ตอนที่ 117 เหรียญตรากักเก็บจิตวิญญาณ
ตอนที่ 117 เหรียญตรากักเก็บจิตวิญญาณ
ทุ่งหญ้ากิรา
ทางตะวันออกห่างจากรังโจรของกระทิงโลหิตที่ตอนนี้ได้สิ้นชีพไปแล้ว เสียงควบม้าห้อตะบึงทั้งสามของกาย มีอาและอาลีน่าวิ่งตัดผ่านยามเย็นของทุ่งหญ้า ก่อนจะมุ่งหน้าไปยังจุดหมายที่นัดแนะไว้กับสหายอีกสองคน
กว่าจะถึงท้องฟ้าก็เกือบมืดสนิทแล้ว เบื้องหน้าสุดสายตาของกายเป็นแนวหินสูงใหญ่ มีต้นไม้ขึ้นสลับกับพุ่มไม้และกอหญ้าบ้างเล็กน้อย ด้านล่างแนบชิดติดแนวหินมีกองไฟก่อจุดไว้สามกอง สองกองไฟมีไว้ให้กับม้า 7 ตัวที่บ้างยืนพักบ้างนอนพักอยู่ ส่วนอีกกองไว้ให้กับคนอีกสอง ซึ่งพอเห็นว่ากำลังยกมือโบกทักทายไม่หยุด
“เฮ้...พวกเจ้าได้หัวของกระทิงโลหิตมาไหม?” ลิลี่ยกมือร้องตะโกนถาม
กายและอีกสองดึงบังเหียนชะลอฝีเท้าม้า ก่อนจะหยุดไม่ห่างจากลิลี่มากนัก มีอาไม่รอช้าโยนหัวที่ห้อยมาข้างม้าให้กับลิลี่ในทันที
ลิลี่รับมาอย่างตกใจที่อยู่ ๆ เพื่อนสนิทอย่างมีอา จะมาโยนหัวคนใส่แบบนี้ แต่พอเห็นว่าเป็นหัวของกระทิงโลหิตที่เหมือนกับในใบประกาศจับไม่มีผิด เธอก็พยักหน้าอย่างพอใจก่อนจะส่งต่อให้กับลูก้าที่เดินเข้ามาดูเหมือนกัน
“เห็นสายตาของเขาแล้ว ข้ารู้สึกขนลุกอย่างบอกไม่ถูก” ลูก้ารีบเอามือปิดตาที่ตายไม่หลับของกระทิงโลหิต ก่อนจะนำมันไปใส่ยังกล่องไม้ด้านข้าง ซึ่งนอกจากหัวของกระทิงโลหิตแล้ว มันยังมีหัวของกระทิงแดงด้วย
“ช่วยไม่ได้ พวกเรารีบหนีออกมาเพราะที่นั่นเริ่มอันตรายมากขึ้น จึงไม่มีเวลามาดูแลหัวเขาสักเท่าไหร่ แต่อย่างไรชายคนนี้ก็ฆ่าและปล้นคนในทุ่งหญ้าและชายนครไปมากมาย ดังนั้นไม่ต้องดูแลมันดีนักก็ได้” อาลีน่าอย่างไม่แยแส เธอเห็นหัวของกระทิงโลหิตเป็นเพียงเพียงหัวของสัตว์ร้ายเท่านั้น
“อืม” มีอาเองก็เห็นด้วย แม้จะไม่ได้รู้สึกดีกับการเข่นฆ่า แต่เธอก็คิดว่าการจัดการกับกระทิงโลหิตนั้นสมควรกระทำ เพียงแค่เหตุผลที่พวกมันทำกับหญิงสาวอย่างซาเทียและเลน่าก็เกินพอแล้ว
“ทำแบบนั้นไม่ได้หรอก พวกเรายังต้องเอาหัวไปขึ้นเงินอยู่ดังนั้นเก็บดี ๆ หน่อยก็แล้วกัน” กายกล่าวออกมา ขณะที่เดินเอาเจ้าหมอกไปผูกข้าง ๆ กับเจ้าถึกและเทน้ำให้กับมัน
“ข้ารู้หรอกน่า มาเถอะลิลี่นางเตรียมซุปเนื้อกับขนมปังไว้รอพวกเจ้าแล้ว” ลูก้ากล่าวด้วยรอยยิ้ม ก่อนจะเอาผงบางอย่างออกมาโรยใส่ศีรษะทั้งสอง จากนั้นก็ปิดฝาหีบแน่น
ผงที่ลูก้าโรยลงไปมันคือผงของหญ้าคงสภาพที่พวกนักล่าค่าหัวชอบใช้กัน ซึ่งจะช่วยให้ศีรษะของโจรที่โดนตัดคงสภาพไม่เน่าง่าย ๆ แถมยังไล่แมลงและกลบกลิ่นคราวเลือดได้ดี
ในทุ่งหญ้าแบบนี้การมีกลิ่นเลือดรอยกระจายไปทั่วไม่ใช่เรื่องที่ดี เพราะจะดึงดูดนักล่ายามค่ำคืนอย่างพวกฝูงหมาป่ามาได้
แม้พวกเขาเชื่อว่าสามารถจัดการพวกมันได้ แต่ถ้าต้องสู้ทั้งกลางวันและกลางคืนไม่หยุดพัก แบบนั้นต่อให้แกร่งแค่ไหนไม่นานก็ต้องตายเพราะความประมาทจากความเหนื่อยล้าได้เช่นกัน
มีอาและอาลีน่าเองก็รีบเอาม้าไปผูกเช่นกัน ก่อนที่ทั้งสองจะหยิบเอาถั่วและธัญพืช ซึ่งเป็นอาหารม้าออกมาจากสัมภาระที่พวกม้าแบกออกมาให้กับพวกมันได้กิน
หลังจากกายป้อนอาหารให้เจ้าถึกและเจ้าหมอกเสร็จก็ถึงเวลาเติมท้องของตัวเองบ้าง
...
มื้อเย็นที่เติมพลังงานผ่านไปอย่างช้า ๆ พร้อมกับการนั่งรอบกองไฟของทั้ง 5 คน พวกเขากำลังปรึกษาเรื่องส่วนแบ่งจากการร่วมมือในครั้งนี้อยู่
“มีหัวของโจรที่มีค่าหัวเกินหนึ่งพันเหรียญทองไปสองหัว เงินอีกหกหมื่นเหรียญทองรวมเศษนิดหน่อยไม่เกินนั้น แล้วก็ปืนของกระทิงอีกหนึ่งกระบอกกับกระสุนราว ๆ 12 นัด แล้วก็ยังมีม้วนกระดาษซึ่งมีศิลปะการต่อสู้ ฟาดฟันขั้น 1-4 บันทึกไว้อยู่กับตราแปลก ๆ อีกหนึ่งชิ้น” ของทุกอย่างถูกวางไว้อยู่ตรงหน้าของทุกคน ยกเว้นเหรียญทองและหัวของสองโจรเท่านั้นที่ไม่ได้วาง
ตอนนี้ทุกคนกำลังมีสีหน้าครุ่นคิด กายเองก็เช่นกัน เขากำลังมองไปที่ปืนคาบศิลาหนึ่งกระบอกและกระสุนที่อยู่ข้างหน้า
กายไม่มีความรู้เรื่องปืนมากนัก แต่เขาคิดว่ากระสุนปืนตรงหน้ามันแปลกพอควร เพราะมันดันมีแต่ลูกแต่กลับไม่มีของพวกดินปืนเลย
คงจะเป็นแบบพิเศษสินะ...ถ้าถามจะมีใครรู้วิธีใช้มันหรือเปล่า
กายมองไปรอบ ๆ เขาตัดสองคนอย่างลิลี่และลูก้าไป ไม่ใช่เพราะกายดูถูก แต่เพราะคิดว่าสองคนนี้คงไม่สนของอะไรแบบนี้อยู่แล้ว
...
หืม...เดวินมองแบบนั้นอีกแล้ว หมอนั่นต้องคิดว่าไม่รู้เรื่องอะไรสักอย่างแน่เลย นั้นไงหันไปมองมีอาแล้ว
ลิลี่ที่เห็นว่ากายมองตนและถอนสายตากับก็ทำหน้ามุ่ยอย่างไม่พอใจเล็กน้อย แต่ถึงแบบนั้นความคิดเกี่ยวกับเรื่องเหรียญทองก็ลอยเข้ามาจนไม่มีที่วางให้กับเรื่องเมื่อกี้อีก
...
เดวินมองข้าหรือว่าจะคิดเรื่องดาบ แต่ก็ไม่น่าจะใช่ เพราะเขาคงไม่สนใจดาบระดับ 4 หรอกมั้ง
ลูก้าจับดาบที่ตนเอามาจากในถ้ำของกระทิงโลหิตไว้ ก่อนจะลังเลพูดถึงเรื่องนี้หรือเปล่า
...
ถ้าอย่างนั้นก็มีอากับอาลีน่าที่น่าจะรู้เรื่องปืนกระบอกนี้...กายกำลังจะเอ่ยปากถามในตอนนั้นเองอาลีน่าก็กล่าวขึ้นมาขัดซะก่อน
“ข้าอยากได้ปืนกระบอกนี้ แต่ขณะเดียวกันหัวของหนึ่งในนั้นก็จำเป็น เพราะเรายังต้องใช้หัวพวกนี้ในการทำภารกิจของสถาบันอยู่”
“ข้าถามเรื่องปืนหน่อยได้ไหม” กายได้โอกาสก็รีบหยั่งเชิงไปในทันที เพราะดูเหมือนว่าอาลีน่าจะใช้ปืนเป็น อาลีน่าพยักหน้าอนุญาต
“ทำไมปืนพวกนี้ถึงไม่มีดินปืน”
“ดินปืน?” อาลีน่าพึมพำออกมา ก่อนจะอธิบายให้กายฟัง “ปืนคาบศิลาส่วนใหญ่จะถูกสร้างโดยช่างโลหะระดับปรมาจารย์ของนครทองคำ สถานที่ศักดิ์สิทธิ์ของเหล่าช่างโลหะ ข้าไม่แน่ใจว่าปืนคาบศิลากระบอกนี้ถูกสร้างที่นั่นหรือเปล่า แต่อย่างไรมันก็คือของมีค่าไม่น้อยกว่า 3 หมื่นเหรียญทองอย่างแน่นอน ส่วนวิธีการใช้ก็แค่ใส่ลูกกระสุนนี่ลงไป กระสุนพวกนี้ออกแบบมาเป็นพิเศษมันสามารถผสานศิลปะการต่อสู้ลงไปได้ และในตัวของกระสุนกับปืนมีกลไกพิเศษที่ไม่ต้องใช้ดินปืนทั่ว ๆ ไปในการขับกระสุน” อาลีน่าบอกอย่างไม่ปิดบัง
หญิงสาวเชี่ยวชาญในด้านการยิงธนูและการยิงปืนก็คือสิ่งที่เธอถนัดไม่แพ้กัน
เธอบอกโดยไม่ปิดบัง แม้แต่มูลค่าที่แท้จริงก็ยังบอก...กายพยักหน้าขอบคุณสำหรับคำอธิบายของอาลีน่า
“ส่วนที่อาลีน่าต้องการรวมของข้าไปด้วย” ลูก้ากล่าวเสริม
ถ้าจะให้แบ่งสถานะในกลุ่มตอนนี้เป็นส่วน ๆ ซึ่งมีทั้งหมดสิบส่วน จะมีกาย 2 ส่วน มีอาและลิลี่ 4 ส่วนเพราะทั้งสองเป็นคู่หูกัน และสุดท้ายคือ อาลีน่าและลูก้า 4
“ถ้าอาลีน่ากับลูก้าต้องการปืนกระบอกนี้กับหนึ่งหัวของโจร”
“แล้วเจ้าละมีอากับลิลี่”
“ข้าต้องการเงิน” ลิลี่ตอบกลับมาในทันที
“ส่วนข้าขอเป็นเงินด้วยแล้วกัน เอาเป็นเราสองคนขอคนละสองหมื่นเหรียญทอง” มีอากล่าว
แต่กายกลับส่ายหัว “แบบนั้นมันน้อยเกินไป ถ้ารวมมูลค่ากันแล้วพวกเจ้าได้น้อยเกินไป เอาแบบนี้ก็แล้วกัน อาลีน่ากับลูก้าได้ปืนหนึ่งกระบอก ศีรษะของกระทิงแดงกับเงินหนึ่งหมื่นเหรียญ มีอาเจ้าและลิลี่ได้เงินสี่หมื่นเหรียญรวมกับหัวของกระทิงโลหิตอีกหนึ่งหัว ส่วนข้าจะเอาหนึ่งหมื่นเหรียญทอง ม้วนกระดาษศิลปะการต่อสู้และเหรียญตรานั้น”
ทั้งสี่คนเงียบไป ก่อนที่อาลีน่าจะพยักหน้าตอบรับว่าเธอตกลงกับการแบ่งนี้
กายและอาลีน่าหันไปมองอีกสาม ซึ่งพวกเขาก็พยักหน้าตกลงกันทีละคน
“ทำไมเจ้าถึงไม่เอาหัวของกระทิงโลหิต” มีอาที่สังเกตเห็นรายละเอียดเล็ก ๆ น้อย ๆ กับการตัดสินใจของกาย แม้ดูเหมือนจะแบ่งกันอย่างยุติธรรม แต่มันสำหรับพวกเธอทั้งสี่คนไม่ใช่กับกาย เพราะถ้าแบ่งกันแบบนี้กายก็เหมือนจะขาดทุน
“แม้หัวของกระทิงโลหิตจะใช้ส่งในภารกิจได้ แต่ข้าคิดว่าเหรียญตราชิ้นนี้มันมีประโยชน์กับข้ามากกว่า ส่วนม้วนกระดาษศิลปะการต่อสู้นี้ข้าจะเอาไปให้ใครบางคน”
ใครบางคนที่กายพูดถึงแน่นอนว่าคือไทเลอร์ เพราะหลังจากไทเลอร์เข้ามาในโลกราชันแล้ว กายจะมอบเงินหมื่นเหรียญทองและศิลปะการต่อสู้ ฟาดฟันขั้น 1-4 ให้กับเขา
ส่วนเหรียญตราที่กายบอกว่ามันมีมูลค่ากว่าหัวของกระทิงโลหิตนั้นเขาไม่ได้โกหก เพราะก่อนหน้านั้นตอนที่ได้เหรียญตรามาจากศพของกระทิงโลหิต กายแอบใช้ทักษะติดตัวของผู้เล่นการตรวจสอบสิ่งของมาตรวจสอบเหรียญตราชิ้นนี้
“เหรียญตรากักเก็บจิตวิญญาณ”
“ระดับเหล็ก”
“สถานะ : ว่างเปล่า”
นี่คือข้อมูลที่กายได้มา
เมื่อทั้ง4 คนเห็นว่ากายสนใจเหรียญตรานี่เป็นพิเศษ พวกเขาต่างก็สังเกตเหรียญตราชิ้นนั้นอย่างสนใจอีกครั้ง
“ข้ารู้สึกคุ้น ๆ”
“อืมข้าก็เช่นกัน เหมือนจะเป็น...”
“มันคือเหรียญตราที่ใช้กักเก็บจิตวิญญาณ แต่ดูจากสภาพมันเก่าเป็นอย่างมาก” มีอาพูดออกมา
กายพยักหน้ายืนยันคำพูดของมีอาก่อนจะกล่าวอธิบายเสริมเข้าไป “เหรียญตรากักเก็บจิตวิญญาณระดับเหล็ก ตอนนี้มันไม่มีจิตวิญญาณอยู่ด้านใน”
“จิตวิญญาณที่ใส่ลงในอาวุธ หลังจากเลือนไปเป็นนักรบแท้จริง” ลิลี่ถามอย่างตื่นเต้น
“กระทิงโลหิตคงไม่ธรรมดาแล้ว เพราะมีทั้งปืนและเหรียญตรากักเก็บจิตวิญญาณ” อาลีน่าขมวดคิ้วคิดไม่ตก
“เขาคงมีสถานะบางอย่าง เหรียญตราชิ้นนี้น่าจะเตรียมไว้ขณะที่เลือนไปเป็นนักรบแท้จริง เขาก็คงจะไปตามล่าจิตวิญญาณสักดวงมาใส่ในอาวุธ แต่น่าเสียดายที่ต้องมาตายก่อน” กายกล่าวออกมา
“ถ้าแบบนั้นเจ้าก็คงไม่เสียเปรียบเท่าไหร่” อาลีน่าพูดออกมาอย่างยิ้ม ๆ แม้จะเป็นเหรียญตรากักเก็บจิตวิญญาณ แต่สำหรับเธอที่มีลุงเป็นถึงอาจารย์ใหญ่ของสถาบันศาสตร์นักรบแล้วก็ไม่ใช่ของหายากอะไร
แต่สำหรับกายแล้วมันคงไม่ง่าย ๆ ส่วนใหญ่แล้วของแบบนี้จะเก็บไว้ภายในองค์กร หรือตระกูล ยากที่จะหลุดรอดออกมาด้านนอกได้ ดังนั้นเขาจึงบอกกับทั้งสี่คนว่ามันมีค่ามากกว่าหัวของกระทิงโลหิต
โดยเฉพาะกับกายที่เป็นช่างโลหะด้วยแล้ว มันคือสิ่งที่ต้องมี
“ตอนนี้พวกเจ้ารู้แล้วว่ามันคือเหรียญตรากักเก็บจิตวิญญาณ ดังนั้นในส่วนของข้าก็ไม่ได้ขาดทุนอะไร แต่ถ้าบกเจ้าต้องการก็สามารถตกลงกันใหม่ในส่วนแบ่งได้”
“ไม่จำเป็น อย่างไรวะเจ้ายอมสละหัวของสองโจรที่สามารถใช้ในภารกิจนักล่าของสถาบันให้พวกเรา เจ้าก็ควรจะได้มันไป” อาลีน่ากล่าวจบก็หยิบปืนออกไปจากส่วนแบ่ง ส่วนลูก้านั้นรีบไปยกหีบเงินส่วนแบ่งหนึ่งหมื่นเหรียญออกมาเก็บทันที
“ทางข้าก็เอาตามที่เจ้าแบ่งแล้วกัน” มีอาเผยรอยยิ้มให้กับกาย
กายเองก็ยิ้มตอบไปเช่นกัน ก่อนที่ทั้งสองจะนั่งกินอาหารกันต่อ
ลิลี่นั้นไม่อยู่นิ่งตั้งแต่ทุกคนตกลงกันแล้ว เธอไปลากเอาเหรียญทองสี่หมื่นเหรียญมาปูนอนในทันที
หลังจากการแบ่งของจบลงก็ถึงเวลาพูดคุยถึงแผนการล่าต่อไปของพวกเขา แต่ดูเหมือนอาลีน่าและลูก้าจะมีแผนในใจแล้ว ทางมีอาและลิลี่ก็เช่นกัน
สุดท้ายพวกเขาจึงตกลงว่าหลังจากกลับไปที่เลมิสก็จะแยกกันออกไปล่า และถ้าใครมีปัญหาอะไรก็สามารถขอความช่วยเหลือกับคนอื่น ๆ ได้
กายฟังเหตุผลของทุกคนก็เห็นด้วย เพราะแม้รวมกลุ่มกันล่าค่าหัวโจรจะดี แต่มันก็ช้าเกินไปเช่นกัน