อสูรมังกรฟ้า เล้งซาน ตอนที่ 22 หนีตาย
'ลมปราณชั้นสีเขียว 1 คน ชั้นสีน้ำเงิน 6 คน ชั้นสีคราม 37 คน บัดซบ!! กะอีแค่เด็กลมปราณชั้นสีม่วง คนเดียว มันเล่นยกโขยงกันมาขนาดนี้เลย'
เล้งซาน พยายามอย่างยิ่งมิให้สีหน้าเปลี่ยนแปลง มันยังพยายามไม่ประหม่า เพราะยังไงซะนี่คือเวทีชนะเลิศของมัน พวกพรรคป้อมคงไม่กล้าทำอะไรประเจิดปะเจ้อ กลางงานประลองเป็นแน่
"ไม่ทราบว่า ผู้อาวุโสทั้งหลายมาหาข้าเล้งซานด้วยเรื่องอันใด?"
"เจ้าเด็กบัดซบ!! เจ้ามิต้องมาเล่นลิ้น เจ้าย่อมรู้ตัวดี ว่าวิชาที่เจ้าใช้นั้น ทำให้นายน้อยพรรคป้อมอัคคีของเรา พิการโดยสมบูรณ์ ลมปราณทั้งหมดก็ล้วนสูญสิ้น!!"
"วันนี้ข้าซูจ้าว 1 ใน 7 ผู้อาวุโสพรรคป้อมอัคคี จะขอสะสางบัญชีแทนหลานชายข้า ซูกวนเปียว!!"
ซูจ้าว พูดจบพลางกระจายพลังลมปราณหนาแน่นของชั้นลมปราณสีเขียว ผู้คนโดยรอบอึดอัดจากแรงกดดันของพลังขั้นสีเขียวเป็นอย่างมาก
ความจริงมันกระจายกำลังโดยรอบเวทีมาสักระยะแล้ว เพียงแต่เมื่อมันเห็นบทสนทนาของ เล้งซานและเสวียนอู่จิงฉาน มันจึงตึงกำลังรอดูท่าทีโดยรอบก่อน แต่เมื่อเห็นเสวียนอู่จากไปจึงแสดงตัวทันทีเพื่อมิให้เล้งซานมีโอกาสหนี
เล้งซาน ขมวดคิ้วเล็กน้อย
'ท่าไม่ดีแล้ว จากที่เห็น เจ้าแก่นี่มันไม่ยอมเจรจาแน่นอน'
เล้งซานประสานมือ โค้งตัวเล็กน้อยด้วยท่าน้อมนอมของมัน
"เรียนผู้อาวุโสซูจ้าว ผู้เยาว์ว่าอาจเกิดการเข้าใจผิด เกี่ยวกับ....อ๊ะ!! ท่านอาวุโสเสวียนอู่ ท่าน..."
เล้งซานมองไปด้านหลังกลุ่มคนจากพรรคป้อมอัคคี เบิกตากว้างแสดงความโล่งใจอย่างเห็นได้ชัด!!
ซูจ้าวและพรรคพวกหน้าซีดทันทีพวกมันรีบหันขวับกลับไปมองตามสายตาของเล้งซาน
เล้งซานแสยะยิ้มเล็กน้อย
"วิญญาณ มังกร!!"
เมื่อซูจ้าวหันไป มันขมวดคิ้วเล็กน้อย ด้านหลังของมัน มีแต่ความว่างเปล่า ไม่มีเสวียนอู่จิงฉาน หรือผู้คนใดๆแม้แต่น้อย และพอมันหันกลับมา บนเวที เล้งซานหายตัวไปแล้ววววว...
"บัดซบ!!! เจ้าเด็กปลิ้นปล่อน นี่มันหลอกเรา!!"
ซูจ้าวหน้าแดงก่ำ ร่างสั่นสะท้านด้วยความโกรธ มันมิเคยคิดเลยว่าจะถูกผู้เยาว์อายุคราวลูก ปั่นหัวเช่นนี้
"ผู้ใช้ลมปราณสีน้ำเงินแบ่งเป็น 3 กลุ่ม แยกกันไปที่ประตูทิศเหนือ ใต้ และตะวันออก พวกลมปราณสีครามกระจายกำลังค้นหาให้ทั่วเมือง ส่วนข้าจะไปประตูทิศตะวันตก ผู้ใดพบตัวมัน ใช้พลุส่งสัญญาณประจำพรรคโดยทันที!!"
ซูจ้าวสั่งการและรีบแยกย้ายกันไปตามคำสั่งในทันที
เหตุการณ์ทั้งหมดเกิดขึ้นในเวลาไม่เกินยี่สิบลมหายใจ สร้างความตกตะลึงให้แก่ผู้คนโดยรอบเป็นอันมาก
"นะ..นายน้อยพรรคป้อมอัคคีพิการ!!"
"ไม่อยากจะเชื่อว่าเจ้าเล้งซาน จะเหี้ยมเช่นนี้"
"มันไม่รอดไปจากเมืองนี้แน่ด้วยอิทธิพลของพรรคป้อมอัคคี!!"
"คุณชายเล้ง !!"(เสียงสาวๆ แฟนคลับ ถถถ+)
เสียงโดยรอบเวทีประลองกระหึ่มขึ้น แต่ละคนต่างวิพากษ์วิจารณ์กันไปต่าง ๆ นานา
................
เล้งซาน ทะยานร่างของมันมาทางประตูทิศใต้ เพราะมันค่อยข้างแน่ใจว่า ซูจ้าว ที่วรยุทธสูงที่สุดจะต้องเฝ้าที่ประตูตะวันตก ซึ่งเป็นทางกลับหมู่บ้าน เมฆาล่อง
"เจ้าเด็กโง่ เจ้าคิดจะหนีไปที่ใดกัน?" เสียงเฟรย่าดังขึ้น
"ข้าว่าจะกลับไปที่หุบเขาหมื่นพฤกษาอีกครั้ง เพี่อบ่มเพาะลมปราณก่อน หากมีกำลังพอค่อยกลับมารอ เสวียนอู่จิงฉานที่นี่"
"ในเมื่อเสวียนอู่จิงฉาน ไม่สามารถพาเจ้าออกไปได้แล้ว เหตุใดยังต้องกลับมาเพื่อรอมันด้วยเล่า?" เฟรย่ายังคงสงสัยในการกระทำของเด็กหนุ่ม
"จริงอยู่ที่การกลับมารอเสวียนอู่จิงฉานที่นี่ มิต่างอะไรจากวิ่งกลับเข้าถ้ำเสือ แต่ข้าคิดว่าหากอยู่ในราชวงศ์เสวียนอู่ ข้าจะสามารถหาสิ่งที่จะช่วยเพิ่มพลังให้ข้าได้อย่างก้าวกระโดด และราชวงศ์เสวียนอู่ ย่อมมีข้อมูลต่าง ๆของตระกูลข้า เมื่อพันห้าร้อยปีก่อน ข้าจึงจำต้องยอมเสี่ยง"
"อืม...นับว่าเป็นความคิดที่ดี และเจ้าวิ่งมาทางประตูทิศใต้ทำไม? ในเมื่อหุบเขาหมื่นพฤกษาอยู่ในทิศตะวันตกของเมืองนี้"
"ข้ามั่นใจกว่า เก้าส่วนว่า เจ้าแก่ซูจ้าว มันจะรอข้าที่ประตูตะวันตก ข้าจึงต้องยอมอ้อมไป ด้วยพลังลมปราณชั้นสีเขียวของเจ้าแก่นั่น มันจึงเป็นคนเดียวที่ข้าไม่สามารถต่อกรได้แม้แต่น้อย"
