ตอนที่แล้วอสูรมังกรฟ้า เล้งซาน ตอนที่ 10 หลี่เย่กวน
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปอสูรมังกรฟ้า เล้งซาน ตอนที่ 12 ความลับของการปรุงยา

อสูรมังกรฟ้า เล้งซาน ตอนที่ 11 วิญญาณมังกร


ทุกคนในสวนม่านตาเบิกกว้าง ทุกคนล้วนตกตะลึง กับเงื่อนไขที่เซี่ยวหลินหลุนตั้งไว้ เงื่อนไขเช่นนี้ มิอาจนับว่าเป็นการประลองเลยแม้แต่น้อย หากเป็นสถานการณ์โดยทั่วไป ความต่างถึง 6 ขั้นลมปราณ ต่อให้เอาเงื่อนไขของ หลี่เย่กวน และ เล้งซาน มาสลับกับ ผู้มีลมปราณสูงกว่า ก็ยังนับเป็นเรื่องยาก หากมิตอบโต้อันใดเลย แต่เงื่อนไขนี้กลับเป็นผู้มีลมปราณอ่อนด้อยกว่า ที่ถูกห้ามมิให้ตอบโต้!!

"นายท่าน เงื่อนไขเช่นนี้ข้าว่ามันออกจะ..." ชุนเกียงตู้ กำลังจะเอ่ย แต่ถูกเซี่ยวหลินหลุนยกมือขึ้นเพื่อห้ามปราม

"ก็เจ้าบอกเองนี่ ว่ามันสามารถรับฝ่ามือเต็มสิบส่วนของเจ้าได้ หลี่เย่กวน ลมปราณก็อ่อนด้อยกว่าเจ้าถึง 4 ขั้น เหตุใดมันจะรับมือไม่ได้กัน ข้าแค่อยากจะรู้ว่าปราณคุ้มกันมันจะแข็งแกร่งอย่างที่เจ้าพูดหรือเปล่า หากข้าเห็นว่ามีอันตราย เจ้าคิดว่าด้วยฝีมือข้า จะหยุดเด็กตีกันมิได้เชียวหรือ?"

ชุนเกียงตู้ได้แต่พยักหน้า เหลือบมองมาทางเล้งซานเล็กน้อยอย่างจนปัญญาช่วยเหลือ มิกล้ากล่าวสิ่งใดต่อ

เล้งซานขมวดคิ้วแน่นลงต่ำ ทันที

'ตาแก่นี่เจ้าเล่ห์นัก มันต้องการให้ข้าเผยไพ่ทั้งหมดในการประลองนี้ ในระยะเวลาหนึ่งก้านธูป ด้วยลมปราณของข้าในตอนนี้ ย่อมมิอาจใช้ มังกรบรรพต ได้เต็มช่วงเวลา งั้นข้าจะทำให้เจ้าประจักษ์เอง ว่ายิ่งถูกลองดี ข้านั้นยิ่งมีดีจะอวด!!'

"เริ่ม ประลองได้!!" เซี่ยวหลินหลุน ยกมือให้สัญญาณ

"น้องเล้ง ข้าต้องขอล่วงเกินแล้ว"

"เชิญ ท่านพี่หลี่"

หลี่เย่กวน กระจายออร่าสีครามออกมาโดยรอบ รังสีของพลังที่เปล่งออกมาแม้ดูน้อยนิดในสายตาผู้ใช้ลมปราณชั้นสูง แต่เมื่อเทียบกับของเล้งซานแล้วยังนับได้ว่ามากมายกว่ากันอยู่หลายเท่า!! หลี่เย่กวนเหลือบตามองมาที่เล้งซานเล็กน้อย กลับพบว่าเล้งซานไม่มีท่าทีตั้งรับเสียด้วยซ้ำ!! มันยังยืนด้วยท่าทีกิริยาไม่ยี่หระต่อสิ่งใดโดยรอบ หลี่เย่กวนจากที่เหลือบมองมันเปลี่ยนสายตาเป็นจ้องเขม็งทันที ก่อนจะพุ่งเข้าใส่ด้วยพลังทั้งหมดที่มี เล้งซานเห็นเช่นนั้น กลับเอามือไขว้หลังทั้งสองข้างฉีกยิ้มมุมปากเล็กน้อยและเริ่มโคจรพลังในร่าง เปิดใช้วิชาตัวเบาชั้นสูง!!

'5 กระบวนตระกูลเล้ง กระบวนที่ 2 วิญญาณมังกร!!'

หลี่เย่ชวน ง้างหมัดเต็มพลังสิบส่วน ต่อยเข้าใส่ยอดอกของเล้งซานอย่างแม่นยำ หมายจบการต่อสู้ในการปะทะครั้งแรกนี้เพื่อแสดงความต่างชั้นให้เห็น

ฟุบ!!

เสียงที่ออกมากลับมิใช่เสียงที่ปะทะกับร่างกาย มันคือเสียงหมัดที่ต่อยใส่อากาศธาตุ!! ร่างของเล้งซานเลือนราง หายไปต่อหน้าต่อตา สร้างความตกตะลึงแก่ทุกคนอย่างเห็นได้ชัด เซี่ยวหลินหลุน และ ชุนเกียงตู้ เบิกตากว้าง แต่ผู้ที่ตะลึงยากจะเชื่อที่สุดแน่นอนว่ามันคือ หลี่เย่กวน!!

มันชักหมัดกลับทันทีและหันมอง ซ้ายขวาอย่างรวดเร็วแต่สิ่งที่เห็นคือ เล้งซาน ยังยืนอยู่ ในท่าเดิม และที่เดิม!! มือไขว้หลัง  มองมันโดยที่มุมปากยังคงแสยะยิ้ม หลี่เย่กวน สะบัดเท้าขวาซัดเพลงเตะ ต่อเนื่องทันที แต่ก็เหมือนเหตุการณ์เดิมหลอกหลอน ร่างของเล้งซานเลือนรางหายไปอีกครั้ง และพอชักเท้ากลับ มันกลับโผล่มาในจุดเดิม ราวกับมิได้ขยับตัวแม้แต่ครึ่งก้าว หลี่เย่กวนเบิกตากว้าง ถอยกรูดมาด้วยหลังเพื่อตั้งหลักใหม่ ในทันทีแม้แต่เซี่ยวหลินหลุน ที่มีปราณสีน้ำเงินขั้นสูงสุด ยังมิอาจอธิบายสิ่งที่เกิดขึ้นได้ชัดเจน มันเบิกตากว้างตกตะลึง และยกมือขึ้นขยี้ตาตนเองเบาๆ

'วิชาตัวเบาชั้นสูง!! เหตุใดเจ้าเด็กนี่ถึงมีวิชาตัวเบาชั้นสูงราวกับปาฏิหาริย์เช่นนี้ มันใช้ท่าทางอันรวดเร็วหลบการโจมตีของ หลี่เย่กวน จากนั้นก็กลับมายืน ณ จุดเดิมในชั่วพริบตาเดียว'

หลี่เย่กวน แม้ยังตะลึงมิหาย แต่นี่เป็นการทดสอบ เพื่อเข้าประลองที่เมือง เมฆคราม อย่างไรซะนี่เป็นโอกาสสร้างชื่อเสียงให้แก่ตัวมัน มันพลาดโอกาสเช่นนี้มิได้เช่นกัน หลี่เย่กวนกัดขบฟันแน่นและพุ่งตัวเข้าไปอีกครั้ง เพลงหมัด เพลงเตะถูกซัดใส่ เล้งซาน หลายสิบกระบวนท่า แต่ทุกกระบวนทะลุผ่านร่างของเล้งซานราวกับว่าเล้งซานเป็นเพียงวิญญาณ ที่หลอกหลอนมัน สำหรับหลี่เย่กวน ทุกครั้งที่มันออกกระบวนท่า ใบหน้าของมันก็ซีดลงเรื่อยๆ จนถึงขั้นซีดเผือดขาวราวกับไร้โลหิตหมุนเวียนบนใบหน้า มันได้ถอยกรูดออกมาอีกครั้ง ค่อยๆยกมือที่สั่นเทา ชี้ไปที่เล้งซาน

"จะ..จะ..เจ้า มิใช่มนุษย์!!" ร่างหลี่เย่กวน สั่นเทาตาทั้งสองเลิ่กขึ้นสูงอย่างชัดเจน

ทุกคน ที่เห็นภาพตรงหน้า ต่างตกตะลึง ม่านตาเบิกกว้าง ยื่นอ้าปากค้างอย่างหลงลืมตัว หลี่เย่กวน ที่มีลมปราณสีครามขั้นที่ 1 ซึ่งมากกว่าเล้งซานถึง 6 ขั้นลมปราณ มิอาจแตะต้องแม้เส้นผมของเล้งซาน ได้!!!

เล้งซาน ประสานมือ ก้มโค้งเล็กน้อย ยิ้มที่มุมปาก

"ท่านพี่หลี่ หากประลองกันเช่นนี้ กว่าจะจบ 1 ก้านธูปข้าว่ามันออกจะเสียเวลาผู้อื่นที่รับชมจนเกินไป เหตุใดเรามิตัดสินกันใน 1 กระบวนเลยเล่า ข้าเล้งซาน จะมิหลบเลี่ยงกระบวนท่าท่านแม้แต่น้อย หากข้าขยับแม้แต่ครึ่งก้าว ถือว่าข้าแพ้ แต่ถ้าหาก...ข้าโชคดี? สามารถรับกระบวนท่านได้ ข้าใคร่ขอให้ท่านยอมรับความพ่ายแพ้ด้วยความสมัครใจ"

หลี่เย่กวน รู้ตัวดีว่าด้วยวรยุทธของมันในตอนนี้ มิอาจตามท่าทางของเล้งซานได้ทัน แม้ในใจยอมรับความพ่ายแพ้ในการประลองไปกว่า 9 ส่วนแล้ว แต่มันยังคงมั่นใจว่าหากปะทะกันซึ่งหน้า มันย่อมต้องมิต้องอับอายเช่นนี้ ด้วยพลังลมปราณที่เหนือกว่าร่วม 6 ขั้น นี่นับเป็นโอกาสหนึ่งเดียวของมัน มีหรือที่มันจะปฏิเสธ

"ตกลง เตรียมรับกระบวนท่า!!"

"เพลงเตะ ป่นศิลา!! ย๊าาาา"

หลี่เย่กวน กระโดดสูงเหนือศีรษะของเล้งซาน ยกเท้าสูง และสะบัดส้นเท้าลงมาจากมุมสูงด้วยพลังเต็ม สิบส่วน นี่คือโอกาสเดียวและโอกาสสุดท้ายของมัน มันย่อมไม่ออมแรงไว้แม้แต่น้อย หลังรับกระบวนท่านี้หากเล้งซานบาดเจ็บขึ้นมา มันก็ตั้งใจจะขอโทษขอโพยในภายหลัง

แต่มันจะเป็นเยี่ยงนั้นได้อย่างไร...

เล้งซานเอี้ยวตัวเล็กน้อย ยกมือขวาขึ้นเตรียมรับเพลงเตะ กดมือซ้ายลงที่ผืนปฐพี แขนทั้งสองข้างกางเป็นเส้นตรงตั้งมุมฉาก กับผืนปฐพี..

'มังกรเคลื่อนสมุทร!!'

ตูม!

เสียงสนั่นไปทั่วบริเวณ ฝุ่นฟุ้งกระจายทั่งบริเวณ หลังจากฝุ่นจางลง ทุกคนมองมีที่ทั้งคู่ เล้งซานอยู่ในท่าเดิม โดยมือขวายกค้างอยู่ที่เท้าของ หลี่เย่กวน ส่วนผืนดินด้านล่างที่มือซ้ายเล้งซานสัมผัส เกิดรอบแตกแยกอย่างเห็นได้ชัด นิ้วทั้ง 5 ของมือซ้ายจมเข้าไปจนมิอาจมองเห็น

เมื่อเช้าเล้งซานเคยฝืนใช้กระบวนท่ามังกรเคลื่อนสมุทรรับพลังลมปราณสิบส่วนของชุนเกียงตู้ที่สูงเกินกว่า 1 ชั้นลมปราณ ทำให้เส้นลมปราณของมันบาดเจ็บเล็กน้อย แต่ครานี้นั้นต่างออกไป เนื่องเพราะความต่างเพียง 6 ขั้นพลัง เส้นลมปราณพิสดารของมันย่อมรองรับพลังระดับนี้ได้อย่างง่ายดาย ไร้อาการบาดเจ็บใด ๆ ดั่งคราแรก เล้งซานกระโดดถอยออกมาหนึ่งก้าวอย่างสง่างาม พลางประสานมือ โค้งเล็กน้อย มีรอยยิ้มมุมปากเช่นเดิม

"ขอบคุณ ท่านพี่หลี่ที่ออมมือ"

.............................................

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด