ตอนที่แล้วฟ้าส่งข้ามาเติมรัก ตอนที่21
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปฟ้าส่งข้ามาเติมรัก บทที่23

ฟ้าส่งข้ามาเติมรัก บทที่22


เมื่อได้รับจดหมายจากชุนเหมย เว่ยเหนียนเหยาจึงตัดสินใจรับหญิงสาวทั้งสี่คนไว้ทั้งหมด โดยนางให้สามีร่างสัญญาการทำงานขึ้นมาสองฉบับ ต่างฝ่ายต่างเก็บไว้คนละฉบับ เพื่อกันปัญหาที่จะเกิดขึ้นในภายหน้า

ตกเย็นทางผู้ใหญ่บ้านก็ประกาศให้ลูกบ้านทั้งหมดไปรวมตัวกัน หานตงนำภรรยาและบุตร ร่วมเดินทางไปกับครอบครัวของเซียนย้ง

ผู้ใหญ่บ้านเชิญผู้นำตระกูลทุกตระกูลออกมาเบื้องหน้า ผู้นำตระกูลแต่ละคน นำบันทึกสิ่งที่ต้องซ่อมศาลบรรพชนออกมาชี้แจงให้สมาชิกภายในตระกูลฟัง

หมู่บ้านแห่งนี้มีตระกูลหลักๆ อาศัยอยู่รวมกัน 4ตระกูล คือตระกูลเว่ย ตระกูลกุ้ย ตระกูลมู่ และตระกูลหวัง อีกทั้งมีตระกูลอื่นที่เป็นเครือญาติของแต่ละฝ่ายเข้ามาขออาศัยอีกจำนวนหนึ่ง

ดังนั้นทางผู้ใหญ่บ้านและผู้นำตระกูลรุ่นก่อน จึงตั้งกฎขึ้น ให้จัดสร้างศาลบรรพชนของทั้งสี่ตระกูลขึ้นเหมือนๆ กัน และทุกสองปีจะมีการเรี่ยไรเงินจากสมาชิกในตระกูลมาซ่อมแซมศาลบรรพชน และเปิดให้ลูกหลานได้กราบไหว้บรรพชนเพื่อขอพรให้คุ้มครองคนหมู่บ้าน

ปีนี้เป็นปีที่ครบกำหนดพอดี ทางผู้ใหญ่บ้านจึงเรียกทุกคนมาฟังรายละเอียด และกำหนดจะมีการเก็บเงินจากทุกครอบครัว ครอบครัวละสามร้อยอีแปะ ในอีกสองเดือนข้างหน้า

ชาวบ้านหลายๆ คนหน้าตาเคร่งเครียด เดินเข้าไปหาผู้นำตระกูลของตน เนื่องจากต้นปีที่ผ่านมาฝนฟ้าแห้งแล้ง ทำให้พืชผักโตไม่เต็มที่ หลายๆ บ้านประสบปัญหาขาดแคลน หากยังต้องหาเงินมาจ่ายค่าซ่อมศาลบรรพชน ครอบครัวของตนคงต้องอดตายแน่นอน

ครอบครัวของนางเว่ยหมัวหลานรีบเดินมาดักหน้าครอบครัวของหานตงไว้

"เจ้ารอง พวกเจ้าเตรียมเงินจ่ายเข้ากองกลางแล้วหรือยัง ยังมีเงินส่วนที่ต้องจ่ายค่าซ่อมศาลบรรพชนเจ้าก็ต้องรับผิดชอบเหมือนเดิมเข้าใจไหม"

นางเว่ยหมัวหลานกล่าวออกมาเสียงดัง ที่นางทำเช่นนี้ ก็เพื่อให้ท่านผู้นำตระกูลรู้ว่า หานตงเป็นคนรับผิดชอบเรื่องค่าซ่อมศาลบรรพชนของบ้านนาง

