ตอนที่ 22 เจ้าของคนใหม่
ตอนที่ 22 เจ้าของคนใหม่
ติดตามข่าวสาร/พูดคุยเสนอแนะความคิดเห็นได้ที่เพจผู้แปล FB: ND Translate นิยายแปลไทย
“เกิดอะไรขึ้นกันหัวหน้าอัลเลน?”
“หัวหน้าจะให้เด็กเป็นเจ้าของคฤหาสน์อย่างงั้นเหรอ? นี่หัวหน้ากำลังล้อเล่นอยู่สินะ?”
นักรบระดับเหล็กกว่าหลายสิบคนมองมายังอัลเลนด้วยสายตาอันแปลกประหลาด
อัลเลนเป็นคนที่รู้จักกันดีในคฤหาสน์ เป็นเพราะเขาคือนักรบระดับทองแดงที่เต็มไปด้วยความภาคภูมิใจและไม่เคยยอมจำนนกับใครมาก่อน แม้จะต้องเผชิญหน้ากับไมล์ตัวเขาก็ไม่เคยจะต้องคุกเข่า สิ่งที่อัลเลนทำมีเพียงการยอมโค้งคำนับเท่านั้น
แต่เมื่ออยู่ต่อหน้าวัตสัน เด็กชายอายุสิบปีนั้นต่างออกไป อัลเลนยอมคุกเข่าแต่โดยดี นอกเหนือจากนั้นวัตสันยังเป็นผู้สังหารไมล์ เจ้าของคฤหาสน์คนเก่าและยังเป็นศัตรูของทุกคนมาก่อน แม้ว่าจะไม่มีใครโกรธเกลียดประณามวัตสัน แต่อย่างน้อยๆ ก็ไม่ควรที่จะมีใครยอมจำนนแบบนี้
คนงานทั้งหลายได้แต่พูดคุยแลกเปลี่ยนความเห็นกัน แน่นอนว่าสิงโตที่อยู่บนไหล่ของวัตสันก็ยังถูกพูดถึงอีกด้วย
“สิงโตทองคำนั่นมาจากไหนกัน? เป็นไปได้ไหมที่นั่นจะเป็นสิงโตที่สิงโตเกรี้ยวกราดให้กำเนิดขึ้น? แต่สิงโตเกรี้ยวกราดมีสีแดงไม่ใช่เหรอไงกัน? มันเป็นสิงโตกลายพันธุ์อย่างงั้นเหรอ?” คนงานคนหนึ่งถามออกมาด้วยความสับสนในขณะที่รักษาบาดแผลที่ขาของตัวเอง
“สิงโตนั่นดูน่ารักดีนะ” ดวงตาของคนงานสาวดูเป็นประกาย
ทุกคนไม่ได้รู้สึกโกรธเกลียดอะไรวัตสันมากขนาดนั้น แม้ว่าวัตสันจะทำร้ายทุกคนก็จริง แต่มันเป็นเพราะทุกคนทำตามคำสั่งของไมล์ที่ให้เริ่มโจมตีก่อนเอง ในฐานะเกษตรกรธรรมดามันดีมากแค่ไหนแล้วที่พวกเขาจะอยู่รอดในโลกใบนี้ได้ ทุกคนไม่กล้าที่จะโทษใคร แน่นอนว่าไม่มีใครยอมเป็นศัตรูกับผู้มีพลังนักรบระดับเงิน มีเพียงคนที่อยากฆ่าตัวตายเท่านั้นที่จะคิดทำอะไรแบบนั้น
เมื่อได้ฟังบทสนทนาของผู้คนรอบตัว อัลเลนก็อดไม่ได้ที่จะส่ายหัว ทุกคนช่างไม่รู้อะไร ถ้าหากทุกคนรู้ว่าสัตว์วิเศษที่อยู่บนไหล่ของวัตสันเป็นสัตว์วิเศษระดับทองคำ อัลเลนสงสัยว่าทุกคนจะยังตื่นเต้นหรือจะเลือกคุกเข่าด้วยความกลัวแทน
“แน่ใจแล้วหรอครับที่จะให้ผมอยู่?” วัตสันมีสีหน้าที่แปลกไป
ความตั้งใจเดิมที่วัตสันมีมีเพียงการยึดทรัพย์สินทั้งหมดและขายคฤหาสน์เท่านั้น ถ้าหากทำแบบนั้นตัวเขาก็จะไม่มีภาระอะไร
“ผมแน่ใจ!” อัลเลนรีบพยักหน้า “มันไม่สำคัญเลยที่คนอื่นจะคิดยังไง ผมจะยืนเคียงข้างคุณเอง! สัตว์วิเศษที่ถูกจับมาได้ต่างก็เป็นสัตว์ที่อยู่ในป่าหมอก ผมคุ้นเคยกับป่าที่นั่นดี ผมสามารถจับสัตว์วิเศษได้อย่างน้อยสิบตัวในทุกเดือน นายท่านไม่จำเป็นที่จะต้องให้เงินค่าจ้าง แค่นายท่านแบ่งไข่ของไก่หอมหวนห้าสีและรายได้จากสัตว์วิเศษที่ผ่านการหลอมรวมก็พอ”
ไข่ของไก่หอมหวนห้าสี!
“ถูกต้อง พวกเราลืมเรื่องนี้ไปได้ยังไงกัน?”
เมื่อเหล่าผู้คุ้มกันได้ฟังแบบนั้นความคิดของทุกคนก็เปลี่ยนไป ทุกคนเกือบจะลืมไปแล้วว่าวัตสันมีไก่หอมหวนห้าสีอยู่ ในตอนนี้ทุกคนเข้าใจสิ่งที่อัลเลนต้องการจนต้องยอมจำนนแล้ว ถ้าหากได้กินไข่ของไก่หอมหวนห้าสีไปได้ตลอด ก็มีโอกาสสูงที่อัลเลนจะกลายเป็นนักรบระดับเงินได้ ไม่มีอะไรสำคัญไปกว่าการเพิ่มความแข็งแกร่งของตัวเอง
ทุกคนไม่ได้สนใจเรื่องการหลอมรวมสัตว์วิเศษมากนัก
“เอาล่ะ ผมจะกลายเป็นเจ้าของคนใหม่เอง! แล้วไมล์ให้ค่าจ้างคุณอัลเลนเท่าไหร่ล่ะ?”
วัตสันครุ่นคิดอยู่ชั่วครู่ก่อนที่จะตัดสินใจไป ข้อตกลงที่อัลเลนเสนอถือเป็นทางออกที่ดี ตราบใดที่อัลเลนจับสัตว์วิเศษมาได้ ตัวเขาก็จะสามารถฟิวชั่นมันเพื่อขายได้อย่างต่อเนื่อง วัตสันไม่จำเป็นที่จะต้องฟิวชั่นคิเมร่าทองคำออกมาตลอด ตราบใดที่ขายไลเกอร์เพชฌฆาตสัตว์วิเศษระดับทองแดงได้มันก็คุ้มค่ามากพอแล้ว นอกจากนี้ครอบครัวของเขายังมีฟาร์มไก่อยู่ มันเป็นฟาร์มที่ไม่มีคนดูแลอยู่พอดี
“นายท่าน! เงินเดือนของผมก็คือหนึ่งเหรียญทองต่อเดือน ส่วนผู้คุ้มกันคนหนึ่งได้ยี่สิบเหรียญเงินต่อเดือน และคนงานทั้งหลายได้เหรียญเงินสิบเหรียญต่อเดือน!”
เมื่อได้ยินคำตอบของอัลเลน วัตสันก็พยักหน้า ไมล์เองก็ไม่ใช่คนใจแคบไปซะทีเดียว
แม้ว่าไมล์จะเป็นคนขี้งกแค่ไหน แต่ถ้าหากไม่มีค่าจ้างที่สูงมากพอก็คงจะไม่มีใครยอมทำงานที่นี่แน่
“จากนี้ค่าจ้างของทุกคนจะเพิ่มขึ้นสิบเท่า! ขอให้ผู้ที่ต้องการอยู่ต่อก้าวออกมาด้านหน้าซะ ส่วนผู้ที่ไม่ต้องการอยู่ผมจะไม่บังคับอะไร” วัตสันโบกมือเล็กๆ
สิบเท่า!
ดวงตาของทุกคนที่อยู่ที่นั่นเปลี่ยนเป็นสีแดง แม้ว่าจะไม่ได้ไข่ของไก่หอมหวนห้าสีก็ตาม แต่เงินค่าจ้างที่เพิ่มขึ้นสิบเท่าก็มากพอแล้วที่จะทำให้ทุกคนอยู่ดีกินดี
ไม่มีใครถอยกลับไป ทุกคนต่างก็ก้าวมาที่ด้านหน้า
“ผมจะแจกจ่ายค่าจ้างให้กับทุกคนล่วงหน้า คุณอัลเลนช่วยแจกเงินบนพื้นให้กับทุกคนทีครับ ถ้าหากมีผู้ได้รับบาดเจ็บก็หาสมุนไพรช่วยเหลือทุกคนด้วย” วัตสันชี้ไปยังเหรียญทองที่อยู่บนพื้น “นอกจากนี้ผมอยากให้ใครสักคนช่วยเหลือพี่ๆ ของผม”
วันนี้จะเป็นวันที่เปลี่ยนแปลงประวัติศาสตร์ทุกอย่างในคฤหาสน์ไมล์
การกระทำของอัลเลนเด็ดขาด ไม่นานหนักเขาก็แจกจ่ายเงินทั้งหมดได้ คนงานทั้งหลายต่างก็ถือเหรียญเงินเอาไว้ในมือ ส่วนผู้คุ้มกันเองก็ถือเหรียญทองด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้ม
ในตอนนี้การที่ไมล์ตายได้กลายเป็นเรื่องดีไปซะแล้ว
บางคนอดไม่ได้ที่จะคิดแบบนั้น ทุกคนต่างก็คิดว่าไมล์สมควรแล้วที่จะต้องตาย ทุกคนไม่เคยเห็นทรัพย์สินของไมล์เลยแม้จะทำงานมาอย่างเนิ่นนาน แม้ว่าทุกคนจะสงสัยว่าวัตสันจะเป็นคนอันตราย แต่เมื่อได้รับทรัพย์สินทั้งหมดแล้วทุกคนก็เริ่มเปลี่ยนความคิดนั้น
...
ในขณะที่ทั้งคฤหาสน์กำลังกลับมาเริ่มเฉลิมฉลองอีกครั้ง วัตสันได้มายืนอยู่ที่ทางเข้าคุกใต้ดิน ตัวเขามองดูอัลเลนที่กำลังเดินเข้าไป อัลเลนเป็นผู้รับหน้าที่พาซีคและซีโน่ออกมา
เมื่อเห็นพี่ชายทั้งสองวัตสันก็เริ่มรู้สึกถึงกลิ่นที่เหม็นเน่า
ซีคและซีโน่อยู่ที่นี่เกือบสามวันแล้ว ร่างกายของพวกเขาเต็มไปด้วยบาดแผลและเสื้อผ้าที่ขาด ใบหน้าของทั้งสองคนเต็มไปด้วยฝุ่น ทั้งคู่ดูไม่ต่างอะไรจากคนเหมือง ทั้งคู่หายใจอย่างอ่อนแรงก่อนที่จะลุกขึ้นยืน
วัตสันยังคงกังวลอยู่เสมอว่าตัวเขาได้ทำเกินไปไหม แต่เมื่อเห็นสภาพของผู้เป็นพี่ชาย วัตสันก็คิดว่าตัวเองทำถูกแล้ว
“พาพวกเขาออกมาแล้วครับ” อัลเลนเหลือบมองทั้งสองคนก่อนที่จะก้มหน้าลง ซีคและซีโน่ถูกทรมานมากว่าหลายวัน เมื่อเหลือบมองทั้งสองคนอัลเลนก็รู้สึกผิดอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
“พี่ครับ ผมขอโทษนะครับที่มาช้า”
วัตสันก้าวไปที่ด้านหน้าก่อนที่จะสวมกอดพี่ชายทั้งสองคน
“นายเป็นใครกัน?”
“ใช่ พวกเราไม่รู้จักนาย พาพวกเราออกไปเร็วเข้า” ซีคพูด
วัตสันตกตะลึง เป็นไปได้ไหมว่าซีคและซีโน่จะสูญเสียความทรงจำหลังจากที่ถูกทรมาน?
ความเกลียดชังที่วัตสันมีต่อไมล์เพิ่มขึ้นหลายเท่า แต่ในตอนนั้นเองซีคและซีโน่ก็ได้ขยิบตาให้กับวัตสันซะก่อน
ซีคหันไปหาอัลเลน “พวกเราไม่รู้จักกับเด็กนี่ ถ้าหากต้องการจะจับพวกเราก็อย่าทำร้ายผู้บริสุทธิ์เลย”
อัลเลนนึกขึ้นได้ ตัวเขารู้แล้วว่าซีคและซีโน่จำวัตสันได้ ทั้งคู่ก็แค่พยายามตีตัวออกห่างจากวัตสันให้ได้มากที่สุด
“หยุดได้แล้ว ผมรู้ว่าพวกคุณเป็นพี่ชายของนายท่านวัตสัน! นายท่านได้จัดการไมล์ไปแล้ว”
ไมล์ตายแล้ว?
นี่คงไม่ใช่กับดักสินะ?
“ศพของเขาอยู่ตรงนั้น” อัลเลนชี้ไปที่ด้านข้าง ซีคและซีโน่มองดูร่างอันอวบอ้วนที่คุ้นเคย หน้าอกของเขาถูกแทงด้วยของมีคมอะไรบางอย่าง ทั้งคู่ทั้งประหลาดใจและมีความสุข
“ตายจริงๆ สินะ! ไอ้สารเลวนั่น!”
ทั้งสองคนวิ่งไปที่ร่างอันไร้วิญญาณของไมล์ก่อนที่จะเตะอย่างต่อเนื่อง จากนั้นทั้งคู่ก็เหลือบมองดูวัตสันอย่างระมัดระวัง “วัตสัน นายมาคนเดียวอย่างงั้นสินะ? นายบาดเจ็บรึเปล่า?”
เห็นได้ชัดว่าผู้เป็นพี่ทั้งสองกำลังห่วงวัตสันทั้งๆ ที่ตัวเองบาดเจ็บสาหัส วัตสันรู้สึกอบอุ่นที่ได้ช่วยเหลือทั้งสองคน “ผมสบายดี ทั้งสองคนพักผ่อนที่นี่ก่อน ไว้วันพรุ่งนี้เราจะกลับบ้านกัน!”
ทั้งคู่ไม่พร้อมที่จะเดินทางกลับ วัตสันจึงตัดสินใจพักผ่อนที่นี่ก่อน “คุณอัลเลน ไปเอาสมุนไพรทั้งหมดในคฤหาสน์มาที”
“ครับ นายท่าน” อัลเลนโค้งคำนับก่อนจะจากไปทิ้งให้ซีคและซีโน่มองกันอย่างประหลาดใจ
นายท่าน...?
เกิดอะไรขึ้นในช่วงเวลาที่ทั้งคู่ถูกขังกันแน่?
“พี่ครับ ตอนนี้ผมเป็นเจ้าของฟาร์มที่นี่แล้วนะครับ” วัตสันพูดออกมาแบบเรียบง่ายเมื่อเห็นสองพี่น้องกำลังสับสน คำพูดของวัตสันทำให้ทั้งคู่ตกใจจนอ้าปากค้าง
ติดตามข่าวสาร/พูดคุยเสนอแนะความคิดเห็นได้ที่เพจผู้แปล FB: ND Translate นิยายแปลไทย