1001-1002
1/10
Ep.1001
หัวใจของซูเฉินเต้นแรง เขาตระหนักดี ว่ายิ่งอันตรายเท่าไหร่ ผลประโยชน์ก็ยิ่งมากตาม
“พวกเธอสองคนเข้าไปใน [มิติสันโดษ] ของฉันก่อน” ซูเฉินพูดกับฉีมู่เสวี่ยและฉีมู่อวี้
ทั้งสองต่างก็เป็นผู้ฝึกตนขั้น 10 กำลังรบยังถือว่าอ่อนแอเกินไป หากปล่อยออกมาเพ่นพ่าน ไม่อาจรับประกันได้ว่าจะไม่มีอุบัติเหตุเกิดขึ้น
เพื่อความปลอดภัย เป็นการดีกว่าที่จะเก็บพวกเธอไว้ใน [มิติสันโดษ]
ฉีมู่อวี้ไม่ได้คัดค้าน แต่ฉีมู่เสวี่ยไม่ค่อยพอใจนัก
เพราะการเข้าสู่ [มิติสันโดษ] เท่ากับไม่สามารถแสดงผลงานได้ แล้วแบบนี้เมื่อไหร่ซูเฉินถึงจะให้รางวัลเธอ?
กระนั้น เนื่องจากซูเฉินได้ตัดสินใจแล้ว เธอจึงไม่กล้าพูดอะไรมาก ยอมเข้าสู่ [มิติสันโดษ] พร้อมกับฉีมู่อวี้
ต่อมา ซูเฉินเก็บ [รถศึกอัจฉริยะ] ใส่ถุงเก็บของ ก้าวเข้าไปบนเกาะพร้อมกับฉีมู่เล่ยและฉีมู่เฟิง
เนื่องจากข้างในเกาะเต็มไปด้วยหมอก วิสัยทัศน์จึงถูกปิดกั้น ระยะทางที่สามารถมองเห็นได้ ไม่เกิน 100 เมตรเท่านั้น
“พี่ฉี หุ่นเชิดระดับเทวะตัวนั้นอยู่ที่ไหน?” ซูเฉินถาม
จุดประสงค์หลักของการมาที่นี่คือหาหุ่นเชิดระดับเทวะ ส่วนสมบัติอื่นๆถือเป็นของแถม จะได้ติดไม้ติดมือหรือไม่ ไม่ใช่เรื่องสำคัญ
ฉีมู่เฟิงกวาดสายตามองไปรอบๆ ส่ายหัวและกล่าวว่า “ข้างในนี้แยกแยะทิศทางได้ยากนัก ข้าไปนำมันมาจากที่ไหน ก็จำไม่ได้เหมือนกัน”
มีหินสีดำอยู่ทั่วเกาะ แต่ไม่มีเครื่องหมายใดๆระบุเอาไว้เลย จึงเป็นการยากที่จะระบุทิศทาง
“งั้นพวกเราลองหากันเองดูก่อนแล้วค่อยว่ากัน” ซูเฉินไม่ได้ใส่ใจนัก ว่าจบ เขาก็มุ่งหน้าไปตามขอบนอกของเกาะ
ระหว่างทาง ได้เรียกเอานกสำรวจออกมา ให้มันช่วยสังเกตสิ่งแวดล้อมรอบข้างตลอดเวลา
หากตกอยู่ในอันตราย หรือพบสมบัติดีๆเข้า จะได้รายงานทันที
หลังจากนั้น ซูเฉินและคนอื่นๆเดินวนรอบนอกเกาะเป็นเวลาหลายชั่วโมง แต่ก็ไม่ค้นพบอะไรเลย
ซูเฉินรู้ดี ว่ามีโอกาสน้อยนักที่จะมีสมบัติอยู่บริเวณรอบนอกของเกาะ จึงแนะนำว่า “งั้นพวกเราลองเข้าไปในส่วนลึกของเกาะกัน”
ได้ยินแบบนั้น การแสดงออกทางสีหน้าของพี่น้องตระกูลฉีได้เปลี่ยนไป ส่วนลึกของเกาะย่อมมีของดีอย่างไม่ต้องสงสัย ทว่ามันก็แฝงไปด้วยอันตรายเช่นกัน ไม่อย่างนั้น คงไม่มีคนจำนวนมากที่ไม่รอดกลับมา
อย่างไรก็ตาม เมื่อนึกถึงเรื่องที่ว่ามีซูเฉินอยู่ข้างๆ ความกังวลในใจของพวกเขาก็สลายไปหลายส่วน
ด้วยกำลังรบของซูเฉิน แม้พวกเขาจะบังเอิญเผชิญหน้ากับการดำรงอยู่ของระดับเทวะขั้น 6 ก็น่าจะสามารถรับมือได้
เมื่อเห็นว่าฉีมู่เฟิงกับฉีมู่เล่ยไม่คัดค้าน ซูเฉินก็ก้าวนำเข้าไปในส่วนลึกของเกาะ
สองพี่น้องเดินตามหลังเขาไปติดๆ หลังจากเดินมาได้เกือบชั่วโมง หมอกรอบๆก็ก่อตัวหนากว่าเดิมหลายเท่า
ระยะสายตาที่สามารถมองเห็นก็แคบลงจนเหลือแค่สิบกว่าเมตร
ซูเฉินยังไม่คิดหยุดเท้า เดินต่อไปอีกกว่า 50 เมตร ทันใดนั้นเอง นกสำรวจร้องเตือนขึ้น “เจ้านาย ข้าสัมผัสได้ถึงการมีอยู่ของแร่ชั้นยอดจำนวนมาก! แต่ใกล้ๆกับมัน ก็มีกลิ่นอายอันตรายมากอยู่เช่นกัน”
“มันอยู่ในส่วนลึกของเกาะใช่ไหม?” ซูเฉินเริ่มตื่นตัว
“ขอรับ”
นกสำรวจตอบอย่างมั่นใจ
“มีแร่อะไรบ้าง?” ซูเฉินพยายามระงับความตื่นเต้นของตัวเอง เอ่ยปากถาม
สิ่งที่สามารถถูกนกสำรวจให้ความสนใจได้ มูลค่าของมันต้องไม่ธรรมดา เขาตั้งตารอที่จะได้รู้มาก
“มีหัวใจจักรกล , ศิลาฟ้ากระจ่าง และศิลานิลกาฬ” นกสำรวจตอบทันที
ดวงตาของซูเฉินเปล่งประกายสดใส
หัวใจจักรกลคือสิ่งจำเป็นในการอัพเกรด [รถศึกอัจฉริยะ] นอกจากนี้ยังเป็นแหล่งพลังงานให้แก่หุ่นเชิดระดับเทวะ มีมูลค่าชัดเจนในตัวมันเอง
ส่วนศิลานิลกาฬสามารถช่วยยกระดับเพลิงเอกลักษณ์ได้ ถือเป็นแร่ชั้นดี
ขณะที่ศิลาฟ้ากระจ่างเขาไม่รู้ เพราะเป็นครั้งแรกที่ได้ยินชื่อนี้
2/10
Ep.1002
“เสี่ยวซุ่น ศิลาฟ้ากระจ่างมีคุณสมบัติอะไร?” ซูเฉินถาม
นกสำรวจยังไม่ทันตอบ ฉีมู่เล่ยก็เอ่ยขึ้นก่อนว่า “บทบาทสำคัญที่สุดของศิลาฟ้ากระจ่างคือการช่วยยกระดับแก่สัตว์เลี้ยงวิญญาณ อย่างไรก็ตามกระบวนการนี้อาจใช้เวลาค่อนข้างนานเล็กน้อย”
ช่วยยกระดับสัตว์เลี้ยงวิญญาณ?
สีหน้าท่าทีของซูเฉินดูตื่นตัวขึ้นมาทันที
ปัจจุบันหงส์เพลิงและเหล่าสัตว์เลี้ยงวิญญาณตัวอื่นๆล้วนมีฐานฝึกตนอยู่แค่ที่ระดับเทวะขั้น 1 แม้ดูเหมือนไม่น้อย แต่เมื่อคิดถึงเรื่องที่ว่าศัตรูที่ต้องเผชิญนานวันยิ่งแข็งแกร่งขึ้นเรื่อยๆ ต่อไปเกรงว่าพวกมันจะไม่มีประโยชน์ ดังนั้นจำเป็นต้องช่วยยกระดับโดยเร็วที่สุด
และวิธีที่ง่ายที่สุดคือการแลกเปลี่ยน [โพชั่นกายภาพ] แต่น้ำยาที่ว่ายิ่งระดับสูง แต้มพลังงานที่ต้องใช้ก็ยิ่งมีจำนวนมาก ตอนนี้แต่ละขวดล้วนเกินหมื่นแต้มแล้ว ซูเฉินไม่สามารถจ่ายได้
หากศิลาฟ้ากระจ่างสามารถช่วยเลื่อนขั้นพวกมันได้ ก็เท่ากับประหยัดแต้มพลังงานของซูเฉินได้มาก
สำหรับเรื่องกระบวนการที่ยาวนาน อันที่จริงมันแก้ปัญหาได้ง่ายมาก เขาสามารถย่นระยะเวลาด้วย [อุปกรณ์เร่งเวลา] ได้
ด้วยประการฉะนี้ เท่ากับสามารถยกระดับสัตว์เลี้ยงวิญญาณได้ในระยะเวลาอันสั้น
“เสี่ยวซุ่น กลิ่นอายของอันตรายที่ว่าคืออะไร?” ซูเฉินถาม
แม้หัวใจจักรกลและแร่ที่เหลือจะทำให้เขาตื่นเต้นมาก แต่ก็ยังต้องระมัดระวังตัวไว้ก่อน เพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์ผิดพลาด
“ดูเหมือนว่าจะเป็นกลิ่นอายของสัตว์อสูรที่ทรงพลัง นอกจากนี้ยังมีกลิ่นอายของหุ่นเชิดอีกด้วย” นกสำรวจตอบตามตรง
สัตว์อสูร?
