 58 สนิทกันให้มากขึ้น
เจียงเหยาไม่แน่ใจว่าตัวเองจะเข้าหาลู่อี้ชิง เพื่อบอกเรื่องเกี่ยวกับจ้าวจวนซ่งได้อย่างไร อีกอย่างเธอเองก็ไม่มีหลักฐานอะไรด้วย ผู้ชายคนนั้นไม่ใช่คนโง่เสียด้วยสิ เขาคงไม่ทิ้งร่องรอยใด ๆ ไว้ ถ้าเธอกล่าวหาเขาลอย ๆ เขาก็สามารถปฏิเสธทุกอย่างและ เป็นเธอเองที่จะถูกต่อว่า ว่าได้ปลุกปั่นสร้างความร้าวฉายภายในครอบครัวของพวกเขา
หลังจากไตร่ตรองผลที่จะตามมา เจียงเหยาจึงคิดว่าควรเอาเรื่องนี้ไปปรึกษากับลู่ชิงสีก่อน เขาเป็นน้องชายของลู่อี้ชิง คำพูดของเขาน่าเชื่อถือและมีน้ำหนัก
ลู่เสี่ยวเซียวและเจียงเหยาเดินออกจากร้าน สองคนเดินคุยกันไป หัวเราะด้วยกันไป เสียงลู่เสี่ยวเซียวดังก้องไปทั่วท้องถนน เธอพูดถึงดาราคนดัง เรื่องเพลงและละครของคนดัง ลู่เสี่ยวเซียวกรีดร้องด้วยความตื่นเต้น ที่รู้ว่าเจียงเหยาสนใจในเรื่องที่กำลังคุยกัน
ลู่ชิงไห่กำลังเดินทางไปทำธุรกิจต่างเมือง วันนี้ที่บ้านจึงมีเพียงแม่บ้านและคนขับรถ ไม่แปลกใจเลยที่ลู่เสี่ยวเซียวจะชอบใจที่เจียงเหยาจะมาอยู่เป็นเพียงเธอสักสองสามวัน
“พี่สะใภ้ คืนนี้ฉันนอนกับพี่ได้ไหม? ฉันจะหาชุดนอนใหม่เอี่ยมให้เลย แต่อาจจะสั้นไปหน่อยนะ ก็ฉันตัวเตี้ยกว่าพี่นี่ ช่วงนี้หน้าร้อนร้อน ไม่น่าจะมีปัญหาอะไรใช่ไหม?”
พวกเขาเข้ามาในห้องนอนแล้ว ลู่เสี่ยวเซียวเดินไปที่ตู้เสื้อผ้า เธอเปิดตู้เสื้อผ้าขนาดใหญ่ และทำการค้นหาเสื้อผ้าอย่างขะมักขะเม้น
“ยังไงก็ได้ค่ะ” เจียงเหยาตอบ “ฉันขอลงไปข้างล่างแปบหนึ่ง จะโทรไปบอกที่บ้านน่ะ”
คำตอบของเจียงเหยา ทำให้ลู่เสี่ยวเซียวดีใจ เธอฉีกยิ้มกว้าง ขณะที่เจียงเหยาเดินลงบันไดไปแล้ว
โทรศัพท์ของบ้านนี้อยู่ในห้องนั่งเล่นชั้นล่าง ห้องนั่งเล่นตกแต่งอย่างทันสมัย
ลู่ชิงไห่สั่งของตกแต่งมาจากต่างประเทศโดยเฉพาะ เขาเป็นคนที่ชอบอะไรที่แปลกใหม่และมีรสนิยมที่ดี
เธอกดหมายเลขโทรศัพท์ไปที่บ้าน เสียงแม่ลู่ดังขึ้นจากปลายสาย เธอเห็นเบอร์ที่โทรเข้าเป็นเบอร์จากบ้านของลู่ชิงไห่ จึงนึกไปว่าเป็นสายจากลู่เสี่ยวเซียว แต่แม่ลู่จำเสียงของเจียงเหยาได้
“แม่คะ หนูอยู่ที่บ้านคุณลุงสักสองวันนะคะ ลุงเขาไปไปทำธุระต่างเมืองน่ะคะ หนูเลยมาอยู่เป็นเพื่อนเสี่ยวเซียว” เจียงเหยาเล่าให้แม่ลู่ฟัง
“แม่รู้แล้วล่ะ เสี่ยวเซียวเขาโทรบอกแม่ตั้งแต่ช่วงบ่ายแล้ว ตอนนั้นไม่ได้อยู่ด้วยกันล่ะสิ ได้ ได้ ก็อยู่ในที่นั่นไปก่อนก็แล้วกัน ลุงเขาเดินทางไปทำธุระแบบนั้น เสี่ยวเซียวอยู่บ้านคนเดียวก็ต้องเหงาเป็นธรรมดา” แม่ลู่ไม่ได้ห้ามให้เจียงเหยาและลู่เสี่ยวเซียวใช้เวลาอยู่ร่วมกัน คงจะดีถ้าพวกเขาสนิทสนมและเป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน
“ขอบคุณคะแม่” หลังจากหยุดไปชั่วขณะ เจียงเหยาก็กล่าวถาม
“แม่คะ ตอนนี้ชิงสีก็น่าจะถึงกองทัพแล้วใช่ไหมคะ? เขาโทรมาที่บ้านรึยังคะ? แม่ได้บอกเขาไปแล้วหรือเปล่าคะว่าหนูจะพักที่บ้านลุงสักสองสามวัน?”
“เปล่านะ เขายังไม่ได้โทรมาเลย พ่อกับแม่ก็ยังสงสัยกันอยู่ว่าทำไมเขาถึงไม่โทรมาที่บ้านเลย เที่ยวบินออกตั้งแต่ 9 โมงเช้าแล้ว ตอนนี้เขาน่าจะถึงกองทัพแล้วล่ะ” แม่ลู่กล่าวด้วยความสงสัย
“บางทีอาจจะกำลังยุ่งกับงานก็ได้ แม่ว่า คงไม่มีอะไรหรอก อย่ากังวลไปเลย เขาไม่เป็นไรหรอก”
แม้ว่าแม่ลู่จะพูดอย่างใจเย็นกับเจียงเหยาทางโทรศัพท์ แต่ก่อนหน้านี้ เธอก็บ่นกับพ่อลู่เกี่ยวกับลู่ชิงสีอยู่เป็นนานสองนาน
แม่ลู่ไม่คาดคิดจะได้ยิน ลูกสะใภ้เป็นห่วงลูกชายของเธอเช่นนี้ แม่ลู่แอบคิดว่าจริง ๆ แล้วที่เจียงเหยาโทรกลับมาที่บ้าน ก็คงอยากรู้ข่าวของลู่ชิงสี แม่ลู่จึงพูดปลอบเจียงเหยาต่ออีกสองสามประโยค
“เข้าใจแล้วค่ะ ถ้าชิงสีโทรกลับมา แม่บอกเขาด้วยนะคะ ว่าหนูอยู่ที่บ้านลุง ให้เขาโทรหาหนูที่นี่ด้วยได้ไหมคะ ขอบคุณค่ะ” เจียงเหยาและแม่ลู่ พูดคุยกันต่ออีกครู่หนึ่ง ก่อนจะวางสาย เธอถอนหายใจและพึมพำ
‘ลู่ชิงสีไม่ใช่คนขี้ลืมนี่น่า เขาไม่น่าจะลืมโทรกลับมาบ้าน หรือเขาอาจจะยุ่งกับงานด่วนอยู่ก็เป็นไปได้ เลยไม่ได้โทรกลับบ้านทันทีที่ไปถึง’