973-974
1/10
Ep.973
หนึ่งวันต่อมา ซูเฉินและอสูรเทพปลุกพลังเดินทางมาถึงหน้าผาแห่งหนึ่ง ลึกลงไปเบื้องล่างมืดสนิท ไม่ทราบว่านำไปสู่ที่ใด
“เจ้านาย ด้านล่างสุดของหน้าผานี้ คือตำแหน่งที่อ่อนแอที่สุดของมิติท้ารบ” อสูรเทพปลุกพลังกล่าว
“ลงไปข้างล่างกัน”
ซูเฉินชำเลืองมอง กระโดดลงไปพร้อมอสูรเทพปลุกพลัง เมื่อใกล้แตะพื้น ก็ใช้พลังจิตพยุงร่าง ชะลอความเร็วลง
“เสี่ยวซิง ฉันต้องโจมตีพื้นด้านล่างนี้ใช่ไหม?” ซูเฉินถาม
“ขอรับ”
อสูรเทพปลุกพลังยืนยัน จากนั้นกล่าวว่า “เจ้านายต้องใช้กระบวนท่าที่ทรงพลังที่สุด เพื่อเปิดช่องโหว่ให้ได้ในคราเดียว”
ในความคิดของมัน แม้ซูเฉินจะทรงพลังมาก แต่เรื่องที่ว่าเขาจะเจาะเขตแดนบริเวณนี้ได้หรือไม่ ยังเป็นเรื่องยากที่จะพูด
ซูเฉินพยักหน้า ส่งสัญญาณให้อสูรเทพปลุกพลังถอยออกไป จากนั้นสูดหายใจลึกแล้วอัญเชิญกระบี่เทวะธาตุสายฟ้าทั้ง 100 เล่มออกมาพร้อมกัน
นับแต่ฝึกฝน [ร้อยกระบี่คืนสู่หนึ่ง] จนเชี่ยวชาญ เขาก็ไม่มีโอกาสได้ใช้มันเลย
เวลานี้ เป็นโอกาสเหมาะที่จะได้ทดสอบพลัง
“กระบี่เทวะร้อยเล่ม …”
มองไปยังสายฟ้าที่ปกคลุมทั่วผืนฟ้า สัมผัสได้ถึงคลื่นพลังอันน่าสะพรึงที่เล็ดลอดออกมาจากกระบี่เทวะ อสูรเทพปลุกพลังตื่นตะลึงอย่างสิ้นเชิง
มันก็พอเดาได้อยู่หรอกว่าซูเฉินน่าจะมีไพ่ตายอยู่ไม่น้อย แต่ไม่นึกเลยว่าจะมีไพ่ตายที่ทรงพลังขนาดนี้อยู่ด้วย
กระบี่เทวะมากถึง 100 เล่ม อำนาจของพวกมัน หากรวมกันก็มากพอแล้วที่จะทำลายชั้นฟ้า ถล่มปฐพี
กระนั้น ในโลกแห่งความเป็นจริง มันจะมีคนที่สามารถควบคุมกระบี่เทวะได้ร้อยเล่มจริงๆน่ะหรือ?
ลมหายใจของอสูรเทพปลุกพลังขาดห้วง เบิกตากว้าง เฝ้าจดจ่อซูเฉิน
มันต้องการเห็น ว่าซูเฉินจะสามารถทำได้จริงๆหรือไม่?
สีหน้าของซูเฉินเคร่งขรึมจริงจัง ระหว่างนั้นเหยียดมือออกไปเล็กน้อย เห็นแค่เพียงกระบี่เทวะธาตุสายฟ้าทั้งร้อยเล่มที่ลอยอยู่เหนือศีรษะ ทั้งหมดทิ้งดิ่งลงเบื้องล่างพร้อมกัน
และระหว่างอยู่กลางอากาศ พวกมันค่อยๆหลอมรวมเป็นหนึ่ง ยามสัมผัสถึงพื้นดิน ก็ขยายใหญ่เป็นขนาดสิบจั้งแล้ว กลายเป็นกระบี่ยักษ์ที่ทอประกายแสงอสนีบาต
“โอ้สวรรค์! มันหลอมรวมเข้าด้วยกันได้จริงๆ!”
อสูรเทพปลุกพลังตัวแข็งทื่อ ตื่นตะลึงเกินบรรยาย
มันลองจินตนาการดู ว่าหากกระบี่นี้ฟาดฟันใส่ ตนคงสลายเป็นเถ้าถ่านในเสี้ยวพริบตาเดียว
บรึ้มมมมมม!
วินาทีถัดมา กระบี่สายฟ้าฟาดฟันลงกับพื้นอย่างแรง บังเกิดเสียงสะเทิ้นฟ้าสะเทือนดิน เศษหินเศษฝุ่นฟุ้งกระจายไปทั่ว เบื้องล่างในตำแหน่งที่กระบี่สายฟ้าฟันลงไป หลุมไม่เล็กไม่ใหญ่ขนาดประมาณหนึ่งจั้งปรากฏขึ้น
มองจากปากหลุม ฝั่งตรงข้ามคือท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยแสงดาว ดูกว้างใหญ่ไร้ขอบเขต
“เขาเปิดมันได้จริงๆ!”
อสูรเทพปลุกพลังถึงกับอ้าปากค้าง รีบเตือนซูเฉิน “เจ้านาย พวกเราต้องรีบออกจากที่นี่!”
แม้พื้นเบื้องล่างจะถูกผ่าเป็นหลุมได้สำเร็จ แต่หลุมนี้กำลังสมานตัวด้วยความเร็วที่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า เกรงว่าอีกไม่นานคงกลับมาปิดสนิทดังเดิม ดังนั้นต้องรีบออกไป
“ไปกันเถอะ”
ซูเฉินเองก็สังเกตเห็นเช่นกัน เขาเก็บกระบี่เทวะทั้งหมด แล้วกระโจนเข้าไปในปากหลุม อสูรเทพปลุกพลังตามหลังมาติดๆ
เมื่อหนึ่งคนหนึ่งอสูรออกจากมิติท้ารบ ก็เห็นว่าหลุมบริเวณนั้นหายไปแล้วอย่างไร้ร่องรอย
ซูเฉินถอนหายใจเบาๆ ดวงตาเขาค่อยๆหรี่ลง จากนั้นเก็บอสูรเทพปลุกพลังเข้าไปใน [พื้นที่เลี้ยสัตว์] แล้วนำ [รถศึกอัจฉริยะ] ออกมา สั่งการว่า “เสี่ยวจือ ย้อนกลับไปที่เมืองก่อนหน้านี้”
เขาอยากจะเห็น ว่าผู้ใดกันที่ทำลายทางผ่านนี้ แล้วขังเขาไว้ในมิติท้ารบ
“รับทราบ” [รถศึกอัจฉริยะ] รับคำสั่ง บินไปในทิศทางเดียว
ใช้เวลาไม่ถึงชั่วโมง เขาก็มาถึงหน้าเมืองแล้ว
อย่างไรก็ตาม สภาพเมืองในตอนนี้ได้กลายเป็นซากปรักหักพัง และไม่ไกลจากซากปรักหักพัง มีชาวต่างเผ่าห้าคนกำลังพูดคุยและหัวเราะอยู่
ชาวต่างเผ่าทั้งห้านี้ ทุกคนล้วนอยู่ในระดับเทวะ
2/10
Ep.974
ซูเฉินสามารถคาดเดาได้ ว่าผู้ที่ทำลายทางผ่าน ย่อมเป็นทั้งห้าคนนี้อย่างไม่ต้องสงสัย
ต่อมา เขาค่อยๆเดินเข้าหาทั้งห้าอย่างเงียบๆ
แม้ชาวต่างเผ่าทั้งห้าจะกำลังพูดคุยกันอย่างครื้นเครง แต่ถึงอย่างไรพวกเขายังเป็นผู้แข็งแกร่งระดับเทวะ ไม่ช้าก็ตระหนักได้ว่ามีคนกำลังตรงเข้ามา
“เจ้าเป็นใคร?” ระดับเทวะเผ่าอมตะจ้องซูเฉินไม่วางตา เอ่ยถามเสียงเย็น
นี่เป็นครั้งแรกที่เขาเจอซูเฉิน ดังนั้นเลยไม่ทราบว่าผู้มาเยือนคือใคร
“ซูเฉิน!”
แต่ในเวลานั้นเอง ระดับเทวะเผ่าเทพที่อยู่ถัดมาร้องอุทานด้วยความตื่นตระหนก
อีกสี่คนที่เหลือพอได้ยินคำ ‘ซูเฉิน’ สีหน้าของพวกเขาก็กลายเป็นน่าเกลียด สั่นระริกไปทั้งร่าง
“ทำไมเจ้าถึงออกมาจากมิติท้ารบได้?” ระดับเทวะเผ่าปีศาจราตรีเหม่อมองซูเฉินด้วยดวงตาเบิกกว้าง ใบหน้าเต็มไปด้วยความไม่อยากจะเชื่อ
เขานึกยังไงก็นึกไม่ออกจริงๆ ทั้งๆที่ทางผ่านสู่มิติท้ารบทั้งสองถูกทำลายลงแล้ว เช่นนั้นซูเฉินใช้วิธีใดกันถึงออกมาได้?
“ดูเหมือนพวกแกคงเป็นคนวางกับดักฉัน แล้วรู้รึเปล่าว่าจุดจบของคนที่ทำแบบนั้นคืออะไร?”
ซูเฉินหรี่ตาลง กวาดมองใบหน้าของทั้งห้าทีละคน เอ่ยเสียงเย็น
ได้ยินแบบนั้น ทั้งห้าชักฝีเท้าถอยพร้อมกัน
พวกเขากระจ่างดีถึงอุปนิสัยของซูเฉิน เกือบทุกคนที่ล่วงเกินเขาล้วนถูกสังหารสิ้น
หากอยากรอดชีวิต มีเพียงวิธีเดียวนั่นคือต้องฆ่าซูเฉินซะ!
ทั้งห้าเหลือบมองตากัน เข้าใจความคิดของอีกฝ่าย พุ่งเข้าหาซูเฉิน
“ช่างไม่รู้จักที่ตาย!” ซูเฉินแค่นเสียงหัวเราะ ยืนนิ่งอยู่ที่เดิมไม่ขยับไหว ราวกับว่าไม่เห็นระดับเทวะทั้ง 5 อยู่ในสายตา
พิจารณาจากกลิ่นอายที่เล็ดลอดออกมาของทั้งห้า บ่งบอกว่าฐานฝึกตนของระดับเทวะเผ่าเทพแข็งแกร่งที่สุด ได้บรรลุถึงเทวะขั้น 3 แล้ว ส่วนที่เหลืออีกสี่ล้วนอยู่ในเทวะขั้น 2
ปัจจุบันซูเฉินได้ยกระดับเป็นเทวะขั้น 3 แล้ว บวกกับที่มี [กายาเทพอสูรนิรันดร์] ทำให้แม้เขาจะยืนนิ่งอยู่เฉยๆ ฝ่ายตรงข้ามก็ไม่สามารถทำร้ายเขาได้
ดังนั้น ในสายตาเขา ระดับเทวะทั้งห้านี้ ในความเป็นจริงแล้วไม่ต่างจากมดปลวก
“ไปลงนรกซะ!”
ระดับเทวะเผ่าปีศาจราตรีนำหน้าสุด กุมค้อนทองแดงในมือ ฟาดลงเหนือศีรษะซูเฉิน
ค้อนทองแดงนี้แม้ดูธรรมดา แต่อันที่จริงแล้วมันคือสิ่งประดิษฐ์เทวะ ลักษณะที่โดดเด่นที่สุดคือน้ำหนักมหาศาล ที่มีมากถึง 30,000 จิน
หากทุบถึงตัว เขามั่นใจว่าสามารถบดซูเฉินจนตายได้ในค้อนเดียว
ระดับเทวะเผ่าเทพก็ปลดปล่อยพลังแห่งจิตวิญญาณออกมาเช่นกัน พยายามพันธนาการซูเฉิน เพื่อสร้างโอกาสให้แก่ระดับเทวะเผ่าปีศาจราตรี
ระดับเทวะอีกสามคนก็ทุ่มการโจมตีที่รุนแรงที่สุดของตัวเองเช่นกัน ทั้งหมดไม่เปิดโอกาสให้ซูเฉินได้พักหายใจ
เมื่อต้องเผชิญกับการโจมตีที่รุนแรงเช่นนี้ ซูเฉินไม่แสดงอาการตื่นตระหนกใดๆ ตรงกันข้าม รอยยิ้มเจ้าเล่ห์ยกยิ้มขึ้นตรงมุมปากเขา
ในจังหวะที่ค้อนแทงแดงกำลังจะตกถึงเป้าหมาย จู่ๆก็มีเสียงกรีดร้องน่าสยดสยองดังขึ้นจากด้านหลัง
ผู้ที่กรีดร้องมิใช่ใครอื่น เป็นระดับเทวะเผ่าเทพ
ระดับเทวะอีกสี่คนสะดุ้งโหยง หยุดโจมตีซูเฉิน เหลียวหลังกลับไปมอง
ภายใต้สายตาของพวกเขา คือฉากที่ซูเฉินกำลังบีบคอระดับเทวะเผ่าเทพ
ทว่าซูเฉินไม่ใช่อยู่ต่อหน้าพวกเขาหรอกหรือ? เหตุใดถึงมีซูเฉินอีกคนปรากฏตัวขึ้น
เผชิญหน้ากับฉากมันแปลกประหลาดนี้ เหล่าเทวะจากต่างเผ่าเริ่มรู้สึกหนาวสั่นไปถึงกระดูกสันหลัง บังเกิดความตื่นตระหนกและไม่สบายใจมากขึ้นไปอีก
หากมีซูเฉินแค่คนเดียว พวกเขายังพอมั่นใจนิดหน่อยว่าจะสามารถเอาชนะได้ แต่ถ้าต้องเผชิญหน้ากับซูเฉินถึงสองคน เกรงว่าพวกเขาคงทำได้แค่หนีเอาชีวิตรอดเท่านั้น
“แปลกใจหรอ?” ซูเฉินยิ้ม
เมื่อครู่ เขาเรียกจิตจำลองออกมา และเปิดใช้งาน [ภูติเงาก้าวพริบตา] สั่งให้จิตจำลองแฝงตัวลอบเข้าไปใกล้ระดับเทวะเผ่าเทพ แล้วคว้าลำคอไว้ในคราเดียว