ตอนที่ 38 ห่อมาให้หมดเลย
เย่เทียนพยักหน้าและชี้ไปที่จ้าวเถี่ยจู้ “เธอคือน้องสาวของฉัน”
เหล่าซูพูดอย่างรวดเร็ว “พี่สาว”
จ้าวเถี่ยจู้ “...”
“เข้าไปในร้านกันเถอะ”
ทั้งสามคนเดินเข้าร้านหลุยส์วิตตอง
โดยไม่ต้องรอคำสั่งจากเหล่าซู เหล่าพนักงานอันชาญฉลาดได้เดินเข้ามารายล้อมโดยล้อมจ้าวเถี่ยจู้เป็นวงสามชั้น ในขณะที่นำเสื้อผ้าและเครื่องประดับทุกชนิดออกมาแต่งตัวให้เธอ เหล่าพนักงานก็พูดเป็นตดสีรุ้ง “คุณจ้าวหุ่นดีจริงๆ ถึงหน้าจะเปื้อนฝุ่นแต่ก็ซ่อนความสวยไม่ได้เลย”
“คุณจ้าวใช้น้ำหอมแบบไหนเหรอคะ? กลิ่นมัน เอ่อ กลิ่นเป็นเอกลักษณ์มาก...”
เย่เทียนเกือบหัวเราะออกมา พวกเธอได้กลิ่นเหงื่อแต่กลับพูดถึงน้ำหอม พวกเธอยอคนเก่งจริงๆ!
แต่ฉันชอบ!
พวกเธอต่างเป็นคนทำงานหนักเพื่อชีวิต!
ตอนนี้มีชายหัวล้านพุงโตที่เหมือนเถ้าแก่เดินเข้ามาพร้อมกับสาววัยยี่สิบต้นๆ ทันทีที่เดินเข้ามาเขาก็ตะโกนขึ้น “คนไปไหนหมด ออกมารับแขกหน่อยสิ!”
“สวัสดีครับเจ้านาย”
พนักงานหนุ่มรีบเดินเข้ามาต้อนรับ “ต้องการอะไรครับ”
ชายหัวล้านพูดด้วยเสียงดัง “ขึ้นอยู่กับของในร้านนั่นแหละ ไม่เอาขยะราคา30,000-50,000นะ พอดีฉันไม่ค่อยชินกับพวกของราคาถูก เอาของที่ดีที่สุดในร้านมาเลยดีกว่า จำไว้ด้วยนะว่าไม่เอาของราคาต่ำกว่า 100,000 เพราะฉันไม่ใส่พวกมัน”
“สามี คุณใจดีมากเลย!” เธอพูดด้วยเสียงหยาดเยิ้ม “รักนะคะ ม๊วฟฟ~”
ชายหัวล้านหัวเราะ เมื่อเขาหันไปรอบๆเขาก็ได้กลิ่นเหม็นฉุน เขาอดไม่ได้ที่จะเอามือปิดจมูกแล้วด่าออกมา “เชี่ย กลิ่นอะไรวะเนี่ย? มีคนขี้แตกใส่กางเกงหรือไง?”
จ้าวเถี่ยจู้ก้มหน้าด้วยความอับอาย ฉันควรอาบน้ำก่อน...แล้วค่อยมาซื้อเสื้อผ้า
เย่เทียนเหลือบชายหัวล้านและพูดอย่างใจเย็น “ปิดร้านซะเหล่าซู ฉันไม่ชอบให้คนอื่นมารบกวนตอนซื้อของ”
“ได้ครับ” เหล่าซูขอโทษชายหัวล้าน “ขออภัยด้วยครับเจ้านาย วันนี้ร้านของเราปิดแล้วกรุณาย้ายไปร้านอื่น เพื่อชดเชยความเสียหายที่เกิดขึ้น ผมขอมอบน้ำหอมSPขวดนี้ที่มีมูลค่า 16,000 ให้คุณผู้หญิงของคุณ...”
ชายหัวล้านฟังแล้วไม่พอใจ “นายหมายความว่ายังไง! เปิดประตูทำธุรกิจแล้วแต่ไล่ลูกค้าออกไปเนี่ยนะ? กลัวว่าฉันไม่มีปัญญาจ่ายหรือไง?”
“ไม่ใช่ครับๆ ผมไม่ได้หมายความว่าแบบนั้น...”
