ตอนที่แล้วอสูรมังกรฟ้า เล้งซาน ตอนที่ 1 กำเนิด ณ ต่างแดน (เปิดภาคเมืองเมฆคราม)
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปอสูรมังกรฟ้า เล้งซาน ตอนที่ 3 เข้าสู่เรือนหัวหน้าหมู่บ้าน

อสูรมังกรฟ้า เล้งซาน ตอนที่ 2 ร่างสถิตมังกรฟ้า


"ร่างสถิตมังกรฟ้า มันคืออะไร?" เล้งซานขมวดคิ้วเล็กน้อย

"เจ้าในตอนนี้นั้นครอบครองพลังที่เหนือชั้นกว่าผู้ใด ถูกผนึกเข้ามายังร่างของเจ้าเพียงแต่จำเป็นต้องรอการเติบโตตามพลังลมปราณในร่างของเจ้า"

"และมันจะมีประโยชน์อันใด แก่ข้า.."

"มากมายเหลือคณาเลย มันคือพลังอันแข็งแกร่ง ที่จะได้รับพรตามแต่พลังลมปราณที่ครอบครอง

ชั้นลมปราณสีม่วง ได้รับพร สัมผัสแห่งมังกร

     ชั้นลมปราณสีคราม  ได้รับพร ลมหายใจแห่งมังกร

     ชั้นลมปราณสีน้ำเงิน  ได้รับพร กล้ามเนื้อแห่งมังกร

    

     ชั้นลมปราณสีเขียว    ได้รับพร เกล็ดมังกร

     ชั้นลมปราณสีเหลือง  ได้รับพร ปราณมังกร

     ชั้นลมปราณสีส้ม      ได้รับพร ปีกแห่งมังกร

     ชั้นลมปราณสีแดง  และชั้นลมปราณสีรุ้งยังมิได้มีผู้ใดได้สัมผัส จึงยังคงเป็นพลังอันลึกลับ..."

ร่างกายเล้งซานถึงกับสั่นสะท้าน มันคือความพึงพอใจอันมากล้น มันมิอาจทราบได้ว่าพรมังกรจะทรงพลังสักเพียงใด แต่สิ่งที่มันเข้าใจคือแม้ว่ามันจะสำเร็จปราณขั้นสูงเพียงใด ก็ไม่เพียงพอในการกวาดล้างโลกอสูร ด้วยความต่างของพลังอันมหาศาล แต่หากมีพรมังกรเข้ามาเสริมแม้เพิ่มโอกาสเพียงแค่ หนึ่งในร้อยส่วนในการแก้แค้นก็นับว่าเป็นความพึงพอใจอย่างมากล้น เฟรย่ายังกล่าวต่อไปว่า

"เจ้าในตอนนี้ สามารถฝึกสัมผัสแห่งมังกร ได้แล้ว ลองตั้งจิต และดูความเปลี่ยนแปลงที่ต่างจากเดิมดูสิ"

เล้งซานนั่งสงบจิต และรวบรวมสมาธิทันที มันค่อยๆสัมผัสถึงออร่าสีฟ้าที่ห่อหุ้มร่างกายได้ทีละนิดและชัดเจนยิ่งขึ้นเรื่อย ๆ เมื่อผ่านไปราวหนึ่งก้านธูปเล้งซานก็ปล่อยออร่าสีฟ้ากระจายพลังที่ห่อหุ้มร่างออกไป เป็นระลอกคล้ายหินที่ถูกทิ้งลงผืนน้ำ ค่อยๆกระจายระลอกพลังออกไปโดยมีตนเองเป็นจุดศูนย์กลาง มันสามารถสัมผัสได้รับรู้ได้แม้กระทั่งการขยับของดอกหญ้า ที่ที่ถูกลมพัดเบาๆ สัมผัสได้ถึงการขยับทุกครั้งของปีกแมลงแต่ละตัวโดยรอบ

"วิเศษ!! เป็นญาณรับรู้ที่ทรงพลังมาก ข้าสามารถสัมผัสทุกสิ่งรอบตัวในระยะ  หนึ่งส่วนห้าลี้(ร้อยเมตร)"

'สมแล้วที่เป็นอัจฉริยะในรอบพันปีของตระกูลเล้ง ที่เป็นความหวังฟื้นฟูตระกูล ปู่ของมันกล่าวว่าอาจใช้เวลา นับเดือนในการฝึกญาณรับรู้ แต่มันกลับใช้ได้ในทันทีที่เรากล่าวจบ โดยมิได้บอกโดยละเอียด'

เฟรย่า แม้เป็นธิดาเทพยังคงตะลึงกับอัจฉริยะผู้นี้ ได้แต่นึกในใจโดยมิได้กล่าวชมเฉยอะไร เพื่อมิให้มันหลงระเริงกับความสามารถของตัวมันเอง

เล้งซานยืนขึ้นและสำรวจสิ่งที่ติดตัวมาจากอดีต กลับมิพบสิ่งใดที่ติดตัวตัวมานอกจากเสื้อผ้าที่ตนสวมใส่ ภายในหัวทำการวิเคราะห์สถานการณ์ในตอนนี้ทันที

"ในเมื่อ ข้าต้องอยู่ที่นี่และไม่สามารถกลับไป ณ จุดเดิมได้ ข้าจะต้องรู้จักที่นี่ และก่อตั้งตระกูลเล้งขึ้นมาอีกครั้งให้จงได้!!"

จากการกระจายสัมผัสมังกร มันรู้สึกถึงปราณชีวิต หลายสายทางทิศเหนือ จึงเร่งเดินทางทันที ตลอดเส้นทางยังพบสัตว์ต่างๆมากมาย ผลไม้ที่คุ้นตา จึงแน่ใจกว่า 9 ส่วน ว่าที่นี้ยังคงเป็นโลกมนุษย์ แต่จะเจาะจงว่าทวีปใดนั้น ยังนับว่าเป็นเรื่องยาก

ในอดีตโลกมนุษย์แบ่งออกเป็น 4 ทวีปหลัก ได้แต่ ทวีปมังกรฟ้า ทางตะวันออก ทวีปพยัคฆ์ขาวทางตะวันตก ทวีปเต่าทมิฬทางเหนือ และ ทวีปหงสาเพลิงทางใต้ ตระกูลเล้งเป็นตระกูลที่แข็งแกร่งที่สุดในทวีปมังกรฟ้า แม้นับรวมทั้ง 4 ทวีปก็ยังนับเป็นอันดับ 1 หากพูดว่าตระกูลเล้งไร้ผู้ต่อต้านในโลกมนุษย์ คำกล่าวนี้ก็หาได้เกินจริงแม้แต่น้อย แต่ด้วยพลังลมปราณที่ขั้นต่ำสุดในปัจจุบันของเล้งซาน การก่อตั้งตระกูลให้กลับสู่จุดเดิม นับว่ายากยิ่งราวกับปีนป่ายสวรรค์ก็มิปาน

"ข้างหน้าราว 20 ลี้ มีหมู่บ้าน เราอาจจะพอสอบถามข้อมูลของทวีปนี้ได้ เจ้าจงเร่งเดินทางเถอะ"

เสียงของเฟรย่าแม้จะหวานไพเราะ แต่ทุกคำกล่าวล้วนไร้ซึ่งอารมณ์ทุกคำ รู้สึกได้เพียงความเบื่อหน่ายเท่านั้น เล้งซาน แม้มีสัมผัสแห่งมังกร ยังรับรู้ได้เพียงทิศทางไม่สามารถบอกตำแหน่งที่ชัดเจนได้เช่นเฟรย่า เล้งซานถึงกับขมวดคิ้วเล็กน้อย

'อดีตนางผู้นี้ มีพลังระดับใดกัน แม้เป็นเพียงวิญญาณ ยังมีสัมผัสที่น่ากลัวได้เช่นนี้'

เล้งซานเร่งเดินทางทันทีหวังเพียงข้อมูลเล็กน้อย เพื่อจะได้ตั้งเป้าหมาย ณ ที่แห่งนี้ได้ แต่ด้วยพลังปราณม่วง มันจึงทำได้เพียงวิ่งไปเรื่อย เก็บผลไม้กิน ตามทางและเดินทางร่วมครึ่งวัน กว่าจะพบหมู่บ้าน

"เฮ้ย!! เจ้าหนุ่ม เจ้าเป็นใครมาจากที่ใดกันเหตุใดออกมาจากป่าคนเดียว ข้ามิคุ้นหน้าเจ้าด้วย ไม่ใช่คนในหมู่บ้านเมฆาล่อง สินะ"

ทันทีที่เข้ามาในระยะสายตา ยามหน้าทางเข้าหมู่บ้านตะโกนทักทันที จากสัมผัสแห่งมังกรชายผู้นี้อยู่ในระดับปราณสีครามขั้นที่ 3

"ครอบครัวข้านั้นเดินทางผ่านป่า เพื่อย้ายเมืองอาศัย แต่กลับถูกโจรป่าดักปล้น บิดาข้าเอาชีวิตเข้าแลกเพื่อเปิดเส้นทางให้ข้าหลบหนี ด้วยความกลัวข้าวิ่งหนีร่วม ครึ่งวันจนพบหมู่บ้านแห่งนี้ ได้โปรดไปช่วย บิดา ข้าด้วยเถิด"

ทันทีที่พูดที่พูดมันเดินมาจับชายเสื้อยามเฝ้าหมู่บ้านด้วยท่าทีขอร้องด้วยชีวิต หน้าตาเศร้าหมอง อีกทั้งเหงื่อที่ท่วมตัวจากการวิ่งมาตลอดครึ่งค่อนวัน ทำให้การกระทำนี้ดูสมจริงยากจะจับพิรุธ ส่งเสริมการแสดงของเด็กหนุ่มได้อย่างแนบเนียน

'เหอะ!! เจ้าเด็กนี้ ช่างพลิกลิ้น ได้เก่งกาจกว่าพลังฝีมือ'

เฟรย่าสบถในใจ...

..............................................

2 1 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด