ตอนที่แล้ว995-996
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไป999-1000

997-998


7/10

Ep.997

“หยุดพล่ามไร้สาระได้แล้ว! ถ้าไม่กล้า ก็แค่ไสหัวกลับไปเป็นเต่าหัวหด!” ซูเฉินจงใจกระตุ้น

“แส่หาที่ตาย!”

หานเจี้ยนอู่ไม่อาจฝืนทนความโกรธในใจได้อีกต่อไป  กระบี่สีม่วงทองปรากฏขึ้นในมือเขา เล็งไปทางซูเฉิน ฟาดฟันจากระยะไกล

ตระกูลหานคือตระกูลสายกระบี่ ผู้แข็งแกร่งเกือบทุกคนล้วนเชี่ยวชาญกระบี่

กระบี่ม่วงทองที่หานเจี้ยนอู่ใช้ เป็นกระบี่เทวะระดับสูง รังสีฆ่าฟันที่กระบี่ปลดปล่อยออกมาช่างน่าหวาดกลัวเป็นอย่างยิ่ง มันรุนแรงยิ่งกว่าท่าห้ากระบี่รวมเป็นหนึ่งของหานเจี้ยนฉีซะอีก

นอกจากนี้ เบื้องหน้ายังเป็นการโจมตีด้วยกระบี่เทวะที่แข็งแกร่งที่สุดที่ซูเฉินเคยเห็นมา

“ในเมื่อแกใช้กระบี่ งั้นฉันก็จะใช้กระบี่สู้เหมือนกัน”

มุมปากซูเฉินยกโค้งเป็นรอยยิ้มพิศวง จากนั้นเอื้อมมือลงไปในถุงเก็บของ

ในพริบตา กระบี่ยาวนับร้อยเล่มที่เปล่งประกายไปด้วยสายฟ้าพุ่งออกมา โบยบินฉวัดเฉวียนอยู่เหนือศีรษะเขา

ชั่วเวลาหนึ่ง เจตจำนงแห่งกระบี่อันน่าสยดสยอง ม้วนฮือดั่งคลื่นมหาสมุทร แผ่ขยายออกไปราวกับไม่มีที่สิ้นสุด คลื่นอสนีบาตแปลบปลาบเต็มท้องฟ้า ให้ความรู้สึกราวกับหากสัมผัสโดยเพียงเล็กน้อย จักมอดไหม้เป็นเถ้าธุลี

วินาทีที่ร้อยกระบี่ปรากฏขึ้น กระบี่สีม่วงทองของหานเจี้ยนอู่สั่นระริก

“กระบี่เทวะธาตุสายฟ้า 100 เล่ม …”

หานเจี้ยนอู่เบิกตากว้าง ในคู่ดวงตาเขาเต็มไปด้วยความสยองเกล้าอย่างไม่อาจหาคำอธิบายได้

“ซูเฉินยังมีลูกเล่นแบบนี้อยู่ด้วยหรือ?”

ฉีมู่เล่ยและคนอื่นๆต่างตกใจไม่แพ้กัน

ฉีมู่เฟิงจำได้ ว่าซูเฉินบอกจะสร้างกระบี่เทวะ 5,000 เล่ม

ปัจจุบัน 100 เล่มเบื้องหน้าเขา ถือว่าเป็นส่วนเล็กๆของมันเท่านั้น

แต่พอกลับมามองดูสิ่งที่เกิดขึ้นตรงหน้า แค่กระบี่เทวะ 100 เล่มก็เพียงพอแล้วที่ทลายชั้นฟ้าถล่มปฐพี

เช่นนั้นแล้วอำนาจของกระบี่เทวะ 5,000 เล่ม จะน่ากลัวขนาดไหนกัน?

