ตอนที่ 37 ได้รางวัลจากภารกิจมาเล็กน้อย
การมาและจากไปของหวงอิงไม่ได้ทำให้อารมณ์ของเย่เทียนเปฃี่ยนไปแต่อย่างใด เขายังคอยดูจ้าวเถี่ยจู้กินอยู่เสมอ ดูเหมือนเธอเริ่มคุ้นเคยกับสายตาของเย่เทียนแล้วยกเว้นรอยยิ้มที่มีความสุขเป็นครั้งคราวของเขา จากนั้นเธอก็กินต่อ ...
เวลาผ่านไปโดยไม่รู้ตัว ตอนนี้เป็นเวลา 4:30 น.ซึ่งมาพร้อมกับเสียงของจ้าวเถี่ยจู้ “อ๊า! อิ่มจังเลย!”
เสียงแจ้งเตือนของระบบดังขึ้น——
[ภารกิจ‘ลูกค้าที่กินไม่อิ่ม’สำเร็จ ได้รับเงิน 10,000,000,000 ]
เย่เทียนหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดูและส่งสายตาแปลกๆออกมา
ตอนแรกเขาคิดว่ามันเป็นเงินพันล้าน แต่พอนับเลขศูนย์ดีๆแล้วเขาพบว่าสิ่งต่างๆไม่ได้ง่ายแบบนั้น
หลังเลขหนึ่งมีศูนย์สิบตัว!
เริ่มด้วยการหักนิ้วตัวเองก่อนเลย!
“รางวัลของระบบช่างยอดเยี่ยมจริงๆ...”
เย่เทียนทรุดตัวลง
มีเงินอีกมากกว่าพันล้านที่ต้องใช้และตอนนี้ยังเพิ่มมาอีกหมื่นล้าน?!
นี่ทดสอบความสามารถในการใช้เงินของฉันอยู่ใช่ไหม?!
หลังจากหายใจเข้าลึกๆและเริ่มปรับอารมณ์ เย่เทียนก็หันไปมองที่จ่าวเถี่ยจู้
ตอนนี้ใบหน้าเล็กๆที่สกปรกของจ้าวเถี่ยจู้เต็มไปด้วยความสุข
นี่เป็นครั้งแรกที่เธอกินอิ่มตั้งแต่จำความได้
ความรู้สึกของพุงกลมช่างยอดเยี่ยมจริงๆ!
มีความสุขมากๆ!
มีความสุขสุดๆ!
ต่อให้ต้องตายตอนนี้ก็คุ้ม!
“ถ้าเธออิ่มแล้วเราก็ไปกันเถอะ พี่ชายจะพาเธอไปซื้อของ!”
จ้าวเถี่ยจู้ลังเล “ตราบใดที่ฉันกินอิ่มได้ พี่เย่เทียนก็ไม่จำเป็นต้องใช้เงินกับฉันหรอก”
เย่เทียนกังวลเมื่อได้ยินแบบนั้น “อย่าได้พูดแบบนั้นอีก จะช่วยฉันประหยัดเงินเหรอ? ไม่จำเป็นเลย! เธอพึ่งทำเงินให้ฉันตั้งหมื่นล้าน...”
แน่นอนว่าเย่เทียนไม่ได้พูดประโยคพวกนี้ออกไป
ตอนนี้
เย่เทียนขับรถแลมโบกินี่ของเหลียงกวนไปที่ถนนการค้า
ระหว่างทางเขาก็สงสัยว่างานมอเตอร์โชว์จะเริ่มวันไหน เคอนิกเส็กก์ถูกส่งคืนโรงงานเพื่อเอาไปซ่อม ใช้เวลาหนึ่งอาทิตย์กว่าจะไปถึงโรงงานบวกกับการซ่อมก็ใช้เวลา 1-2 เดือน ในระหว่างนี้เขาต้องหารถคันอื่นมาใช้ก่อน
ไม่ใช่ว่ารวยแล้วจะลืมรถสามล้อที่เคยพึ่งพา แต่รถสามล้อมันไม่สะดวกจริงๆเพราะมันนั่งได้แค่คนเดียว เขาคิดจะพาจ้าวเถี่ยจู้ไปช้อบปิ้งและกินข้าวทุกวันซึ่งรถสามล้อไม่สามารถช่วยเขาได้ในตอนนี้ เขาจึงต้องการรถคันใหม่
ในขณะที่คิดนู่นคิดนี่ไปเรื่อย
เย่เทียนก็มาถึงถนนการค้าแล้ว
ตอนนี้เป็นช่วงเวลาเร่งด่วน ถนนจึงเต็มไปด้วยผู้คนมากมาย
เย่เทียนนั้นดูไม่เลวเพราะเขาทั้งสูงทั้งหล่อและยังใส่ของแบรนด์เนม แต่คนที่เขาจับมืออยู่ข้างๆคือจ้าวเถี่ยจู้ซึ่งเธอใส่ชุดกรรมกรทำให้ไม่เข้ากับคนรอบด้าน หนุ่มหล่อหลายคนที่เดินผ่านเธอล้วนยกมือปิดจมูกด้วยความรังเกียจ
จ้าวเถี่ยจู้ยกแขนขึ้นแล้วดม “ฮืม...กลิ่นแรงมาก!”
เฮ้อ...นี่ฉันรังเกียจตัวเองเหรอเนี่ย?
เย่เทียนอดไม่ได้ที่จะพูด “ไปกันเถอะ ซื้อเสื้อผ้าเสร็จแล้วเดี๋ยวพาไปอาบน้ำ!”
“อืม…” จ้าวเถี่ยซูเม้มปาก
“ติ๊ง”
โทรศัพท์ของเย่เทียนดังขึ้น เขาหยิบมันออกมาดูแล้วพบว่าเป็นฉินเยี่ยนที่ส่งมา เขาไม่รู้ว่าพวกเขามีปัญหาอะไร
เย่เทียนชี้ไปที่ร้านค้าหรูข้างๆเขา “เธอเข้าไปในร้านแล้วซื้อของที่ชอบได้เลย เดี๋ยวพี่จ่ายเงินให้”
“เยี่ยมเลย!”
จ้าวเถี่ยจู้ตอบตกลงด้วยรอยยิ้มและเดินเข้าร้านไป
“ว่าไงเหล่าฉิน?” เย่เทียนรับโทรศัพท์
“พี่เย่เทียน บริษัทของพวกเรามีแผนการอยู่สามแบบสำหรับซุปเปอร์สตาร์ABC แต่เราตัดสินใจไม่ได้ว่าจะเลือกแบบไหน ถ้าพี่เย่มีเวลาก็ช่วยมาให้คำแนะนำพวกเราด้วย”
“นายไม่สบายหรือเปล่าเหล่าฉิน? ฉันไม่ได้มีเวลาว่างขนาดนั้น! ฉันบอกแล้วไงว่าให้นายทำทุกอย่างไปได้เลยไม่ต้องกังวล ทีหลังอย่าได้รบกวนฉันด้วยโครงการพันล้านเล็กๆนี้เอง! แล้วตอนที่พวกนายประชุม นายได้บอกเสี่ยวเหยากับเสี่ยวถงหรือเปล่า? สองคนนั้นรู้อะไรบ้าง! พวกนายทำโครงการไปได้เลย หลังจากทุกอย่างพร้อมก็ให้สองคนนั้นขึ้นไป”
ฉินเยี่ยนโดนดุเหมือนเป็นหลานชาย เขาพยักหน้าอย่างรวดเร็ว “ได้ได้ได้ สิ่งที่พี่เย่สอนฉันจะใส่ใจให้มากกว่านี้...”
“แค่นี้แหละ!”
ติ๊ด!
ฉินเยี่ยนปาดเหงื่อออกจากหน้าผากและพูดอะไรไม่ออก
เย่เทียนเริ่มแสดงความแข็งแกร่งมากขึ้นเรื่อยๆ โครงการเล็กๆที่มีมูลค่ามากกว่าหนึ่งพันล้าน...อย่างพวกเราไม่สามารถไปเทียบกับเขาได้เลย
“พี่เย่เทียนพูดว่าอะไร?” ผางเว่ยถามอย่างระมัดระวัง
ฉินเยี่ยน “เขาบอกว่าเชื่อในความสามารถของพวกเราและให้รับผิดชอบได้อย่างเต็มที่ อย่าไปรบกวนเขาด้วยเรื่องเล็กๆน้อยๆแบบนี้อีก และไม่ต้องเรียกโหยวฉินกับเสี่ยวถงมาถ้าไม่จำเป็นต้องประชุม”
ที่ด้านหลัง หลังประชุมได้หนึ่งวัน สองสาวที่เบื่อหน่ายและง่วงนอนได้ประหลาดใจเมื่อได้ยินชื่อของพวกเธอ
เจียงเซิ่งเฟิงยิ้ม “โหยวฉิน,เสี่ยวถง คืนนี้มีโปรแกรมบันทึกการแสดง พวกคุณไปกันก่อนได้เลย ฉันทักทายทีมงานเอาไว้แล้ว ถึงจะไม่ใช่ทีมงานของเราเองแต่ก็มีความสัมพันธ์ค่อนข้างดี”
“อา...ก็ได้”
“เข้าใจแล้วค่ะประธานเจียง!”
เจียงเซิ่งเฟิงพูดตอบ “ครอบครัวเดียวกันจะเรียกประธานเจียงทำไมเล่า? เรียกฉันว่าเสี่ยวเจียงก็พอ”
โหยวฉินเสี่ยวเหยากับหนิงเสี่ยวถง “...”
“เย็*แม่ง! ไอ้หมาขี้ประจบ!”
ฉินเยี่ยนกับผางเหว่ยบ่นอุบอิบ
ถนนการค้า
หลังเย่เทียนวางสาย เขาก็หันศีรษะไปเห็นจ้าวเถี่ยจู้ยืนนิ่งอยู่ที่ประตูเหมือนรูปปั้น เธอแคะโคลนในเล็บออกและทำเหมือนเด็ก
“เถี่ยจู้ ฉันให้เธอเข้าไปเลือกเสื้อผ้าแล้วไม่ใช่เหรอ มีอะไรหรือเปล่า?” เย่เทียนเอนตัวลง
จ้าวเถี่ยจู้กระซิบ “#¥%#%¥*”
“เธอพูดว่าอะไรนะ”
เสียงของจ้าวเถี่ยจู้ดังขึ้นเล็กน้อย “พวกเขาบอกว่าแขกที่ไม่เรียบร้อยจะไม่ได้รับการบริการจากที่นี่ และบอกว่าฉันไม่มีปัญญาซื้อของจากที่นี่...”
เย่เทียนขมวดคิ้ว เขามองไปที่พนักงานสาวที่ดูสนุกสนานอยู่ในร้าน เขาเห็นคำว่า'อำนาจ'อยู่บนหน้าของเธอ
“กลุ่มอำนาจสุนัข ทำอย่างกับว่าถนนการค้ามีร้านเสื้อผ้าของเธอร้านเดียว เดี๋ยวพวกมันจะได้เสียใจ ไปกันเถอะ”
เย่เทียนจับมือจ้าวเถี่ยจู้และจะพาเธอไปที่ร้านอื่น แต่เขาพบว่าจ้าวเถี่ยจู้ไม่ขยับไปไหนเลย แรงของเย่เทียนไม่ได้มากหรือน้อยแต่เหนือกว่าคนปกติดอยู่นิดหน่อย แต่เขากลับเขาดึงผู้หญิงที่อ่อนนุ่มคนนี้ไม่ได้ เธอไม่ใช่แค่กินได้เยอะแต่เธอยังเกิดมาพร้อมกับพลังเหนือธรรมชาติด้วย!
เย่เทียนรู้สึกประหลาดใจ จ้าวเถี่ยจู้ก้มหัวลงและเช็ดตา “พี่เย่เทียน ฉันไม่อยากซื้อเสื้อผ้าแล้ว เสื้อผ้าของฉันยังใส่ได้อยู่ ฉันแค่กลับไปซักมัน ฉันอยากกลับแล้ว...พวกเรากลับกันเลยได้ไหม?”
คำพูดของจ้าวเถี่ยจู้ทำให้เย่เทียนขาดสติไปชั่วขณะ
ก่อนที่เขาจะมีระบบ เขาไม่รู้ว่าตัวเองถูกล้อเลียนอย่างไร้ปราณีไปกี่ครั้ง
อารมณ์ของเขาในตอนนี้เหมือนกับจ้าวเถี่ยจู้ หดหู่ หลงทาง ไม่มั่นใจในตัวเอง
ในเมื่อฉันเป็นผู้ชายแล้วทำไมฉันต้องโยนศักดิ์ศรีลงโคลนให้คนอื่นเหยีบย่ำด้วย?
เพราะไม่มีเงิน นั่นจึงเป็นสิ่งที่พวกเราต้องเลือกงั้นเหรอ?
โลกนี้มันไม่ยุติธรรม!
ฉันเคยไม่มีเงินเลยทำให้ฉันเลือกชีวิตอย่างที่ต้องการไม่ได้
แต่ตอนนี้ฉันมีเงินแล้วและฉันจะใช้มันพลิกโลกกลับด้านซะ!
“เถี่ยจู้”
เย่เทียนยกคางเถี่ยจู้ขึ้น เขาเช็ดน้ำตาของเธอออก “ไม่ต้องห่วงไปนะเถี่ยจู้ ต่อจากนี้ไปจะไม่มีใครกล้าดูถูกเธออีกและจะไม่มีใครทำร้ายหัวใจของเธอด้วย! ฉันขอสาบาน!”
เพียงครู่เดียว!
จ้าวเถี่ยจู้ถูกดวงตาของเย่เทียนทำให้หัวใจละลายจนเธอตัวสั่นไหว
“คุณเย่?”
ในขณะนั้นเอง เสียงที่แปลกใจก็มาจากด้านข้างเขา
เย่เทียนหันกลับไปดู ปรากฏว่าเขาคือเหล่าซู เจ้าของร้านหลุยส์วิตตองซึ่งอยู่ไม่ไกลจากข้างหน้านี้ ชุดที่เขาใส่อยู่ก็ซื้อจากร้านของเหล่าซู ความวุ่นวายจากซ่งตงหมิงในตอนนั้นตอนนี้ก็กลายเป็นอดีตไปแล้ว
เหล่าซูเลิกคิ้วและพูดอย่างประจบประแจง “คุณเย่ครับ ตอนนี้ร้านของเรามีสินค้าใหม่มากมาย คุณเย่สนใจจะเข้าไปดูข้างในหน่อยไหมครับ? ตามจริงแล้วผมอยากจะไปส่งให้คุณเย่มากเลย แต่เกรงว่าจะเป็นการรบกวนคุณ...”