เมื่อมาถึงประตูทิศใต้ คนจากพรรคป้อมอัคคี สองคนชั้นลมปราณสีน้ำเงินก็มาถึงพร้อมกันกับเล้งซาน แม้มันมีวิชาตัวเบาชั้นสูง แต่ด้วยความต่างถึง 2 ชั้นลมปราณ มันย่อมไม่อาจว่องไว กว่าทั้งสองคนได้
สองคนนี้คือ เจี่ยอ้าวตี้ และเจี่ยอ้าวตง พี่น้องคู่นี้เป็นระดับผู้ฝึกสอนในพรรคป้อมอัคคี อยู่ชั้นลมปราณสีน้ำเงิน ขั้นที่ 2 และ 3
เมื่อเห็นเล้งซาน เจี่ยอ้าวตี้ ยิงพลุสัญญาณในทันที
'ข้าต้อง จัดการมันทั้งคู่ใน ยี่สิบลมหายใจ มิเช่นนั้นหาก ซูจ้าวมา ข้าย่อมถูกปิดทางรอด'
เล้งซานมิพูดพล่ามทำเพลง โคจรพลังที่ฝ่ามือ และพุ่งเข้าใส่เจี่ยอ้าวตงในทันที!!
"เทพพิโรธถล่มฟ้า!!"
เจี่ยอ้าวตง ตกตะลึงมันไม่คิดแม้แต่น้อย ว่าผู้เยาว์ที่มีลมปราณด้อยกว่ามันถึง 12 ขั้น และห่างชั้นถึง 2 ชั้นลมปราณ จะกล้าโจมตีใส่ทันทีโดยไม่ลังเล แม้แต่น้อย!!
มันโคจรปราณคุ้มกันและใช้มือขวารับฝ่ามือเล้งซาน ด้วยความประมาทที่เห็นความต่างชั้นมากมาย มันจึงตั้งรับด้วยพลังเพียง เจ็ดส่วน พลางแสยะยิ้มเล็กน้อย ในใจคิดว่า เจ้าเด็กนี่ช่างโง่เง่าแท้ ไม่เห็นกระทั่งความต่างของระดับชั้น
แต่ทันทีที่ฝ่ามือปะทะกัน ปราณเทพพิโรธที่ทรงพลัง ดูดกลืนพลังเจ็ดส่วนของมันในทันที ดวงตามันเบิกกว้างด้วยความตกตะลึง ใบหน้าซีดราวกับไร้โลหิตไหลเวียน มันรู้ได้ทันทีว่า มันประเมินเล้งซาน ต่ำเกินไป!!!
ร่างของ เจี่ยอ้าวตง กระเด็นร่วมสามสิบเมตร กระแทกเข้ากลับกำแพงเมือง กระอักเลือดทันที ร่างกายร่วงโรยกองลงสู่พื้น แม้ไม่ถึงแก่ชีวิต แต่ก็บาดเจ็บสาหัสยากจะลุกจากเตียงในหนึ่งเดือน!! ความต่าง 2 ชั้นลมปราณ กลับหมดสิทธิ์เผชิญหน้า หลังการปะทะเพียงกระบวนท่าเดียวของเล้งซาน!!
"อ้าวตง!!! บัดซบ เป็นไปไม่ได้!!!"
เจี่ยอ้าวตี้ แทบไม่เชื่อสายตาของมัน กับเหตุการณ์ทุกอย่างที่เกิดขึ้นภายในชั่วพริบตา!! ตัวมันยังมิทันได้วางพลุสัญญาณที่ถืออยู่ในมือด้วยซ้ำ น้องชายของมันก็บาดเจ็บสาหัสเสียแล้ว
เจี่ยอ้าวตี้ไม่กล้าประมาทแม้แต่น้อยหลังจากเห็นร่างของ เจี่ยอ้าวตง มันโคจรพลังสิบส่วนทันที และหลอมรวมกับปราณอัคคีในร่าง ความร้อนที่กระจายออกมา เล้งซานยังรู้สึกได้ว่าราวกับกองไฟขนาดใหญ่ อยู่ด้านหน้าของมัน!!
เจี่ยอ้าวตี้พุ่งทะยานด้วยความเร็วคราแรกมันต้องการเพียงจับตัวเล้งซาน เพื่อส่งให้ผู้อาวุโสซูจ้าวเท่านั้น แต่บัดนี้จิตสังหารมันกระจายเต็มเปี่ยม ด้วยความโกรธที่น้องชายบาดเจ็บสาหัส
"ฝ่ามืออัคคีแผดเผา!!"
เล้งซานหน้าซีดทันที จากนั้นโคจรพลังในร่าง ใช้มือซ้ายของมันรับฝ่ามือที่แฝงปราณอัคคีมหาศาลของ เจี่ยอ้าวตี้
ทันทีที่ฝ่ามือสัมผัสกับ เจี่ยอ้าวตี้ ดวงตาเบิกกว้าง มันไม่รู้สึกถึงการปะทะแม้แต่น้อยราวกับพลังสิบส่วนที่ปล่อยออกมาสลายหายไปในฝ่ามือของเล้งซาน
"อ๊ากกก!!" เล้งซานร้องด้วยความร้อนที่แผดเผามัน มันกัดฟันทน และปล่อยจิตสังหารออกมา จ้องมองไปที่เจี่ยอ้าวตี้ ด้วยสายตาที่แข็งกร้าว
"ตอนแรกข้าเพียงต้องการเพียงแค่จะหนีออกไป แต่เจ้าบังคับข้าเอง !!"
"มังกรเคลื่อนสมุทร!!"
พลังปราณสิบส่วนของ เจี่ยอ้าวตี้ ที่ถูกรับด้วยมือซ้ายของเล้งซาน ถูกเคลื่อนย้ายไหลเวียนมายัง มือขวาและเสริมเข้าด้วยพลังปราณสิบส่วนของเล้งซานอีกขั้น ซัดเข้าที่ยอดอก ของเจี่ยอ้าวตี้ ในชั่วพริบตา
การใช้มังกรเคลื่อนสมุทรทุกครั้งก่อนหน้านี้ มันเพียงเคลื่อนย้ายพลังที่ได้รับลงสู่พื้น แต่ในครั้งนี้มันเลือกที่จะใช้โจมตีสะท้อนกลับไป!!
"อ๊ากกก!!" เสียงร้องของเจี่ยอ้าวตี้ ดังโหยหวน
เนื่องจากมันโจมตีเล้งซาน ด้วยพลังสิบส่วนเต็ม ปราณคุ้มกันในร่างจึงเบาบางเมื่อถูกพลังลมปราณจำนวนมหาศาลอัดเข้าไป ปราณคุ้มกันของมันจึงถูกฉีกขาดไม่ต่างจากเศษกระดาษ
โลหิตไหลออกจากทวารทั้ง 5 ของ เจี่ยอ้าวตี้ชีพจรทั่วร่างระเบิดออก ร่างค่อยๆทรุดลงกองแทบเท้าของเล้งซาน สิ้นลมหายใจในทันที!!
เล้งซาน ก็ไม่ได้ดีไปกว่ากันนัก มันฝืนรับลมปราณที่สูงกว่าถึงสองระดับชั้นเข้าไปในร่าง อีกทั้งยังถูกแผดเผาด้วยปราณอัคคี เสื้อผ้าและผิวหนังภายนอกกว่า 3 ส่วนเป็นรอยถูกเผาไหม้อย่างเห็นได้ชัด เส้นชีพจรภายในบาดเจ็บสาหัส มันไม่สามารถขยับร่างกายได้อีกแล้ว สติค่อยๆเลือนราง และทรุดลงที่นั่น ข้างๆศพของ เจี่ยอ้าวตี้.....
...................................................