ตอนที่แล้วตอนที่ 40 เงินทำได้ทุกอย่างตามที่ต้องการจริงๆ
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 42 อันนี้มาซื้อกำหล่ำปีหรือเปล่าเนี่ย?

ตอนที่ 41 อัพเกรดระบบ


กำลังโหลดไฟล์

“คณะกรรมการคุ้มครองสิ่งแวดล้อมมีไว้เพื่ออะไร?” เย่เทียนถามต่อด้วยความสงสัย

“คณะกรรมการของเราแจกใบปลิวตามเวลาที่กำหนดในแต่ละสัปดาห์ เนื้อหาหลักคือการส่งเสริมการท่องเที่ยวสีเขีนว ป้องกันที่อยู่อาศัยและดูแลพระแม่ธรณี สโลแกนของเราคือ: ให้กำเนิดลูกน้อยลงและปลูกต้นไม้เพิ่มขึ้น ลงมือทำเพื่อคนรุ่นใหม่ ไห่จิงคือบ้าน สีเขียวขึ้นอยู่กับทุกคน...”

“กิจกรรมการกุศล?” เย่เทียนตะลึกอย่างกับได้เจอเทพ

หลี่เฟิงพยักหน้า “ใช่ สมาชิกคณะกรรมการของเราเป็นผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่ายทั้งหมดในการทำกิจกรรม ประธานเย่อย่าให้ประธานฉินไล่ผมออกเลยนะครับ ผมยังต้องการเงินเดือนเพื่อทำให้โลกเขียวขจี...”

เย่เทียนมองหลี่เฟิงด้วยความชื่นชมทันที ในสังคมที่มีแต่คนใจร้อนมีน้อยคนนักที่จะมีความคิดแบบนี้

ฉินเยี่ยนถลึงตามองไปที่เขา “คิดว่าพูดแบบนี้แล้วฉันจะเชื่อหรือไง ถ้าฉันไล่นายออกเพราะความรู้สึกแล้วยังไงล่ะ โลกจะกลายเป็นทะเลทรายงั้นเหรอ?! แล้วฉันจะกลายเป็นคนบาปของแผ่นดินใช่ไหม?”

หลี่เฟิงหลั่งเหงื่อเย็นเยียบ “ผมไม่ได้หมายความแบบนั้น ผม…”

“การปกป้องสิ่งแวดล้อมเป็นสิ่งที่ดี มันเกี่ยวข้องกับสภาพแวดล้อมความเป็นอยู่ของพวกเราแต่ละคน เหล่าฉินจะไม่สนใจเรื่องนี้ได้ยังไงกัน?”

ฉินเยี่ยน “อ่า” และรีบพูดตอบไป “ใช่ การปกป้องสิ่งแวดล้อมเป็นสิ่งที่ดี!”

“ฉันมีความจำไม่ค่อยดีสักเท่าไหร่ ถ้าน้องหลี่เฟิงไม่พูดขึ้นมาฉันคงลืมเรื่องนี้ไปแล้ว ฉันจะสร้างมูลนิธิคุ้มครองสิ่งแวดล้อมแล้วให้นายเป็นประธาน ฉันจะให้ทุนเริ่มต้นหนึ่งพันล้านแล้วกัน นายคิดว่าไงล่ะ?”

เงียบ!

รอบด้านกลายเป็นเงียบกริบ

หลังจากนั้นสักพัก

หลี่เฟิงถึงกับดึงหูให้ผายออก “คุณบอกว่าเท่าไรนะ?”

“หนึ่งพันล้าน เราควรทำอะไรสักอย่างเพื่อพระแม่ธรณีบ้าง”

ขาของหลี่เฟิงอ่อนยวบลง ถ้าไม่ใช่เพราะพนักงานสาวที่อยู่รอบๆ เขาคงลงคุกเข่าให้เย่เทียนแล้ว

หนึ่งพันล้าน!

เอาไปปลูกต้นไม้ได้กี่ต้นเนี่ย!

เอาไปปูพื้นที่สีเขียวได้กี่กิโล!

หลี่เฟิงหลั่งน้ำตาออกมา “คุณเย่! คุณเป็นคนที่มีความรักอันยิ่งใหญ่จริงๆ!”

“อย่าพูดแบบนั้นเลย นายจัดการมูลนิธิให้ดีแล้วไปปลูกต้นไม้ให้โลกเขียวขจีเถอะ”

“ผมจะไม่ทำให้ประธานเย่ผิดหวังแน่นอน! ผมขอรับประกันด้วยชีวิตเลย ทุกหยวนจะถูกใช้กับมูลนิธ!ฉันยินดีที่จะมอบหัวใจนี้ให้ประธานเย่!”

เขากำมือแล้ววางไว้ที่หัวใจ

ฉินเยี่ยนกับผางเหว่ย “???”

นายไปเอาท่าแบบนี้มาจากไหน? ไม่อายบ้างหรือไง?

“เอาล่ะ ไปคุยเรื่องอื่นกันดีกว่า”

เย่เทียนจับไปที่ไหล่ของผางเหว่ยและฉินเยี่ยน “วันนี้ฉันพาเหว่ยเหว่ยกับสือสือมาเพราะฉันอยากให้พวกเธอและเสี่ยวเหยากับเสี่ยวถงร่วมทีมเกิร์ลกรุ๊ป งานนี้ฉันจะปล่อยให้พวกนายสองคนจัดการแล้วกัน”

ผางเหว่ยตบหน้าอ้วนๆของเขาอย่างแรง “พี่เย่เทียนใจเย็นๆก่อนนะ ตอนนี้มันไม่ใช่เวลามาพูดเรื่องเกิร์ลกรุ๊ปไม่ใช่หรือไง? ถ้าฉันได้ยินไม่ผิด คุณจะใช้เงินหนึ่งพันล้านเพื่อสร้างมูลนิธิคุ้มครองสิ่งแวดล้อมใช่ไหม? นั่นคือองค์กรที่ไม่แสวงหาผลกำไรนะ! มันไม่ได้กำไรเลย!”

“ใช่ แล้วไงล่ะ?”

เย่เทียนทำหน้าแปลกๆ “ฉันไม่ใช่นักธุรกิจสักหน่อย ทำไมต้องคิดเรื่องกำไรขาดทุนด้วย?”

“...”

ฉินเยี่ยนมองขึ้นไปฟ้า ความชื่นชมของเขาต่อเย่เทียนสูงขึ้นอย่างไม่เคยมีมาก่อน

นี่คือพระเจ้าที่แท้จริง!

สำหรับเขา เงินเป็นแค่เครื่องมือที่ทำให้เขามีความสุข ส่วนพวกเรา...เป็นทาสของเงิน! เพื่อกำไรเพียงไม่กี่หมื่นหรือไม่กี่ล้าน ก็ต้องพยายามอย่างเต็มที่และทำให้ดีที่สุด

เย่เทียน!

ฉันขอเรียกคุณว่าพี่ใหญ่!!!

เนื่องจากเสี่ยวเหยาและเสี่ยวถงไปร่วมบันทึกรายการพวกเธอจึงกลับมาไม่ได้พักหนึ่ง หลังจากนั่งพักสักครู่เย่เทียนจึงพาสองสาวกลับบ้าน

ชื่อเดิมคือจ้าวเถี่ยจู้และตอนนี้เปลี่ยนเป็นจ้าวสือสือ เธอย้ายมาอยู่ในอ่าวอิมพีเรียลโดยไม่สงสัยอะไรทั้งนั้น ส่วนสวีเหว่ยเหว่ยเปิดห้องนอนชั่วคราวบนชั้นสองหลังจากที่ลังเลอยู่นาน

สวีเหว่ยเหว่ยกำลังนอนพลิกตัวไปมาอยู่บนเตียง

เพราะทันทีที่เธอหลับตา เสียงและรอยยิ้มของเย่เทียนก็ปรากฏขึ้นในใจของเธอ

หล่อ!

นิสัยดี!

นี่คือสามีในอุดมคติ!

แปะ แปะ แปะ!

สวีเหว่ยเหว่ยตีใบหน้าของเธออย่างแรงและพึมพำกับตัวเอง “อย่าคิดเรื่องนี้อีกเลย เย่เทียนเห็นด้านที่น่าเกลียดและอ้วนที่สุดของฉันแล้ว เขาคงไม่มีวันชอบฉันหรอก สิ่งเดียวที่ฉันทำได้คือ…มอบหัวใจให้กับชายที่ให้ชีวิตใหม่แก่ฉัน!”

สวีเหว่ยเหว่ยแอบตัดสินใจอยู่ลับๆ

...

ยามเช้า

เหลียงกวนมารับจ้าวสือสือไปทานอาหารที่โรงแรมเวิลด์เทรดเซ็นเตอร์ในตอนเช้า นอกจากทีมทำความสะอาดบ้านของอากวงแล้วก็เหลือแค่สองคนในบ้านคือเย่เทียนกับสวีเหว่ยเหว่ย ส่วนพ่อและแม่ของเขาหลังทานอาหารเช้าเสร็จก็ไปเดินเล่นในชุมชน

ตั้งแต่ที่พ่อกับแม่ไม่ต้องทำงานหนัก พวกเขาก็มีสุขภาพที่ดีขึ้นและดูอ่อนเยาว์ลง พวกเขาเทียบได้กับหนุ่มสาวที่อายุสิบเจ็ดสิบแปดที่ไม่ค่อยอยู่ติดบ้านได้เลย

“เหว่ยเหว่ย ถ้าวันนี้เธอว่างเธอช่วยพาฉันไปที่งานมอเตอร์โชว์หน่อยสิ พอไม่มีรถแล้วเดินทางไปไหนมันไม่ค่อยสะดวกน่ะ”

“ต้องว่างอยู่แล้ว นายลืมไปแล้วใช่ไหมว่าฉันเป็นบอดี้การ์ดของนาย” สวีเหว่ยเหว่ยยิ้ม “นายไปไหนฉันก็จะไปด้วย”

“ดี”

เย่เทียนตรวจดูเวลา ตอนนี้ถึงเวลาลงชื่อเข้าใช้แล้ว

[ติ๊ง เนื่องจากคุณลงชื่อเข้าใช้เป็นเวลา 7 วันติดต่อกัน ระบบลงชื่อเข้าใช้มหาเทพจะได้รับการอัปเกรดโดยอัตโนมัติ]

[ระยะเวลาอัพเกรดคือ 29 วัน 23:59:59...]

อะไรนะ?!

เย่เทียนสับสบในทันที

ระบบลงชื่อเข้าใช้ได้รับการอัพเกรด!

ใช้เวลาอัพเกรด 30 วัน?!

เย่เทียนตื่นตระหนกและรีบไปหยิบโทรศัพท์มาทำแผนการเงินทันที หลังจากคำนวนเงินแล้วเขาก็รู้สึกโล่งใจ

แม้ว่าจะไม่ได้ลงชื่อเข้าใช้อีก 30 วัน แต่ถ้าเขาใช้เงินแค่เล็กน้อยมันก็จะไม่มีปัญหา

ตอนนี้เขามีเงินอยู่ในธนาคาร 10,500 ล้าน เงินค่าขนมเฉลี่ยต่อวันของเขาอยู่ที่ 350 ล้าน

เฮ้อ!

ทำเอาฉันตกใจหมดเลย

“นายเป็นอะไรรึเปล่าเย่เทียน?” สวีเหว่ยเหว่ยเห็นว่าหน้าของเย่เทียนแปลกไปจึงถามเขา

“ไม่เป็นไร เราไปดูรถกันเถอะ! เธอชอบรถยี่ห้ออะไรเหรอเหว่ยเหว่ย?”

“ฉันไม่ค่อยสนใจเรื่องรถเท่าไหร่เลยรู้จักแค่ไม่กี่ยี่ห้อ ฉันคิดว่ารถเป็นแค่พาหนะในการขนส่ง ขอแค่มันขับได้อย่างปลอดภัยก็ใช้ได้แล้ว”

“เข้าใจแล้ว ถ้างั้นฉันซื้อแลมโบกินี่มาด้วยแล้วกัน”

สวีเหว่ยเหว่ย “???”

ทั้งสองได้มาถึงจ่านสิง

ก่อนจะไปดูรถ เย่เทียนก็ได้เจอกับคนรู้จักของเขา “อู๋ตี๋?”

อู๋ตี๋หันกลับมาและพูดด้วยความประหลาดใจ “เย่เทียน?! นายมานี่ได้ไง!”

เย่เทียนยิ้มแล้วชกไปที่อกของอู๋ตี๋ “ทำไมนายมาอยู่ในไห่จิงได้ล่ะ?”

อู๋ตี้เป็นเพื่อนร่วมชั้นในมหาลัยของเย่เทียน เนื่องจากครอบครัวของเขามีพื้นเพคล้ายกับของเย่เทียนจึงทำให้พวกเขาสนิทกันมาก และพวกเขายังเป็นเด็กเรียนเหมือนกันนั่นทำให้พวกเขามีมิตรภาพที่ลึกซึ้งต่อกัน

“ฉันมาไห่จิงเมื่อสองเดือนก่อนน่ะ บริษัทมอบหมายงานมาให้ นี่คือ...พี่สะใภ้?” อู๋ตี้อายุน้อยกว่าเย่เทียนไม่กี่เดือนจึงเป็นเรื่องปกติที่จะเรียกสวีเหว่ยเหว่ยว่าพี่สะใภ้

สวีเหว่ยเหว่ยหน้าแดง

เย่เทียนไม่ได้สนใจจึงไม่อธิบาย เขายิ้มและมองอู๋ตี๋ในชุดสูทสีดำ “เหล่าอู๋สุดหล่อ!”

“ถึงจะหล่อในชุดนี้แต่มันโครตร้อนเลย เหงื่อฉันออกเต็มไปหมดแล้ว” อู๋ตี้ยิ้มอย่างช่วยไม่ได้

ทั้งสองคุยกันอย่างมีความสุข ทันใดนั้นก็มีเสียงที่ไม่แยแส ๆดังมาจากด้านหลังพวกเขา “อู๋ตี้ คุณมาที่นี่เพื่อขายรถหรือมาเพื่อคุยกันแน่? บริษัทจ่ายเงินเดือนให้คุณนะ คุณจะเอาแต่คุยได้หรือไง?”