“หลบไป”
ชายหัวล้านอารมณ์เสีย เขาผลักเหล่าซูออกไปและเดินมาทางเย่เทียน “ปิดร้าน? คนหนุ่มสมัยนี้คิดว่าตัวเองยิ่งใหญ่นักหรือไง? นายมีปัญหาอะไรกับฉันหรือเปล่า?”
เย่เทียนขมวดคิ้ว เขาขี้เกียจเกินกว่าจะสนใจพวกนักเลงท้องถิ่นที่กินกระเทียมแล้วไม่แปรงฟัน เขาหันไปคุยกับเหล่าซู “ก่อนอื่นช่วยเปลี่ยนชุดสะอาดๆให้เถี่ยจู้ก่อน ส่วนสินค้าทั้งหมดในร้านก็ห่อแล้วส่งบิลให้ฉันได้เลย ครั้งต่อไปถ้ามีสินค้าใหม่ให้ส่งไปที่วิลล่าของฉัน ฉันจะให้อากวงจ่ายเงินให้คุณ”
“ได้ครับ ได้!” เหล่าซูรีบหันไปขอโทษชายหัวล้าน “ขอโทษนะครับเจ้านาย...สุภาพบุรุษท่านนี้ได้ซื้อของทั้งหมดในร้านแล้ว”
ชายหัวล้าน “???”
คนในไห่จิงเล่นกันขนาดนี้เลยเหรอ? เหมายกร้านเนี่ยนะ?
แล้วทั้งหมดมันราคาเท่าไหร่กัน?
มันน่าจะเกินสิบล้าน!
ไก่งามเพราะขน คนงามเพราะแต่ง ประโยคใช้ได้ดีจริงๆ
หลังจากล้างหน้าแล้ว จ้าวเถี่ยจู้ที่สวมเสื้อผ้าใหม่ก็ให้ความรู้สึกสดใสแก่ผู้คนทันที แม้จะไม่สวยเท่าจื่อฉีแต่ก็เป็นความสวยระดับที่หาได้ยาก
สาวงามยืนอยู่หน้ากระจกที่สูงจากพื้นถึงเพดาน จ้าวจื่อฉีถึงกับตะลึง“ว้าว คนนี้ใครเนี่ย?”
เย่เทียนยิ้มและชี้ไปที่กระจกตั้งพื้น “ห่อกระจกนี้ไปให้ด้วย”
“ได้ครับ” เหล่าซูยิ้มกว้างกับรายได้ครั้งนี้ หลังจากการซื้อขายครั้งนี้เสร็จสิ้น เขาจะมีกำไรมากพอที่จะกินปลากับเนื้อไปได้สามปี!
หันหลังแล้วเดินออกไป!
กลับมาที่ร้านแห่งแรกที่ไล่จ้าวเถี่ยจู้ออกไป
เย่เทียนพาจ้าวเถี่ยจู้ที่ไม่เต็มใจเดินเข้ามาอีกครั้ง
“ยินดีต้อนรับค่ะ!” พนักงานสามหลายคนตะโกน
เย่เทียนชี้ไปที่จ้าวเถี่ยจู้ “คุณจำเธอได้ไหม?”
พนักงานหันมองหน้ากัน ทุกคนต่างบอกว่าไม่เคยเห็นเธอ
พวกเธอต้องรับผิดชอบต่อแขกหลายร้อยคนทุกวัน แต่พวกเธอแทบไม่เห็นใครสวยไปกว่าผู้หญิงคนนี้เลย
อืม...
ไม่คุ้นหน้าเธอเลยแฮะ
แต่กลิ่นนี้มันคุ้นๆอยู่นะ
พนักงานสาวคนหนึ่งลูบปลายจมูกของเธอและไปกระซิบกับเพื่อนร่วมงาน “นั่นมันกรรมกรคนนั้นไม่ใช่เหรอ...”
เย่เทียน “พวกเธอขายของแล้วได้ค่าคอมมิชชันอยู่ที่เท่าไร? 15% หรือ 20%?”
“20%...” มีคนหนึ่งตอบ
เย่เทียนพูดด้วยท่าทางสงสาร “น่าเสียดาย ถ้าวันนี้พวกเธอบริการน้องสาวของฉันได้ดี ทุกคนคงได้รับค่าคอมมิชชั่นหลักแสนแล้ว น่าเสียดายที่พวกเธอไล่เธอออกไป ฉันเลยต้องไปเหมาของจากร้านหลุยส์วิตตองที่อยู่ข้างๆ”
เย่เทียนถอนหายใจ เขายิ้มแล้วจับมือเล็กๆของจ้าวเถี่ยจู้ “ไปกันเถอะ กลับบ้านกัน”
“อื้ม...” เมื่อทั้งสองคนออกไป พนักงานขายต่างพากันอึ้ง
ไอ้พวกประสาทแด*สองคนนี้มากจากไหน?
เหมาร้านหลุยส์วิตตองที่อยู่ข้างๆ?
ของทั้งร้านนั้นมีราคามากกว่าสิบล้าน!!
คิดว่าตัวเองเป็นลูกของแจ็คหม่าหรือไง?
พนักงานคิดว่าเย่เทียนเป็นพวกคุยโวจึงไม่ได้เก็บไปใส่ใจ ในเวลานั้นเองชายหัวล้านได้พาแฟนสาวของเขาเข้ามาในร้าน หน้าของชายหัวล้านบิดเบี้บวไปมา “ให้ตายเถอะ ไม่คิดเลยว่าในไห่จิงจะมีคนแบบนั้นด้วย ฉันคิดว่ามีเงินหลายสิบล้านมันน่าประทับใจมากแล้ว แต่ใครจะไปคิดว่าฉันต้องเสียเงินครึ่งชีวิตเพื่อซื้อเสื้อผ้าให้ได้แบบนั้น”
“สามี อย่าพูดอย่างนั้นเลย คุณเองก็เก่งเหมือนกัน ฉันชอบกระเป๋าประดับเพรชราคา 560,000 ใบนั้น คุณซื้อให้ฉันหน่อยได้ไหม?”
“560,000! ไอ้เชี่ย! นั่นแพงเกินไป ซื้อใบล่ะ150,000ไม่ได้เหรอ?”
“ทำไมขี้เหนียวจัง ซื้อของในร้านให้แฟนทั้งทีแต่แค่ 560,000 ยังไม่ยอมจ่าย...”
“อย่าเอาฉันไปเทียบกับผู้ชายนั้น!”
ชายหัวล้านถึงกับพูดไม่ออก สุดท้ายเขาก็ยอมเจ็บตัวแล้วซื้อกระเป๋าประดับด้วยเพชรราคา 560,000 ให้เธอ หลังจากถามเรื่องร้านหลุยส์วิตตองในตอนจ่ายเงิน ใบหน้าของพนักงานก็เปลี่ยนเป็นดุเดือด
ที่ผู้ชายคนนั้นพูดเป็นเรื่องจริง
ฉันเสียค่าคอมมิชชั่นหลายแสนโดยไม่ได้ตั้งใจ
“ฮือ!!!”
“ฮือออ!!!”
หญิงสาวหลายคนที่ทนผลกระทบต่อจิตใจไม่ได้ก็เริ่มร้องไห้ออกมา
เงินหลายแสน!
แก้ปัญหาได้ตั้งหลายอย่าง!
ทำไมถึงต้องชอบดูถูกคนอื่นด้วย?
ทำไม?!
อ่าวอิมพีเรียล
“ยินดีต้อนรับกลับบ้านครับคุณเย่เทียน”
ประตูเปิดออกช้าๆ ภายใต้สายตาของเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย เย่เทียนขับรถลัมโบกินีของเหลียงกวนกลับบ้าน
ตอนนี้เป็นเวลาหกโมงกว่าแล้ว
พ่อกับแม่กำลังทำอาหารอยู่ในครัว พวกเขาดีใจมากที่เห็นลูกชายพาสาวสวยกลับมาบ้าน
“เถี่ยจู้ นี่พ่อแม่ของฉัน พ่อแม่นี่คือจ้าวเถี่ยจู้” เย่เทียนแนะนำ
“เอ่อ สาวสวยคนนี้ชื่อเถี่ยจู้...จริงสิ...ฮ่าฮ่า มานั่งสิเถี่ยจู้” การแสดงออกของแม่ค่อนข้างดี
“สวัสดีค่ะ คุณลุงคุณป้า” จ้าวเถี่ยซูยิ้มอย่างเขินอาย
“ไปอาบน้ำก่อน แล้วค่อยมากินข้าวกัน —— เธอหิวหรือยัง?” เย่เทียนเห็นว่าจ้าวเถี่ยจู้กำลังลูบท้องเธออยู่
จ้าวเถี่ยจู้พูดด้วยความอาย “นิดหน่อย...”
“อากวง!”
“ครับ คุณเย่”
“พาจ้าวเถี่ยจู้ขึ้นไปอาบน้ำ”
“ได้ครับ”
อากวงยิ้มอย่างสบายๆ “เชิญทางนี้ครับคุณเถี่ยจู้”