1003-1004
3/10
Ep.1003
ทาสงั้นหรอ?
ซูเฉินและคนอื่นๆเหลียวมองหน้ากัน ก่อนหัวเราะออกมาเบาๆ
ตาแก่นี่คิดว่าตัวเองมีมังกรคลั่งปีกเหล็กระดับเทวะอยู่ แล้วจะสามารถทำตัวจองหองได้งั้นหรือ? ไร้สาระสิ้นดี!
“พวกเจ้าสามคนคิดว่าข้าล้อเล่นงั้นหรือ?”
เห็นสีหน้าไม่แยแสของซูเฉินและคนอื่นๆ ใบหน้าของชายชราชุดหนังสัตว์หมองลงเล็กน้อย หัวเราะเสียงเย็น
“เจ้ารู้รึเปล่าว่าพวกเราเป็นใคร? กล้าดียังไงถึงพูดจาแบบนี้?” ฉีมู่เล่ยกล่าวดูแคลน
ตัวเขาเองก็เป็นผู้แข็งแกร่งระดับเทวะขั้น 2 เช่นกัน ต่อให้ไม่มีซูเฉินอยู่ที่นี่ แต่เขาก็ยังมั่นใจว่าสามารถกำจัดอีกฝ่ายได้
“พวกเจ้าทุกคนคงเป็นระดับเทวะถูกไหม?” ชายชราชุดหนังสัตว์เอ่ยถามอย่างสบายๆ
“ในเมื่อรู้ว่าพวกเราคือระดับเทวะ ยังจะกล้าอวดดีอีก ไม่กลัวว่าพวกเราจะฆ่าเจ้าหรือ?” ฉีมู่เฟิงกล่าวด้วยความสับสน
ชายชราชุดหนังสัตว์ไม่มีกลิ่นอายใดๆแผ่ออกมาจากร่างกาย ดูยังไงก็เป็นแค่คนธรรมดาทั่วไป อย่างไรก็ตาม คนธรรมดาเช่นเขากลับเป็นเจ้าของสัตว์เลี้ยงวิญญาณระดับเทวะขั้น 2 ตรงจุดนี้มันแปลกมาก
ตอนนี้เขากิดข้อสงสัยเล็กน้อย ว่าชายชราชุดหนังสัตว์ใช่จงใจปกปิดกลิ่นอายเอาไว้หรือไม่? ที่แท้อีกฝ่ายอาจเป็นระดับเทวะขั้นสูงก็ได้
ไม่อย่างนั้นแล้ว คงไม่กล้าเอ่ยวาจาใหญ่โตเช่นนี้ ถูกไหม?
“ฮี่ ฮี่ …”
ชายชราชุดหนังสัตว์แสยะยิ้มกว้าง กล่าวประชดประชันว่า “ต่อให้พวกเจ้าอยู่ในระดับเทวะขั้น 10 แต่เมื่อมาเหยียบที่นี่ สุดท้ายก็ต้องตกเป็นทาสของข้า!”
ระดับเทวะขั้น 10 เป็นรองแค่ผู้แข็งแกร่งในขอบเขตเทพเจ้าเท่านั้น ทุกการเคลื่อนไหวสามารถสั่นสะเทือนได้ทั้งสวรรค์และปฐพี
ชายชราชุดหนังสัตว์ก็น่าจะรู้ถึงความแข็งแกร่งของระดับเทวะขั้น 10 แล้วเหตุใดเขาถึงกล้าพูดบ้าๆแบบนี้อีก?
ทั้งสามยิ่งนานยิ่งสับสนมากขึ้นเรื่อยๆ
ในตอนนั้นเอง ชายชราชุดหนังสัตว์เอ่ยปากขึ้นอีกครั้งว่า “ผู้ใดก็ตามที่เข้ามาที่นี่ ไม่ว่าจะเป็นผู้วิวัฒนาการ , ปรมาจารย์มนตรา หรือปรมาจารย์พลังจิต ล้วนสูญสิ้นความสามารถที่มีทั้งหมดไป ถูกลดขั้นเป็นเพียงคนธรรมดา นั่นเป็นเหตุผลที่ว่าทำไม ในสายตาของข้าพวกเจ้าจึงเป็นแค่ทาสเท่านั้น!”
ว่าอะไรนะ!?
ฉีมู่เฟิงและอีกสองคนตกใจมาก พวกเขาเริ่มโคจรพลังอย่างรวดเร็ว แต่แล้วก็พบว่า บนร่างตนไม่อาจใช้พลังได้เลย
ทั้งสามได้ถูกลดขั้นกลายเป็นคนธรรมดาแล้วจริงๆ! กระทั่งซูเฉินก็ไม่เว้น ความสามารถของทั้งสามอาชีพได้หายไปสิ้น
อย่างไรก็ตาม เขาไม่ได้ตื่นตระหนกเหมือนฉีมู่เฟิงและฉีมู่เล่ย เริ่มปั่นความคิดในสมองอย่างรวดเร็ว ก่อนหันไปทางชายชราและกล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า “ฐานฝึกตนของพวกเราถูกลดขั้นลงก็จริง แต่แกก็น่าจะถูกลดขั้นด้วยเหมือนกันถูกไหม? แล้วแกจะใช้อะไรมากดดันพวกเรา?”
“เจ้าก็ลองใช้สมองน้อยๆนั่นดูซี่” มุมปากของชายชราหนังสัตว์ยกยิ้ม ตบเบาๆลงบนลำคอของมังกรคลั่งปีกเหล็ก
มังกรคลั่งปีกเหล็กคือสัตว์อสูรเทวะขั้น 2 คิดจัดการกับคนธรรมดาสามคน ง่ายดายเพียงกระดิกนิ้ว
“สัตว์อสูรไม่ถูกลดชั้นหรือนี่?”
หัวใจของซูเฉินเริ่มเต้นแรง เปิด [พื้นที่เลี้ยงสัตว์] ทันที สื่อสารกับเหล่าสัตว์เลี้ยงวิญญาณ ถามไถ่ว่าพวกมันถูกลดขั้นหรือไม่
คำตอบที่ได้รับก็คือ ต้นหลิววัชระและสามมหาเพลิงเอกลักษณ์ต่างก็สูญเสียความสามารถทั้งหมดไป แต่สัตว์เลี้ยงวิญญาณที่เหลือไม่ได้รับผลกระทบแม้แต่น้อย
ซูเฉินกลับมาสงบดังเดิม ภายใน [พื้นที่เลี้ยงสัตว์] ของเขา นอกจากหมาป่ากลายพันธุ์ทั้งสามตัวแล้ว สัตว์เลี้ยงวิญญาณที่เหลือล้วนได้รับการเลื่อนขั้นเป็นระดับเทวะ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในบรรดาพวกมัน อสูรเทพปลุกพลังได้ไปอยู่ในระดับเทวะขั้น 5 แล้ว แม้ความสามารถในการต่อสู้จะอ่อนแอ แต่ก็ยังเป็นเรื่องง่ายมากที่จะจัดการกับสัตว์อสูรที่ระดับต่ำกว่าเทวะขั้น 3
นั่นเป็นเหตุผลที่ว่าทำไม แม้เขาจะสูญเสียฐานฝึกตนไป แต่การฆ่าชายชราในชุดหนังสัตว์ก็ยังเป็นเรื่องง่ายอยู่ดี
“ข้าจะให้โอกาสพวกเจ้าทั้งสาม จงยอมเป็นทาสของข้า แล้วข้าสัญญาว่าพวกเจ้าจะไม่ตาย! หากปฏิเสธ ก็เตรียมกลายเป็นอาหารของมังกรคลั่งปีกเหล็กได้เลย!”
ชายชราชุดหนังสัตว์เห็นพวกซูเฉินเงียบไปก็นึกว่าพวกเขากลัว จึงถือโอกาสนี้ข่มขู่
“ไอ้ทึ่มเอ๊ย!” ซูเฉินหัวเราะหยัน จากนั้นเปิด [พื้นที่เลี้ยงสัตว์] ปล่อย ด้วงเขมือบทองคำ , หงส์เพลิง , เต่าทรราชปราณฟ้า และ [จอมเขมือบแห่งบรรพกาล ยุงวัชระ] ออกมา
“สัตว์เลี้ยงวิญญาณระดับเทวะมากมายถึงเพียงนี้?” ดวงตาของชายชราชุดหนังสัตว์แทบถลน อุทานออกมาด้วยความตกใจ
4/10
“สมแล้วที่เป็นซูเฉิน ไม่เพียงครอบครองความสามารถในการต่อสู้ที่หาผู้ใดเปรียบ แต่เขายังมีสัตว์เลี้ยงวิญญาณระดับเทวะอีกมากมาย ร้ายกาจจริงๆ!”
ฉีมู่เล่ยเองก็ตกใจเช่นกัน ทอดถอนหายใจออกมา
นี่เป็นครั้งแรกที่เขาเห็นซูเฉินเรียกสัตว์เลี้ยงวิญญาณ อีกทั้งยังออกมาพร้อมกันถึงสี่ตัว! มันเหนือความคาดหมายของเขาไปมาก
“พวกมันทั้งหมดเลื่อนขั้นเป็นระดับเทวะแล้ว!?”
ฉีมู่เฟิงถึงกับอ้าปากค้าง ใบหน้าเต็มไปด้วยความตกใจ
เขาเคยเห็นสัตว์เลี้ยงวิญญาณของซูเฉินมาก่อน ในเวลานั้น พวกมันมีกำลังรบอยู่ที่ขั้น 10 เท่านั้น ไม่เคยคิดเลยว่าปัจจุบัน พวกมันจะขยับขึ้นเป็นสัตว์เลี้ยงวิญญาณระดับเทวะกันหมดแล้ว
หากมีสัตว์เลี้ยงวิญญาณทั้งสี่ตัวนี้ ก็ไม่ต้องกังวลเรื่องชายชราชุดหนังสัตว์อีกต่อไป
“ฆ่าสัตว์อสูรตัวนั้นซะ ส่วนตาแก่นั่นปล่อยไว้ก่อน”
ซูเฉินเอื้อมมือ ชี้ไปยังมังกรคลั่งปีกเหล็ก แล้วออกคำสั่ง
จุดประสงค์ที่ยังปล่อยให้ชายชรามีชีวิตอยู่นั้นง่ายมาก เพราะเขาต้องการเค้นข้อมูลว่าสถานที่แห่งนี้คืออะไร เหตุใดผู้ฝึกตนจึงกลายเป็นคนไร้ความสามารถ
ได้รับคำสั่ง ด้วงเขมือบทองคำและสัตว์เลี้ยงวิญญาณตัวอื่นๆกระโจนเข้าใส่อย่างดุร้าย ต่อสู้กับมังกรคลั่งปีกเหล็ก
แม้พวกมันจะเป็นเพียงระดับเทวะขั้นแรก ต่ำกว่ามังกรคลั่งปีกเหล็กอยู่หนึ่งขั้น แต่ประสิทธิภาพในการต่อสู้ล้วนเหนือกว่าลำดับชั้นเดียวกัน บวกกับที่ทั้งสี่ร่วมมือกัน จึงสามารถสังหารมังกรคลั่งปีกเหล็กลงได้อย่างง่ายดาย
นอกจากนี้ [จอมเขมือบแห่งบรรพกาล ยุงวัชระ] ยังถือโอกาสดูดแก่นโลหิตของมังกรคลั่งปีกเหล็ก ยกระดับสู่เทวะขั้น 2 ในคราเดียว
“สุดยอดไปเลย!”
ฉีมู่เล่ยกำหมัดแน่น ตื่นเต้นจนเกินบรรยาย
ฉีมู่เฟิงบังเกิดความรู้สึกมากมาย ลอบกล่าวในใจว่า “ตราบใดที่ซูเฉินอยู่ที่นี่ ไม่ว่าจะเจอภยันตรายแบบไหน ย่อมสามารถพลิกสถานการณ์จากร้ายกลายเป็นดีได้อย่างแน่นอน!”
“เจ้า .. นี่พวกเจ้า …” ชายชราชุดหนังสัตว์พอเห็นสัตว์เลี้ยงวิญญาณของเขาถูกฆ่าตายในทันที ก็ทรุดตัวลงกับพื้นด้วยความหวาดกลัว มุมปากสั่นเทาไม่หยุด ไม่อาจเอ่ยคำใดได้
“เสี่ยวเหยียน พาเจ้าหมอนั่นมาหาฉัน”
ซูเฉินหรี่ตา กวาดมองชายชราชุดหนังสัตว์ ออกคำสั่งแก่หงส์เพลิง
หงส์เพลิงไม่พูดมาก กางกรงเล็บหิ้วชายชรามาส่งถึงหน้าซูเฉิน แล้วกดเขาไว้แทบเท้า
“ผู้อาวุโส ข้าผิดไปแล้ว ได้โปรดให้โอกาสข้า!”
ชายชราชุดหนังสัตว์ตกอยู่ในความหวาดกลัว อ้อนวอนขอความเมตตาเสียงดัง
“ถ้าแกยอมบอกความจริงกับฉัน ฉันจะลองเก็บไปพิจารณาดู” ซูเฉินกล่าวอย่างใจเย็น
“ผู้อาวุโสเชิญถามมาได้เลย ข้ายินดีอธิบายตามความจริง!”
ชายชราชุดหนังสัตว์พยักหน้าอย่างบ้าคลั่ง
“ทำไมสถานที่แห่งนี้ถึงทำให้ผู้ฝึกตนสูญเสียความสามารถ?” ซูเฉินถาม
หากไม่ใช่เพราะเขามีสัตว์เลี้ยงวิญญาณ ครานี้คงพ่ายแพ้เข้าจริงๆ ดังนั้นรู้สึกสนใจในเรื่องนี้มาก
“ข้าเองก็ไม่รู้เหมือนกัน” ชายชราส่ายหัว แต่คล้ายกังวลว่าซูเฉินจะโกรธ จึงอธิบายต่อว่า “แต่มีข่าวลือ เล่ากันว่าผู้แข็งแกร่งในขอบเขตเทพเจ้าได้สร้างค่ายกลขึ้นมาที่นี่ ส่งผลให้ผู้ฝึกตนคนใดก็ตามที่อยู่ต่ำกว่าขอบเขตเทพเจ้า เมื่อเข้ามาจะสูญเสียฐานฝึกตนไป”
ซูเฉินขมวดคิ้วพลางครุ่นคิด เรื่องพลังของผู้แข็งแกร่งในขอบเขตเทพเจ้า เขาเคยพบเจอกับตัวเองมาก่อน ในวันนั้น หวูซางไม่ทราบใช้กลวิธีใด ลากจิตวิญญาณของเขาเข้าสู่ความมืดมิดอันไร้ที่สิ้นสุดได้อย่างง่ายดาย
ดังนั้น สำหรับคำพูดของชายชราชุดหนังสัตว์ ซูเฉินเห็นด้วย
“ที่นี่ มีเพียงสัตว์เลี้ยงวิญญาณเท่านั้นเองหรือที่สามารถแสดงความแข็งแกร่งได้?” ซูเฉินถามต่อ
“หุ่นเชิดก็ใช้ได้เช่นกัน” ชายชราชุดหนังสัตว์ตอบ
ดวงตาของซูเฉินเปล่งประกายขึ้นมาทันที
หากหุ่นเชิดก็สามารถสำแดงพลังได้ จุดนี้มีประโยชน์มากสำหรับเขา
เพราะหลังจากหุ่นเชิดทองคำติดตั้งหุ่นเชิดระดับเทวะทั้งสามตัวลงไป มันได้ทะลวงสู่เทวะขั้น 4 แล้ว ทรงพลังเป็นอย่างยิ่ง
ยิ่งกว่าในในแง่พลังการรบของมัน หากรับมือกับระดับเทวะขั้น 5 ธรรมดาไม่น่าใช่ปัญหา
นอกจากนี้ [นักรบจักรกล] เองก็ยกระดับสู่เทวะขั้น 1 แล้ว ความสามารถในการต่อสู้ของมันถือว่าไม่เลว
สำหรับ [รถศึกอัจฉริยะ] พูดกันในทางเทคนิคยังถือว่าเป็นหุ่นเชิดเช่นกัน
ซูเฉินสื่อสารกับ [รถศึกอัจฉริยะ] ผ่านทางความคิด “เสี่ยวจือ ฟังก์ชั่นใช้งานของนายไม่ได้หายไปใช่ไหม? สามารถข้ามมิติออกจากที่นี่ได้รึเปล่า”
“สามารถทำได้” [รถศึกอัจฉริยะ] ตอบอย่างมั่นใจ