ตอนที่ 40 เงินทำได้ทุกอย่างตามที่ต้องการจริงๆ
เมื่อเห็นหน้าเซียวหรงบิดเบี้ยวแต่ก็ไม่หยุดเดินเข้าไป หวงอิงจึงรีบโทรไปบอกเย่เทียนว่าเซียวหรงถูกหยุดอยู่หน้าประตูชุมชน
แต่เธอโทรหาเย่เทียนหลังจากที่เขาพาสวีเหว่ยเหว่ยกับจ้าวเถี่ยจู้ออกมาจากวิลล่า หลังรับสายเขาก็ขับสกู๊ตเตอร์ของชุมชนไปที่ประตูหน้า
“คุณเย่!”
เมื่อเหล่ารปภ.เห็นเย่เทียนมาพวกเขาก็รีบทำความเคารพทันที ซึ่งมันต่างจากที่ทำกับเซียวหรงมาก
นี่เป็นเรื่องปกติ
อย่ามองว่ากลุ่มรปภ.เหล่านี้ปฎิบัติกับเย่เทียนต่างเกินไป แม้รปภ.พวกนี้ก็ยังฉลาดทันคนและยังผิวปากได้แม้ขนตาจะร่วง แต่หลังจากเล่าสู่กันฟังไปหลายสิบคนจะมีใครไม่รู้บ้างว่ามีมหาเทพมาอยู่ที่อ่าวอิมพีเรียล แม้แต่คนรวยรุ่นสองอย่างฉินเยี่ยน,ผางเหว่ย,จื่อฉีที่เป็นหนึ่งในกลุ่มคนรวยที่สุดในชุมชนนี้ยังต้องเคารพเย่เทียน
“คุณเย่”
หวงอิงโค้งคำนับเขาอย่างรีบร้อน
เซียวหรงมาจากอีกด้านด้วยท่าทีเหม่อลอย
เย่เทียนให้สวีเหว่ยเหว่ยกับจ้าวเถี่ยจู้ไปรอเขาก่อน เขาเดินเข้ามาช้าๆแล้วพูดด้วยรอยยิ้ม “คิดได้แล้วเหรอ?”
หวงอิงมองเซียวหรงด้วยท่าทีระมัดระวัง
“เฮ้อ...”
เซียวหรงสูดหายใจเข้าลึก ในที่สุดเธอก็ก้มหัวอันเย่อหยิ่งของเธอลง “ฉันขอโทษ”
“เสียงเบาไปหน่อยนะ” เย่เทียน
“นาย…” เซียวหรงกำหมัดแน่นและเพิ่มเสียงเข้าไป “ฉันขอโทษ!! ฉันผิดไปแล้ว!! ยกโทษให้ฉันด้วย!!”
เย่เทียนยิ้มกว้าง ตอนนี้ความแค้นที่ในใจของเขาได้หายไปแล้ว เขาเดินไปหาเซียวหรงแล้วลูบหัวเธอ “นี่สิที่ภรรยาควรทำกับสามี ไม่เลวเลยที่เธอทิ้งความเย่อหยิ่งของเธอแล้วมาขอโทษฉัน ถึงจะเสียงเบาไปหน่อยแต่ฉันก็ไม่ได้ใจร้ายขนาดนั้น เรื่องการซื้อบริษัทเซียวจะถูกระงับไว้ชั่วคราว ฉันจะบอกให้หรูเยียนทำเรื่องการร่วมมือกับบริษัทเซียวขึ้นมาใหม่”
ร่างกายเซียวหรงสั่นเทาแต่เธอก็ไม่ได้พูดอะไร โชคดีที่หวงอิงอยู่ข้างๆเธอและพูดขอบคุณเย่เทียนแทนทำให้เธอไม่ต้องอับอายไปมากกว่านี้
รปภ.ที่ยืนอยู่รอบๆต่างรู้สึกแย่ลงทันที
ผู้หญิงคนนั้นคือภรรยาของคุณเย่!
ลองดูเอาสิ!
เขานี่แหละลูกผู้ชายตัวจริง ขนาดอยู่หน้าภรรยาก็ยังกล้าพูดแบบนั้น!
พอมองกลับไปที่ตัวเองแล้ว...
แค่คิดก็อยากจะร้องไห้ พวกเขาจำไม่ได้แล้วว่ามีอะไรกับภรรยาครั้งสุดท้ายคือเมื่อไหร่ เรื่องครอบครัวแทบจะกลายเป็นฝุ่นไปแล้ว
“ฉันมีเรื่องต้องทำ คงเชิญเธอเข้ามาในวิลล่าไม่ได้”
เมื่อเย่เทียนพูดจบเขาก็หันหลังเดินจากไป เซียวหรงเงยหน้าขึ้นแล้วพูด “เย่เทียน! ฉันขอโทษนายแล้ว พวกเราจะหย่ากันได้ไหม?”
“หย่า?”
เย่เทียนพูดตอบ “แน่ใจแล้วใช่ไหมว่าจะหย่ากับฉัน?”
“ใช่!” เซียวหรงตอบโดยไม่ลังเลแม้แต่น้อย
เย่เทียนส่ายหัว เกลียดเหล็กแต่ไม่ใช่เหล็ก(แค่อยากให้ได้ดี) “ฉันว่าเธอกำลังสับสนอยู่นะ เพราะพวกเราเป็นสามีภรรยากันอยู่ฉันเลยมีเหตุผลไม่ให้หรูเยียนลงมือกับบริษัทเซียวของเธอได้ แต่ถ้าพวกเราหย่ากันพวกเราจะกลายเป็นคนแปลกหน้าต่อกัน แล้วแบบนี้เธอคิดว่าหลิวหรูเยียนจะปล่อยบริษัทเซียวไปหรือไง?”
“จากนี้ไปถ้าจะพูดอะไรช่วยคิดให้ดีๆก่อนด้วย เธอเป็นถึงประธานบริษัทแต่ยังไม่เข้าใจเรื่องนี้ด้วยซ้ำ เธอทำให้ฉันผิดหวังจริงๆเซียวหรง”
หัวใจเซียวหรงแทบหยุดเต้นหลังจากที่ได้ยินคำพูดเหล่านั้น
ความสัมพันธ์แบบนี้...ที่เย่เทียนไม่หย่ากับเธอไม่ใช่เพื่อตัวเขาเอง? แต่เป็นเพื่อบริษัทเซียว?
“นาย...นายอย่าคิดนะว่าจะทำอะไรก็ได้ถ้ามีเงินน่ะ!” เซียวหรงร้องไห้
เย่เทียนเอื้อมมือไปบีบคางเซียวหรงราวกับว่าเขาเป็นประธานที่เอาแต่ใจ “ขอโทษนะแต่ฉันขอบอกเลยว่า ถ้าเธอมีเงินเธอจะทำได้ทุกอย่างตามที่เธอต้องการ”
“ไปให้พ้น! อย่ามาแตะตัวฉัน!”
เซียวหรงปัดมือของเย่เทียน ร่างกายของเธอสั่นเทา
“กลับไปถามพ่อแม่ คนในตระกูล และคุณย่าดู แล้วค่อยมาคุยกับเรื่องหย่ากับฉัน ถ้าพวกเขาตกลงฉันจะหย่ากับเธอให้”
เมื่อเย่เทียนพูดจบ เขาก็หันหลังกลับไปจับมือของสวีเหว่ยเหว่ยกับจ้าวเถี่ยจู้ “เราไปทำธุระกันเถอะ”
เหล่ารปภ.ต่างอึ้ง
โจ่งแจ้งขนาดนี้เลยเหรอ?!
“เย่เทียน...ไอ้สารเลว!!”
เซียวหรงอารมณ์เสียจนน้ำตาไหล
เธอรู้สึกว่าถูกโชคชะตากำลังเล่นตลกกับเธอ
กลืนไม่เข้าคายไม่ออก!
อ่าวอิมพีเรียลในตอนกลางคืน
ทั้งสามได้ไปที่วิลล่าของฉินเยี่ยน ระหว่างทางเย่เทียนก็ถามขึ้น “เหว่ยเหว่ย เธอไม่มีอะไรจะพูดกับฉันหน่อยเหรออย่างเช่นผู้ชายควรใจกว้างมากกว่านี้ เธอเงียบเกินไปหรือเปล่า?”
การกระทำของสวีเหว่ยเหว่ยต่อเย่เทียนยังเหมือนเดิมตั้งแต่แรกโดยไม่เปลี่ยนไปแม้แต่น้อย นั่นทำให้เย่เทียนไม่รู้ว่าผู้หญิงคนนี้คิดอะไรอยู่กันแน่ ไม่ต้องพูดถึงจ้าวเถี่ยจู้เลยในหัวเธอคงมีแต่เรื่องกินเท่านั้น...
สวีเหว่ยเหว่ยยิ้ม “ตามคำกล่าวที่ว่า ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว ในฐานะเพื่อนร่วมชั้นสมัยมัธยมฉันย่อมรู้จักนายดี ถ้าไม่ถูกทำให้โกรธนายคงไม่ไปรังแกผู้หญิงแบบนั้น คนใจดีโดยกำเนิดแบบนายทำอย่างนั้นไม่ได้หรอก”
ปากของเย่เทียนยกขึ้นเล็กน้อย “เหว่ยเหว่ย สมแล้วที่เธอเป็นเพื่อนสนิทของฉัน”
สวีเหว่ยเหว่ยเม้มริมฝีปากแต่ก็ไม่ได้ตอบอะไร
บ้านของฉินเยี่ยน
“พี่เย่เทียน!”
ฉินเยี่ยนและผางเหว่ยรีบออกมาทักทายพวกเขาอย่างรวดเร็ว ข้างหลังพวกเขาคือกลุ่มบริษัทชั้นนำต่างๆที่กำลังร้อนรนกันอยู่ “คุณเย่”
“เสี่ยวเหยากับเสี่ยวถงอยู่ไหน” เย่เทียนถามอย่างสบายๆ
“เหล่าเจียงพาพวกเขาไปดูที่แสดง สองคนนี้คือ…” ผางเหว่ยกระพริบตา เขาประหลาดใจกับความสวยและอารมณ์ที่เป็นเอกลักษณ์ของสวีเหว่ยเหว่ยและจ้าวถี่ยจู้
“สวีเหว่ยเหว่ย,จ้าวสือสือ” เย่เทียนยิ้มและพูดต่อ “จากนี้ไปเรียกเธอว่าสือสือ เถี่ยจู้มันไม่ค่อยดีเท่าไหร่”
จ้าวเถี่ยจู้พยักหน้า “ฉันจะเชื่อฟังพี่เย่เทียน สือสือ ฮิฮิ ฉันชอบชื่อนี้”
หลังจากทักทายกัน คนกลุ่มหนึ่งก็ขึ้นไปชั้นบน
ในการทักทายครั้งนี้เย่เทียนก็ได้เจอกับคนรู้จัก เขาถอนหายใจออกมา “คนชุดดำ เราเคยเจอกันมาก่อนหรือเปล่า?”
คนใส่ชุดสูทดำยืนนิ่งรางกับฟ้าผ่าใส่ เขาหันกลับมาแล้วพูดด้วยเสียงเบา “พวกเราพึ่งเจอกันเป็นครั้งแรกเลยครับคุณเย่”
“เหลวไหล!” เย่เทียนพูดเสียงดุด้วยรอยยิ้ม “เมื่อวานซืน ใช่ ตอนเช้าของเมื่อวานซืนฉันเดินเล่นอยู่ในชุมชน แล้วนายก็มาด่าฉัน!”
สองวันก่อนเป็นวันเกิดคุณย่า เย่เทียนกำลังเล่นกับสัตว์ต่างๆในชุมชนอย่างมีความสุข แต่ก็ต้องตะลึงกับชุดสูทดำคนนี้
“ผม ผม ผม…” เหงื่อของเขาไหลออกมาเต็มหน้าผาก เขากำลังคร่ำครวญไห้อยู่ในใจ เวรเอ้ย ทำไมฉันต้องไปว่าประธานใหญ่ด้วย พระเจ้าอยากฆ่าฉันหรือไง?
หน้าของฉินเยี่ยนแย่ลง เขาชี้ไปที่คนใส่ชุดสูทดำและพูดอย่างโกรธเคือง “หลี่เฟิง! แกมันบ้าไปแล้ว! แกถูกไล่ออก! ไสหัวไป!”
“ห๊ะ!” หลี่เฟิงในชุดสูทดำร้องขึ้นด้วยความตกใจ “ประธานฉินครับ ให้โอกาสผมอีกครั้งเถอะ...!!!”
“ประธานฉินคะ หัวหน้าหลี่เขาไม่ได้ตั้งใจจริงๆ ยกโทษให้เขาเถอะนะคะ” พนักงานสาวสวยคนอื่นๆเริ่มขอร้องขึ้นมาทีละคน เห็นได้ชัดว่าหลี่เฟิงเป็นคนที่ได้รับความเคารพอย่างมากในทีม
เย่เทียนถามด้วยความสงสัย “นายมีหน้าที่ทำอะไรบ้าง?”
หลี่เฟิงตอบในขณะที่ตัวสั่นเทา “ผมเป็นหัวหน้าวางแผนโครงการภายใต้ประธานฉิน และเป็นรองประธานคณะกรรมการคุ้มครองสิ่งแวดล้อมของไห่จิง...”
“คณะกรรมการคุ้มครองสิ่งแวดล้อม?”