หุ่นเชิด?
ดวงตาของซูเฉินเป็นประกาย ตอนนี้เขาเริ่มคาดเดาได้นิดหน่อยแล้ว ว่ากลิ่นอายของหุ่นเชิด อาจเป็นหุ่นเชิดระดับเทวะของเผ่าจักรกลก็ได้
“ซูเฉิน พวกเราควรเข้าไปต่ออีกไหม?”
ในตอนนั้นเอง ฉีมู่เฟิงเอ่ยถาม
“แน่นอน พวกเราต้องไปอยู่แล้ว” ซูเฉินกล่าว
เนื่องจากได้ค้นพบหัวใจจักรกลและแร่อื่นๆแล้ว นี่ถือเป็นโอกาสอันดี ไม่มีเหตุผลที่จะปล่อยมือจากมัน
“ระวังตัวกันด้วย ข้างหน้ามีสัตว์อสูรและหุ่นเชิดที่ทรงพลังอยู่” ซูเฉินเตือน
“เข้าใจแล้ว” สองพี่น้องตระกูลฉีพยักหน้า
ต่อมา ทั้งสามยังคงมุ่งหน้าเข้าไปในส่วนลึกของเกาะ
สิบนาทีต่อมา พวกเขาก็เข้ามาใกล้หุบเขาแห่งหนึ่ง และเป็นเรื่องบังเอิญอย่างยิ่ง เบื้องหน้าพวกเขา ปรากฏช่องทางเดินที่ยาวและแคบ
ซูเฉินกวาดสายตามองเข้าไป จากนั้นปล่อยพลังจิตเข้าตรวจสอบ
กระนั้น เมื่อเคลื่อนพลังจิตเข้าไปในหุบเขา มันกลับถูกพลังงานบางอย่างขวางกั้นไว้
“มีบางอย่างผิดปกติ” ซูเฉินพึมพำเสียงกระซิบ
สิ่งที่สามารถปิดกั้นพลังแห่งจิตวิญญาณได้ เขารู้จักแค่พลังต้องห้ามเท่านั้น แต่พลังงานอันแปลกประหลาดในหุบเขา ไม่น่าใช่พลังต้องห้าม มันดูเหมือนจะซับซ้อนยิ่งกว่า
ซูเฉินยืนนิ่งอยู่ที่เดิมและครุ่นคิดอยู่พักหนึ่ง ในที่สุดก็ตัดสินใจว่าจะลองเข้าไปดู
ไม่ว่าจะมีอะไรอยู่ในหุบเขา ด้วยกำลังรบในปัจจุบันของเขา ก็ไม่น่าต้องหวาดกลัว
แม้จะสู้ไม่ได้ แต่ก็ยังสามารถใช้ [รถศึกอัจฉริยะ] เพื่อข้ามมิติ หนีไปจากที่นี่
“ไปเถอะ เข้าไปดูข้างในกัน” ซูเฉินสูดหายใจลึก ก้าวนำเข้าไปในทางเดิน
ทางเดินนี้คดเคี้ยวไปมา เป็นทางยาวหลายร้อยเมตร
ซูเฉินและคนอื่นๆใช้เวลาหลายนาทีกว่าจะสามารถเข้ามาสู่ข้างในหุบเขา
“เอ๋?”
อย่างไรก็ตาม พอก้าวเข้ามา ซูเฉินต้องอุทานออกมาเบาๆ
นั่นเพราะหุบเขาแห่งนี้มันราวกับสรวงสวรรค์ มีต้นไม้เขียวชอุ่ม เต็มไปด้วยดอกไม้และเสียงนกร้อง อากาศสดชื่นเป็นพิเศษ ช่างตรงกันข้ามกับสภาพแวดล้อมที่เต็มไปด้วยหมอกหนาข้างนอกอย่างสิ้นเชิง
ซูเฉินหรี่ตาลงและกวาดมองไปรอบๆ ไม่นานก็ค้นพบสิ่งมีชีวิต
ไม่ไกลนัก ชายชราในชุดหนังสัตว์กำลังขี่สัตว์อสูรที่ดูเหมือนไดโนเสาร์ตรงเข้ามาอย่างช้าๆ
“เจ้านาย นั่นคือมังกรคลั่งปีกเหล็กระดับเทวะขั้น 2 ข้าสัมผัสถึงอันตรายได้จากมัน” นกสำรวจเตือนเขา
ระดับเทวะขั้น 2 จะเป็นอันตรายได้อย่างไร?
ซูเฉินรู้สึกงงงวย
“ฮ่า ฮ่า ฮ่า … มีทาสมาเพิ่มอีกสามคนแล้ว วันนี้โชคดีจริงๆ”
ในขณะนั้นเอง ชายชราชุดหนังสัตว์ใกล้เข้ามา กวาดสายตามองซูเฉินและคนอื่นๆ ระเบิดเสียงหัวเราะอย่างมีเลศนัย