อสูรมังกรฟ้า เล้งซาน ตอนที่ 18 มันยังไม่ถึงเวลา
"ผู้เข้าประลอง 16 คนหมดสภาพ ผู้ชนะในสายที่ 7 คือ อี้หลงหวัง จากพรรคกระบี่เหิน และ เล้งซานจาก หมู่บ้านเมฆาล่อง" กรรมการ ประกาศผลการประลอง
"เฮ้ย!! ไอขยะที่เอาแต่วิ่งหนีมันผ่าน!! บัดซบ!!"
"นรกเอ๊ย!! มันโชคดีชะมัด การวิ่งวนไปรอบๆของมันทำให้กระบี่ของ อี้หลงหวัง พลาดแน่ๆ"
"กรรมการตาถั่วหรือไง ไม่เห็นหรือ ว่าไอขยะนั่นเอาแต่วิ่งหนี ดันให้มันชนะ"
กรรมการผู้ชี้ขาดในการประลองในครั้งนี้ ถูกส่งมาจาก ราชวงศ์เสวียนอู่ ที่ปกครองทวีปนี้ เพื่อความเป็นกลางในการแข่งขัน ชายวัยกลางคนผู้นี้ชื่อว่า เสวียนอู่จินฉาน มีพลังลมปราณชั้นสีเขียว ขั้นที่ 6
แม้การกระทำของเล้งซาน ไม่ว่าจะมองมุมด้วย ล้วนเกิดจากโชคของมันที่ผ่านเข้ารอบ แต่การกระทำทุกอย่างมิอาจเล็ดลอด สายตาของ เสวียนอู่จินฉาน ไปได้!! มันมิทราบเหตุผลว่าเหตุใดเล้งซานจึงกระทำกิริยาเช่นนั้น แต่มันรู้อย่างแน่นอนว่า เล้งซานเก็บงำปกปิดฝีมือที่แท้จริงเอาไว้ จึงยอมให้ผ่านรอบนี้เข้าไปสู่รอบสองโดยมิได้คัดค้าน
จากนั้นการประลองเข้าสู่สายต่อไป จวบจนครบทั้ง 16 สาย ผู้ที่ผ่านรอบแรกทั้งหมด 32 คน ถูกกรรมการเรียกขึ้นมาบนเวที
"ต่อไปข้าจะประกาศ รายละเอียดเกี่ยวกับการประลองในรอบที่สอง ในรอบนี้ผู้ที่ผ่านรอบที่หนึ่งในแต่ละสาย ต้องจับคู่กัน!! เพื่อประลองแบบ 2 ต่อ 2 กับผู้เข้าประลองในสายข้างๆ ผู้ชนะทั้งคู่จะผ่านสู่รอบที่สาม ส่วนผู้แพ้จะตกรอบทั้งคู่เช่นกัน ขอให้สายที่ 1 และ 2 อยู่บนเวที สายอื่นๆโปรดลงไปรอที่ข้างเวที"
การประลองยังคงดำเนินต่อไปเรื่อยๆจนถึง รอบของคู่ เล้งซาน และอี้หลงหวัง
ในรอบนี้ มิต่างจากรอบแรกเล้งซาน ยังคงวิ่งวนไปรอบเวที ในเวลาไม่ถึง สิบลมหายใจ อี้หลงหวัง เพียงคนเดียวก็เอาชัยจากผู้ประลองทั้งคู่ในสายที่ 8 ลงได้
"เจ้าสวะนั้นมันโชคดีอีกแล้ว มันดันได้คู่กับอี้หลงหวัง"
"กรรมการ!! นี้มันไม่ยุติธรรมเลย ไอขยะนั่นมันผ่านเพราะโชคเท่านั้น"
"โอ๊ยยยย เจ้าสวะลมปราณสีม่วง นั่นผ่านเข้ารอบสาม แต่ข้าดันตกรอบแรก โธ่~นรกเถอะ!!"