เมื่อนึกถึงเรื่องนี้ขึ้นมา ฉีมู่เฟิงกลืนน้ำลายอึกใหญ่ ไม่กล้าจินตนาการอีกต่อไป

อีกด้านหนึ่ง หานเจี้ยนอู่หวาดกลัวจนขวัญหนีดีฝ่อ ทั้งร่างสั่นเทิ้มอย่างรุนแรง แทบอดใจไม่ไหวจะหนีไปจากที่นี่

แต่เขาก็รู้ดี  ว่ากระบี่เทวะของซูเฉินได้เล็งเขาจากระยะไกลแล้ว หากวิ่งหนี มีแต่จะตายเร็วขึ้นเท่านั้น

เมื่อไม่มีทางเลือกอื่น  จึงทำได้เพียงกัดฟันและสู้ตายกับซูเฉิน

กระบี่เทวะทั้ง 100 เล่มของซูเฉินที่ลอยอยู่เหนือหัวเริ่มผสานรวมกันอย่างรวดเร็ว สุดท้ายกลายเป็นกระบี่เทวะธาตุสายฟ้าขนาด 10 จั้ง

“สะบั้น!”

ตามมาด้วยเสียงเย็นชาของซูเฉิน กระบี่เทวะธาตุสายฟ้าฟาดลงจากเหนือศีรษะเขา

มันสับแยกคลื่นพลังของกระบี่สีม่วงทองได้อย่างง่ายดาย จากนั้นฟันต่อลงมายังตำแหน่งที่หานเจี้ยนอู่ยืนอยู่

“ไม่ …”

หานเจี้ยนอู่ส่งเสียงกรีดร้องอย่างไม่ยินยอม ก่อนสลายกลายเป็นความว่างเปล่า ศพไม่เหลือแม้แต่กระดูก

“จะทรงพลังเกินไปแล้ว!” หัวใจของฉีมู่เล่ยเต้นระรัว พร้อมย้อนคิดกลับไป หากในวันที่ซูเฉินกับฉีชิงเฉวียนปะทะกัน ซูเฉินไม่ได้ออมมือ ถ้าตอนนั้นใช้กระบวนท่านี้ ฉีชิงเฉวียนคงถูกสังหาร 100%

“เจ้าหมอนี่มันสัตว์ประหลาดประเภทไหนกันแน่?” ฉีมู่เสวี่ยไม่รู้จะสรรหาคำใดมาอธิบายซูเฉิน

เดิมที เธอรู้สึกว่าซูเฉินแกร่งมากพออยู่แล้ว แต่ตอนนี้ดูเหมือนว่า เธอยังคงประเมินความแข็งแกร่งของซูเฉินต่ำไปอยู่ดี

“เจ้าเป็นใครกันแน่?”

หานเจี้ยนสื่อมองซูเฉินด้วยความสยดสยอง ถามน้ำเสียงอู้อี้

ความแข็งแกร่งของซูเฉิน ส่งผลกระทบต่อจิตใจของเขาอย่างใหญ่หลวง

แม้หานเจี้ยนอู่เพิ่งถูกสังหารไป แต่เขากลับไม่มีความกล้าที่จะทวงถามแม้แต่น้อย

ซูเฉินเก็บกระบี่เทวะทั้ง 100 เล่มกลับลงในถุงเก็บของ  กวาดสายตามองหานเจี้ยนสื่อ เอ่ยอย่างเฉยเมย “อยากรู้ชื่อฉัน ก็มารับกระบี่ของฉันให้ได้ก่อน”

หานเจี้ยนสื่อไม่กล้าพูดอะไรอีก ตอนนี้ต่อให้เขามีความกล้ากว่านี้อีกสิบเท่า เขาก็ไม่กล้ารับกระบี่จากซูเฉิน

“ก็แค่ขยะ!”

ซูเฉินแค่นเสียงเย็นชา เก็บชิ้นส่วนที่ดรอป แล้วหันไปพูดกับฉีมู่เฟิงและคนอื่นๆว่า “พี่ฉี พวกเรากลับกันเถอะ”

จุดประสงค์หลักของการเดินทางในครั้งนี้คือสังหารหานเจี้ยนอู่ เมื่อบรรลุแล้ว ก็ไม่อยากรั้งอยู่อีกต่อไป

สำหรับเรื่องทำลายตระกูลหาน เขายังไม่ทำมันในตอนนี้ เพราะท้ายที่สุดแล้ว งานประลองระดับดวงดาวกำลังจะเริ่มต้นขึ้น เขาไม่ต้องการสร้างเหตุการณ์ที่อาจกระทบต่องานประลอง

8/10

Ep.998

หานเจี้ยนอู่เห็นซูเฉินสังหารคนกับตา แต่ต้องยอมปล่อยให้เขาจากไปอย่างสง่าผ่าเผย ตั้งแต่ต้นจนจบไม่กล้าแม้จะผายลม

ซูเฉินและอีกสี่คนกลับไปยัง [รถศึกอัจฉริยะ] สตาร์ทเครื่องกลับป้อมปราการมิติ

ระหว่างทาง ฉีมู่เล่ยกล่าวว่า “ซูเฉินข้าไม่คิดเลยว่าเจ้าจะเป็นผู้ฝึกตนสายกระบี่ กระบวนท่าที่เจ้าใช้ … มันน่าทึ่งมาก!”

ตัวเขาเองก็เป็นผู้เชี่ยวชาญกระบี่ แต่เมื่อเทียบกับซูเฉินแล้วช่องว่างความห่างชั้นมันชัดเจนเกินไป อย่างกับหน้ามือและหลังมือ

“ก็แค่ลูกเล่นเล็กๆน้อยๆเท่านั้น”

ซูเฉินยิ้มบาง ปัจจุบัน [ร้อยกระบี่คืนสู่หนึ่ง] นับเป็นไพ่ตายที่แข็งแกร่งของเขา และไพ่ตายเช่นนี้ โดยทั่วไปแล้วมักเรียกใช้งานในช่วงเวลาวิกฤต

แต่หลังจากนึกดูดีๆ ว่าต่อไปเขาจะมี [พันกระบี่คืนสู่หนึ่ง] และ [หมื่นกระบี่คืนสู่หนึ่ง] ไหนจะการผสานเวทย์สามธาตุเข้าด้วยกัน เลยตัดสินใจไม่เก็บงำไพ่ตายใบนี้ไว้อีกต่อไป

“การโจมตีที่ทรงพลังเช่นนั้น ยังเรียกว่าเป็นลูกเล่นเล็กๆน้อยๆอีกหรือ?”

สีหน้าท่าทีของฉีมู่เล่ยกลายเป็นเฉื่อยชา อดเดาะลิ้น ไม่ได้

ซูเฉินไม่ได้อธิบายอะไรเพิ่มเติมอีก หันไปถามฉีมู่เฟิง “พี่ฉี อีกนานแค่ไหนจะถึงงานประลองระดับดวงดาว”

“เหลือเวลาอีกประมาณสองเดือน”

ฉีมู่เฟิงนึกทบทวนอยู่พักหนึ่ง ก่อนตอบกลับ

สองเดือน?

ซูเฉินพึมพำอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นถามว่า “พี่ฉี พอจะบอกได้ไหมว่าเขตแดนลับที่มีหุ่นเชิดระดับเทวะตั้งอยู่ที่ไหน?”

ช่วงเวลาสองเดือนช่างยาวนาน หากให้รออยู่เฉยๆ ซูเฉินทนไม่ไหวแน่ๆ จะดีกว่าไหมหากใช้เวลานี้ออกไปเที่ยวเล่นข้างนอกบ้าง

และการออกค้นหาหุ่นเชิดระดับเทวะก็เป็นตัวเลือกที่ดี

ประโยชน์ของหุ่นเชิดระะดับเทวะที่มีต่อหุ่นเชิดทองคำนั้นชัดเจนในตัวมันเอง แต่ละชุดสามารถนำมาติดตั้ง และยกระดับได้หนึ่งขั้น

ปัจจุบัน หุ่นเชิดทองคำได้รับการติดตั้งเพิ่มถึงสามตัวแล้ว ส่งผลให้มันขึ้นมาอยู่ในระดับเทวะขั้น 4

ยังเหลือหุ่นเชิดระดับเทวะอีก 2 ตัว ที่ยังหาไม่เจอ หากถือโอกาสนี้ค้นหาและรวบรวมพวกมันทั้งหมด  เขาจะสามารถยกระดับหุ่นเชิดทองคำสู่ขั้น 6 ระดับเทวะได้ และมันจะกลายเป็นกำลังเสริมที่ทรงพลังของเขา

“ซูเฉิน เจ้ากำลังตามหาหุ่นเชิดระดับเทวะหรือ?” ฉีมู่เฟิงถามหยั่งเชิง

“หุ่นเชิดระดับเทวะสำคัญกับฉันมาก” ซูเฉินพยักหน้า

“แล้วเจ้ามีแผนจะไปเมื่อไหร่?” ฉีมู่เฟิงถาม

“เร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้” ซูเฉินตอบตามตรง

เมื่อเขารู้ว่าซูเฉินกำลังจะไปยังเขตแดนลับ ดวงตาก็สว่างไสวขึ้นทันที

คนส่วนใหญ่หากเข้าสู่เขตแดนลับจะต้องสู้เลือดตาแทบกระเด็น จึงจะทำผลงานได้ดีและได้รับสมบัติไป  แต่ซูเฉินแค่เข้าไป คงสามารถคว้ามันมาครองได้อย่างง่ายดาย และเขาในฐานะผู้ติดตามก็จะพลอยได้รับผลประโยชน์ไปด้วย

“งั้นพวกเราไปกันเลย”

ฉีมู่เฟิงไม่ลังเลแม้แต่น้อย  แม้ไม่รู้ว่าจะใช้เวลานานเท่าไหร่ในการเข้าสู่เขตแดนลับ แต่ก็คงรีบจัดการให้เร็วที่สุด จะได้ไม่พลาดงานประลองระดับดวงดาว

ต่อมา ภายใต้การนำทางของฉีมู่เฟิง [รถศึกอัจฉริยะ] มุ่งหน้าไปในทิศทางเดียว

แต่ครึ่งชั่วโมงต่อมา จู่ๆนกสำรวจก็แจ้งเตือน “เจ้านาย! มีผู้แข็งแกร่งกำลังตรงเข้ามาหาพวกเราด้วยความเร็วสูง”

สามารถทำให้นกสำรวจรู้สึกถึงอันตรายได้ แสดงว่าฐานฝึกตนของผู้มาเยือนสมควรอยู่ในระดับเทวะขั้น 4 เป็นอย่างน้อย

“เสี่ยวจือ ล็อคเป้าพวกเขา แล้วโอนภาพขึ้นหน้าจอ” ซูเฉินสั่ง

ภาพบนหน้าจอควบคุมส่วนกลางสลับสับเปลี่ยน ไม่นาน หญิงชราคนหนึ่งที่ถือไม้ศึกสีดำ และชายชราที่ซูบผอมจนเห็นโหนกแก้มยื่นออกมาก็ปรากฏขึ้น

“นั่นหลี่ฉางเหอกับหลิงเฟย!”

ใบหน้าของฉีมู่เล่ยแข็งค้าง อุทานเสียงต่ำ

“พวกเขามีชื่อเสียงมากเลยหรอ?”

ซูเฉินถูจมูกเขา  เอ่ยถามอย่างเฉยเมย

ฉีมู่เฟิงสูดหายใจลึก อธิบายว่า “หลี่ฉางเหอกับหลิงเฟยต่างก็เป็นผู้แข็งแกร่งระดับเทวะขั้น 4  ถูกเรียกว่าคู่รักสลัดอวกาศ พวกเขามักปล้นคนที่เดินทางในมิติภายนอก และวิธีการทรมาน โหดร้ายทารุณเป็นอย่างยิ่ง”

“ถ้าลองได้ตกเป็นเป้าของพวกเขา มีไม่กี่คนที่สามารถรอดชีวิตไปได้”

“ที่แท้ก็เป็นสลัดอวกาศนี่เอง”

ซูเฉินพึมพำ ตอนแรกเขานึกว่าเป็นคนที่นักพรตเทียนซ่านส่งมา ตอนนี้เหมือนว่าจะไม่ใช่

5 1 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด