ตอนที่ 21 สิงโตและเสือ
ตอนที่ 21 สิงโตและเสือ
ติดตามข่าวสาร/พูดคุยเสนอแนะความคิดเห็นได้ที่เพจผู้แปล FB: ND Translate นิยายแปลไทย
[สัตว์วิเศษระดับทองแดง: ไลเกอร์เพชฌฆาต]
[ความสามารถ: เป็นสัตว์ที่มีพลังของสิงโตเกรี้ยวกราดและเสือเกราะศิลา ที่หัวของไลเกอร์เพชฌฆาตสามารถปลดปล่อยเวทไฟระดับทองแดงได้ นอกจากนี้ที่หัวเสือเกราะศิลายังสามารถใช้เวทกระสุนดินระดับทองแดงได้]
ข้อมูลของไลเกอร์เพชฌฆาตปรากฏอยู่ในสายตาของวัตสัน
หลังจากที่เกิดการฟิวชั่น สัตว์วิเศษที่เคยคำรามก็เงียบหายไป ไลเกอร์ได้ก้มหัวทั้งสองข้างก่อนที่จะเดินมาหาวัตสัน ร่างอันใหญ่ยักษ์ของมันหมอบต่ำลง ท่าทีของไลเกอร์เปลี่ยนไปเชื่อฟังวัตสัน
“มันกำลังเชื่อฟัง...”
หลังจากที่เอามือลูบหัวไลเกอร์ วัตสันก็หันกลับมาถาม “คุณอัลเลน แล้วสัตว์วิเศษระดับทองแดงขายได้เท่าไหร่?”
อัลเลนกลืนน้ำลายก่อนที่จะรวบรวมสติ “สัตว์วิเศษระดับทองแดงมีค่าสิบเหรียญทองครับ! ถ้าหากมันแข็งแกร่งเป็นพิเศษ บางทีอาจจะขายได้หลายสิบเหรียญทอง”
เป็นธรรมดาที่ของหายากจะยิ่งมีค่า
สัตว์วิเศษระดับเหล็กสามารถขายเป็นเหรียญเงินเท่านั้น ในขณะที่สัตว์วิเศษระดับทองแดงมีค่ากว่านั้นกว่าหลายสิบเท่า
“แล้วสัตว์อสูรระดับทองคำล่ะ?”
ระดับทองคำ?
อัลเลนตกตะลึงไปชั่วครู่ ในบรรดาสัตว์วิเศษทั้งหลายย่อมมีสัตว์ที่แข็งแกร่งเกินกว่าสัตว์ทั่วๆ ไป และสัตว์ที่แข็งแกร่งมากจะกลายเป็นสัตว์วิเศษระดับทองคำไป แม้แต่อัลเลนเองก็ไม่เคยเห็นสัตว์วิเศษระดับเงินมาก่อน แน่นอนว่าสัตว์วิเศษระดับทองคำตัวเขาก็ไม่เคยเห็นเช่นกัน
นั่นเป็นเหตุผลที่ทำให้ไมล์ต้องการที่จะไขว่คว้าหาไก่หอมหวนห้าสี ไก่หอมหวนห้าสีถือเป็นสัตว์วิเศษระดับทองคำที่อ่อนแอที่สุดแล้ว ความแข็งแกร่งของมันแข็งแกร่งพอๆ กับสัตว์วิเศษระดับทองแดงเท่านั้น
“ถ้าหากเป็นสัตว์วิเศษระดับทองคำ มันคงจะมีค่าอย่างน้อยๆ ก็แสนเหรียญทอง มันแพงมากจนไม่มีใครคิดที่จะตามหามัน” อัลเลนที่ครุ่นคิดอยู่พักหนึ่งตอบกลับไป
สัตว์วิเศษเป็นสัตว์ที่มีอายุยืนยาว ถ้าหากไม่ตายจากการต่อสู้มันจะมีชีวิตอยู่ยืนยาวได้เป็นร้อยๆ ปี สัตว์วิเศษระดับทองอาจจะเป็นสัตว์ผู้พิทักษ์ของเหล่าขุนนางผู้ยิ่งใหญ่ คงจะไม่มีใครคิดที่จะขายสัตว์วิเศษล้ำค่าแบบนั้นแน่
อัลเลนอดไม่ได้ที่จะกัดริมฝีปากของตัวเอง ตัวเขาไม่รู้เลยว่าทำไมวัตสันถึงได้ถามคำถามแบบนั้น เป็นไปได้ไหมว่าวัตสันจะใช้เวทมนตร์อันแปลกประหลาดในก่อนหน้านี้เพื่อสร้างสัตว์วิเศษระดับทองคำได้?
แม้ว่าอัลเลนจะไม่เข้าใจวิธีการหลอมรวมสิงโตเกรี้ยวกราดและเสื้อเกราะศิลาของวัตสัน แต่ทุกอย่างย่อมมีขีดจำกัด ถ้าหากไม่มีขีดจำกัดจริงวัตสันก็คงจะอยู่ยงคงกระพันแน่
วัตสันไม่รู้เลยว่าอัลเลนกำลังคิดอะไรอยู่ วัตสันมองไปรอบๆ ที่เพาะพันธุ์แห่งนี้มีสิงโตเกรี้ยวกราดและเสือเกราะศิลากว่าสามร้อยตัว มีเพียงครึ่งเดียวเท่านั้นที่เป็นสัตว์โตเต็มวัย แม้ว่าจะเพิ่มมูลค่าของสัตว์วิเศษที่มีจนขายได้ตัวละหนึ่งเหรียญทอง ถ้าหากทำแบบนั้นวัตสันจะได้เงินเพียงแค่สามร้อยเหรียญเท่านั้น ในตอนนี้วัตสันยังไม่รีบร้อนที่จะใช้เงิน นอกจากนี้ตัวเขาก็ยังมีไข่หลากสีอีกกว่าแปดร้อยฟอง
สิ่งที่ครอบครัวของเขาต้องการก็คือความแข็งแกร่ง ความแข็งแกร่งที่จะช่วยให้ปกป้องตัวเองและครอบครัวได้
[ฟิวชั่นสัตว์วิเศษทั้งหมดให้ฉัน]
ถ้าหากฟิวชั่นสัตว์วิเศษระดับเหล็กกว่าสามร้อยตัวบางทีอาจจะได้สัตว์วิเศษระดับทองคำ
[ยินดีด้วย! ฟิวชั่นสำเร็จ ได้รับสัตว์วิเศษระดับทองคำ: คิเมร่าทองคำสามหัว]
สิ้นสุดการสั่งการของวัตสัน สัตว์วิเศษทั้งหมดที่มีต่างก็ส่องแสงก่อนที่จะหลอมรวมกับไลเกอร์เพชฌฆาต การหลอมรวมกันกำเนิดสัตว์ร้ายตัวใหม่ เป็นสัตว์ร้ายที่เห็นมีความสูงเกือบสิบเมตรและมีความยาวถึงห้าเมตร
สัตว์ร้ายขนาดยักษ์สูงตระหง่านราวกับภูเขากำลังเงยหน้าขึ้น สัตว์ร้ายตัวนี้มีหัวทองคำถึงสามหัวด้วยกัน หัวทองคำหัวแรกเป็นหัวแพะ ส่วนหัวอีกสองหัวก็คือหัวสิงโตและหัวเสือ ที่ลำตัวของมันมีปีกขนาดใหญ่คู่หนึ่ง ในขณะที่หางของมันดูคล้ายกับงูไม่มีผิด
ส่วนหางเป็นงูที่มีชีวิตจริงๆ ที่ส่วนปลายของมันเผยให้เห็นถึงเขี้ยวอันดุร้าย มันเป็นงูที่สะบัดลิ้นและยังสามารถพ่นหมอกสีม่วงไปรอบตัวได้
ส่วนหัวสิงโตและหัวเสือต่างก็เป็นหัวสีทอง ถ้าหากจะบอกว่าสัตว์วิเศษที่เห็นดูคล้ายกับรูปปั้นทองคำก็คงจะไม่ใช่เรื่องเกินจริงเลย
[สัตว์วิเศษระดับทองคำ: คิเมร่าทองคำสามหัว]
[คุณสมบัติธาตุ: ไฟ, ดิน, ความมืด]
[ความสามารถ: หัวสิงโตสามารถใช้เวทมนตร์ระดับทองคำ ‘แสงตะวัน’ และ ‘พายุไฟ’ หัวเสือสามารถใช้เวทมนตร์ระดับทอง ‘ย่ำพสุธา’ และ ‘คลื่นปฐพี’ หัวแพะสามารถใช้เวทมนตร์ระดับทองคำ ‘คำสาปแห่งความตาย’ และ ‘พลังกัดกร่อนแห่งความมืด’ หางงูสามารถใช้เวทมนตร์ระดับทองคำ ‘พิษแห่งความตาย’]
[ความสามารถเพิ่มเติม: ต้านทานเวทมนตร์ระดับสูง (ลดความเสียหายจากเวทมนตร์ที่ต่ำกว่าระดับทองคำ 50%) ต้านทานการโจมตีกายภาพระดับสูง (ลดความเสียหายที่ได้รับจากพลังการโจมตีกายภาพที่ต่ำกว่าระดับทองคำ 80%) ปรับขนาด (ปรับเปลี่ยนขนาดร่างกายในช่วงที่กำหนด) พรางตัว (เปลี่ยนรูปลักษณ์ได้ในระดับหนึ่ง) ]
มันคือสัตว์วิเศษระดับทองคำตัวจริง!
วัตสันมองดูสัตว์วิเศษตรงหน้าตั้งแต่หัวจรดเท้า
คิเมร่าทองคำสามารถใช้เวทมนตร์ระดับทองคำได้อย่างเชี่ยวชาญเจ็ดประเภท นอกจากนี้มันยังสามารถต้านทานเวทมนตร์และการโจมตีกายภาพได้ด้วย
คิเมร่าแตกต่างจากไก่หอมหวนห้าสีที่อยู่ในระดับเดียวกันอย่างสิ้นเชิง คิเมร่าเป็นสัตว์วิเศษอันทรงพลังในตำนาน คิเมร่าสีทองดูแตกต่างจากสัตว์ในตำนานไปเล็กน้อย แต่นั่นไม่ใช่ปัญหา วัตสันอยากที่จะรู้ว่าใครกันจะกล้าชิงไก่หอมหวนห้าสีถ้าหากมีสัตว์ในตำนานแบบนี้คอยเฝ้าอยู่
พรึ๊บ!
วัตสันหันไปข้างตัว อัลเลนที่เคยยืนอยู่เข่าอ่อนจนล้มลง “คุณอัลเลน คุณเป็นอะไรรึเปล่า?”
“ต้องขอโทษด้วย ดูเหมือนว่าขาของผมจะได้รับบาดเจ็บจากการต่อสู้น่ะ”
“อย่างงั้นเหรอ แต่ผมจำไม่ได้เลยว่านักรบวารีโจมตีขาคุณ...”
“ขาผมบาดเจ็บ!”
วัตสันไม่ได้พูดอะไรต่อหลังเห็นความพยายามของอัลเลน ตัวเขาโบกมือให้กับคิเมร่า ไม่นานนักสัตว์ร้ายขนาดยักษ์ที่สูงกว่าสิบเมตรก็หดตัวลง มันได้กลายเป็นสิงโตทองคำตัวเล็กๆ ก่อนที่จะวิ่งไปตามแขนของวัตสัน มันเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วก่อนที่จะไปนอนอยู่บนไหล่ของผู้เป็นเจ้านาย
หัวทั้งสามหัวรวมไปถึงหางถูกเก็บซ่อนไว้ คิเมร่าดูเหมือนกับสิงโตธรรมดา เมื่อขึ้นไปถึงไหล่ของวัตสันมันก็ได้ใช้ขาหน้าเกาไปที่ใบหน้า ดวงตาสีดำของมันจ้องมองวัตสันราวกับต้องการคำชื่นชม
“นับตั้งแต่นี้นายจะเป็นสัตว์วิเศษระดับทองคำที่มีหน้าที่ปกป้องฟาร์มไก่ในอนาคต เอาล่ะนับตั้งแต่นี้ไปนายจะมีชื่อว่าประกายทอง”
หลังจากที่ตั้งชื่อคิเมร่าแล้ว วัตสันก็ได้ใช้นิ้วเล่นกับมันอยู่ชั่วครู่ เมื่ออัลเลนลุกขึ้นได้วัตสันและอัลเลนก็เดินกลับไปยังห้องโถง
ระหว่างทางกลับอัลเลนมักจะเงยหน้าขึ้นมามองวัตสันเป็นช่วงๆ ภายในใจของเขามีแต่ความสับสน อัลเลนเพิ่งจะเห็นสัตว์วิเศษทั้งหมดถูกหลอมรวมจนกลายเป็นสัตว์วิเศษระดับทองคำ สัตว์วิเศษตัวนั้นจะต้องเป็นสัตว์วิเศษระดับทองคำไม่ผิดแน่ สัตว์วิเศษระดับเหล็กที่เคยมีเป็นจำนวนมากไม่ได้สูญเปล่าแต่อย่างใด เพียงแค่สัตว์วิเศษระดับทองคำเพียงแค่ตัวเดียวมันก็มีค่ามากกว่าสัตว์วิเศษทั้งหมดที่เคยมีกว่าหลายเท่าแล้ว
สิ่งที่ทำให้อัลเลนประหลาดใจมากที่สุดก็คือเวทมนตร์หลอมรวม ดูเหมือนว่าเวทมนตร์ชนิดนี้จะไม่มีข้อจำกัดใดๆ ถ้าหากหลอมรวมสัตว์วิเศษระดับทองคำหลายตัว วัตสันจะไม่ได้สัตว์วิเศษระดับแพลตตินัมเลยเหรอไงกัน?
อัลเลนเริ่มหายใจหนักหน่วงมากยิ่งขึ้น ตัวเขาเริ่มคิดอะไรบางอย่างที่กล้าหาญขึ้นได้ ดวงตาของอัลเลนได้กลับมามุ่งมั่นอีกครั้ง
อัลเลนไม่ได้รู้สึกเสียใจอะไรกับเรื่องของไมล์ ท้ายที่สุดแล้วไมล์ก็เป็นเพียงเจ้านายผู้แสนขี้งก ถ้าหากผู้เป็นเจ้านายดีต่อข้ารับใช้ ข้ารับใช้ก็ย่อมที่จะซื่อสัตย์รับใช้ด้วยความภักดี อัลเลนหวังว่ามาโดยตลอดว่าวัตสันจะจากไปทันทีหลังจากที่ไมล์เสียชีวิต แต่หลังจากที่เห็นเรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้นความคิดของเขาก็เปลี่ยนไป
จะเกิดอะไรขึ้นถ้าหากปล่อยให้วัตสันเป็นเจ้าของที่ดินตรงนี้? พวกอัลเลนได้อยู่ในธุรกิจค้าขายสัตว์วิเศษมานาน เพราะแบบนั้นพวกเขาจึงรู้ดีว่าการจะจับสัตว์วิเศษแบบนี้จับได้ที่ไหน ถ้าหากมีสัตว์วิเศษเพียงพอ เป็นไปได้ไหมที่วัตสันจะเปลี่ยนแปลงพวกมันให้กลายเป็นสัตว์ที่ทรงพลังยิ่งกว่าเดิม
อัลเลนยังคงฝันกลางวันต่อไป ในที่สุดวัตสันก็กลับมายังห้องโถง
วัตสันกลับมาเผชิญหน้ากับเหล่าผู้คุ้มกันรวมไปถึงคนงานอีกครั้ง “ให้คนส่วนหนึ่งส่งเงิน ชุดเกราะ และอาวุธไปที่บ้านของผม ส่วนของที่เหลือพวกคุณเลือกกลับไปได้เลย”
“ครับท่าน”
ในขณะที่ทุกคนกำลังตกลง ในตอนนั้นอัลเลนก็วิ่งมาจากด้านหลังวัตสันก่อนที่จะคุกเข่าลงกับพื้น “นายท่าน ได้โปรดรอก่อน ผมมีข้อเสนอที่อยากจะมอบให้ ผมอยากให้นายท่านเป็นเจ้าของคฤหาสน์และกลายเป็นเจ้าของที่ดินคนใหม่ของที่แห่งนี้”
ติดตามข่าวสาร/พูดคุยเสนอแนะความคิดเห็นได้ที่เพจผู้แปล FB: ND Translate นิยายแปลไทย