ผู้เข้าประลองที่ตกรอบ โวยวายอย่างมากโดยเห็นว่าเล้งซาน เอาแต่หนี แต่กลับผ่านถึงรอบสูงๆ แต่ก็ไม่เป็นผล กรรมการปฏิเสธการคัดค้านในทุกเสียง เพราะเล้งซานอยู่ในกรอบของกติกาที่ตั้งไว้
จวบจนการแข่งผ่านพ้นไปครบทุกสาย ได้ผู้ผ่านเข้ารอบทั้งสิ้น 16 คน
"ข้าขอประกาศ ผู้ผ่านเข้ารอบที่สาม ทั้งสิ้น 16 คน ในรอบที่สามนี้ จะเป็นการจับสลาก สู้แบบ 1 ต่อ 1 แพ้คัดออก ขอให้ผู้เข้าร่วมประลองทุกคน มาจับสลากจับคู่แข่งบนเวที"
ทั้ง 16 คนจับสลากเรียบร้อย โดยเล้งซาน ได้ประลองเป็นคู่ที่ 1 ในรอบนี้
"การประลองจะเริ่มในเช้าวันพรุ่งนี้ ขอให้ผู้เข้าประลองที่ผ่านเข้ารอบทั้งหมดกลับไปพักฟื้นร่างกาย และมาใหม่ในวันพรุ่งนี้!!" กรรมการประกาศ
หลังจากนั้นทุกคนจึงแยกย้ายกันไป โดยเรื่องของเล้งซาน ได้ถูกลือไปทั่วเมืองเมฆคราม!! ระดับชั้นลมปราณสีม่วงที่อ่อนด้อยที่สุดในการประลอง ผ่านเข้ารอบ 8 คนสุดท้าย อีกทั้งยังผ่านเข้ารอบโดยการวิ่งหนีตลอดการแข่งขัน!! เกิดเสียงครหาไปทั่วทั้งเมืองเมฆครามไม่หยุดหย่อนถึงสายตาของเหล่ากรรมการตัดสิน โดยเหล่าพวกกลุ่มคนที่ครหาล้วนแล้วแต่อยากเห็นสภาพที่อเนถอนาถของเล้งซานในวันพรุ่งจนเนื้อตัวสั่น
หลังจบการจับสลากผู้เข้าแข่งขันต่างทำการแยกย้ายกลับพรรคของตนเพื่อที่จะรีบฝืนสภาพร่างกายด้วยยาโอสถ หรือไม่ก็ให้เหล่าแพทย์ลมปราณประจำพรรคถ่ายทอดพลังฟื้นฟูให้ร่างกายสมบูรณ์ที่สุดในการแข่งต่อเนื่องวันพรุ่งนี้
"ข้าอย่างทราบเหตุผล ว่าเพราะอะไรเจ้าถึงปกปิดฝีมือ และแสดงกิริยาเช่นนั้นบนเวที" อี้หลงหวังเดินเข้ามาที่ด้านหลังเล้งซาน และเอ่ยปากถาม
เล้งซาน หันไปสบตาเล็กน้อย จากนั้นยิ้มที่มุมปาก มันทราบอยู่แล้วว่าสิ่งที่มันกระทำถูกอี้หลงหวัง มองออกตั้งแต่แรก
"มันยังไม่ถึงเวลา!!" เล้งซานตอบสั้นๆ
อี้หลงหวัง ขมวดคิ้วเล็กน้อย และหันหลังเดินจากไป
"บุรุษผู้นี้ฝีมือร้ายกาจมาก สมแล้วที่ถูกขนานนามว่า อัจฉริยะอันดับ 1 ในเมืองนี้ปราณกระบี่นับว่าร้ายกาจ หากมีกระบี่ในมือ ข้าก็ยากจะเอาป้องกันได้"
"เหอะ!! เจ้าเด็กโง่ นี่เจ้ายังไม่รู้จริง ๆ หรือนี่" เสียงของเฟรย่าดังขึ้น
"รู้ สิ่งใด?"เล้งซานขมวดคิ้ว สงสัยเล็กน้อย
"คนผู้นี้ เป็นอิสตรี"
เล้งซาน เบิกตากว้าง รีบเหลียวหลังหันกลับไปมอง อี้หลงหวัง ที่เดินไปทันที
"แม้โค้งหน้าจะงดงามราวอิสตรี แต่เหตุใดรูปร่าง? หน้าอก? สะโพก? หายไปไหน?" เล้งซานแสดงสีหน้าโง่งม ครั้นจะไม่เชื่อก็กระไรอยู่ เพราะด้วยศักดิ์ศรีของนางแล้ว เฟรย่ามิเคยพูดปด
"เหอะ!! เจ้าช่างตาถั่วนัก ด้วยวิชาแพทย์ของเราย่อมเข้าใจโครงสร้างร่างกายทั้งหมด นางผู้นี้ใช้ลมปราณปรับแต่งโครงสร้างร่างกาย ลดขนาดหน้าอก และสะโพก อีกทั้งยังสร้างลูกกระเดือกให้สังเกตเห็นเล็กน้อย แต่ย่อมมิอาจหลอกสายตาเรา"
"หากคืนสภาพเดิม นางผู้นี้ย่อมเป็นสาวล่มเมือง ความงามมิด้อยกว่า เซี่ยวหลินเยว่แม้แต่น้อย!!"
"โอ้ววว!! นางช่างหลอกคนทั้งเมืองได้แนบเนียนยิ่ง" เล้งซานยิ้มเล็กน้อยพลางลูบเบาๆที่ปลายคางตนเอง
............
"เจ้าบ้า!! แม้เจ้าจะผ่านทั้งสองรอบไปได้ แต่เหตุใดต้องแสดงกิริยาเช่นนั้น!!"
เซี่ยวหลินหลุน หน้าแดงก่ำ ตวาดใส่เล้งซาน
"ขออภัยนายท่าน ข้าก็แค่เห็นว่ายังมิถึงเวลาต้องลงมือ ในเมื่อคนทั้งเวทีคิดว่าข้าเป็นขยะอยู่แล้ว ข้าก็เพียงเดินตามบทที่ผู้อื่นตั้งความหวังไว้ก็เท่านั้นเอง" เล้งซานกล่าวด้วยใบหน้านิ่งสงบไม่ยี่หระต่อคำว่ากล่าวของเซี่ยวหลินหลุน
"เฮ้อออ... เจ้านี่มัน" เซี่ยวหลินหลุน ถอนหายใจ พลางส่ายหน้าเล็กน้อย
"ช่างเถอะแต่ในเมื่อผ่านเข้ามารอบลึกขนาดนี้ข้าก็จะยอมตามใจเจ้า รอบถัดไปจงแสดงฝีมือให้เต็มที่ ล้างความอับอายใน สองรอบแรกซะ"
"ขอบคุณนายท่าน รอบถัดไปนี้ข้าจะมิทำให้ผิดหวัง" เล้งซาน ประสานมือ โค้งตัวเล็กน้อยอย่างนอบน้อม
"พูดถึงรอบถัดไป คนที่เจ้าจะต้องเจอในรอบแรกคือ จงเกียงฟาน เป็นบุตรชายของหัวหน้าหมู่บ้าน วายุประจิม มันนี่แหละที่เสนอค่าตัว 5,000 เหรียญทอง ต่อข้าเพื่อเป็นตัวแทนหมู่บ้านเรา เจ้าห้ามพ่ายแก่มันเด็ดขาด"
"โอ้ววว เจ้านี่เองหรือที่เป็นมิจฉาชีพในคราบนักบุญ ถ้าเช่นนั้นผู้เยาว์จะสอนมันในการประลองให้เอง ว่าแม้แต่ 5 เหรียญทองมันก็ยังมิคู่ควร!!" เล้งซานแสยะยิ้ม
"ดีมาก!! เจ้าไปพักได้ พักฟื้นร่างกายให้สมบูรณ์สำหรับวันพรุ่ง"
.......
เช้าวันประลองรอบที่สาม ผู้คนส่วนมากมิค่อยสนใจการประลองในวันแรกสักเท่าไหร่ เพราะรอบตัดสินจะอยู่ในวันที่สอง ตอนนี้มีผู้คนมากกว่าเมื่อวานถึง 3 เท่า เวทีถูกจัดไว้ในอีกสถานที่เพื่อรองรับผู้คนนับแสน ที่มาเยี่ยมชมการประลองรอบสุดท้ายนี้
ผู้ประลองทั้ง 16 คนเข้ามารายงานตัว ผู้ที่จะชนะเลิศได้นั้นจะต้องชนะติดต่อกันทั้งหมด 4 รอบ ตัวเก็งชนะเลิศย่อมมิพ้น อี้หลงหวัง
และแล้วการประลองคู่แรกก็มาถึง เล้งซาน ปะทะ จงเกียงฟาน ทันทีที่ทั้งคู่ขึ้นเวที เสียงรอบเวทีก็กระหึ่มขึ้น!!
"ฮ่าๆๆ เจ้าขยะนั่นมันกล้าขึ้นเวทีด้วย หว่ะ!!"
"รอบนี้ ไม่มี อี้หลงหวัง ช่วยหนุนดวงเจ้าแล้วนะ เจ้าสวะเอ้ย!!"
"วิ่งให้รอบเลยนะ ข้าจะเป็นกำลังใจให้เจ้าอยู่พ้น 3 ลมหายใจ ฮ่าๆๆ"
เสียงถากถางมากมายดังกระหึ่มรอบทิศทาง เล้งซานมิได้สนใจแม้แต่น้อยมันยังคงยิ้มที่ มุมปาก และมอง จงเกียงฟาน
เล้งซานประสานมือ โค้งตัวเล็กน้อย ด้วยท่านอบน้อมประจำกาย
"ท่านจงเกียงฟาน โปรดออมมือด้วย"
จงเกียงฟานหันมามอง เล้งซาน แสดงสายตารังเกียจราวกับมองขยะชิ้นหนึ่งออกมาอย่างแจ่มชัด
"นี่หรือ ตัวแทนหมู่บ้านเมฆาล่อง? หากมันยอมรับข้อเสนอของข้าแต่แรกก็มิต้องรับความอับอายเช่นนี้!!" จงเกียงฟานกล่าวพร้อมใช้หางตาเหลือบมองเล้งซาน
"เห็นแก่ท่าทีอ่อนน้อมของเจ้า ข้าจะต่อให้เจ้าสักหนึ่งกระบวนท่า เข้ามาสิเจ้าสวะ!!" จงเกียงฟาน ยื่นมือขวาออกมาด้านหน้า ตวัดปลายนิ้วเล็กน้อยเชื้อเชิญ
เล้งซานแสยะยิ้มเล็กน้อย จากนั้นร่างของมันก็หายไปจากสายตาผู้คนโดยรอบ มาโผล่ที่ด้านหน้าของ จงเกียงฟาน โคจรพลังปราณไปที่ฝ่ามืออย่างรวดเร็ว
เพี๊ยะ !!!
เสียงดังสนั่นผู้คนโดยรอบได้ยินอย่างและเห็นอย่างชัดเจน เล้งซานตบไปที่หน้าของจงเกียงฟานอย่างจัง!!
ศีรษะ ของ จงเกียจฟาน สะบัดตามแรงฝ่ามือ พาร่างของมันกระเด็นออกไปร่วม สิบก้าว!!
"โอ๊วววว ขอบคุณท่านจงเกียงฟาน ที่ต่อให้ข้าหนึ่งฝ่ามือ...."
.............................................