หากต้องการจะเก็บเงิน ก็ให้ไปเก็บกับครอบครัวของหานตง

"ไม่เข้าใจเจ้าค่ะท่านแม่สามี ครอบครัวของข้าจะจ่ายแค่ส่วนของตัวเองเท่านั้น ไม่รับผิดชอบจ่ายของ"ครอบครัวอื่น" เจ้าค่ะ"

หญิงสาวตอกกับแม่สามีด้วยเสียงอันดังและจัดเต็มกับคำว่าครอบครัวอื่นไปเน้นๆ ก่อนจะพาครอบครัวตัวเองเดินจากไป

"ท่านแม่ ข้าว่าเดี๋ยวนี้เจ้ารองดูแปลกๆ ไป ดูไม่เชื่อฟังท่านเหมือนแต่ก่อนนะขอรับ"

"รอให้แม่รู้ให้แน่ชัดก่อนเถอะว่าอะไรเป็นอะไร แม่ย่อมมีวิธีจัดการคนพวกนั้น"

"ข้าเคยเห็นรถม้าที่พี่รองนั่งมาครั้งสุดท้าย น่าจะเป็นรถของร้านผ้าเชิงอี้ชิงที่อยู่ในตัวเมืองขอรับท่านแม่"

"ร้านขายผ้างั้นเหรอ งั้นที่นางบอกว่า นางปักผ้าขายก็น่าจะเป็นความจริงนะสิ อาหมิงเจ้าพอจะสืบให้ละเอียดกว่านี้ได้หรือไม่"

"งั้นข้าจะลองให้เพื่อนที่อยู่ในตัวเมืองสืบเรื่องนี้ให้ขอรับ"

"แต่ข้าว่า อาตงก็แยกครอบครัวออกไปแล้ว น้ำบ่อไม่ยุ่งกับน้ำคลอง ต่างคนก็ต่างอยู่เถอะ"

"หยุดพูดไปเลยเจ้าค่ะท่านพี่ ข้าไม่ได้ต้องการความเห็นของท่าน ยังไงข้าก็เลี้ยงอาตงมาด้วยความเหนื่อยยาก เขาก็ควรตอบแทนข้าบ้าง"

ชายชรานั่งฟังอย่างนิ่งเงียบ เขานึกถึงสมัยที่ได้เงินก้อนนั้นมาเพื่อให้เลี้ยงดูอาตง แต่ภรรยากลับเอาไปบำรุงบำเรอตัวเองกับบุตรชายคนโตเสียเป็นส่วนใหญ่

นางเว่ยหมัวหลานคิดว่าเมื่อเงินหมดค่อยส่งข่าวไปขอมารดามาใหม่ก็ได้ ใครจะคิดว่าไม่กี่เดือนมารดาของนางกับตายจากไป

ภรรยาเขาถึงกับคิดจะเอาอาตงไปขาย จนเขาต้องอ้างถึงกฎของตระกูลเพื่อปรามนางเอาไว้

เมื่อไม่สามารถขายเด็กออกไปได้ นางจึงเลี้ยงอาตงแบบขอไปที สถานะของอาตงในบ้านจึงเหมือนที่รองมือรองเท้าของนางกับบุตรชายซะมากกว่า

ที่เขาต้องทำเป็นเฉยชา เพราะหากเขาทำท่าทางใส่ใจอาตงมากจนเกินไป นางเว่ยหมัวหลานจะยิ่งหาทางกลั่นแกล้งและทำร้ายอาตงมากขึ้นไปอีกเป็นเท่าตัว

ตอนที่นางเว่ยหมัวหลานบอกว่า ต้องการตัดขาดจากครอบครัวของอาตงเมื่อหลายปีก่อน ตัวเขาดีใจมากรีบไปจัดการเรื่องนี้ทันที

หวังให้อาตงได้ไปมีชีวิตที่ดีขึ้น ไม่คาดว่ากับทำให้อาตงลำบากกว่าเดิมเสียด้วยซ้ำ

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด