ตอนที่ 4 ทาร์ซาน
ก่อนที่เขาจะรู้สึกตัว เวลามันก็ผ่านไปเป็นเดือนแล้วหลังจากที่วิลใช้งานถุงมืออินฟินิตี้
ในหนึ่งเดือนที่ผ่านมา ไม่มีเรือสักลำโผล่มาให้เขาเห็นเลย ไม่มีแม้แต่เงาเลยด้วยซ้ำ
มันมีก็แต่สัตว์ร้ายที่สู้กันเพื่ออาหารอยู่ตลอดเวลาเลย
ในฐานะผู้ใช้ผลฮันนีแบดเจอร์ วิลนั้นมีความคิดที่จะพัฒนาบางอย่างที่คล้ายกับพลังผลปีศาจของเขาขึ้นมา
ในฐานะผู้ใช้ผลปีศาจ นอกจากจุดอ่อนที่ต้องกลัวน้ำทะเล หินไคโร และฮาคิแล้ว มันยังมีผลข้างเคียงอีกด้วย
ตัวอย่างเช่น มีมนุษย์น้ำแข็งที่ชอบนอนหลับและตื่นมาปั่นจักรยานไปทั่ว
นอกจากนี้ยังมีเจ้าเด็กที่ชอบกินเพราะว่าเขาสามารถขยายกระเพาะอาหารของตัวเองได้ดั่งใจเนื่องเขามีร่างกายเป็นยาง
และก็มีหมาแดงที่ดูเหมือนว่าจะติดหนี้คนอื่น พันล้านเบรี เพราะว่าเขากินผลลาวาเข้าไป
ลักษณะพวกนี้ดูเหมือนจะเด่นเป็นอย่างมากสำหรับคนที่มีพลังพิเศษเกี่ยวสัตว์และในขณะเดียวกันสัญชาตญาณดิบและบุคคลิกบางอย่างได้รับมานั้นก็จะมีผลต่อผู้ใช้งานด้วย
เช่น ถ้าคนกินผลปีศาจไข่ เขาหรือเธอก็จะวางไข่...
อย่าถามตรูว่าทำไม และอย่าถามด้วยว่าทำไมผลปีศาจไข่ถึงได้เป็นผลโซออน
ซึ่งวิลนั้นก็จะมีนิสัยเปลี่ยนไปเมื่อเขาใช้ความสามารถของฮันนี่แบดเจอร์... ซึ่งเขานั้นกินเก่งมากและชอบสู้กับ 'คน'!มากด้วย
ไมว่าเขาจะได้สู้หรือไม่ ไม่ว่าเขาจะได้กินหรือไม่ ก่อนอื่นเขาก็จะพุ่งไปก่อนเลย!
ดังนั้นภายในเดือนนี้หลังจากได้รับความสามารถของผลปีศาจนี้ วิลก็ได้เลื่อนตำแหน่งจากสถานะ 'มีชีวิตรอด' ไปเป็น 'หมีน้อย' ที่กล้าหาญอย่างรวดเร็วซึ่งไม่ว่าเขาจะเห็นอะไร เขาก็จะกระโจนไปหามัน!
บางทีผลไม้ฮันนี่แบดเจอร์นี้ไม่ได้ทำให้เขามีพลังโจมตีเพิ่มขึ้น แต่ขนอันหนาของมันนั้นกลับกลายเป็นสัญลักษณ์แห่งความสิ้นหวังเมื่อนักล่าได้เห็นมัน!
ส่วนวิลนั้นก็อาศัยพลังป้องกันที่แข็งแกร่งและความยืดหยุ่นของเขาอันนี้ในการหลบหนีจากสิ่งมีชีวิตที่อันทรงพลังซ้ำแล้วซ้ำเล่า
ซึ่งผลไม้หลากหลายชนิดไม่ใช่อาหารเดียวของเขาอีกต่อไปแล้ว เพราะอาหารหลักของเขานั้นได้กลายเป็นสัตว์กินเนื้อทุกตัวที่เขาเอาชนะได้
นอกจากนี้ก็ยังมีเต่าตัวใหญ่ที่ขึ้นฝั่งในตอนกลางคืนมาเพื่อมากินเขาแต่แทนที่มันจะได้กินมนุษย์ มันกลับกลายเป็นว่าโดนกินเป็นอาหารว่างเสียเอง
แถมมันยังมีรสชาติเหมือนไก่กรอบด้วยนะ!
นี่เอ็งคิดว่าการซ่อนตัวในกระดองเต่าจะช่วยเองได้งั้นเหรอ?
เอ็งรู้ไหมฟันแหลมๆของข้าเนี่ยสามารถบดขยี้เปลือกเต่าได้เหมือนมันฝรั่งทอดเลยนะ?
ดังนั้นในเวลาเพียงหนึ่งเดือน ด้วยอาหารที่ดีมีคุณค่าทางโภชนาการบวกกับคู่ต่อสู้ที่สู้กับวิลจนตัวตายนับไม่ถ้วน เขานั้นก็ได้เติบโตจากหนอที่รอความตายกลายเป็นแมลงอันแข็งแกร่ง!
ร่างกายที่มีกล้ามสีบรอนซ์อันนี้นั้นเป็นสิ่งที่เขาไม่เคยแม้แต่จะคิดในตอนที่เขายังอยู่โลกเดิม!
นอกจากเจ้าป่าสามตัวในป่านี้แล้ว ก็ไม่มีอะไรที่เขาจัดการไม่ได้! สู้ไม่ได้ งั้นวิ่งสิรอไร!
นั้นจึงเป็นเหตุผลที่ว่าที่ใดที่คุณเติบโตขึ้นมาคุณก็จะกลายเป็นคนแบบนั้น
อืมม...ยกเว้นแมลงหนะนะ!
. . . . . . . . . . . . .
หนึ่งปีต่อมา บนเกาะร้างแห่งหนึ่งในบริเวณทะเลแห่งหนึ่ง ชายหนุ่มอายุ 20 ปีที่มีหนังสัตว์เพียงชิ้นเดียวพันตัวนั้นกำลังไล่ตามชิมแปนซีที่สูง 25 เมตรพร้อมกับค้อน!
หนึ่งในผู้ปกครองหลักสามตัวของเกาะนี้ เสือโคร่งสง่างามที่มีขนสีขาวบริสุทธิ์นั้นก็ได้ถูกฝึกจนกลายเป็นแมวตัวเชื่องขนาดใหญ่
จากนั้นเขาก็ได้ใช้งูหลามยาวหนึ่งร้อยเมตรมาเป็นรังแห่งความสุขสำหรับนอนหลับเวลากลางคืนทั้งๆที่มันจะเย็นก็๖ม
ซึ่งในตอนนี้ เจ้าลิงชิมแปนซีตัวนี้กลับไม่ยอมเชื่อฟังคำสั่งสอนเขาอยู่เสมอ!
ดังนั้น การที่อยู่ที่นี่มานานกกว่าหนึ่ง ความบันเทิงหลักของวิลในทุกๆวันก็คือการกิน นอนและไล่ทุบหัวเจ้าลิงตัวนี้!
หลังจากนั้นเขาก็ทุบชิมแปนซีตัวนี้ไปไม่รู้กี่ครั้งแล้ว
ถ้าคุณไม่ดูกระเป๋าคาดหัวนั่น มันก็ไม่ต่างอะไรกับชิมแปนซีในสวนสัตว์ที่เปิดให้คนดูเลย
น่าเสียดายที่วิ ซึ่งถูกหลอกมาหลายครั้งนั้นก็ไม่มีทางเชื่อง่ายๆหรอก
“ฉันบอกแกแล้วนะ ว่าไอ้ดำ ฉันคิดว่าแกเป็นคนที่จะจดจำสิ่งที่กินมากกว่าสิ่งโดน!”
“ดูเจ้าไอ้ขาวน้อยและไอ้ดำใหญ่สิ พวกมันออกจะอยู่ดีมีสุข!”
"วันๆแกเอาแต่กิน นอนและก็กิน!"
"คิดถึงวันที่นายเคยต่อสู้แย่งดินแดน แล้วดูตัวแกวันนี้สิ!"
“ของของแกก็คือของของฉัน ของของฉันก็เป็นของของฉัน แกไม่เข้าใจงั้นหรอ!”
วิลก็นั่งลงตรงหน้าลิงชิมแปนซีและพูดคุยอย่างไม่รู้จบ
หลังจากต้องอดทนเป็นเวลาหนึ่งปีและไม่สามารถแม้แต่จะหาคนพูดด้วยได้ วิลนั้นก็แข็งแกร่งดุจหินผาโดยไม่บ้าไป!
การจับเจ้าลิงชิมแพนซีที่ยังคงมีน้ำใจนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ถ้าหากเขาไม่ได้เจ็บปวดแล้วใครจะเจ็บหล่ะ!!
แล้วทำไมถึงมีแค่หนึ่งเจ้าป่าถึงคิดแค่วิ่งหนีตลอดหล่ะ!
ใช่ มันเจ็บที่โดนทุบตี!
แต่เมื่อเทียบกับการถูกทุบตี การทนฟังคำพูดของวิลนั้นกลับแย่ยิ่งกว่า!
มันเลยเลือกที่จะหนี และมันก็เลือกที่จะสู้!
น่าเสียดายที่เกาะนี้ไม่ใหญ่นัก
แล้วมันจะไปที่ไหนได้หละ?
ในสองสามครั้งแรก มันก็สามารถไปหลบซ่อนและอยู่อย่างมีความสุขวบาย
แต่สิ่งที่รอคอยก็คือความเจ็บปวดและการทรมานอย่างไม่รู้จบ!
เพราะวิล ใช้เวลาน้อยลงในการจับมันทุกครั้ง เช่นเดียวกับครั้งนี้ซึ่งเขาแค่วใช้เวลาเพียหนึ่งชั่วโมงหลังจากที่มันแอบหนีออกมา!
ถ้าดำน้อยพูดได้คงร้องไห้อ้อนวอนแน่ๆว่าปล่อยเจ้านั่นไปแล้วมาทำร้ายพวกเราแทน!
หนึ่งชั่วโมงต่อมาหลังจากวิลพูดไม่หยุด เขาก็ได้ปล่อยไอ้ดำน้อย ผู้น่าสงสารที่ใกล้จะตาย
เขานั้นก็ได้ปล่อยมันไปแล้วมานั่งซึ่งตอนนี้เขารู้สึกว่าการเป็นพ่อแม่นี่มันยากมากแถมการดูแลเด็กดื้อกับยากกว่าอีก
หลังจากทำกิจกรรมบันเทิงประจำวันเสร็จ วิลปีนขึ้นไปบนต้นไม้ที่สูงที่สุดในป่าและมองออกไปไกลๆ
นี่ก็ผ่านไปปีกว่าๆซึ่งหัวใจของเขาก็ได้ชาไปแล้ว
เขานั้นได้ตัดสินใจแล้วว่าหากไม่มีเรือแล่นผ่านบริเวณทะเลนี้ เขาก็จะทำแพไม้ไผ่เองแล้วออกเดินทางไปจากเกาะ
เขานั้นก็มั่นใจว่าแม้ด้วยความช่วยเหลือจากถุงมืออินฟินิตี้และผลปีศาจ เขาก็ไม่มีทางนั่งแพแล่นไปยังเกาะต่อไปโดยไม่บาดเจ็บได้หรอก
แต่เขาไม่สามารถรอได้อีกต่อไปแล้ว ตายในทะเลนั้นดีกว่าตายอย่างคนป่าที่นี่
ในอดีตเขาเชื่อว่าความตายดียิ่งกว่าการมีชีวิตซึ่งเขาก็ไม่มีความกล้าหาญอยู่ด้วยแต่การใช้ชีวิตเป็นคนป่ากว่าหนึ่งปีได้เปลี่ยนเขาไปอย่างสิ้นเชิง
อย่างน้อยเขาก็พอแล้วกับชีวิตป่าเถื่อนแบบนี้!
ท้ายที่สุด ก็ไม่ใช่ทุกคนที่จะอยากถูกเรียกว่า ทาร์ซานแรกเป็นด้านชา
เขาได้ตัดสินใจแล้ว หากไม่มีเรือแล่นผ่านบริเวณทะเลนี้ เขาจะทำแพไม้ไผ่เองแล้วจากไป
เขาค่อนข้างมั่นใจว่าแม้จะได้รับความช่วยเหลือจากถุงมืออินฟินิตี้และผลปีศาจ แทบจะเป็นไปไม่ได้เลยที่จะพาเขาไปยังเกาะถัดไปด้วยแพไม้ไผ่ขนาดเล็กอย่างปลอดภัย
แต่เขาไม่สามารถรอได้อีกต่อไปแล้ว มันดีกว่าที่จะตายในทะเลแทนที่จะตายที่นี่แบบคนเถื่อน
ในอดีตเขาเชื่อว่าความตายดียิ่งกว่าการมีชีวิตที่จริงแล้วเขาก็ไม่มีความกล้าหาญเช่นนี้ แต่ชีวิตคนป่ากว่าหนึ่งปีได้เปลี่ยนเขาไปอย่างสิ้นเชิง
อย่างน้อยเขาก็พอแล้วกับชีวิตป่าเถื่อนแบบนี้!
ท้ายที่สุด ไม่ใช่ทุกคนที่จะถูกเรียกว่า ทาร์ซาน